webnovel

ตอนที่ 257

ตอนที่ 257 คิดไม่ถึง

เสิ่นอี้ส่ายหน้า "นั่นผมก็ไม่รู้หรอก! ถึงยังไงขนาดผู้หญิงคนนี้ผมก็ยังไม่เคยเจอ! วันนี้ยังเป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ได้เจอกัน!" 

เสิ่นอี้พูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกเย่หนิงพูดเหยียดว่า "ทำเกินไปหรือเปล่า! ทำร้ายหัวใจคนอื่นอย่างสาหัส! คนอื่นแอบรักคุณมากถึงขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะลืมไปเสียได้"

"อะไรครับ แอบรักอะไรกัน!" เสิ่นอี้บีบแก้มของเย่หนิง "เป็นไปได้ว่าเธอเองก็ไม่เคยเจอผม! แล้วจะแอบรักผมได้ยังไงล่ะ" 

"เอ่อ นั่นพูดไม่ดีเลยนะ! บางทีก่อนหน้านี่ที่คุณเข้าไปที่พระราชวัง สองสุภาพสตรีอาจจะเคยแอบมองวีรบุรุษเช่นคุณก็เป็นได้......" 

เสิ่นอี้กลั้นใจไม่สบถออกมา "ถึงกับต้องแอบดูเลยเหรอ" 

"แปลกตรงไหน!" เย่หนิงพูดว่า "บางทีนะตอนที่ท่านอ๋องเลือกลูกเขย คงต้องเคยถามมู่หรงชิงบ้างล่ะ ดังนั้นระหว่างนั้นพวกเธอต้องเคยแอบสังเกตพวกคุณอย่างแน่นอน มีอะไรแปลก ในโทรทัศน์มีฉากนี้ให้เห็นออกบ่อยไป"

"ในโทรทัศน์มีฉากอย่างนี้ด้วยเหรอครับ" เสิ่นอี้ลูบผมของเย่หนิง "สมองเล็กๆ ของคุณทั้งวันทั้งคืนเอาแต่คิดเหลวไหวอะไรอยู่ครับ"

"ฉันไม่ได้คิดเหลวไหลนะ! ฉันบอกคุณได้เลย สัญชาตญาณของผู้หญิงถูกต้องจริงๆ นะคะ! มู่หรงซีคนนั้นต้องชอบคุณแน่ๆ เลยค่ะ!"

เย่หนิงพูดอย่างมั่นใจมากๆ ว่า "แต่ความรู้สึกของฉันมันชัดเจนมากๆ เลยนะคะ! ถ้าให้ฉันพูด เริ่มแรกเธอก็แค่อยากแย่งพี่สาวของเธอเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ของที่เป็นของพี่สาวเธอ เธอต้องอยากแย่งทั้งหมด! ตอนนี้ดีแล้วที่มู่หรงชิงตายไปแล้ว ทว่าการช่วงชิงตำแหน่งของเธอไม่ได้มาอย่างถูกทำนองคลองธรรม! ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่กระตือรือร้นอยากช่วยราชาผีดิบออกมาขนาดนี้หรอกค่ะ เหอะ! เธอต้องอยากบังคับคุณแต่งงานกับเธอแน่นอนเลยค่ะ!"

"เป็นราชาผีดิบแล้วจะทำไม" เสิ่นอี้ไม่เห็นด้วย "เรื่องที่ผมไม่อยากทำ เขาบังคับผมไปก็เปล่าประโยชน์! ผมไม่มีทางตอบตกลงอย่างแน่นอน" 

"หึ แต่ราชาผีดิบเก่งกาจมากเลยนะคะ!" เย่หนิงเตือนสติเสิ่นอี้เล็กน้อย 

เสิ่นอี้ยิ้มเย็น "ราชาผีดิบเขาออกมาไม่ได้หรอก! ผมจะไม่ยอมให้เขาออกมาได้อีก! ให้เขาถูกผนึกหลับใหลไปชั่วนิจนิรันดรแบบนี้แหละดีแล้ว!"

พูดถึงเรื่องนี้เย่หนิงยังรู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย "เสิ่นอี้ กระจกฟ้าดินถูกพวกเขาแย่งเอาไป ฉันรู้สึกไม่สบายใจเลยค่ะ! เมื่อถึงเวลานั้นถ้าเขาทำลายผนึกได้จริงๆ ล่ะคะ......"

"ไม่มีอะไรทั้งนั้นล่ะครับ! เรื่องนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!" เสิ่นอี้หันไปสบตากับเย่หนิง แล้วเอ่ยเสียงเบาว่า "ผมจะไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นโดยเด็ดขาดครับ"

เย่หนิงพูดเสียงเบาว่า "มู่หรงซีคนนั้นดูพวกเขามีความมั่นใจมากๆ เลยค่ะ ฉันรู้สึกเสมอว่า บางทีในมือพวกเขาอาจมีไพ่สำคัญอยู่ในมือก็เป็นได้!" 

"ผมรู้ว่าคุณกังวลอะไรอยู่ เสี่ยวหนิง!" เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม แล้วพูดว่า "มู่หรงซีคนนั้น ไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัวเลย! ที่คุณเป็นกังวลคือฉินเฉาฮุ้ยใช่ไหมครับ"

เย่หนิงพยักหน้า "เขาดูเก่งมากจริงๆ! ยิ่งไปกว่านั้นน่าจะเก่งกว่ามู่หรงซีเสียด้วย! แต่เขาเก่งมากขนาดไหนนั้นพวกเราเองก็ไม่รู้ และอีกอย่างก็ไม่รู้เลยด้วยว่าพวกเขามีมีผีดิบที่เก่งกาจแบบนี้อีกมากขนาดไหน"

"คุณวางใจได้ครับ เสี่ยวหนิง" เสิ่นอี้พูดปลอบใจอย่างอ่อนโยน "พวกเราทางด้านนี้ก็ไม่ได้มีแค่ผมเพียงคนเดียว! นอกจากผมและซีเหมินถิง หยางปินและคนอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรจำนวนมากที่อยู่เคียงข้างพวกเรา คุณวางใจได้ครับ ถ้าพวกเรารู้ก่อนหน้านี้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พวกเราจะไม่มีเตรียมพร้อมเลยสักนิดได้อย่างไรล่ะ"

ทันใดนั้นเย่หนิงก็ฉีกยิ้ม "แปลกประหลาดมากใช่ไหม" 

"หือ" 

"ร่วมมือกับนักล่าผีดิบ แปลกมากใช่ไหมคะ" 

"ไม่แปลกเลยสักนิดครับ!" เสิ่นอี้ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า "ผมเคยร่วมมือกับนักล่าผีดิบมาก่อนหน้านี้แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอก!"

เย่หนิงประหลาดใจ "ก่อนหน้านี้คุณเคยร่วมมือกับนักล่าผีดิบหรอค่ะ...เรื่อง เรื่อง...นี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน" 

"ตอนที่ผนึกราชาผีดิบ" เสิ่นอี้บอกเย่หนิง

เย่หนิงตกใจเป็นอย่างยิ่ง "ตอน ตอนที่ ผนึกราชาผีดิบ...พวกคุณ...คุณ...คุณกับคนของตระกูลนักล่าผีดิบของพวกเราเคยร่วมมือกันหรอคะ" 

"ใช่ครับ!" เสิ่นอี้พยักหน้า "ตอนนั้นพวกเขาคงได้ยินเรื่องที่ผมปล่อยราชาผีดิบออกมา ดังนั้นถึงได้มาหาผม และขอร้องให้ผมร่วมมือกับพวกเขา"

เย่หนิงเบิกตามองอย่างตกตะลึง "ดังนั้น...ดังนั้นคุณก็เลยตอบตกลงงั้นเหรอคะ" 

"ใช่ครับ ผมตอบตกลง! หลังจากนั้นพวกเราเองก็ยินดีให้ความร่วมมือเป็นอย่างยิ่ง"

"หา!" เย่หนิงคิดว่าตนเองต้องฟังผิดอย่างแน่นอน! คาดไม่ถึงเลยว่าเสิ่นอี้จะเคยร่วมมือกับนักล่าผีดิบตระกูลของพวกเรามาก่อน นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นใช่ไหม 

"จริง จริงเหรอคะ..." เสียงพูดของเย่หนิงตะกุกตะกักเล็กน้อย "งั้น งั้น...หรือว่าการผนึกราชาผีดิบเมื่อปีนั้น คุณเองก็อยู่ด้วย...มิน่าล่ะคุณถึงได้รู้เรื่องของผนึกมากถึงขนาดนี้..."

"ไม่ครับ!" เสิ่นอี้ฉีกยิ้มแล้วส่ายหน้า "ตอนนั้นความเชื่อใจของพวกเราไม่ได้มีถึงขั้นนี้ ตอนที่พวกเขาผนึกราชาผีดิบ ผมจะไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไรล่ะครับ จะไม่กลัวว่าผมทำลายผนึกเลยหรือไง การร่วมมือกันของพวกเรา ผมแค่รับผิดชอบช่วยพวกเขารับมือกับราชาผีดิบเท่านั้น แน่นอนอยู่แล้ว พวกเขายกหน้าที่เล็กๆ น้อยๆ ให้ผมจัดการ" 

เสิ่นอี้พูดถึงตรงนั้น ทันใดนั้นก็หยุดพูด แล้วก็มองเย่หนิงเงียบๆ

เย่หนิงถูกเสิ่นอี้มองจนรู้สึกขาดความมั่นใจเล็กน้อย เธอถามอย่างตกใจว่า "เสิ่นอี้ คุณ คุณมองฉันทำไมคะ..." 

เสิ่นอี้ถอนหายใจแล้วพูดว่า "ผมอยากพูดเรื่องของมู่หรงซิงกับคุณ!" 

หัวใจของเย่หนิงเต้นรัวเร็ว 

เสิ่นอี้สบตาเย่หนิง ทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า "ปีนั้น...ถ้าไม่ใช่มู่หรงซีถูกฆ่า บางทีอยากจะปิดผนึกราชาผีดิบ คงจะไม่ง่ายขนาดนั้น" 

หัวใจของเย่หนิงเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ขนาดเสียงพูดยังเปลี่ยนไปเล็กน้อย "เสิ่นอี้ คุณ ที่คุณพูดหมายความว่าอะไร" 

"ความหมายของผมคือ มู่หรงชิง สงครามเมื่อปีนั้น อาจบอกได้ว่าเป็นคนที่สำคัญมากๆ! แล้วก็เป็นบุคคลที่สำคัญที่สุด!" 

หลังจากเงียบไปสักพัก เสิ่นอี้จึงพูดต่อว่า "บุตรสาวคนนั้นของท่านอ๋องเป็นคนที่ฉลาด และเป็นคนที่มีไหวพริบดีมากๆ! ปีนั้นก็ต้องพึ่งเธอ พวกเราถึงได้หาสุสานของท่านอ๋องเจอ! หลังจากนั้นตอนที่ท่านอ๋องยกกองกำลัง มีหลายครั้งก็ยังต้องพึ่งพาคำแนะนำของเธอ ทำให้ได้รับชัยชนะมาอย่างไม่คาดคิดเสมอ"

"มิน่าล่ะท่านอ๋องถึงได้รักเธอขนาดนี้ มีลูกสาวแบบนี้ยอดเยี่ยมกว่ามีลูกชายสิบกว่าคนเสียอีก! ปีนั้นเป็นเธอที่ช่วยราชาผีดิบออกมา แล้วก็เป็นเธอที่ช่วยรวบรวมกองทัพผีดิบให้ท่านอ๋อง และได้รับชัยชนะมาครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าไม่ใช่เพราะเช่นนี้ สงครามเมื่อปีนั้นคงไม่ต้องฟาดฟันกันนานขนาดนี้หรอก! สุดท้ายที่พวกมนุษย์อย่างพวกคุณได้รับชัยชนะ เหตุผลใหญ่ที่สุดก็เป็นเพราะมู่หรงชิงตายไปแล้ว!"

ในที่สุดเย่หนิงก็ได้เบาะแสบ้างแล้ว "เสิ่นอี้ คุณ คุณบอกว่า คุณร่วมมือกับนักล่าผีดิบของพวกเรา งั้น งั้น...การตายของมู่หรงชิง......" 

เสิ่นอี้ยิ้มเย้ยหยัน " ถึงจะพูดอย่างนี้! ถึงยังไงผมมีจุดประสงค์ของผม พวกเขาก็มีจุดประสงค์ของพวกเขา แต่เป้าหมายของทุกคนล้วนเป็นคนเดียวกัน ก็คือมู่หรงชิง..." 

"ดังนั้น..." เย่หนิงกลืนน้ำลาย "การตายของมู่หรงชิง...ก็คงจะเกี่ยวข้องกับคุณด้วยใช่ไหมคะ"