webnovel

1081 การต่อสู้อันยิ่งใหญ่!

ตอนที่ 1081 การต่อสู้อันยิ่งใหญ่

จัตุรัสขนาดเล็ก

ทางเข้าของทางเดินลับ

ทุกคนกองอยู่บนพื้นขณะอ้าปากหอบหายใจ

“กะ… การร่ายรำของเจ้า… ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ” ปีศาจฉ่าเฉียงกล่าวชื่นชมขณะหอบ

หลังจากเข้ามาที่นี่ ทุกคนถูกพรากพลังไป ตอนนี้จึงกลายเป็นคนธรรมดา

เมื่อหลุดจากการร่ายรำอันเข้มข้นนี้ ร่างกายของพวกเขาเหนื่อยล้ายิ่ง

ราชาแห่งจักรวรรดิเทียนหลาน หลานซิ่ว นั่งลงบนพื้นอย่างไม่เต็มใจ ปาดเหงื่อบนหน้าผากแล้วถามว่า “นี่คือวิชาที่เจ้าเก็บเอาไว้หรือ”

“ใช่”

กู่ฉิงซานไม่มีหน้าจะมาอธิบาย แต่เป็นเรื่องยากที่จะเมินคำถามอีกฝ่าย เขาจึงทำได้แค่ตอบอย่างขอไปทีเท่านั้น

จ้าวแห่งช่องแคบเปลวเพลิงชำเลืองมองกู่ฉิงซานแล้วกล่าวด้วยสีหน้าซับซ้อนว่า “ในชั่วชีวิตข้า เคยฆ่ามานับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยเจอกับการร่ายรำที่ต้องบิดก้นแบบนี้มาก่อน”

กู่ฉิงซานประสานมือแล้วกล่าวว่า “ข้าช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ ทันทีที่วิชาทำงาน ข้าไม่สามารถควบคุมได้ ประสิทธิภาพของมันก็อย่างที่เห็น”

ทุกคนมอบรอบข้าง

พวกเขาเห็นว่าทั่วจัตุรัสมีกระดูกจำนวนมากกองเต็มไปหมด

เมื่อครู่ สัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากทางเดินลับเพื่อพยายามฆ่าทุกคน

พวกมันแต่ละตัวแข็งแกร่งกว่าสัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้

วิชา อาวุธคมปลาบ กรงเล็บ ฟันและความสามารถพิเศษนับไม่ถ้วนที่ไม่เคยเห็นมาก่อนน่าจะถูกซัดออกมาจากทุกคน

แต่ทุกคนกลับ…

ร่ายรำ

เสียงผู้หญิงแหบพร่าดังขึ้นในความว่างเปล่า

นางกล่าวเพียงประโยคเดียวเท่านั้น

“ไม่ให้ความเคารพระบำสังเวยชีพเช่นนี้… ก็จงตายซะ”

ต่อมา สัตว์ประหลาดเหล่านั้นตายกันหมด

เนื้อและวิญญาณทั้งหมดหายไปไม่เหลือซาก เหลือเพียงโครงกระดูกคุกเข่าอยู่ที่เดิมเพื่อทำท่าสารภาพและภาวนา

ที่จริง เมื่อมองย้อนกลับไป กระบวนการทั้งหมดนี้ช่างไร้สาระแต่ก็น่าสยดสยอง

โชคยังดี พลังนี้อยู่ฝั่งเดียวกับพวกเขา

จ้าวแห่งช่องแคบเปลวเพลิง กู่เหยียน คิดอยู่หลายครั้งก่อนปล่อยวางอย่างช้าๆ ไม่เก็บมากังวลอีกต่อไป

ทุกคนพักสักครู่ด้วยความโล่งอกช้าๆ

หลานซิ่วทักทายเขาจากด้านหลัง

หนึ่งในผู้ติดตามหยิบไพ่ออกมา จากนั้นโยนไปยังใจกลางของพื้นที่ว่าง

ปัง!

ไพ่กลายเป็นโต๊ะยาวที่เต็มไปด้วยแถวอาหารเครื่องดื่มแพรวพราว

หลานซิ่วก้าวมาข้างหน้าก่อนหยิบขวดน้ำวิเศษขึ้นมาแล้วเปิดขวดออก เขากล่าวขณะดื่มว่า

“ร่ายรำกันมาอย่างบ้าคลั่งทั้งที คอคงกระหายน้ำไม่น้อย โปรดทำตัวตามสบาย”

ดวงตาของกู่เหยียนทอประกาย

เขาเตรียมการไว้มากมาย แม้กระทั่งคนของเขาก็มีวิชาทำลายล้าง แต่กลับลืมเรื่องการกินไปเสียได้

“ขอบคุณ” กู่ฉิงซานดึงซูเสวี่ยเอ้อร์มาข้างหน้าก่อนเลือกอาหาร

กู่เหยียนพยักหน้าให้ทุกคนที่อยู่ด้านหลัง

ทุกคนเริ่มกินดื่ม

พวกเขาต้องเติมเต็มพละกำลังกายภาพ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีพละกำลังกายภาพไปสำรวจทางเดินลับจริงๆ

“ร่างกายอ่อนแรงเหลือเกิน ข้าไม่รู้สึกแบบนี้มาหลายปีแล้ว”

กู่เหยียนถอนหายใจขณะกินเค้กก้อนหนึ่งเข้าไป

ตอนนี้ ฉ่าเฉียงเดินมาหากู่ฉิงซานด้วยสีหน้าสับสนแล้วกล่าวว่า “การร่ายรำเมื่อครู่คล้ายกับมีบางอย่างผิดปกตินะ”

“ผิดปกติตรงไหนหรือ” กู่ฉิงซานถาม

ซูเสวี่ยเอ้อร์ปอกผลไม้สดก่อนป้อนเขา

ฉ่าเฉียงกล่าวว่า “ฟังนะ ตอนข้ากระโดดในช่วงที่สอง เห็นได้ชัดว่าข้าหมุนตามจังหวะ แต่ทำไมถึงรู้สึกไม่พร้อมเพรียงล่ะ”

หลังจากพูดจบ เกิดคลื่นสั่นสะท้านตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนทำท่ากระโดดที่มีเสน่ห์เล็กน้อย

กู่ฉิงซานอึ้ง

ทุกคนอึ้ง

ถ้าปีศาจเช่นเจ้าสามารถเต้นพร้อมเพรียงได้ขึ้นมา โลกนี้ก็สมควรถูกทำลาย

แต่จะพูดแบบนี้ตรงๆ ไม่ได้

กู่ฉิงซานถอนหายใจแล้วตอบว่า “ข้ายอมรับว่าเจ้าเป็นคนจริงจัง แต่การกระทำแบบนี้มันออกจะ…”

ยี้… ฮ่า…

ตึงๆ ~ โอ้เฮ้~

ตึงๆ ~ โอ้เฮ้~

เสียงดนตรีพลันดังขึ้น การร่ายรำกำลังจะปะทุอีกครั้ง!

ในตอนนั้นเอง กู่ฉิงซานปิดปากแน่น

หลานซิ่วและกู่เหยียนวิ่งไปข้างหน้าก่อนลากฉ่าเฉียงออกไป

“อ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เพื่อการร่ายรำอันยิ่งใหญ่นี้ มาดื่มกันก่อนดีกว่า” หลานซิ่วกล่าว

“ใช่ ทุกคนจะเป็นนักเต้นในอนาคต มาเถอะดื่มสักขวดก่อน! รับไว้สิ!” กู่เหยียนกล่าว

ทั้งสองกดฉ่าเฉียงให้นั่งลงข้างโต๊ะยาวก่อนเริ่มดื่ม

ตอนแรกฉ่าเฉียงงง แต่เขาเองก็สนใจดื่มสุราเช่นกันก่อนยกแก้วขึ้นชนกับสองผู้นำ

ดนตรีค่อยๆ เบาลง

“ฟู่…”

ทุกคนถอนหายใจพร้อมกัน

เกือบไปแล้ว

พวกเขาล้วนเป็นยอดฝีมือ ประสบกับการต่อสู้มากมาย ผ่านการคัดเลือกนับไม่ถ้วนก่อนได้ออกมาสำรวจซากปรักหักพังที่นี่

พวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อร่ายรำสักหน่อย!

กู่ฉิงซานปาดเหงื่อเย็นจกาหน้าผากเช่นกัน

เขาไม่อยากร่ายรำด้วยท่วงท่าอันน่าอับอายตรงหน้าซูเสวี่ยเอ้อร์

แต่เมื่อพูดถึงซูเสวี่ยเอ้อร์…

สิ่งที่นางทำเมื่อครู่นับว่างดงามจริงๆ การร่ายรำแบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สาวงามอย่างนางออกท่วงท่า

“ฉิงซาน ข้ามีคำถามนิดหน่อย” ซูเสวี่ยเอ้อร์กระซิบ

“อื้ม ว่ามาเลย” กู่ฉิงซานกล่าว

ซูเสวี่ยเอ้อร์กระซิบว่า “ตอนนั้น… ทำไมเจ้าถึงจูบล่ะ…”

“ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้านั่นแหละ” กู่ฉิงซานตอบอย่างเคร่งขรึม

ซูเสวี่ยเอ้อร์ประหลาดใจ

เพราะข้าหรือ

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ตอนเจ้าอยู่ที่อะบรูโซ เจ้ามอบตราสามอย่างให้ข้า หนึ่งในนั้นคือ ‘พรสวรรค์การจูบของแม่มาร’ ”

“ข้ามีความสามารถที่ใช้พลังวิญญาณในการเรียนรู้วิชาได้ในทันที หลังจากนั้นข้าเชี่ยวชาญวิชาจูบนี้ ดังนั้นจึงสามารถทำให้มันแตกร้าวได้”

“ไม่อย่างนั้น เจ้าคิดหรือว่าข้าจะสามารถทะลวงเข้าสู่โลกสะสมของทริสเต้ได้อีกครั้ง”

เสียงของเขาค่อยๆ แผ่วเบาขึ้นจนกลายเป็นเสียงพึมพำ “น่าเสียดายที่เจ้าหนีไป ไม่อย่างนั้นพวกเรายังสามารถต่อสู้ร่วมกันได้”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ตกตะลึงสักพัก

“แสดงว่าก่อนหน้านั้นเจ้าไม่เคยจูบใครมาก่อนงั้นหรือ” นางถาม

กู่ฉิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนสาบานว่า “ไม่เคยเลย’

มุมปากของซูเสวี่ยเอ้อร์ยกขึ้นช้าๆ

“ให้ตายสิ” นางสัมผัสแก้มของกู่ฉิงซาน จากนั้นสัมผัสใบหูช่วงล่างก่อนเลื่อนมาหลังคอ “ข้ารู้ว่าเจ้าทรงพลัง ดังนั้นข้าจะสู้ไปกับเจ้า แต่น่าเสียดายที่เจ้ามาโทษข้า”

“หยุดพูดถึงเรื่องนี้ได้แล้ว กินอะไรกันหน่อยดีกว่า ข้าเหนื่อยจากการกระโดดเมื่อครู่จริงๆ”

“อื้ม”

หลังจากทุกคนพักผ่อนแล้ว พวกเขาจะออกเดินทางอีกครั้ง

ตอนนี้ไม่มีเสียงในทางเดินลับ

ในฉากเมื่อครู่ เกรงว่าแม้แต่สัตว์ประหลาดก็ต้องผงะ ก่อนจะทันได้รับรู้ความจริง พวกมันก็ไม่กล้าทำการบุกเข้ามาอีก

ก่อนออกเดินทาง หลานซิ่วเรียกอีกสามคนให้มาคุย

เขาไอเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว เมื่อครู่พวกเราเจอการต่อสู้อันดุเดือดจนหาทางผ่านมาได้”

คนอื่นผงะก่อนนึกถึงช้าๆ

กู่เหยียนกล่าวว่า “ข้าบุกเข้าใส่ค่ายกลของศัตรูด้วยหมัดเพลิง จากนั้นซัดหมัดห้าร้อยครั้งใส่ ฆ่าสัตว์ประหลาดไปได้ยี่สิบสามตัว”

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ข้าเพียง… ใช้ดาบสองร้อยเล่มฟันสัตว์ประหลาดจนกลายเป็นกระดูกสิบเจ็ดตัว”

หลานซิ่วกล่าวว่า “ข้าใช้ไพ่วิญญาณวีรชนเพื่ออัญเชิญกลุ่มต่อสู้มาฆ่าสัตว์ประหลาดที่แปลกประหลาดที่สุดได้ห้าตัว”

ด้านหลังเขาคือนักประวัติศาสตร์คนหนึ่งที่กำลังจดบันทึกด้วยปากกาอย่างรวดเร็ว

ในฐานะหนึ่งในอาณาจักรที่แข็งแกร่งที่สุดของพื้นที่แปลกประหลาด นี่คือประวัติศาสตร์การต่อสู้ของราชวงศ์เทียนหลานที่จะตกทอดไปสู่รุ่นอนาคต

หลังจากทุกคนกลับไป เรื่องราวจะถูกบันทึกไว้เช่นนี้

ส่วนการร่ายรำ…

อะไรนะ

ร่ายรำอะไร

การร่ายรำสามารถสังหารศัตรูได้งั้นหรือ

การร่ายรำไม่ถูกกล่าวถึง ผู้คนในรุ่นหลังจะจดจำเพียงประวัติศาสตร์การต่อสู้อันยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิเทียนหลานและจ้าวแห่งช่องแคบเปลวเพลิง นักฆ่ามังกรจากยุคโบราณและมหาปีศาจแดนชำระ

มหาปีศาจแดนชำระ…

ใช่แล้ว มี่มหาปีศาจแดนชำระในการต่อสู้เมื่อครู่ด้วย มันคือหนึ่งในสี่กองกำลัง อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนมากมายจนได้ชัยชนะ

ทั้งสามมองมหาปีศาจแดนชำระ

“เจ้าเองก็พูดหน่อยสิ… คิดให้ดี เพราะว่านี่จะส่งต่อสู่รุ่นอนาคต” หลานซิ่วใบ้

“ใช่ พวกเราต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ถึงสี่ทิศ ผ่านความยากลำบากและอันตรายมามากมาย สุดท้ายก็จัดการสัตว์ประหลาดได้” กู่เหยียนใบ้

“นี่คือการต่อสู้อันยิ่งใหญ่” กู่ฉิงซานพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

มหาปีศาจแดนชำระ ฉ่าเฉียง เห็นพวกเขาพูดเช่นนี้จึงรู้ว่าต้องคิดอย่างจริงจัง

มันครุ่นคิดอย่างจริงจังสักพัก หลังจากใช้เวลาสักพักใหญ่ มันจึงกล่าวด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อยว่า “ที่จริง ข้าคิดมาตั้งนานแล้ว แต่มี่สิ่งหนึ่งที่ข้าคิดยังไงก็คิดไม่ออก”

“คิดอะไรหรือ” กู่ฉิงซานถาม

“ตอนที่กระโดดเมื่อครู่ พวกเจ้าสามคนยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อรับผิดชอบการบิดก้น”

“ทำไมพวกเจ้าไม่ให้ข้าอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดล่ะ”

“เห็นได้ชัดว่าทุกคนเป็นพันธมิตรกันแล้ว สัญญาก็ลงนามแล้ว ทำไมเจ้าถึงไม่ให้ข้าอยู่ตรงนั้นด้วยล่ะ!”

………………………………….