webnovel

1048 เชือกแห่งเมฆาสัญจร

ตอนที่ 1048 เชือกแห่งเมฆาสัญจร

ยอดเขา

ไม่มีสิ่งปลูกสร้างที่นี่ มีแต่ความรกร้างยิ่ง

“จะทำลายเขตอาคมพิทักษ์ของเมืองเรเควี่ยมได้ยังไง” กู่ฉิงซานถาม

“แหวนของราชาและแหวนของผู้พิทักษ์สามวงถูกทำลายจนสิ้นหรือไม่ก็เทพมายกเขตอาคมออกไปด้วยตัวเอง” เชี่ยนหยาตอบ

กู่ฉิงซานพยักหน้าก่อนหยุดพูด

เขายืนอยู่บนหินสูงขณะมองปฐพี

การสั่นสะเทือนและการสลายตัวของปฐพีคงอยู่ได้ไม่นาน

ในส่วนลึกของปฐพี หนวดสีดำนับไม่ถ้วนกำลังถักทอตาข่ายเพื่อปกคลุมโลกทั้งใบเอาไว้ขณะขจัดผลกระทบจากการทำลายล้างจนสิ้น

หญิงชราคนนั้นแข็งแกร่งจริงๆ

แม้กระทั่งการพังทลายของโลก นางก็สามารถคลี่คลายได้ในเวลาอันรวดเร็ว

กู่ฉิงซานจมสู่ห้วงความคิด

หลังจากได้รับความทรงจำของเทพจอมปลอมมา เขายิ่งรู้สึกมากขึ้นว่าพลังของเทพแห่งชีวิตสุดหยั่งนัก

หญิงชราไม่เพียงครอบครองความรู้และพลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพเท่านั้น แต่ยังครอบครองพลังชีวิตและพลังต่อสู้มหาศาลของสัตว์ประหลาดแห่งความว่างเปล่าอีกด้วย อีกทั้งยังมีการสำรวจกฎเกณฑ์พลังของไพ่อย่างต่อเนื่อง

นางแบ่งพลังบางส่วนของกองทัพมนุษย์ไปให้สี่เทพจอมปลอม

มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะทำแบบนี้ เพราะเทพวารีไม่ได้อยู่บนไพ่

ดังนั้นในการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย หญิงชราจึงพบอย่างช้า ๆ ถึงพลังของบัญญัติ

อย่าว่าแต่ทำเรื่องอื่นเลย การที่สามารถทำแค่เรื่องนี้ได้ก็นับว่าน่าทึ่งแล้ว

กู่ฉิงซานอดที่จะถอนหายใจไม่ได้

ด้วยตัวตนระดับนั้น ใครล่ะจะสามารถจัดการนางได้

ในยุคนี้ เทพตายเกือบหมดแล้ว

เหลือเพียงเทพองค์เดียวเท่านั้น

เทพแห่งความโกลาหล วิญญาณกรีดร้อง

แบบนี้มันจะไม่เป็นไรหรือ

ด้านหลังกู่ฉิงซาน ทุกคนดูสิ้นหวัง

เย่เฟยหลีไอเบาๆ แล้วกล่าวว่า “ดูท่าจะเหลือทางเดียวที่จะฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้”

“ทางไหนล่ะ” ลอร่าถาม

เย่เฟยหลีเดินมาหาเชี่ยนหยา ดวงตาจับจ้องลูกในอ้อมแขนนาง

“ฆ่าเด็กคนนี้ ปล่อยให้เทพแห่งชีวิตถูกทำลายเพราะคำสาบานของเทพ”

เชี่ยนหยามองเขาขณะก้าวถอยหลัง

เย่เฟยหลีหยุดขณะกล่าวอย่างจนใจว่า “คือว่านะ นี่เป็นกลยุทธ์เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น… เจ้าเคยตายมาแล้วครั้งหนึ่งไม่ใช่หรือ หลังจากฆ่าสัตว์ประหลาดนั่นก็ให้กู่ฉิงซานชุบชีวิตลูกของเจ้าขึ้นมา แบบนี้ก็ไม่เป็นไรใช่หรือเปล่า”

เชี่ยนหยาตกตะลึง

จริงด้วย

ตราบที่เทพแห่งชีวิตสามารถถูกสังหารได้ อันตรายทั้งหมดก็จะได้รับการคลี่คลาย

ยิ่งกว่านั้น นางเคยประสบกับปาฏิหาริย์แห่งความตายและการฟื้นคืนชีพมาแล้ว

หากกู่ฉิงซานอยู่ที่นี่ ความเป็นความตายก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

ถ้าความเจ็บปวดระยะสั้นของลูกนางสามารถใช้แลกกับชีวิตใหม่ในอาณาจักรของเทพได้จริง เสียสละแค่นี้จะเป็นไรไป

ยิ่งกว่านั้น หลังจบเรื่องราวแล้ว เทพทั้งหมดจะต้องขอบคุณนาง

ในฐานะราชา บัลลังก์ของเขาจะมั่นคงยิ่ง

เชี่ยนหยาเกิดลังเล

ทันใดนั้น มีเสียงหนึ่งดังมาจากไกลๆ

“ไม่ได้”

กู่ฉิงซานมองดินแดนที่ค่อยๆ ฟื้นคืนขณะตอบโดยไม่หันกลับมา

“ทำไมล่ะ” เย่เฟยหลีถาม

“…ข้าไม่ได้วางแผนจะใช้ความสามารถชุบชีวิตในระยะยาว” กู่ฉิงซานตอบ

เมื่อเห็นสีหน้างุนงงของทุกคน เขาอธิบายว่า “นี่คือข้อจำกัดของคำสาบานแห่งสวรรค์ หากละเมิดขึ้นมา เจ้าจะถูกไล่ล่าและจัดการโดยกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีจนถึงแก่ความตาย”

ลอร่าถามทันทีว่า “ใครเป็นคนตั้งข้อจำกัดคำสาบานนี้ขึ้นมา”

กู่ฉิงซานตอบว่า “ข้านี่แหละ”

เย่เฟยหลีอดที่จะถามไม่ได้ว่า “ทำไมล่ะ”

“เพราะความสามารถนี้เป็นภาระกับดาบข้ามากเกินไป นางต้องพักสักหน่อย”

ตอนนี้ทุกคนไม่มีอะไรจะพูด

กู่ฉิงซานคือผู้ใช้วิชาดาบ ทุกคนได้เห็นวิญญาณดาบเหล่านั้นแล้วจึงรู้ว่าต้องมีเหตุผลบางอย่างที่กู่ฉิงซานทำแบบนี้

วิญญาณดาบอาจจะไม่สามารถแบกรับได้หรือเปล่า

ทุกคนคาดเดา

แต่กู่ฉิงซานไม่บอกเหตุผล ดังนั้นเป็นการยากที่ทุกคนจะถาม

อย่างไรเสีย ความสามารถและความลับของอาวุธ มีเพียงเจ้าของที่รู้ดีที่สุด

ในเมื่อเขาไม่พูด แสดงว่าก็ต้องมีเหตุผลบางอย่าง

ตอนนี้ กู่ฉิงซานกล่าวต่อว่า “และข้าสงสัยว่าต่อให้ฆ่าลูกของเชี่ยนหยาไปก็จะไม่ช่วยทำลายเทพแห่งชีวิตได้อยู่ดี”

“เทพแห่งชีวิตจะไม่นิ่งเฉยดูภัยมาคุกคามชีวิตตัวเองแน่ๆ ข้าเดาว่าตอนนางเปลี่ยนเป็นไพ่ นางก็ได้หลบหนีจากข้อจำกัดของคำสาบานนี้ไปแล้ว”

“เหล่าต้าถามว่า “เจ้าหมายความว่านางไม่ถูกพันธนาการโดยสัญญาเทพอย่างนั้นหรือ”

“อาจจะถูกจำกัดอยู่บ้าง แต่ความเป็นความตายไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป” กู่ฉิงซานตอบ

“เจ้ารู้ได้อย่างไร”

“เทพองค์นี้กลัวตายจนไม่เคยออกจากเมืองเรเควี่ยมมาหลายปี นางจะยอมให้ตัวเองตายได้ทุกเมื่อเพียงเพราะความตายของคนอื่นได้ยังไง”

“มีเหตุผล” เหล่าต้าพยักหน้า

ทุกคนตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

เพราะแม้แต่วิธีนี้ก็ไม่ได้ผล ถ้างั้นควรทำอย่างไรต่อดี

กู่ฉิงซานถอดแหวนสี่วงจากนิ้วแล้วส่งให้เชี่ยนหยา

“สัตว์ประหลาดยุ่งอยู่กับการซ่อมแซมโลก ย่อมไม่สนใจเทพดั้งเดิมสักพัก”

“เจ้าใช้พลังของแหวนเพื่อใช้งานเทพทั้งหมด”

เชี่ยนหยาอดที่จะถามไม่ได้ว่า “เจ้าอยากให้ส่งพวกเขาไปงั้นหรือ”

กู่ฉิงซานพยักหน้า จากนั้นมองลอร่า “สัตว์ประหลาดไม่สามารถสัมผัสพวกเราได้ แต่ความปลอดภัยของเชี่ยนหยายังต้องมีหลักประกัน”

“เจ้าเอาโลกกระจกแล้วลอบแจกจ่ายพวกเขาตามเมืองต่างๆ พร้อมกับเชี่ยนหยาเพื่อที่เทพทุกองค์จะได้เตรียมเข้าสู่โลกกระจกก่อนจะนำออกมาได้ทัน”

“ไม่มีปัญหา” ลอร่ากล่าว

“เฟยหลี หยิงห่าว พวกเจ้าก็ไปด้วย” กู่ฉิงซานกล่าว

“เข้าใจแล้ว” ทั้งสองตอบ

“เหล่าต้า ให้วิชาอัญเชิญย้อนกลับกับพวกเขาด้วยเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายพริบตากลับมาได้ทุกเมื่อ”

“ได้”

ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว

กู่ฉิงซานกลับมาเร่งเชี่ยนหยาอีกครั้งว่า “เวลากำลังจะหมดแล้ว อย่าพยายามโน้มน้าวคนอื่น… จงแสดงสายเลือดสุดท้ายของตระกูลราชวงศ์และพลังของแหวน ทำแบบนี้จะมีประสิทธิภาพมากที่สุด”

“เข้าใจแล้ว แต่เมื่อไหร่ทุกคนถึงจะเข้าโลกกระจกล่ะ”

“ไม่ใช่ตอนนี้ รอข่าวจากข้า” กู่ฉิงซานตอบ

“…ได้”

เชี่ยนหยา ลอร่า จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีไปรวบรวมเทพ

บนภูเขาโดดเดี่ยว กู่ฉิงซานและเหล่าต้ายืนอยู่บนนั้น

“เจ้ามีอะไรจะถามข้าหรือ” เหล่าต้าถาม

“ใช่ เจ้าคือราชาหุบเหว มีความรู้มากกว่าพวกข้า ข้าอยากรู้ว่าเจ้ามีทางจัดการกับสัตว์ประหลาดนั่นหรือเปล่า” กู่ฉิงซานกล่าว

เหล่าต้าส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “สิ่งที่เทพไม่สามารถทำได้ตอนอยู่ที่นี่ ข้าก็ย่อมไม่สามารถทำได้เช่นกัน”

“เหล่าต้า เจ้าคิดว่าถ้าวิญญาณกรีดร้องกับเทพแห่งชีวิตสู้กัน ใครจะชนะ” กู่ฉิงซานถาม

เหล่าต้าตอบอย่างเด็ดขาดว่า “ข้ารู้เรื่องเทพแห่งชีวิตไม่มาก ทำให้ไม่รู้ว่าใครจะชนะ แต่การต่อสู้นี้จะกินเวลานาน… เหมือนกับการต่อสู้ระหว่างวิญญาณกรีดร้องกับซากศพราชามารในพื้นที่จ้าวโลกของโลกเก้าร้อยล้านชั้นนั่นแหละ”

กู่ฉิงซานพยักหน้าเงียบๆ

ซากศพที่ถูกอัญเชิญโดยวิญญาณกรีดร้องและบัญญัติราชามารเคยสู้กันมานานจนไม่อาจรู้ผลลัพธ์ได้

แพ้ชนะเป็นสิ่งสำคัญ มันจะเป็นการตัดสินว่าวิญญาณกรีดร้องไร้เทียมทานในโลกเก้าร้อยล้านชั้นนับจากนี้หรือเปล่า

เหล่าต้าถอนหายใจ สีหน้าเคร่งขรึมและหนักอึ้ง

“หากวัดพละกำลังส่วนตัว วิญญาณกรีดร้องคงด้อยกว่าเทพแห่งชีวิต”

“แต่มันคือเทพแห่งความโกลาหลที่แท้จริง ได้รับพรจากพลังในยุคโกลาหล ดังนั้นมันน่าจะสามารถต้านไว้ได้นาน”

เหล่าต้ากล่าวต่อว่า “ข้ารู้สึกว่าเทพแห่งชีวิตยังแข็งแกร่งกว่าวิญญาณกรีดร้องอยู่ดี”

กู่ฉิงซานเห็นด้วย “ความรู้สึกของเจ้าสำคัญมาก ยังไงเสีย เจ้าเคยเป็นคนแข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นเจ้าน่าจะคิดไม่ผิดหรอก”

แบบนี้ก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะเทพแห่งชีวิตได้อีกแล้ว

ช่างทรงพลังเหลือเกิน

มันจะมีจุดอ่อนหรือเปล่า

กู่ฉิงซานยืนอยู่บนยอดเขา ไม่ขยับอยู่นานราวกับรูปปั้น

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

พวกเชี่ยนหยาล้วนกลับมา

โลกกระจกทั้งหมดถูกลอบแจกจ่ายให้กับเทพ

แหวนสี่วงกลับมาอยู่ในมือของกู่ฉิงซาน

ขอเพียงแค่ถ่ายทอดคำสั่ง เทพจะเข้าโลกกระจกเพื่อลี้ภัย

ดวงตาของกู่ฉิงซานกวาดผ่านทุกคน

“พูดตามตรง ข้าไม่ชอบการเดิมพัน”

เขาอดที่จะยิ้มบิดเบี้ยวไม่ได้

“แต่ครั้งนี้ทุกสิ่งเกินกว่าที่ข้าคาดการณ์เอาไว้มาก เมื่อเผชิญหน้ากับเทพสององค์ ข้าจึงไม่มีความมั่นใจจนต้องอนุมานหนึ่งอย่างขึ้นมา”

“อนุมานอะไรล่ะ” ลอร่าถาม

กู่ฉิงซานตอบว่า “เทพแห่งชีวิตกลายเป็นสัตว์ประหลาด กลายเป็นไพ่ ใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ไม่เคยออกไปไหน… ข้าเดาว่านางหวาดกลัวบางสิ่ง”

“มันคือการผสมผสานพิเศษระหว่างเทพและสัตว์ประหลาด วิญญาณกรีดร้องก็เป็นเทพเหมือนกัน”

“พวกเราต้องหาทางให้พวกมันสู้กัน ความจริง พวกเราต้องชักนำให้มันเป็นแบบนี้”

“แน่นอน ข้าไม่เคยเห็นสงครามระหว่างเทพกับเทพมาก่อน ข้าไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรต่อจากนี้”

“ดังนั้นพวกเราจึงเหลือทางสุดท้าย”

“…คือเดิมพัน”

เขาวางแหวนสี่วงบนฝ่ามือ

ทุกคนจ้องแหวน

กู่ฉิงซานชักดาบออกมา

ทุกคนกลั้นหายใจ

กู่ฉิงซานกำลังจะทำลายแหวนสี่วงเพื่อทำให้เมืองเรเควี่ยมปรากฏขึ้นในวังวนความว่างเปล่าอีกครั้ง

วิญญาณกรีดร้องจะปะทะกับเทพแห่งชีวิตซึ่งๆ หน้า

ไม่มีใครรับปากได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองเทพ

“เอาล่ะ!”

ลอร่าเดินเข้ามา เอามือจับผมแล้วแก้มัด

ผมหางม้าขี้เล่นกางออกกลายเป็นผมยาวประบ่า ลอร่าดูสดใสงดงาม ไม่เหมือนเด็กผู้หญิงตัวน้อยอีกต่อไป

“ความจริง ข้ายังมีสมบัติแปลกประหลาดอยู่กับตัวน่ะ”

“นี่คือสมบัติแปลกประหลาดที่ตกทอดมาจากตระกูลวิหคหนาม เชือกแห่งเมฆาสัญจร”

ลอร่าผูกที่คาดผมสีม่วงในมือนางกับข้อมือของกู่ฉิงซานแล้วกระซิบว่า

“หน้าที่พิเศษของมันคือเสริมโชค”

“กู่ฉิงซาน ตอนนี้เจ้าไม่สามารถมองเห็นทุกสิ่งได้ เจ้าต้องพึ่งจิตเทพเพื่อตรวจสอบทุกสิ่ง แต่ข้ายังอยากบอกเจ้าให้เข้าใจเอาไว้ก่อน”

“จำเอาไว้ สิ่งเดียวที่เจ้าไม่สามารถทำได้ก็คือหันหลังกลับ”

“ทันทีที่เจ้าหันหลังกลับ โชคดีจะกลายเป็นโชคร้าย”

กู่ฉิงซานตั้งใจฟังแล้วพลันตกตะลึง

“โชคดี… โชคร้าย…”

จะว่าไป เขาลืมไปได้อย่างไร

เขาเป็นเทพปฐพีนี่

เขามีโชคที่แท้จริงอยู่!

………………………..