webnovel

0347 ความจริง

ตอนที่ 347 ความจริง 

ปากมหึมาของอสูรยักษ์แห่งโชคชะตาปิดลงอย่างสมบูรณ์ 

ทว่าไม่ทันรีรอจะได้เคี้ยว ไม่ทันรีรอจะได้ฉีกกัด ไม่จำเป็นต้องรีรอใดๆ เสียง ‘ฟู่’ เบาๆ ก็ดังและลอดออกมาจากปากของมัน

ในจัตุรัส ภายในความว่างเปล่าทั้งหมดเดือดพล่านไปด้วยความตื่นเต้น! 

นักเรียนฝึกหัดนับไม่ถ้วนต่างพากันสับสนถึงสถานการณ์นี้ แต่เหล่าอาจารย์ดูเหมือนว่าจะไม่สนใจพวกเขาเลย 

บังเกิดเสียงสนทนาด้วยความตื่นเต้นนับไม่ถ้วนดังขึ้นอย่างรวดเร็ว 

“โอ้สวรรค์!” 

“นี่ข้าตาฝาดไปหรือเปล่า?” 

“นี่มันเป็นเรื่องจริงหรือ?” 

“มันผ่านมากี่ปีแล้วหนอ ที่ข้าได้เห็นเจ้าสิ่งนี้!” 

“โอ้ท่านเทพมารมาโปรด ข้าพึ่งจะเคยเป็นมันเป็นครั้งแรกนี่แหละ ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะมีอยู่จริง!” 

เสียงสนทนาเล่าลือแพร่กระจายไปทั่ว 

นั่นเพราะ... 

เมื่ออสูรยักษ์แห่งโชคชะตาปิดปากลง หมอกสีขาวบริสุทธิ์ก็บินออกจากปากของมันทันที 

หมอกสีขาวค่อยๆ ควบแน่น รวมตัวกันแปรสภาพไปเป็นร่างมนุษย์ 

ดวงตาที่สว่างสดใส ซี่ฟันที่เปล่งประกาย รูปร่างอันงดงาม 

ซูเซี่ยเอ๋อ 

เธอพึ่งจะถูกกัดโดยโชคชะตาเข้าไปโดยตรง! 

แต่ในกรณีของเธอ มันกลับเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สอดประสานกันขึ้น 

ผมสีดำขลับราวเส้นไหม แปรเปลี่ยนเป็นสีเงินขาว 

เธอปรากฏตัวท่ามกลางจัตุรัสในชุดคลุมสีขาวบริสุทธิ์พร้อมคทาในมือ! 

ไม่ต้องกล่าวถึงคนอื่นๆ กระทั่งซูเซี่ยเอ๋อก็ยังตะลึงตัวเอง 

เธอก้มลงมองชุดคลุมบนร่างกาย นี่มันไม่ใช่เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่มาในวันนี้นี่นา 

มันค่อนข้างดูดีทีเดียว 

อย่างไรก็ตาม ไม่นาน เธอก็ละความสนใจจากเสื้อผ้าตัวเองไป 

เพราะคทาในมือขยับไหวเล็กน้อย และทันใดนั้นไพ่เจ็ดใบก็กระโดดออกมาจากมัน 

ซูเซี่ยเอ๋อเข้าใจอย่างชัดเจน 

ว่าจริงๆ แล้วเทคนิคเทียนซวนของตนเองที่พึ่งถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาคือประเภทไพ่ 

บรรพบุรุษของเก้าตระกูลใหญ่ ท่านผู้พิทักษ์ก็มีเทคนิคเทียนซวนประเภทไพ่เช่นกัน 

ซูเซี่ยเอ๋อเอื้อมไปคว้าไพ่มาไว้ในมือและดูมัน 

แต่กลับเห็นแค่เพียงบนไพ่เป็นรูป ดิน น้ำ ลม ไฟ อยู่ตามขอบมุมต่างๆ ขณะที่ช่องว่างตรงใจกลางระหว่างพวกมันนั้นว่างเปล่า 

ตรงส่วนล่างของไพ่คือชื่อและรายละเอียดคำอธิบายของไพ่ 

“ต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง” 

“คำอธิบาย: เมื่อคุณพกไพ่ใบนี้ติดตัว คุณจะได้รับหนึ่งแต้มพลังวิญญาณในทุกๆ ชั่วโมง” 

“การใช้งาน: พกติดตัวไปกับคุณ นั่นแหละคือการใช้งานมัน”

 นับว่าเป็นไพ่เทคนิคเทียนซวนที่ดี!

 มุมปากของซูเซี่ยเอ๋อยกสูงขึ้นเล็กน้อย

 เธอน่ะเป็นคนฉลาด ดังนั้นเธอย่อมเข้าใจว่าในครั้งนี้ตนเองประสบความสำเร็จชนิดที่เรียกได้ว่าเกรี้ยวกราดครั้งใหญ่!

 ไพ่เจ็ดใบปรากฏขึ้นพร้อมกัน ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ยากจะเห็นนักในประวัติศาสตร์ของเกาะหมอก

 ในที่สุดฉันก็สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองได้ และกลายมาเป็นผู้ได้รับเลือกจากสวรรค์!

 “ซูเซี่ยเอ๋อ!” เสียงชราดังขึ้น

 ซูเซี่ยเอ๋อหันไปมองรอบๆ แต่กลับไม่เห็นใครเลยนอกจากกลุ่มผู้ทดสอบร่วมกันกับเธอ

 “เสื้อคลุมขาวและคทาน่ะมีความหมายในตัวของพวกมันเอง”

 เสียงชรายังคงเอ่ยต่อ “ไพ่เจ็ดใบช่างเป็นเลขที่มงคลยิ่ง โชคชะตาโอบกอดเจ้าด้วยเลขมงคลที่ว่านั่น ดังนั้น กล่าวได้ว่าเจ้าเป็นคนที่โชคชะตาคาดหวังเป็นพิเศษ”

 ซูเซี่ยเอ๋อตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ

 เสียงยังคงกล่าวต่อ “เจ้าได้เอาชนะตัวเองในอดีตได้อย่างสมบูรณ์แล้ว และในไม่ช้า เจ้าก็กำลังจะกลายมาเป็นนายแห่งโชคชะตา ดังนั้นเจ้าจึงจะได้รับสิทธิพิเศษ”

 “สิทธิพิเศษอะไร?” ซูเซี่ยเอ๋อเอ่ยถาม

 “มันคงจะเป็นการไม่เคารพต่อโชคชะตาของเจ้า หากต้องมาให้ปฏิบัติติดตามผู้ฝึกสอนธรรมดาๆ คนอื่นๆ ดังนั้น นับจากนี้ไป เจ้าจะสามารถเลือกหนึ่งในเจ็ดอาวุโสและติดตามเรียนรู้กับพวกเขาได้”

 ซูเซี่ยเอ๋อเงียบไปครู่หนึ่ง สักพักจึงเอ่ยถาม “ระหว่างผู้อาวุโสกับผู้ฝึกสอน แตกต่างกันใช่หรือไม่?”

 “ย่อมแน่นอนว่าใช่” เสียงเอ่ย “เหล่าอาวุโสน่ะคือปรมาจารย์ผู้ควบคุมโลก เป็นสุดยอดผู้แข็งแกร่ง และสามารถสร้างวงจรกฎแห่งความอยู่รอดกับไพ่ เพื่อที่จะช่วยให้สิ่งมีชีวิตในโลกต่อสู้กับเผ่ามารในวันสิ้นโลกได้”

 “เอาล่ะ ตอนนี้โปรดจงเลือก”

 ซูเซี่ยเอ๋อกล่าวโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย “เช่นนั้นหนูขอเลือกท่านอาวุโสบังคับกฎ”

 ท่ามกลางความว่างเปล่า บังเกิดเสียงสนทนาดังขึ้นขยายเป็นวงกว้าง

 ทันใดนั้นเองเสียงแหบห้าวก็ดังขึ้น

 “จงเงียบให้ข้าได้พูดหน่อย!”

 แทบจะในทันที เสียงอึกทึกโดยรอบทั้งหมดก็หายไป

 ตามด้วยเสียงของจอมมารชุดคลุมเลือดปรากฏขึ้นในอากาศ

 น้อยครั้งนักที่เขาจะปรากฏตัวขึ้นในที่สาธารณะ แต่สถานการณ์ในวันนี้มันอยู่เหนือจินตนาการของทุกผู้คนไปแล้ว ดังนั้นการที่เขาจะออกมาจัดการกับสถานการณ์ในเวลานี้ก็ไม่น่าจะแปลกอะไร

 “ทำไมกัน? ทำไมเจ้าถึงเลือกข้าให้เป็นที่ปรึกษาของเจ้า?” จอมมารชุดคลุมเลือดเอ่ยถาม

 “เพราะท่านเป็นอาจารย์ของแม่หนู” ซูเซี่ยเอ๋อยิ้ม

 เดิมทีแล้วจอมมารชุดคลุมเลือดเตรียมใจที่จะได้ยินคำตอบแบบว่า ‘ตัวเขาเที่ยงธรรมนะ เป็นสุดยอดตัวตนทรงพลังนะ ครอบครองม้วนคัมภีร์ที่แข็งแกร่งมากที่สุดนะ มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง…บลาๆ’ แต่เดี๋ยวก่อน! ใครจะไปคิดว่าแท้จริงแล้วคำตอบที่ได้มากลับง่ายดายถึงเพียงนี้

 “ด้วยเหตุผลแค่นี้?”  จอมมารชุดคลุมเลือดถามด้วยความแปลกใจ

 “ใช่ ในตอนที่หนูยังเด็ก หนูเคยได้ยินแม่เล่าเกี่ยวกับชั้นเรียนของท่าน เธอชอบที่จะซักไซ้ไถ่ถามทุกครั้งในชั้นเรียน จนท่านเบื่อที่จะตอบและบอกให้เธอปิดปากเงียบเสีย”

 “เธอมักจะสนทนากับเจ้าเกี่ยวกับอดีตอย่างนั้นหรือ?” จอมมารชุดคลุมเลือดเอ่ยถาม

 “ใช่ เพราะเธอไม่อยากลืมเลือนวันเวลาเหล่านั้น โดยเฉพาะในช่วงที่ท่านพาเธอไปเผชิญหน้ากับวันสิ้นโลก”

 จอมมารชุดคลุมเลือดถอนหายใจและกล่าวว่า “แท้จริงแล้วมันเป็นแบบนี้ บอกได้เลยว่าวันเวลาเหล่านั้นช่างเป็นสิ่งสวยงาม มันเป็นความทรงจำอันล้ำค่าของข้า”

 เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

 “ดีล่ะ เช่นนั้นก็เป็นอันตกลง นับจากนี้ต่อไปเจ้าจะกลายเป็นศิษย์ของข้า” จอมมารชุดคลุมเลือดตัดสินใจ

 นี่ก็นับเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขาเช่นกัน

 ด้วยการตัดสินใจในครั้งนี้ ส่งผลให้ในหัวใจของเขาบังเกิดความสุขขึ้นเล็กน้อย

 นับตั้งแต่เกิดภัยพิบัติในครั้งนั้น เขาก็ไม่เคยคิดจะรับนักเรียนอีกเลย

 อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ นักเรียนของตนได้ตายไปแล้ว แต่ลูกของนักเรียนตนกลับยังคงมองหาตน...และต้องการที่จะมาเป็นศิษย์ของเขาด้วยตัวเอง

 การกระทำของสาวน้อยผู้นี้ เปรียบดั่งการคว้าไม้ต่อจากรุ่นแม่สู่ลูก

 นอกจากนี้ ยังช่วยเติมเต็มความทรงจำดีๆของเขาในวันเก่าๆที่ผ่านมา

 จอมมารชุดคลุมเลือดกำลังจะร่อนลงจากกลางอากาศ เพื่อมาทักทายนักเรียนใหม่ของตนเอง

 ทว่าทันใดนั้น

 “ช้าก่อน!” เสียงของผู้หญิงที่ฟังดูโกรธเกรี้ยวพลันดังขึ้น

 หญิงที่ซ่อนตัวอยู่ในหมอกสีดำปรากฏกาย

 เหนือหัวของเธอมีรัศมีแสงระยิบระยับ 

ผู้ฝึกสอนยี่ชา 

“มีอะไรหรือยี่ชา? หรือว่าเจ้าจะคัดค้านการรับศิษย์ของข้า?” ท่าทีการแสดงออกของจอมมารชุดคลุมเลือดเปลี่ยนเป็นมืดมน 

“มิใช่เช่นนั้น แต่เธอได้กลายมาเป็นนักเรียนของข้าแล้ว” ผู้ฝึกสอนยี่ชากล่าว 

เธอแอบลอบกัดฟันอย่างลับๆ 

ให้ตายสิ! 

โชคชะตาของนังลูกเจี๊ยบนี่ มันดีจนน่าอิจฉาจริงๆ 

ยิ่งไปกว่านั้น หากปล่อยนังลูกเจี๊ยบมีชีวิตอยู่ต่อไปล่ะก็ โลกก็จะค่อยๆ หลุดออกไปจากกำมือเธอ

 นังเด็กนี่จะต้องตาย!

 “อะไรนะ? นักเรียนของเจ้า?” จอมมารชุดคลุมเลือดชะงักเล็กน้อย

 “ใช่ เธอรับปากสัญญาด้วยตนเองว่าจะเป็นนักเรียนของข้า ฉะนั้นข้าคงต้องขอโทษด้วย” ผู้ฝึกสอนยี่ชากล่าวอย่างช้าๆ

 จอมมารชุดคลุมเลือดหุบปากลง 

จังหวะการเต้นของหัวใจทุกคนสั่นระรัว บังเกิดความรู้สึกอันหลากหลายขึ้นในก้นบึ้งของจิตใจ 

พื้นดินเริ่มจะสั่นไหว 

ทันใดนั้นเอง อสูรยักษ์แห่งโชคชะตาก็แปรสภาพเป็นเขี้ยวยักษ์ในทันใด หนีหายวับออกไปจากจัตุรัส 

ภายในอากาศที่ว่างเปล่า ตัวตนนับไม่ถ้วนที่ซ่อนกายเริ่มตกอยู่ในความวุ่นวาย 

มีบางคนเลือกที่จะเผ่นออกจากจัตุรัสก่อนล่วงหน้าที่จะเกิดอะไรขึ้น 

ตัวยี่ชาเองก็ตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกัน 

อีกฝ่ายทรงพลังเกินไป เพียงเขาเหยียดมือออกก็สามารถฆ่าตนเองได้แล้ว 

เธอเร่งเอ่ยอย่างรวดเร็ว “โปรดสงบใจแล้วฟังข้าก่อน เรื่องนี้ซูเซี่ยเอ๋อเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง เธอขอร้องต่อหน้าข้า ว่าต้องการเป็นนักเรียนของข้า...เป็นศิษย์ข้า หากท่านไม่เชื่อก็จงลองถามเธอดู” 

จอมมารชุดคลุมเลือดหันขวับอย่างรุนแรง มองไปทางซูเซี่ยเอ๋อ 

“เป็นเช่นนั้นหรือ? ซูเซี่ยเอ๋อ?” เขาเอ่ยถามแบบแทบจะคำรามออกมา 

ซูเซี่ยเอ๋อส่ายศีรษะและกล่าว “ไม่ มันไม่ใช่เช่นนั้น” 

จอมมารชุดคลุมเลือดชะงักงัน แล้วทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา “มันดูเหมือนว่าหนึ่งในพวกเจ้ากำลังจงใจเล่นกลหลอกลวงข้า มาเถอะ เช่นนั้นพวกเราก็มาค้นหาความจริงของเรื่องนี้ให้มันชัดเจนกัน” 

เขามองไปยังทิศทางหนึ่งและกล่าว “คณบดี เจ้าคิดเห็นเช่นไร?” 

เสียงชราดังขึ้นมาว่า “ยี่ชา เซี่ยเอ๋อสมควรที่จะพิสูจน์ตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ควรจะเป็น” 

ยี่ชาจั่วไพ่ออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่า และเร่งยกมันชูขึ้นสูง 

“โปรดดูไพ่ใบนี้ มันคือพยานหลักฐานการสนทนาระหว่างข้ากับซูเซี่ยเอ๋อ” 

เธอถ่ายเทพลังของตนลงไป และโยนไพ่ขึ้นไปกลางอากาศ 

ภาพเคลื่อนไหวถูกฉายออกมา 

ซูเซี่ยเอ๋อและยี่ชายืนอยู่บนยอดเขา 

เสียงสนทนาได้ดังขึ้น 

ยี่ชาเอ่ยถามเบาๆ “ซูเซี่ยเอ๋อ เจ้าต้องการที่จะคารวะข้าเป็นอาจารย์หรือไม่?” 

รอสักครู่หนึ่ง เสียงของซูเซี่ยเอ๋อก็ดังตามมา 

“หนูตัดสินใจที่จะคารวะท่านเป็นอาจารย์” 

เมื่อถึงจุดนี้ ภาพเคลื่อนไหวก็สิ้นสุดลง 

นี่คือหลักฐานมัดตัว 

ยี่ชารับไพ่กลับคืนและกล่าวเสียงดังลั่น “ได้ยินหรือไม่ เธอปรารถนาที่จะคารวะข้าในฐานะอาจารย์ และตอนนี้เธอกำลังหลอกลวงอาวุโสบังคับกฎ นี่มันคือการเล่นละครของเธอ!” 

ในอากาศที่ว่างเปล่า เสียงจำนวนมากมายดังขึ้น “บุคคลเช่นนี้ อาจก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงขึ้นในอนาคต!” 

“เป็นเช่นนั้น เมื่อพบเจอกับทางเลือกที่ดีกว่า เธอกลับละทิ้งที่ปรึกษาของเธอ ใครกันที่จะกล้าสอนเธออีก?” 

“ลงโทษทัณฑ์ตายเถิด คนเช่นนี้ แม้จะมีพรสวรรค์ล้ำค่า แต่ก็คงไม่นำพาและก่อประโยชน์ให้แก่เกาะหมอก” 

ผู้คนจำนวนมากพูดคุยเกี่ยวกับมัน 

และทันใดนั้นพวกเขาทั้งหมดก็ปิดปากลงทันที 

แมงมุมยักษ์หลายตัวตรงเข้ามายังจัตุรัส ล้อมรอบตัวซูเซี่ยเอ๋อเอาไว้ 

โชคชะตาของเธอ ยามนี้มันคงชัดเจนแล้ว 

เสียงชราเอ่ยขึ้น “ซูเซี่ยเอ๋อ เจ้ามีอะไรจะพูดเป็นสิ่งสุดท้ายหรือไม่?” 

ซูเซี่ยเอ๋อ “เป็นเรื่องจริงที่หนูไปพบเธอ แต่นั่นเพราะเธอเรียกหนูไปต่างหาก” 

“ได้โปรดเชื่อหนูเถอะ หนูไม่เคยมีความคิดที่จะคารวะเธอเป็นอาจารย์เลย” 

เธอหันไปมองจอมมารชุดคลุมเลือดด้วยน้ำตาสองสายที่อาบบนใบหน้า “ท่านอาวุโสบังคับกฎ หนูพึ่งจะถูกใส่ร้ายมา หวังว่าท่านจะยังจดจำมันได้” 

หลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ เจตนาฆ่าของจอมมารชุดคลุมเลือดพลันสลายไปทันที 

“ใช่...กลุ่มเด็กสาวกล่าวหาว่าเจ้ากำลังฝึกฝนวิชาชั่วร้าย...” 

จอมมารชุดคลุมเลือดพลันหวนนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาของตน 

ครั้งเมื่อเขายังอยู่ในช่วงวัยรุ่น  บุตรชายของผู้ฝึกสอนคนหนึ่งได้เคยแอบปองร้ายเขา 

จนกระทั่งหลังจากที่อีกฝ่ายทำสำเร็จ และเขาถูกลงโทษจนตายลง ผู้ฝึกสอนอีกคนที่มีจิตใจดีงามก็อดไม่ได้ จึงช่วยออกค้นหาความจริง 

ในท้ายที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย และผู้คนก็ค้นพบว่าเขาถูกใส่ร้ายป้ายสี 

แต่เขาก็ได้ตายลงไปแล้ว 

ทว่าเกาะหมอกคือสถานที่อันน่าอัศจรรย์ใจ 

เพียงแค่ตายลงที่นี่ ก็กล่าวได้ว่ายังมีความหวังที่จะฟื้นคืนชีพ 

แต่ความหวังนี้ที่ว่านั่นย่อมมีจำนวนจำกัด 

ในมหาสมุทรแห่งซากศพ เขาก็ได้ตกตายไปแล้วครั้งหนึ่งจนมาถึงเกาะหมอก 

และตอนถูกกลืนกินโดยอสูรยักษ์แห่งโชคชะตา แล้วเขาก็ตายไปอีกครั้งหนึ่ง 

ตายไปแล้วถึงสองครั้ง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถกลับมามีชีวิตอีกครั้งในสภาพสมบูรณ์ได้ 

ที่ทำได้ก็มีเพียงปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในสภาพที่มีร่างกายแห้งกรังราวกับซากศพ 

นี่คือโชคชะตาในช่วงปีแรกๆ ของเขา 

ตั้งแต่นั้นมา จอมมารชุดคลุมเลือดก็สาบานกับตัวเองว่าจะไม่ยอมได้เห็นอะไรที่มันไม่ถูกต้องเกิดขึ้นอีก 

จอมมารชุดคลุมเลือดยับยั้งความโกรธของเขา และขบคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากรอบด้าน 

น้ำเสียงพูดของเขาทุ้มลึก “ยี่ชา เพื่อความยุติธรรมในการตัดสินใจ ขอเจ้าจงให้คณบดีตรวจสอบไพ่ของเจ้าด้วย” 

“ย่อมแน่นอน ท่านสามารถตรวจสอบมันได้” ยี่ชากล่าวอย่าไม่ต้องคิด 

เธอปล่อยไพ่ในมือไปกลางอากาศ 

และไพ่ก็ลอยออกไปทันที 

ท่ามกลางความว่างเปล่า ปรากฏมือหนึ่งเหี่ยวย่นที่ดูราวกับถูกปกคลุมไปด้วยเปลือกไม้ยื่นออกมาคว้าไพ่ 

“มันเป็นเพียงการตรวจสอบอย่างง่ายๆ เท่านั้น เราจะสามารถพบความจริงได้” เสียงชรากล่าว 

อีกมือหนึ่งของคณบดีคว้าจับลงเบาๆ ในอากาศที่ว่างเปล่า 

และเขี้ยวยาวก็ถูกดึงออกมาโดยคณบดี 

บนเขี้ยวซี่นี้ ถูกแกะสลักไว้ด้วยกลุ่มฝูงหมาป่า 

“ไปเถอะ จงไปตามหา ‘เจ้าของเสียง’ ทั้งสองนี้เสีย” เสียงชรากล่าว 

แล้วเขี้ยวก็หายไปทันที 

ทว่ากลับปรากฏฝูงหมาป่าสีเทากระโจนออกมาแทน 

หมาป่าสีเทาหลายตัวรีบวิ่งไปที่เท้าของผู้ฝึกสอนยี่ชา และทำการดมกลิ่น ก่อนจะหยุดเคลื่อนไหว 

ส่วนหมาป่าอีกฝูงหนึ่งวิ่งไปทางซูเซี่ยเอ๋อ 

เวลานี้ทุกคนเข้าใจอย่างชัดเจน 

แน่นอนแล้วว่าเป็นซูเซี่ยเอ๋อ ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีอะไรผิดพลาด! 

ทว่ากลับเห็นแค่เพียงฝูงหมาป่าวิ่งผ่านเธอไป โดยไม่แม้แต่จะชายตามองซูเซี่ยเอ๋อ 

และฝูงหมาป่าก็เร่งตรงไปยังขอบจัตุรัสและหยุดลง 

พวกมันนั่งหมอบลงกับพื้น และส่งเสียงหอนไกลออกไปทางสถาบัน 

เสียงชราดังก้องขึ้นอีกครั้ง 

แต่คราวนี้ มันฟังดูค่อนข้างรุนแรง 

“ทุกคนจงมองดู ผลลัพธ์ได้ออกมาแล้ว” 

“เสียงหนึ่งมาจากผู้ฝึกสอนยี่ชา อีกเสียงหนึ่งหายไปจากสถาบัน และไม่อาจค้นหาได้[footnoteRef:1]”  [1: เฉลยปมที่แหวนนาโนแปรสภาพเป็นเส้นผม และลอดเข้าไปในปากซูเซี่ยเอ๋อ+ที่มันเลือกจะทำลายตนเอง เพื่อให้กลยุทธ์สมบูรณ์]

จอมมารชุดคลุมเลือดมองไปยังซูเซี่ยเอ๋อ ในแววตาของเขาอ่อนโยนลง 

ความจริงมักจะปรากฏขึ้นในท้ายที่สุด ยามเมื่อน้ำลด ก้อนหินที่อยู่เบื้องล่างก็จะเผยโฉมออกมา 

จอมมารชุดคลุมเลือดกลับมาใจเย็นลง เขากล่าวอย่างช้าๆ “มองตามที่เห็น เสียงนี้ไม่ได้มาจากซูเซี่ย ภาพเคลื่อนไหวเมื่อครู่คงจะถูกบิดเบือนด้วยอะไรบางอย่าง” 

“คงเป็นเช่นนั้น เพราะในหลายร้อยปีมานี้ การค้นหาของฝูงหมาป่าไม่เคยผิดพลาดมาก่อนเลย” 

เสียงชราถอนหายใจ ก่อนจะกล่าวต่อ “นังหนูคนนี้ แท้จริงแล้วถูกใส่ร้าย”

………………..………………..