webnovel

1031 ข่าวจากกู่ฉิงซานหนุ่ม

ตอนที่ 1031 ข่าวจากกู่ฉิงซานหนุ่ม

วังวนความว่างเปล่า

หนวดขนาดใหญ่พลันปรากฏขึ้นจากส่วนลึกของความมืดขณะพยายามจับจุดแสงสว่างอันริบหรี่

หนวดเพิ่งเข้ามาขวางทางตรงหน้าจุดแสงสว่างและกำลังจะม้วนเข้าหามัน แต่กลับถูกจุดแสงสว่างโดยตรง

จุดแสงสว่างหายไปอย่างรวดเร็ว

หนวดขนาดใหญ่ถูกเผาและเหี่ยวเฉาก่อนค่อยๆ กลายเป็นเถ้าถ่าน

ในส่วนลึกของความมืด สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งส่งเสียงคำรามอย่างเจ็บปวดจนสั่นสะเทือนทั่วความว่างเปล่า แค่เสียงคำรามนี้ก็ทำให้พายุรุนแรงไม่มีสิ้นสุดก่อตัวขึ้นในความว่างเปล่า

ถึงแม้สัตว์ประหลาดจะรู้สึกเจ็บปวด แต่ก็ไม่ได้ไล่ตามแสงสว่างไป

มันพบว่าอีกฝ่ายเป็นพลังหุบเหว

ถ้าหากยังตามไปจนเข้าไปพัวพัน เช่นนั้นพลังนั่นจะฉีกกระชากจนสิ้น

สัตว์ประหลาดหันหลังอย่างไม่ลังเลก่อนหลบหนีด้วยความแตกตื่นไปทางทิศตรงกันข้าม

อีกด้าน

จุดแสงสว่างขนาดเล็กลากเป็นแนวยาวด้วยความเร็วที่เกินกว่าจะจินตนาการก่อนหายไปในพริบตาคล้ายกับไม่ได้รับผลอะไร

กู่ฉิงซานอยู่ในแสงสว่างนั่น

เขาลูบแหวนแมงมุมในมือขณะครุ่นคิด

ครั้งนี้ร่างหุบเหวของหลินยังเป็นแมงมุมอีกหรือ

ดวงตาของกู่ฉิงซานจับจ้องความมืดตรงหน้า

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม มีแถวหิ่งห้อยขนาดเล็กเพียงสองแถวเท่านั้น

“นี่คือร่างหุบเหวนิรันดร์ระดับสูง ท่านต้องได้รับสิทธิ์ที่ข้องเกี่ยวเพื่อทราบรายละเอียดของร่างหุบเหว”

“เจ้าของร่างหุบเหว: หลิน นักรบมนุษย์”

กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว

แหวนวงนี้จะทำให้หลินเป็นสัตว์ประหลาดหุบเหวได้หรือเปล่า

เช่นเดียวกับเหล่าต้า เขาคล้ายกับเป็นคนปกติจนถึงขั้นมีกลิ่นอายของลูกหลานเทพ แต่เขาก็เป็นราชาหุบเหว

ถ้าอย่างนั้นหุบเหวนิรันดร์คืออะไรกันแน่

จิตของกู่ฉิงซานขยับ ปล่อยวางคำถามนี้ไปสักพักก่อนครุ่นคิดถึงเรื่องเร่งด่วนมากยิ่งขึ้น

ภัยพิบัติวันสิ้นโลกกำลังจะทำลายแหล่งมรดกแห่งความตาย

เทพแห่งความว่างเปล่าตามติดและกำลังจะไปถึงที่นั่น

เขาต้องส่งแหวนให้หลินก่อนที่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น จะล่าช้าไปกว่านี้ไม่ได้

ไม่อย่างนั้น ไม่ว่าจะแอนนา หลินหรือตัวเขาเองก็ต้องพบแต่ทางตัน

ตอนนี้ เขาทำได้เพียงคาดหวังว่าพลังที่หลินได้มาจากแหวนแข็งแกร่งพอที่จะสู้ในสถานการณ์สิ้นหวังได้

ความรู้สึกนี้มันอึดอัดจริงๆ

กู่ฉิงซานยิ้มเล็กน้อยขณะกำแหวนไว้มั่น

เขายังคงเหาะไปข้างหน้า

ทันใดนั้น ความรู้สึกแปลกประหลาดผุดขึ้นมาในใจ จากนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว

มันเหมือนกับถูกมองด้วยอะไรบางอย่าง

น่าแปลก…

แม้กระทั่งการสำรวจของสัตว์ประหลาดก็ไม่ทำให้เขามีความรู้สึกแปลกประหลาดในใจ แล้วอะไรกันที่จับตาดูเขาอยู่

กู่ฉิงซานครุ่นคิดอย่างสงสัย

ตอนนี้ ความรู้สึกนั้นพลันปรากฏขึ้นใหม่

การชักนำที่มองไม่เห็นที่ทั้งแปลกประหลาดและคุ้นเคยผุดขึ้นในใจ

จิตเทพ

ใช่แล้ว นี่คือความรู้สึกของการถูกมองด้วยจิตเทพ

กู่ฉิงซานระแวดระวังขึ้นมา

ในสถานที่เช่นนั้น มีผู้ฝึกยุทธ์อยู่งั้นหรือ

อีกฝ่ายเป็นศัตรูหรือว่ามิตรกันล่ะ

กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพเพื่อตรวจสอบรอบข้างอย่างรวดเร็ว

ในทะเลแห่งความตระหนักรู้ น้ำเสียงอันคุ้นเคยพลันดังขึ้น

“ข้าทำได้เพียงติดต่อกับเจ้าในพื้นที่นี้เท่านั้น”

“โปรดตอบรับคำเรียกขานเดี๋ยวนี้”

“ย้ำอีกครั้ง โปรดตอบรับคำเรียกขานเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นทุกสิ่งจะสายเกินไป!”

หัวใจของกู่ฉิงซานหดเกร็ง

เสียงนี้มัน

ก่อนที่จะทันได้คิดอะไร เขาก็สัมผัสการเรียกขานนั่นได้

นี่คือการเรียกขานที่อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง เหนือกว่ากฎเกณฑ์พื้นจากโลกทุกใบ

นี่คือความก้าวหน้าสำหรับผู้ฝึกยุทธ์!

“ภัยพิบัติลมนี่…ไม่สิ ในเมื่อเป็นเสียงนี้ น่าจะเป็นภัยพิบัติน้ำมากกว่า”

“อีกอย่าง ข้าเป็นคนที่อยู่ในกรอบมาตลอด แต่ในเมื่อตอนนี้ยังเรียกหาข้าอยู่ แสดงว่าต้องมีบางสิ่งที่ไม่ธรรมดาแน่ๆ”

กู่ฉิงซานครุ่นคิดก่อนตอบคำเรียกขาน

เพียงพริบตา เวลาคล้ายกับหยุดนิ่งชั่วนิรันดร์

กู่ฉิงซานหายไปจากกลุ่มแสงสว่างอย่างเงียบงัน

แสงริบหรี่

กู่ฉิงซานสัมผัสได้ว่าเขากำลังเดินผ่านแสงริบหรี่นับไม่ถ้วน

เวลาค่อยๆ ชัดเจนขึ้น

แสงสว่างสาดส่องเจิดจ้าทั่วทั้งสี่ทิศ

กู่ฉิงซานพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่บนน้ำไม่มีสิ้นสุด

ผิวน้ำราบเรียบราวกระจก สะท้อนเงาของกู่ฉิงซาน ท้องนภาเป็นความว่างเปล่าสีเงิน

โลกทั้งใบเงียบสงัด ไม่มีสิ่งมีชีวิต ไม่มีการเคลื่อนไหว

มีเพียงคนคนเดียวที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกู่ฉิงซาน

ตัวเขาเอง

ใช่แล้ว นี่คือภัยพิบัติน้ำ

ในภัยพิบัติน้ำ เขาต้องท้าทายตัวเองในโลกคู่ขนานแต่ละใบและเอาชนะให้ได้เพื่ออยู่รอดจากภัยพิบัตินี้

จิตเทพของกู่ฉิงซานกวาดผ่านอีกฝ่ายก่อนกล่าวว่า “ดูท่าเจ้าจะเตรียมพัฒนาไปสู่พลังระดับวงแหวนนภาสินะ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะถูกขังในโลกที่ข้าเคยอยู่เพียงเพื่อจะมาตามหาข้า”

กู่ฉิงซานคนนั้นยิ้มแล้วอธิบายว่า “ความจริง ข้าได้รับมอบหมายจากคนอื่นเพื่อให้มาจัดการเรื่องนี้”

“ได้รับมอบหมายจากคนอื่นหรือ” กู่ฉิงซานไม่เข้าใจ

“ใช่ คนที่ขอให้ข้าทำแบบนี้ก็คือตัวพวกเรานั่นแหละ แต่เป็นตัวพวกเราที่หนุ่มกว่า” กู่ฉิงซานคนนั้นตอบ

กู่ฉิงซานขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ช่วยพูดให้มันชัดๆ หน่อย เพราะข้าถูกส่งมาจากโลกตัวเองทั้งที่กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ยากลำบากยากยิ่ง ดังนั้นต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมเขาและเจ้าถึงต้องอัญเชิญข้ามาที่นี่”

กู่ฉิงซานคนนั้นกล่าวว่า “ตอนเจ้าก้าวข้ามภัยพิบัติ ข้าได้เข้าร่วมในภัยพิบัติน้ำของเจ้าจนได้ความลับของวิชายุทธ์ชั้นสูงยิ่งจากเจ้ามา ดังนั้นข้าจึงสามารถเตรียมการพัฒนาสู่พลังระดับวงแหวนนภาได้ไวขึ้น”

กู่ฉิงซานนิ่งไป

“เจ้าคือข้าคนไหนล่ะ” เขาถาม

“ข้ามีหมื่นสวรรค์สิ้นโลกออนไลน์ โหมดผู้เล่นคนเดียว” กู่ฉิงซานคนนั้นตอบ

กู่ฉิงซานประหลาดใจ

ใช่แล้ว เขาเคยเผชิญหน้ากับตัวเองในร่างนั้นตอนภัยพิบัติน้ำ

“คนที่ขอให้ข้าทำแบบนี้ถึงกับเคยพบเจ้ามาก่อน เป็นเจ้ากับข้าตอนวัยหนุ่ม ตอนอยู่ในภัยพิบัติน้ำของเจ้า เขาได้แผ่นหยกขนาดใหญ่มาจากเจ้าด้วย”

“แต่ยังไงเสียเขาก็ยังหนุ่มเกินไป ยังไปไม่ถึงพลังระดับวงแหวนนภา ทำให้อัญเชิญเจ้าไม่ได้”

“ดังนั้นเขาจึงขอให้ข้าเป็นคนเรียกเจ้า”

กู่ฉิงซานนึกถึงอย่างละเอียด ไม่ช้าก็จำเหตุการณ์นี้ได้

ในภัยพิบัติน้ำ เขาเคยพบกับตัวเองในวัยหนุ่มมาก่อน

กู่ฉิงซานวัยหนุ่มคนนั้นไม่มีวิชาดาบแม้สักวิชา

นี่มันช่างคล้ายกับตัวเองในช่วงชีวิตที่แล้วมากนัก

ในตอนนั้น เขาเขียนวิชาทั้งหมดลงบนแผ่นหยกขนาดใหญ่

กู่ฉิงซานคร่ำครวญเล็กน้อยก่อนสงสัยว่า “หรือว่าตอนนี้เขาสามารถเดินทางผ่านโลกคู่ขนานได้”

กู่ฉิงซานคนนั้นกล่าวว่า “ไม่ เขาทำไม่ได้หรอก แต่ข้าไม่รู้ว่าเป็นเพราะแผ่นหยกขนาดใหญ่ของเจ้าหรือเปล่าหรือเป็นเพราะการเดินทางที่เขาประสบพบเจอมา พูดสั้นๆ ก็คือเขาปลุกพลังวิเศษที่พิเศษมากขึ้นมาได้”

“พลังวิเศษอะไรล่ะ”

“คุยกับตัวเอง”

“นี่ก็เรียกว่าพลังวิเศษเช่นกัน… เดี๋ยวนะ เจ้าหมายความว่า…”

“ใช่ เขายอมจ่ายบางส่วนจนสามารถใช้จิตเทพเพื่อตามหาตัวเองในโลกคู่ขนานได้ก่อนติดต่อกับตัวเองในโลกคู่ขนาน แต่ระยะเวลาการติดต่อไม่นานนัก”

“แสดงว่าพวกเจ้าติดต่อกันมาตลอดเลยหรือ”

“ใช่ เขาถูกจำกัดอยู่ในโลกที่อยู่ ทำให้บอกอะไรเจ้าไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงบอกกับข้าเยอะเลยล่ะ”

กู่ฉิงซานไม่เข้าใจ

“บอกข้าไม่ได้แต่บอกเจ้าได้งั้นหรือ” เขาถาม

กู่ฉิงซานคนนั้นพยักหน้าแล้วถามว่า “เดาสิว่าทำไม”

ความคิดของกู่ฉิงซานขยับก่อนกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “โลกที่พวกเขาอยู่ปิดกั้นข่าวสารทั้งหมด ผู้คนไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลในโลกแม้แต่นิดเดียว หรือก็คือโลกของพวกเขาคือโลกที่ตกอยู่ในมือของหุบเหวนิรันดร์ของพวกเรา!”

“ถูกต้องที่สุด สมกับเป็นตัวข้าจริงๆ” กู่ฉิงซานคนนั้นชื่นชม

เขากล่าวต่อว่า “เขาใช้วิชาที่เหลือเชื่อเพื่อช่วยข้าจับตำแหน่งเจ้า จากนั้นก็ให้นำข้อมูลนี้มาให้กับเจ้า”

กู่ฉิงซานพยักหน้าช้าๆ

ที่บอกเขาไม่ได้เพราะถูกจำกัดไว้นี่เอง

แต่กลายเป็นว่ามันไม่ส่งผลกับโลกคู่ขนานใบอื่น

ดังนั้น กู่ฉิงซานวัยหนุ่มจึงขอให้กู่ฉิงซานคนนี้ที่มีโหมดผู้เล่นคนเดียวถ่ายทอดข้อมูลให้

เหลือเชื่อจริงๆ

คาดไม่ถึงเลยว่าโลกคู่ขนานที่ตกอยู่ในหุบเหวนิรันดร์จะกลายเป็นโลกคู่ขนานที่ตัวเขาวัยหนุ่มอยู่

“นี่คืออะไรหรือ” กู่ฉิงซานถาม

กู่ฉิงซานคนนั้นแบมืออ้าแขนแล้วกล่าวว่า “เจ้าจะไปถึงจุดสูงสุดของมรดกแห่งความตายภายในห้าอึดใจ”

“เมื่อไปถึง เจ้าจะเผชิญหน้ากับการโจมตีจากอาวุธเวรกรรมระดับสูงทันที นี่คือการโจมตีที่ติดตั้งเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ”

“เจ้าต้องหาทางให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกฆ่าทันที”

จิตของกู่ฉิงซานตกตะลึง ความคิดนับไม่ถ้วนวูบไหวในหัวใจ

หากข้อมูลถูกต้อง ทันทีที่ไปถึงแหล่งมรดกแห่งความตาย เขาจะเผชิญหน้ากับการโจมตีของอาวุธเวรกรรมระดับสูง

กฎเวรกรรมคือพลังลึกลับที่แก่กล้า การจัดการกับตัวเองไม่ต่างจากการทิ้งระเบิดมด มันสามารถสังหารได้โดยไม่ตั้งใจ

ไม่สงสัยเลยว่ากู่ฉิงซานวัยหนุ่มถึงรีบแจ้งข้อมูลให้เขาทราบ

แต่กฎเวรกรรมมีขีดจำกัดเหมือนกัน

ไม่ว่าจะเป็นกฎเวรกรรมแบบไหน มันจะต้องสอดคล้องกับแก่นแท้ของสิ่งนั้นๆ ก่อนจึงสามารถกำหนดได้

ในการโจมตีด้วยกฎเวรกรรม ถ้าสองกฎที่อยู่ระดับเดียวกันปะทะใส่ กฎแห่งเวรกรรมจะถูกทำลาย

ยกตัวอย่างเช่น ชีวิตทางฝั่งเวรกรรม: หิ่งห้อยดารา เขาสามารถระบุชีวิตที่จะตายด้วยตัวเองได้

แต่ถ้าตัวตนที่ระบุคือภูตผี เช่นนั้นกฎเวรกรรมนี้ก็ใช้ไม่ได้

เพราะภูตผีไม่มีชีวิต มันคือวิญญาณในสภาพที่ตายแล้ว

สิ่งนี้ขัดกับกฎเวรกรรมของหิ่งห้อยดารา ดังนั้นหิ่งห้อยดาราจึงไม่สามารถสังหารภูตผีได้

ถ้างั้น เขาจะรับมือกับการโจมตีนี้อย่างไร

ขณะคิดถึงคำถามนี้ กู่ฉิงซานถามว่า “คนที่โจมตีข้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร”

“ไม่ สิ่งเดียวที่รู้คือเจ้าเป็นผู้ช่วยเหลือที่ถูกหุบเหวส่งมา พวกเขาไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเจ้า”

กู่ฉิงซานคนนั้นตอบว่า “เจ้ากับข้าในวัยหนุ่มได้รับคำสั่งให้เข้าร่วมการใช้อาวุธเวรกรรมที่ยอดเขามรดกแห่งความตาย แต่จำเอาไว้ เขาไม่สามารถบอกอะไรเจ้าได้ เจ้าต้องไม่เปิดเผยตัวเอง”

กู่ฉิงซานพยักหน้า “ขอบคุณที่ส่งข้อความให้ ตอนนี้ข้ารู้แล้ว”

กู่ฉิงซานคนนั้นยิ้มแล้วถามว่า “มีทางหรือเปล่า”

“มี”

“ดี มาทดสอบกับข้า”

“รับดาบข้า”

กู่ฉิงซานก้าวไปข้างหน้าพร้อมดาบเพื่อสู้กับอีกฝ่ายที่มีดาบอย่างช้าๆ

“ดีมาก ข้าคิดว่าเจ้าผ่านการทดสอบของข้าแล้วนะ” เขากล่าว

กฎเกณฑ์โลกเคลื่อนไหว

เขายอมรับเป็นการส่วนตัวว่าอีกฝ่ายผ่านการทดสอบแล้ว นั่นหมายความว่าหน้าที่ของเขาเสร็จสิ้น เขาจะต้องกลับไป

กู่ฉิงซานคนนั้นพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นก็พยายามเอาตัวรอดให้ได้ล่ะ”

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “อืม เจ้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน การกระจายตัวของวันสิ้นโลกไม่สามารถหยุดได้ สักวันหนึ่ง พวกเราจะต้องได้สู้ร่วมกัน”

ทั้งสองมองหน้ากันก่อนพยักหน้าให้กัน

กู่ฉิงซานหายไปจากภัยพิบัติน้ำ

เพียงพริบตา เขากลับสู่วังวนความว่างเปล่า

ดูเหมือนเวลาจะไม่ได้ผ่านไปเท่าไหร่ เขายังอยู่ในกลุ่มแสงสว่างขณะพุ่งตรงไปยังแหล่งมรดกแห่งความตาย

เหลืออีกห้าอึดใจ!

สิ่งที่รอเขาอยู่ตรงหน้าคืออาวุธเวรกรรมจำนวนมาก!

กู่ฉิงซานไม่ลังเลอีกต่อไป เขาชักดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพก่อนสื่อสารกับฉานนู่ด้วยจิตเทพอย่างรวดเร็ว

ยังเหลืออีกสามอึดใจ!

ประตูที่ส่องแสงระยิบระยับปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าตรงหน้า

ฉานนู่ระดมพลังความลึกลับของทุกชีวิตเพื่อกลายเป็นรูปลักษณ์กู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานหดตัวก่อนกลายเป็นหนอนตัวเล็กขณะเกาะอยู่บนไหล่ของฉานนู่

อึดใจสุดท้าย!

ฉานนู่ถือดาบเสียงคลื่นก่อนพุ่งเข้าไปในประตูแสง!

ยอดเขาแหล่งมรดกแห่งความตาย

ที่ตีนเขา ม่านแสงวูบไหว

กู่ฉิงซานปรากฏตัวในโลกใบนี้

ในเวลาเดียวกัน เสียงหนึ่งตะโกนอย่างแผ่วเบาว่า “ยิงได้!”

…………………………………..