ตอนที่ 1152 ความสามารถชั้นสูงและการหลบหนี
ตึงตัง!
มีดยาวที่สอดเข้าไปในหินหนักกระแทกกับพื้นทันที
ดวงตาของทุกคนทอประกาย
“นายท่าน ระดับของอาวุธที่ท่านสัมผัสในครั้งนี้เป็นเท่าไหร่หรือ” เย่เฟยหลีถาม
ลอร่าถอนหายใจออกมา “ท่านเอิร์ลของข้า ครั้งนี้ข้าเพียงสัมผัสมีดสงครามที่ดีที่สุดในโลกเก้าร้อยล้านชั้นเท่านั้น เกือบแล้วแท้ ๆ บ้าจริง!”
นางรับเครื่องดื่มพลังงานที่เย่เฟยหลีส่งมาให้ก่อนดื่มเข้าไปในอึดใจเดียว
ทุกคนผิดหวังเล็กน้อยแต่ท่าทีสงบมากยิ่งขึ้น
อย่ามาล้อเล่นน่า หากสามารถสัมผัสอาวุธที่สามารถพลิกสงครามได้ดังใจต้องการ โลกเก้าร้อยล้านชั้นคงสงบสุขไปตลอดกาลแล้ว ไม่มีความโกลาหลและบัญญัติอย่างทุกวันนี้หรอก
“มา!” ลอร่ากล่าวอย่างอ่อนโยน
นางเอื้อมมือออกไปก่อนจมเข้าไปในความว่างเปล่าเพื่อคลำหาบางอย่าง
ผ่านไปสักพัก
สีหน้าของลอร่าค่อย ๆ แปลกประหลาด
“นายท่าน มีอะไรหรือ” ลิเลียถามด้วยความกังวล
ทุกคนมองลอร่าด้วยความวิตกเช่นกัน
“เปล่า…” ลอร่าดูลังเลเล็กน้อย
แบร์รี่กล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “เจ้าเผชิญกับบางสิ่งที่อันตรายหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ตัดใจจากมันเถอะ อย่าไปสัมผัสมัน”
ลอร่าส่ายหน้าแล้วกระซิบว่า “ข้าแค่คิดว่าไปสัมผัสบางสิ่งที่สามารถคลี่คลายสงครามได้…จากนั้นข้ารู้สึกว่าความสามารถตัวเองถูกกระตุ้นจนไม่สามารถใช้ได้ในทันที”
หลังจากพูดจบ นางดึงมือกลับก่อนตัดใจที่จะคว้าสมบัติ
ไม่สามารถใช้ได้ในทันทีงั้นหรือ
หัวใจของทุกคนแทบกระโจนออกมา
สำหรับคนที่มีความสามารถ การเสียความสามารถนับว่าหาได้ยากมาก แต่ทุกครั้งที่เกิดขึ้นมันจะทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงกับคนที่มีความสามารถ ชีวิตอาจถึงขั้นเปลี่ยนไปเพราะเหตุนั้น
ลิเลียคุกเข่าลงข้างหนึ่งก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “นายท่าน ท่านรู้สึกยังไงบ้าง”
ลอร่าตอบด้วยความสับสนว่า “มันแปลก ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี”
นางมองเหล่าต้าราวกับต้องการความช่วยเหลือก่อนถามว่า “เหล่าต้า เจ้ามาจากหุบเหวนิรันดร์ เจ้าน่าจะเคยเห็นของดีมามากมาย เจ้าคิดว่ากรณีของข้ามันคืออะไร”
เหล่าต้าลูบคางพลางครุ่นคิด “เจ้าไม่สามารถสัมผัสสิ่งนี้ได้ในทันทีงั้นหรือ”
“ใช่ ไม่สามารถทำได้เลย” ลอร่าตอบ
“น่าแปลก…” เหล่าต้ากล่าวเสียงดัง จากนั้นถามว่า “เจ้าเพิ่งมีความปรารถนาแรงกล้าที่จะสัมผัสบางสิ่งที่สามารถคลี่คลายปัญหาที่อยู่ด้านนอกได้…จากนั้นทันทีที่ความสามารถหายไป เจ้าก็มีความรู้สึกพิเศษขึ้นมาอย่างนั้นหรือ”
ลอร่านึกอยู่สักพักแล้วตอบว่า “ข้ารู้สึกว่ามีบางสิ่งยืนอยู่ในความว่างเปล่า เหมือนกับพอจับสิ่งนั้นแล้ว…สิ่งนั้นก็สลัดออกจากมือข้าก่อนซ่อนตัว ท้ายที่สุดข้าก็ไม่สามารถจับมันได้”
เหล่าต้าลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วกล่าวว่า “ตามการตัดสินของข้า นี่อาจจะเป็นเพราะความสามารถของเจ้ากำลังก้าวหน้าขึ้น ทำให้ตกอยู่ในสภาพหลับใหลชั่วคราว”
“ก้าวหน้าขึ้นหรือ” ทุกคนถามพร้อมกัน
“นักสะสมสมบัติเร่ร่อน” คือความสามารถเฉพาะของราชวงศ์วิหคหนาม ตามประวัติศาสตร์ เป็นการยากยิ่งที่สมาชิกราชวงศ์จะปลุกความสามารถนี้ขึ้นมาได้
นี่คือความสามารถที่หาได้ยากยิ่ง แต่ตอนนี้ ลอร่ากลับได้ยินว่าความสามารถกำลังจะพัฒนางั้นหรือ
ความสามารถนี้นับว่าไร้เทียมทานในโลกแล้ว มันยังจะทรงพลังกว่านี้ได้อีกหรือ
ทุกคนโล่งอกและตกตะลึงเล็กน้อย
เหล่าต้าถามว่า “สิ่งที่ยืนอยู่ในความว่างเปล่าและขยับไปมา…เจ้าคิดว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร”
ลอร่าตอบว่า “ข้ารู้สึก…มันเหมือนกับหางอะไรสักอย่าง”
เหล่าต้าเผยสีหน้ากระจ่างแล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้เจ้าสามารถสัมผัสได้เพียงสมบัติด้วยความสามารถนี้ แต่หลังจากก้าวหน้าขึ้นเจ้าอาจจะสามารถสัมผัสสิ่งมีชีวิตบางอย่างได้”
“สิ่งมีชีวิตหรือ” ลอร่าเบิกตากว้าง
“ใช่ ดอกไม้ ต้นไม้ สิ่งมีชีวิตหายากหรือแม้กระทั่งมนุษย์ สัตว์อสูร พวกมันอาจจะถูกเจ้าจับได้” เหล่าต้าตอบ
จางหยิงห่าวพลันกล่าวว่า “เดี๋ยวนะ จะบอกว่าเมื่อครู่ลอร่าเกือบจับสิ่งมีชีวิตได้งั้นหรือ สิ่งมีชีวิตนั่นรับมือกับสงครามนี้ได้งั้นหรือ”
“ถูกต้องแล้วล่ะ” เหล่าต้าตอบ
ทุกคนจมสู่ความคิด
สิ่งมีชีวิตแบบไหนที่สามารถรับมือกับสงครามนี้ได้
น่าเสียดายที่ลอร่าไม่สามารถจับหางของสิ่งนั้นได้…
แต่ใครบ้างที่เคยเผชิญหน้ากับเรื่องแบบนี้
จะโทษลอร่าได้อย่างไร
ทันใดนั้นสีหน้าของลิเลียขยับ นางดึงอุปกรณ์สื่อสารออกจากร่างกาย
จอแสงพลันปรากฏขึ้นบนอุปกรณ์สื่อสาร
แถวตัวอักษรขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนจอแสง
“นี่คือกู่ฉิงซาน ถ้าเสี่ยวเมียวอยู่ ให้เสี่ยวเมียวมาคุยกับข้าที”
เสี่ยวเมียวตกตะลึง
น่าแปลกแค่เปิดวิโอคุยกันก็จบแล้ว ทำไมต้องโทรคุยด้วย
มีบางอย่างเกิดขึ้นงั้นหรือ
เสี่ยวเมียวปรายตามองแอนนาจนเห็นสีหน้าปกติ จากนั้นนางจึงรับอุปกรณ์สื่อสารมาจากลิเลีย
“กู่ฉิงซาน ข้าเสี่ยวเมียวนะ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไปเอาของบางอย่าง…การจะจัดการกับวิญญาณกรีดร้องต้องใช้ของสิ่งนั้น เจ้าทำสำเร็จหรือเปล่า” เสี่ยวเมียวถาม
เกิดความเงียบสงัด
ทุกคนรอฟังเสียงของเขา
ซ่า…ซ่า…
หลังจากเสียงรบกวนดังสักพัก เสียงหนึ่งดังมาจากอุปกรณ์สื่อสาร
“เหมียว!”
ทุกคนมองหน้ากัน
หูแมวของเสี่ยวเมียวตั้งขึ้นทันที
นางสามารถเข้าใจภาษาแมวได้ก่อนถามทันทีว่า “เหมียว ๆ เหมียว ๆ ๆ ”
มีเสียงตอบรับจากอุปกรณ์สื่อสาร “เหมียว ๆ เหมียว ๆ ๆ ๆ เหมียว ๆ ๆ ”
เสี่ยวเมียวประหลาดใจ จากนั้นพลันกล่าวว่า “เหมียว เหมียว ๆ ๆ ๆ ”
แอนนาอดที่จะถามไม่ได้ว่า “เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นเสียงแมวได้ล่ะ”
เสี่ยวเมียวก้มศีรษะ ร่างกายหดลงก่อนค่อย ๆ ลดเสียงอุปกรณ์สื่อสาร
เมื่อเห็นดังนี้แอนนาอดที่จะก้มมองไม่ได้ก่อนปรี่เข้ามาถามว่า “ฉิงซานอยู่ที่ไหน เขาปลอดภัยหรือเปล่า”
เสี่ยวเมียวพลันเงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะออกมา “เหมียว ๆ ๆ ๆ ๆ ! เหมียว ๆ ๆ ๆ ๆ !”
เสียงจนใจดังมาจากอุปกรณ์สื่อสาร “เหมียว…”
จากนั้นอุปกรณ์สื่อสารตัดไป
จางหยิงห่าวเคยเลี้ยงแมว เป็นธรรมดาที่พอจะเดาได้ เขาลังเลก่อนถามว่า “กู่ฉิงซานรับแมวมาเลี้ยงหรือ”
เสี่ยวเมียวหัวเราะสักพัก ท้ายที่สุดก็หาทางควบคุมอารมณ์ได้ก่อนตอบว่า “เหมียว ๆ …ไม่สิ ไม่ใช่ว่าเขารับแมวมาเลี้ยงหรอก แต่เป็นเขาที่เชี่ยวชาญพลังเหนือธรรมชาติน่ะ ตอนนี้เขากลายเป็นแมวอยู่และไม่สามารถคืนร่างได้ชั่วคราว”
“เขาพบสมบัติที่สามารถป้องกันไม่ให้วิญญาณกรีดร้องดูดกลืนวิญญาณได้แล้ว…ตอนนี้ภัยคุกคามใหญ่หลวงที่สุดของพวกเราได้หายไปแล้ว”
แอนนาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ทุกคนพยักหน้าอย่างเงียบงัน
นี่มันยอดไปเลย!
วิชาที่สามารถจัดการกับวิญญาณกรีดร้องได้ สงครามพลิกจากไร้หนทางชนะกลายเป็นมีแสงแห่งความหวัง
กลายเป็นแมว…
ไม่สงสัยเลยว่าเด็กคนนี้ถึงปฏิเสธที่จะใช้วิดีโอและเลือกที่จะคุยกับเสี่ยวเมียว
เขาไม่อยากให้ทุกคนเห็นเขาในร่างแมว เป็นเพราะอายงั้นหรือ
“กลายเป็นแมว…”
สีแปลกประหลาดทอประกายในดวงตาของลอร่า นางอดที่จะเอามือทาบอกไม่ได้
แอนนาจ้องไปที่ดาวดวงเล็กก่อนพึมพำว่า “ผู้ชายคนนี้จะน่ารักเกินไปแล้ว”
แบร์รี่ไอเล็กน้อยแล้วถามว่า “ถ้างั้น ตอนนี้เขาอยู่ไหนล่ะ”
“เขาบอกว่าจะมาถึงในหนึ่งชั่วโมง ดังนั้นไม่ต้องกังวลไป” เสี่ยวเมียวตอบ
“รายงาน…”
นักรบหนามสองคนเดินเข้ามาในโถงอย่างรวดเร็วก่อนรายงานว่า “ศัตรูหยุดโจมตีก่อนเริ่มล่าถอยแล้วขอรับ”
ใบหน้าของเหล่าต้าและแบร์รี่เปลี่ยนไป
“ไม่ ค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตาขนาดใหญ่มากของพวกมันกำลังจะทำงานแล้ว” เหล่าต้ากล่าว
แบร์รี่กล่าวเช่นกันว่า “ดูท่าสามเทพกำลังจะมาที่นี่ พวกเราต้อง…”
ทันใดนั้นเสียงสั่นสะเทือนของความว่างเปล่าด้านนอกดังขึ้น
“สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่กล้าลี้ภัยแล้วไปยืนอยู่ข้างบัญญัติ จงออกมารับความตายเสีย!”
นี่คือเสียงของเทพแห่งชีวิต!
มันคือเทพแห่งความโกลาหลที่สอง กำลังเคลื่อนลงมาจากความว่างเปล่าด้านนอกสู่อาณาจักรหนาม
เสี่ยวเมียวยื่นมือออกไปโบกในความว่างเปล่า ฉากในความว่างเปล่าไกลออกไปพลันปรากฏตรงหน้าทุกคน
ค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตาขนาดใหญ่มากทำงานแล้ว
ร่างของเทพแห่งชีวิตปรากฏขึ้นช้า ๆ
ลอร่าสั่นสะท้าน “ไม่ พวกเรามีคนน้อยเกินไป ต่อให้สามเทพไม่ลงมือ คนของความโกลาหลก็สามารถทำลายอาณาจักรหนามทั้งหมดได้อยู่ดี!”
เสี่ยวเมียวกล่าวว่า “อย่ากังวลไปเลย พวกเราจะไปกันเดี๋ยวนี้แหละ!”
นางหยิบลูกเต๋าออกมา
ทุกคนเข้าใจความหมายของนางช้า ๆ
นางคือผู้ใช้เวทมิติที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกเก้าร้อยล้านชั้น
เมื่อนางตัดสินใจที่จะหนี เป็นการยากที่ใครจะไล่ตามนางได้
“พี่เสียวเมียว พวกเราจะไปไหนหรือ”
เย่เฟยหลีถาม
เสี่ยวเมียวตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “อย่าขัดขืนพลังของลูกเต๋านี้ กู่ฉิงซานพบสมบัติที่ต่อต้านวิญญาณกรีดร้องแล้ว ข้าจะพาทุกคนไปรวมกับเขาเดี๋ยวนี้แหละ!”
หลังจากพูดจบ นางโยนลูกเต๋าลงพื้น
อาณาจักรหนามทั้งหมดหดลงอย่างรวดเร็วก่อนหายไปในความว่างเปล่าแทบจะในทันที
ลูกแก้วส่องแสงสีเขียวมรกตปรากฏขึ้นในมือของเสี่ยวเมียว
นางชำเลืองมองค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตาขนาดใหญ่ที่อยู่ไกลออกไป ร่างของนางจมเข้าไปในความว่างเปล่าก่อนพลันหายไป
…
ในเวลาเดียวกัน
บนยานอวกาศ
แมวสีส้มตัวใหญ่นั่งอยู่กับที่ขณะครุ่นคิดถึงกลยุทธ์ของสงครามอย่างเงียบงัน
ในสายตาของมัน แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กอยู่นิ่งในความว่างเปล่า
“ท่านกำลังดูดกลืนพลังวิญญาณที่ลอยอยู่ในวังวนความว่างเปล่าด้วยความเร็วเฉลี่ยหนึ่งแต้มต่อหนึ่งวินาที”
“ท่านกำลังจะดูดกลืนพลังของมังกรคู่เสร็จสิ้น เวลาที่เหลือสิบห้านาที”
“หมายเหตุ โปรดรักษาร่าง ‘ขุนเขาส้ม’ ต่อไป หากกลับไปเป็นผู้ใหญ่ ท่านจะขัดกระบวนการดังกล่าวจนต้องทำซ้ำใหม่อีกครั้ง”
แมวส้มอ่านข้อความแจ้งเตือนทั้งหมด
สิบห้านาทีหรือ
ดีมาก ยังไม่สายเกินไป
…ต่อหน้าทุกคน เขาจะกลับเป็นร่างมนุษย์
แมวส้มตัวใหญ่ค่อย ๆ สงบสติลงก่อนแกว่งหางไปมาเป็นครั้งคราว
มันเหมือนจะนึกบางอย่างออกก่อนหดหางกลับทันที
มีสิ่งที่แปลกประหลาดมากเกินขึ้นเมื่อครู่
เหมือนกับ…มีบางสิ่งที่พิเศษในความว่างเปล่าอยากจะคว้าหางของเขา
ชิ
หลังจากกลายเป็นแมว สิ่งแปลกประหลาดคล้ายกับเพิ่มขึ้น
ยังต้องระวังตัวอยู่ดีสินะ…
..............................