webnovel

0980 ผู้ช่วยเหลือร่วมกัน เหล่าต้า! (ตอนสอง)

ตอนที่ 980 ผู้ช่วยเหลือร่วมกัน เหล่าต้า! (ตอนสอง)

รูปปั้นสีดำม้วนทะยานกลางอากาศ

รูปปั้นนี้คล้ายกับสัญญาทดแทนที่แขวนอยู่บนคอของกู่ฉิงซานเล็กน้อย แต่ความแตกต่างคือเทพแห่งความตายบนรูปปั้นนี้ยืนอย่างเคร่งขรึม ด้ามเคียวยาวอยู่ในมือข้างหนึ่ง นิ้วชี้ไปข้างหน้า

มันดูเหมือนกับการประกาศก่อนทำการต่อสู้

อีกาสีดำรับรูปปั้นก่อนกล่าวเสียงหลงว่า “เจ้าเป็นใครกัน! เจ้ามีหลักฐานลับของเทพแห่งความตายได้ยังไง!”

เหล่าต้าตอบว่า “ไม่สำคัญหรอกว่าข้าเป็นใคร รีบไปเสีย ถ้าช้าเกินไป ทุกสิ่งมันจะสายเกินแก้!”

“หลังจากรอมานานหลายปี ตอนนี้หลักฐานนี่ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง…ยอดเยี่ยมไปเลย!” อีกาสีดำหลั่งน้ำตาออกมา

เหล่าต้ากล่าวว่า “เส้นทางของมรดกเทพแห่งความตายทั้งยากและอันตรายนัก เจ้าต้องให้การคุ้มครองผู้สืบทอดเทพแห่งความตาย”

เขาชี้ไปที่หลินแล้วกล่าวว่า “พานางไป นางแข็งแกร่งพอจะรับมือกับหายนะจำนวนมากได้”

หลินมองเหล่าต้าและกำลังจะพูดแย้งออกไป

เสียงหนึ่งพลันดังในใจของนาง “อย่าพูดเรื่องเงื่อนไข ไปช่วยเสีย หุบเหวจะรับรู้สิ่งที่เจ้าทำในครั้งนี้”

เส้นขนของหลินตั้งขึ้นหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้

นางหลุบตาต่ำ ไม่กล้ามองอีกฝ่ายอีก

“สรุปเป็นท่านจริงๆ ราชาหุบเหว อัครสาวกผู้ถูกเนรเทศ ผู้ร่วงหล่นที่ตามจับตัวได้ยาก คนแรกที่ได้อยู่บนมงกุฎแห่งดวงดาว ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังไร้ขีดจำกัด”

หลินกระซิบอยู่ในใจ

“สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นอดีตไปแล้ว เจ้าไม่ต้องพูดไปหรอก ไปช่วยผู้สืบทอดเทพแห่งความตายเพื่อปลุกอาณาจักรเทพขึ้นมา ตอนนี้พวกเราต้องการพละกำลังเพื่อขัดขืนหายนะ” เสียงของเหล่าต้าดังขึ้นในใจนางอีกครั้ง

หลังจากนิ่งไป เสียงของเหล่าต้ากล่าวต่อว่า “ถ้าเจ้าทำได้ดี หุบเหวจะคุ้มกันเจ้าอีกครั้ง ทำให้เจ้าไปได้ไกลกว่านี้อีก”

“รับทราบ” หลินตอบรับ

อีกาสีดำเก็บรูปปั้นสีดำ บินเข้าไปในห้อง คว้าแอนนาและหลินด้วยกรงเล็บทั้งสองข้าง จากนั้นบินออกจากหน้าต่างมุ่งสู่ท้องนภา

จากท้องนภาไกลลิบ เสียงแอนนาดังขึ้น “เดี๋ยว”

เสียงค่อยๆ จางหายจนกระทั่งไม่ได้ยิน

หลังจากเหล่าต้าจัดการตรงนี้เสร็จแล้วและกำลังจะสั่งบางอย่างต่อ มังกรมารพลันพูดขึ้นว่า

“นายท่าน พละกำลังของข้าไม่เหลือแล้ว ข้าต้องหลับใหล”

เหล่าต้าตกตะลึงก่อนกล่าวด้วยความเสียดายเล็กน้อยว่า “โอ๊ะ ข้าใช้พลังที่เหลือไปหมดแล้วด้วย ตอนนี้เจ้าก็ไม่สามารถใช้พลังได้อีก ถ้างั้นเจ้าก็มีปัญหาแล้ว”

มังกรมารไม่ตอบ

มันหลับตาลงช้าๆ

มันตายแล้ว

ในฐานะสัตว์ประหลาดหุบเหว อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

เหล่าต้าถอนหายใจก่อนเอามือออกจากศีรษะมังกรสีดำ

“ทำแบบนี้ เรื่องเหรียญก็เป็นอันยุติ ผู้ศรัทธาเทพแห่งความตายจะเปิดทางมุ่งสู่อาณาจักรเทพ ขั้นต่อไปพวกเราควรหาวิธีรักษาบัญญัติสุดท้ายเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกผู้ส่งสารความโกลาหลมากำจัด”

เขากล่าวกับตัวเอง

ทั้งห้องเงียบสนิท

เมื่อครู่มีหลายสิ่งเกิดขึ้นมากเกินไป มีข้อมูลไหลหลั่งมากเกินไป ผู้คนยังตอบสนองไม่ทัน

จนกระทั่งตอนนี้

ทุกคนกำลังมองเหล่าต้า

ลอร่ากลอกตาก่อนกระซิบว่า “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงกลายเป็นผู้ช่วยเหลือร่วมกันของกู่ฉิงซาน”

“ใช่ เขาช่วยกู่ฉิงซานจะสถานการณ์ที่อันตรายที่สุดให้จริงๆ” ลิเลียกล่าวไปในทิศทางเดียวกัน

แต่ว่า

คำถามสำคัญที่สุดก็คือ

ต่อให้เหล่าต้าใช้พลังของมังกรมาร แต่เขาก็รู้มากเกินไป

กู่ฉิงซานถามว่า “เหล่าต้า เจ้าเป็นใครกันแน่”

“อา ความจริงแล้ว ข้ากำลังต่อสู้กับวิญญาณกรีดร้องตอนที่เจ้าช่วยชีวิตไว้น่ะ” เหล่าต้ายกหนังสือในมือขึ้น

หนังสือลอยขึ้นในอากาศก่อนพลิกหน้าเอง

กู่ฉิงซานและคนอื่นเห็นฉากของวิญญาณกรีดร้องกำลังต่อสู้กับเหล่าต้า

เหล่าต้ากล่าวต่อว่า “สำหรับข้า ข้าต้องป้องกันการแพร่กระจายของความโกลาหล ผลที่ได้ ข้าถูกมันกำจัดเพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินไปจนไม่สามารถปลดปล่อยพละกำลังออกมาได้ เจ้าช่วยข้าในตอนนั้นเอาไว้ทัน”

กู่ฉิงซานถามว่า “แสดงว่าเมื่อครู่เจ้าตระเตรียมมาตรการรับมือวิญญาณกรีดร้องให้งั้นหรือ”

“ถูกต้อง ข้าคิดว่าพวกเจ้าไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ข้าก็เลยถือวิสาสะลงมือทำในสิ่งที่ควรทำก่อน”

เหล่าต้ามองทุกคนด้วยความสับสนก่อนกล่าวอย่างสงบว่า “มีอะไรหรือ ข้ากำลังเตรียมการต่อสู้ให้ทุกวินาที มีอะไรไม่ถูกต้องในเรื่องนี้หรือ”

ทุกคนตกตะลึงจนอดที่จะส่ายหน้าพร้อมกันไม่ได้

เพราะเหล่าต้ากังวล เขาจึงตระเตรียมเพื่อต่อสู้กับวิญญาณกรีดร้อง

แต่เขาได้ทำอีกสิ่งหนึ่งพร้อมกัน

กู่ฉิงซานตบบ่าเขาแล้วกล่าวชื่นชม “เจ้าทำได้ดีแล้ว”

ลอร่ากล่าวเช่นกันว่า “ใช่ เจ้าช่วยคนคนหนึ่งเอาไว้”

เหล่าต้ายืดเอวแล้วหาวออกมา “อืม ใช่แล้วล่ะ ข้าทำไปเยอะเลยทีเดียว”

ร่างกายของเขาโอนเอน ดวงตาหลับลง แต่ปากยังพูดว่า

“ก้าวต่อไปขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”

“อย่าปลุกข้า…”

“จนกว่า…”

“ทุกสิ่งจะจบลง”

เขาล้มลง

กู่ฉิงซานรีบรับตัวเขาก่อนพาไปนอนบนโซฟาอย่างระวัง

หลายคนมารวมตัว

“ตายแล้วหรือ” เย่เฟยหลีถาม

“เปล่า เขาคล้ายกับเข้าสู่การหลับลึกน่ะ” จางหยิงห่าวตอบ

“ตามที่เขากล่าวมา บาดแผลของเขาสาหัสมาก เขาอาจจะร่วมมือกับมังกรมารเพื่อปลดปล่อยพละกำลังจนกระทั่งดึงพละกำลังกายภาพของเขาออกมาได้” ลอร่าคาดเดา

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ให้เขาพักเถอะ ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเราจะลงมือแล้ว”

เขามองหน้าต่างระบบสีแดงตรงหน้าและเห็นว่ามันแสดงข้อความแจ้งเตือนให้หลบหนีอย่างรวดเร็ว

“ลอร่า เจ้าปกป้องอาณาจักรตัวเอง หยิงห่าว เฟยหลี พวกเราออกไปกันเถอะ” กู่ฉิงซานกล่าว

“ได้” กู่ฉิงซานกล่าว

“ข้าพร้อมออกทุกเมื่อ” เย่เฟยหลีกล่าวเช่นกัน

“ไม่! ทำไมเจ้าต้องไปด้วย” ลอร่าถามด้วยความไม่เต็มใจ

กู่ฉิงซานนั่งยองตรงหน้านางก่อนกล่าวอย่างอบอุ่นว่า “วิญญาณกรีดร้องอยากทำลายบัญญัติ ตราบที่พวกข้าไป มันจะไล่ตามพวกข้า ไม่มายุ่งกับประเทศของเจ้า”

“ไม่ กู่ฉิงซาน ข้าอยากสู้กับเจ้า” ลอร่ากำหมัดขณะกล่าวเช่นนั้น

กู่ฉิงซานถอนหายใจ แววตาเผยความกังวล “เด็กโง่ วิญญาณกรีดร้องคือสัตว์ประหลาดกินวิญญาณ ไม่มีใครในโลกเก้าร้อยล้านชั้นที่สามารถจัดการมันได้ พวกเราทำได้เพียงหาวิธีมากำจัดมันเท่านั้น จะให้เจ้ามาโดนทำร้ายได้ยังไง”

“นี่ไม่ใช่ภาระอะไรเลย ข้าเต็มใจจะเข้าร่วมกับเจ้าเพื่อต่อสู้!” ลอร่ากล่าว

“ไม่ เจ้ายังเด็กเกินไป ต้องการเวลาเพื่อเติบโต จนกว่าจะเติบใหญ่ ข้าจะปล่อยให้เจ้าเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดอย่างวิญญาณกรีดร้องไม่ได้” กู่ฉิงซานกล่าว

ลอร่าก้าวถอยหลัง ปากเม้มแน่น

นางมองดวงตาแน่วแน่ของกู่ฉิงซาน รู้ว่าไม่สามารถโน้มน้าวอีกฝ่ายได้

“เอาซี่ ขึ้นยานไปเลย!”

“คนบ้า ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าแล้ว!”

ลอร่าหันศีรษะก่อนวิ่งออกจากห้องไป

กู่ฉิงซานนั่งยองอยู่กับพื้นไม่ขยับไปไหนสักพัก

“ท่านราชินีโกรธแล้ว” จางหยิงห่าวยักไหล่

กู่ฉิงซานก้มศีรษะต่ำแล้วกล่าวว่า “ปล่อยให้โกรธไปเถอะ ไม่มีใครสามารถขัดขืนวิชาดูดวิญญาณของวิญญาณกรีดร้องได้หรอก”

“แล้วคนคนนี้ล่ะ” เย่เฟยหลีถาม

เขาชี้ไปที่เหล่าต้าที่กำลังหลับอยู่

“พาไปด้วย” กู่ฉิงซานตอบ

เหล่าต้าผู้โอ้อวดคนนี้รู้ความลับมากมาย

เขาเตรียมการทุกอย่างเพื่อรับมือกับวิญญาณกรีดร้อง

เขากล่าวเช่นกันว่าเต็มใจจะเข้าร่วมกลุ่มด้วย

เมื่อเขาตื่นขึ้นมา อาจจะมีพลังการต่อสู้ที่ดีก็ได้

ทั้งสามคนนิ่งไปสักพัก

ยานอวกาศของอาณาจักรหนามพร้อมแล้ว

กู่ฉิงซานและคนอื่นถูฏเชิญขึ้นยานอวกาศ

“นี่ ความแตกต่างมันมากเกินไปแล้ว ทำไมถึงไม่มีใครมาส่งพวกเราเลยล่ะ” เย่เฟยหลีถาม

“พอใจในสิ่งที่มีเถอะ ดีแค่ไหนที่ยอมส่งยานอวกาศให้พวกเรา” จางหยิงห่าวกล่าว

เขาโน้มตัวไปเอาเหล่าต้าขึ้นบนชั้นดาดฟ้า

ชั้นดาดฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยเกราะหนังสีขาว ไม่รู้ว่าเป็นของสิ่งมีชีวิตตัวไหน แต่จางหยิงห่าวลองแทงด้วยกริชเข้าไป มันเหลือไว้เพียงรอยสีขาวเท่านั้น

เย่เฟยหลีเปลี่ยนแสงสีชาดในมือให้กลายเป็นกรงเล็บก่อนคว้าราวบันไดเอาไว้

ราวบันไดทำจากโลหะพิเศษที่แข็งมาก ทำให้ไม่เหลือรอย

ขณะยืนอยู่บนยานอวกาศ ความอบอุ่นที่มองไม่เห็นปกคลุมร่างกายราวกับกำลังเตรียมฟื้นฟูพละกำลังให้กับคนที่โดยสาร

ยานลำนี้คล้ายกับทันสมัยมาก

“มันใหญ่และซับซ้อนกว่าลำที่อาณาจักรหนามเอามารับข้าเสียอีก”

สายตาของเย่เฟยหลีกวาดมองยานอวกาศขณะเล่าประสบการณ์ให้ฟัง

จางหยิงห่าวพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้าเคยอยู่ในพื้นที่จ้าวโลกมานาน แต่ยังไม่เคยเห็นยานอวกาศที่โคตรหรูหราแบบนี้มาก่อน”

“นี่คือราชินีหนาม คือยานพาหนะของลอร่า” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างมีอารมณ์

เขาเคยเห็นยานอวกาศลำนี้

อาณาจักรหนามคือประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเก้าร้อยล้านชั้น

ส่วนยานอวกาศลำนี้คือยานอวกาศที่ดีที่สุดในอาณาจักรหนาม

ถึงแม้ลอร่าจะโกรธ แต่นางยังเลือกยานอวกาศที่ดีที่สุดมาให้

“พวกเจ้าดูแลเหล่าต้า ข้าจะลงไปขับยานอวกาศ” กู่ฉิงซานกล่าว

“ไม่มีปัญหา แต่พวกเราจะมุ่งหน้าไปที่ไหนต่อล่ะ” จางหยิงห่าวถาม

กู่ฉิงซานจมสู่ความคิด

ตอนนี้เขากำลังนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนค่อยๆ รับรู้ถึงข้อมูลลับบางอย่าง

ตอนบัญญัติราชามารหลอมรวมอีกครั้ง เสียงของผู้สร้างปฐพีปรากฏขึ้น เขาคาดหวังเช่นกันว่าสิ่งที่ตระเตรียมไว้ในแผนที่ดวงดาวจะช่วยกู่ฉิงซานได้

ผู้สร้างปฐพีสามารถรับรู้ความเป็นไปได้ของอนาคตได้

มันสามารถซ่อนบัญญัติราชามารได้ แน่นอนว่ามันสามารถซ่อนแผนสำรองอื่นไว้ได้เช่นกัน

ต้องมีบางสิ่งถูกทิ้งไว้ในแผนที่ดวงดาวแน่นอน!

แต่กู่ฉิงซานยังดูแผนที่ดวงดาวไม่เสร็จ เขาหยุดดูตอนอ่านมาถึงโลกลี้ลับ

“ข้าต้องไปดูแผนที่โลกแล้วเทียบกับหนึ่งในแผนที่ดวงดาวของข้าเพื่อกำหนดให้ได้ว่าจะต้องไปที่ไหน ยังไงก็ตาม ตอนนี้ภพวกเราต้องหนีเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกจับ” กู่ฉิงซานกล่าว

ขณะสนทนา ยานอวกาศเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย

อืม

พวกเขาสามคนเงยหน้าขึ้นพร้อมกันขณะชำเลืองมองอีกฝ่ายด้วยความสับสน

ยานอวกาศลำนี้เป็นแบบเคลื่อนที่เองหรือ

ทันใดนั้นเอง

เมื่อได้ยินเสียงยานอวกาศกลายเป็นภาพติดตาก่อนหายไปจากท้องนภา

“อา ทำไมยานลำนี้ถึงไวนักนะ!”

“ข้าไม่รู้ แต่ดูเหมือนจะทรงพลังมากทีเดียว”

“พวกเราจะไปไหนกัน!”

เสียงของทั้งสามหายไปจากท้องนภา

หลังจากนั้น

ยานอวกาศลำหนึ่งทะยานขึ้นในอากาศขณะไล่ตามยานอวกาศของพวกเขาไปติดๆ

กองยานรบราชวงศ์ของอาณาจักรหนามถูกส่งออกไป

ลิเลียยืนอยู่ท้ายยานอวกาศขณะถือเครื่องมือสื่อสารแล้วกล่าวว่า

“ราชินีหนาม หากท่านเร่งความเร็ว พวกเราน่าจะตามทัน”

หลังจากรอสักพัก

เสียงของลอร่ามาจากเครื่องมือสื่อสาร

“ราชินีหนามรับทราบ ตอนนี้ขอถ่ายทอดคำสั่ง ให้สมาชิกทุกคนในกองยานมุ่งไปข้างหน้าเต็มกำลัง!”

……….……….……….……….