ตอนที่ 1153 ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว!
แถวหิ่งห้อยยังคงอยู่บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“โปรดทราบว่าหลังจากผ่านไปสองนาที พลังมังกรคู่จะเสร็จสิ้นในไม่ช้า”
แมวสีส้มเปลี่ยนท่าขณะขดอยู่ตรงที่นั่งคนขับ
ในฐานะแมวนี่คือท่าที่สบายดีที่
นอกจากนี้ หลังจากกู่ฉิงซานพบว่าพอตัวเองกลายเป็นแมวแล้วเขารู้สึกกระตือรือร้นมาก
ในฐานะผู้นำเต้นของการบูชายัญโลก เขารู้สึกว่าในโลกเก้าร้อยล้านชั้นมีโลกที่แตกสลายมากมายนับไม่ถ้วน
เจตจำนงของโลกจำนวนมากกำลังคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด
…ยุคนี้คือยุคแห่งความโกลาหล
ผู้โหลดความโกลาหลทั้งหมดนี้ยุ่งอยู่กับการทำลายเพื่อเสริมสร้างพละกำลังให้ตัวเอง
สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนถูกสังหารอย่างไร้เหตุผล
ปฐพีถูกทำลาย
ท้องนภาแตกสลาย
โลกเก้าร้อยล้านชั้นกำลังพังทลาย
แมวสีส้มหรี่ตาขณะครุ่นคิดในใจ
ความคิดนี้ยิ่งมากยิ่งชัดเจน ไม่ช้าก็หยั่งรากลึกขั้นตอนต่อมาปรากฏขึ้นทีละเล็กละน้อย
ทันใดนั้น มันคล้ายกับสังเกตเห็นบางสิ่งก่อนกระโจนขึ้นอย่างรุนแรง
แมวสีส้มกระโดดขึ้นหลังเก้าอี้ หลังเอนดวงตาเบิกกว้างขณะจับจ้องความว่างเปล่าอย่างระแวดระวัง
ความว่างเปล่าวูบไหว
สาวน้อยคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในห้องคนขับ
เสี่ยวเมียวสวมเสื้อหนังสีดำในวันนี้ ทำให้ดูองอาจ
เมื่อแมวสีส้มเห็นว่าเป็นนาง เขาโล่งอกในตอนแรก จากนั้นจึงถามด้วยความประหลาดใจว่า “เหมียว ๆ ๆ ๆ ”
เสี่ยวเมียวชี้ไปที่ลูกแก้วสีเขียวมรกตในมือก่อนอธิบายว่า “เหมียว ๆ เหมียว ๆ เหมียว ๆ ๆ ๆ เหมียว ๆ ”
แมวสีส้มเผยสีหน้ายำเกรงออกมา มันหันหลังแล้วกระโจนขึ้นแผงควบคุมก่อนทำการบังคับด้วยอุ้งเท้าอย่างรวดเร็ว
ยานอวกาศหันหลังก่อนมุ่งสู่ทิศทางตรงข้ามที่ไปอาณาจักรหนามอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ลำแสงวูบไหวบนลูกแก้วสีเขียวมรกต
ทุกคนออกมา
“ว้าว เป็นแมวจริง ๆ ด้วย!” ลอร่าอุทาน
แอนนาเดินไปสองสามก้าวก่อนตรงเข้าไปกอดแมวสีส้มในอ้อมแขนแล้วยิ้มอย่างมีความสุข “ฉิงซาน! ฮ่า ๆ ๆ ! เจ้าน่ารักเหลือเกิน!”
แมวสีส้มพยักหน้าให้แอนนาก่อนหันไปมองทุกคนแล้วกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เหมียว ๆ ๆ !”
เสี่ยวเมียวแปลให้ “เขาบอกว่าพวกเราต้องรีบหนีแล้ว”
“จริงหรือ พวกเราต้องหนีไปไหนล่ะ”
แอนนาถามขณะลูบแมวสีส้มไปมา
จากนั้นนางสัมผัสศีรษะของแมวสีส้ม
ลอร่าเดินเข้ามาก่อนวางมือบนหน้าอกของอีกฝ่ายเพื่อขอร้องแอนนาว่า “พี่แอนนา ข้าขอสัมผัสมันได้หรือไม่”
เมื่อเผชิญหน้ากับสาวน้อย แอนนาไม่คิดมากก่อนตอบอย่างใจกว้างว่า “ได้สิ”
ลอร่ายื่นมือออกไปสัมผัสแผ่นหลังของแมวสีส้ม
“ว้าว ขนนุ่มมากเลย”
“ถ้าเจ้าสัมผัสศีรษะของมัน มันจะหรี่ตาด้วยความสบาย”
“จริงหรือ ข้าจะสัมผัสดู”
แมวสีส้มประท้วง “…เหมียว…เหมียว ๆ ! เหมียว ๆ ๆ !”
เสี่ยวเมียวแปลให้ “เขาบอกว่าไม่ได้หรี่ตาด้วยความสบายสักหน่อย แต่หรี่ตาเพราะว่าลูบแรงเกินไปต่างหาก”
“พอเลย” แบร์รี่ขัดบทสนทนาแล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ทุกคน…พวกเราในตอนนี้คือความหวังสุดท้ายของโลกเก้าร้อยล้านชั้น ดังนั้นพวกเราต้องหาทางรับมือกับ…”
ลอร่าพลันกล่าวขึ้นมาว่า “หางนี้! ใช่แล้ว ข้าสัมผัสบางสิ่งในตอนนั้น ดูท่าจะเป็นหางนี้แหละ ข้าเชื่อในสัมผัสของตัวเอง!”
“ว่าไงนะ เป็นหางของกู่ฉิงซานงั้นหรือ” เหล่าต้าก้าวมาข้างหน้าก่อนคว้าหางแมวเอาไว้ จากนั้นกล่าวว่า “แสดงว่าตอนเจ้าอยากพลิกสงครามถึงสามารถคว้าหางของเขาได้ นอกจากวิธีนั้นต้องหาวิธีอื่นเพิ่ม”
“ข้าขอสัมผัสหน่อย”
ลอร่าจับหางแมวที่เหล่าต้าอุ้มเอาไว้สักพัก
“อา นั่นแหละ ใช่แล้ว” นางกล่าวอย่างจริงจัง
แบร์รี่ไอเล็กน้อยขณะพยายามดึงบรรยากาศให้กลับมา “พวกเราต้องสู้กับความโกลาหลนะ ยังไงเสีย ยุคแห่งความโกลาหลยุ่งเหยิงเกินไป มีสิ่งมีชีวิตมากมายในยุคนี้ที่…”
แอนนาอุ้มแมวสีส้มขึ้นมาก่อนจูบหน้าผากของมัน
การกระทำนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที
นางมองทุกคนพร้อมกับยิ้มกว้างแล้วเดาะลิ้น จากนั้นกล่าวว่า “โทษที นี่คือผู้ชายของข้าน่ะ ตอนนี้เขาน่ารักเกินไป เพราะงั้นข้าก็เลยอดใจไม่ไหว”
เหล่าต้าอดที่จะกล่าวไม่ได้ว่า “มันน่าสนใจตรงไหนที่กลายเป็นแมว ข้ามีวิชาหนึ่งที่ทำให้สามารถกลายเป็นสุนัขปีศาจสามหัวได้นะ”
สุนัขที่มีสามหัวหรือ…
ไม่มีใครสนใจเขา
ทุกคนยังคงมองแมวสีส้ม
จางหยิงห่าวพลันกล่าวว่า “ข้ามีแมวสีดำ มันสามารถหาทุกสิ่งได้ ข้าไม่รู้ว่ากู่ฉิงซานจะมีความสามารถพิเศษอะไรหลังจากกลายเป็นแมวแล้ว”
“พวกแมวมีความสามารถพิเศษงั้นหรือ” เย่เฟยหลีถามด้วยความสนใจ
เสี่ยวเมียวกอดอกแล้วตอบว่า “ในด้านความเป็นไปได้ เผ่าแมวมีความสามารถมากกว่าเผ่าพันธุ์อื่น ๆ แต่พวกมันล้วนเป็นความสามารถที่ไม่เป็นที่นิยมมากนัก… ”
นางเชยคางขึ้นแล้วกล่าวด้วยสีหน้าอิ่มเอมว่า “ไม่อย่างนั้น พวกเจ้าคิดว่าแมวจะทำตัวสันโดษและหยิ่งทะนงได้ยังไง”
ลอร่าชี้ไปที่แมวสีส้มแล้วกล่าวว่า “ข้าคิดว่าความสามารถของมันคือความน่ารัก”
ทุกคนตกตะลึง
พวกเขาเห็นแมวสีส้มเผยสีหน้าจนใจออกมาราวกับอยากตบศีรษะสองคนนี้สักที
แมวสีส้มรู้สึกหมดหนทาง
…พวกเจ้าคิดว่าข้าเป็นตัวอะไร
ตอนนี้เขาเป็นเพียงแมวที่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากดูดกลืนพลัง
หลังจากประสบกับสิ่งนี้สักพักเขาเข้าใจถึงคุณค่าที่แท้จริงของ “ขุนเขาส้ม”
สิ่งที่เรียกว่าการดูดกลืนพลังทั้งหมด…
ความจริงนอกจากพลังพิเศษอย่างพลังมังกรคู่และการเชื่อมโยงกับสายเลือดมังกรมารอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ตราบที่อ่านคำบรรยายของวิชา ‘ร่างกำราบมาร · ขุนเขาส้ม’ อย่างละเอียดก็จะทำให้ค้นพบหนึ่งสิ่ง
ขุนเขาเซียวหมียังทรงพลังจนถึงขั้นมอบพลังเหนือธรรมชาตินี้ให้ได้
มันมอบสุดยอดพลังเหนือธรรมชาตินี้เหมาะสำหรับ “แมวลายตัวใหญ่” ที่มีชื่อเสียง ใช้เพื่อดูดกลืนพลังจำนวนมากเพื่อเปลี่ยนให้มาเป็นของตัวเอง
หรือก็คือ…
เมื่อกลายเป็นแมวก็จะแข็งแกร่งขึ้นด้วยการกิน
เขาเป็นทั้งคนรักอาหารและเชี่ยวชาญการทำอาหาร ความสามารถนี้จึงเหมาะกับเขาจริง ๆ
สักวันเขาอาจจะสามารถกลายเป็น “ขุนเขาส้ม” จริง ๆ ก็ได้
กู่ฉิงซานพลันได้สติ
ไม่สงสัยเลย…
ไม่สงสัยเลยว่าหลังจากได้เห็นความสามารถนี้ อาจารย์บอกเขาอย่างเคร่งขรึมทันทีว่าอย่าปล่อยให้ตัวเองอ้วน
แค่คิดถึงตรงนี้แถวหิ่งห้อยปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“หมดเวลาแล้ว”
“ท่านดูดกลืนพลังมังกรคู่เสร็จสิ้นแล้ว”
“พลังทั้งหมดของเผ่ามังกรกลายเป็นพลังของฝั่งผู้ฝึกยุทธ์”
“พลังจิตวิญญาณ พลังวิญญาณ ลมปราณ สายเลือดและพละกำลังของร่างกายเหนือกว่าขีดจำกัดของระดับราชาแห่งอิสรภาพ”
“ท่านสามารถเริ่มก้าวข้ามภัยพิบัติได้ทุกเมื่อเพื่อไปถึงระดับจ้าวแห่งขุนเขาเซียวหมี”
อย่าพูดเป็นเล่นน่า เขาจะก้าวข้ามภัยพิบัติในสถานการณ์ที่ฉุกเฉินแบบนี้ได้อย่างไร
แมวในอ้อมแขนของแอนนาค่อย ๆ หนาและใหญ่ขึ้น ท้ายที่สุดก็กลายเป็นร่างมนุษย์
กู่ฉิงซาน
ในที่สุดเขาก็กลับร่าง
“เวลากำลังจะหมดแล้ว พวกเราต้องเตรียมตัวเดี๋ยวนี้!” เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม
จางหยิงห่าวกล่าวว่า “เตรียมตัวยังไง มีสามเทพหนุนหลัง ทั่วโลกเก้าร้อยล้านชั้นแทบจะตกเป็นของพวกมันหมดแล้ว”
เสี่ยวเมียวเห็นด้วย “ใช่ ไม่มีทางที่จะสู้ในสถานการณ์แบบนี้ได้เลย ดังนั้นพวกเราถึงต้องมาคุยที่นี่เพื่อรอให้เจ้าเปลี่ยนร่างกลับมา”
แบร์รี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขอบคุณทวยเทพ ในที่สุดกู่ฉิงซานก็พึ่งพาได้แล้ว
เขากำหมัดเหล็กแล้วกล่าวว่า “ตราบที่เจ้าสามารถป้องกันไม่ให้วิญญาณกรีดร้องดูดกลืนวิญญาณได้ ข้าก็เตรียมวิชาที่จะตายไปพร้อมกับมันไว้แล้ว อยากลองอยู่พอดีเลย”
ทุกคนเงียบ
ท่าไม้ตายทั้งหมดของแบร์รี่เริ่มต้นจากจุดจบเดียวกัน วิชาดังกล่าวมักอยู่เหนือความรู้สึกทั่วไปของพลัง แถมยังเป็นพลังที่น่าทึ่งอีกด้วย
และเขาไม่สามารถตายได้
ดังนั้นเขาสามารถตายไปพร้อมกับศัตรูได้เสมอไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครก็ตาม
กู่ฉิงซานส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “แค่เจ้ามันไม่พอหรอก อย่างที่หยิงห่าวว่านั่นแหละ พวกเรามีคนน้อยเกินไป”
แบร์รี่กล่าวว่า “ผู้ช่วยเหลือทั้งหมดที่ข้าสามารถเรียกได้ก็เรียกมาหมดแล้ว พวกเขาเคยเล่นเกมมามากมาย ตอนนี้พักอยู่ในอาณาจักรหนามชั่วคราว”
เสี่ยวเมียวกล่าวว่า “พวกเรามีคนมากมายในอาณาจักรหนาม แต่เทียบกับโลกเก้าร้อยล้านชั้นแล้ว มันก็ไม่ต่างจากน้ำหนึ่งหยดในมหาสมุทร หากไม่ใช่เพราะพลังจากสมบัติจำนวนมาก พวกเราคงย่อยยับก่อนเจ้าจะกลับมาแล้ว”
กู่ฉิงซานไอเล็กน้อยขณะมองทุกคน
“ตอนข้าเป็นแมว ข้ารู้สึกถึงความเจ็บปวดและเสียงครวญครางนับไม่ถ้วนจากโลกเก้าร้อยล้านชั้น ตอนนี้พวกมันตกอยู่ในความเสี่ยง พวกมันเต็มใจช่วยในสงครามครั้งนี้และจะช่วยข้านำทหารบางส่วนมาด้วย”
ทุกคนมองเขาขณะรอคำพูดต่อมา
กู่ฉิงซานนิ่งไปสักพัก ดวงตาของเขาสบตากับลอร่า
“ลอร่า เวลากระชั้นนัก เจ้าต้องเริ่มถ่ายทอดสดในโลกเก้าร้อยล้านชั้นเพื่อประกาศสงครามกับความโกลาหลเดี๋ยวนี้เลย”
ประกาศสงครามหรือ
นี่คือแผนที่กู่ฉิงซานวางเอาไว้ตอนเป็นพันธมิตรกับหุบเหว
เดิมเขาวางแผนจะกลับอาณาจักรหนามเพื่อเรียกให้ทุกคนที่ขัดขืนความโกลาหลในโลกเก้าร้อยล้านชั้นมาเข้าร่วมสงคราม
แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว
สามเทพกำลังจะกลับมา
มันจะสายเกินไปหรือไม่ที่มาประกาศสงครามตอนนี้
ทุกคนสับสน
ลอร่ากล่าวว่า “ไม่มีปัญหา เจ้าจะเรียกให้ผู้คนมาเข้าร่วมสงครามงั้นหรือ”
“ใช่”
เหล่าต้าขัดว่า “แต่สามเทพจะมาไล่ล่าในไม่ช้า ต่อให้มีคนที่ไม่พอใจความโกลาหลเข้าร่วมสงคราม แต่มันก็สายเกินไปแล้ว”
แบร์รี่ขมวดคิ้วเช่นกัน “ควรเปลี่ยนแผนหรือเปล่า”
กู่ฉิงซานส่ายหน้าก่อนตอบอย่างแผ่วเบาว่า “การต่อสู้ดุเดือดที่แท้จริงกำลังจะเริ่มขึ้น แผนของข้าถูกเตรียมไว้เพื่อการนี้มาโดยตลอด ถึงแม้จะกินเวลานานไปหน่อย แต่ข้าก็มั่นใจกว่าเมื่อก่อนมาก”
สายตาของเขาจับจ้องไปในความว่างเปล่า
แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏอยู่ด้านบน
“ท่านได้รับพลังจากพรของโลกอดีต”
“ท่านเพิ่งดูดกลืนพลังไปเป็นจำนวนมหาศาล ตอนนี้สามารถทำการร่ายรำของเทพปฐพีได้อีกครั้ง”
“โปรดทราบว่านี่คือการเต้นบูชายัญที่เป็นของเหล่าเทพ ท่านต้องทำให้สำเร็จเพียงลำพัง”
“เพราะความปรารถนาของท่านคือการเผชิญหน้ากับความโกลาหล เจตจำนงของโลกจำนวนมากที่ถูกความโกลาหลทำลายจึงพร้อมให้การช่วยเหลือ”
“พวกมันจะยอมให้ผู้ที่เต็มใจเข้าร่วมสงครามในครั้งนี้ก้าวข้ามมิติมาได้”
..............................