webnovel

0978 หายนะมาเยือน

ตอนที่ 978 หายนะมาเยือน

แหวนแห่งความภักดีมีขนาดค่อนข้างเล็ก ดูเหมาะกับเด็กผู้หญิงมากกว่า

แต่เมื่อผู้ชายหยิบแหวนมาสวมที่นิ้ว แหวนค่อยๆ ขยายขนาดจนพอดีกับของเขา

ผู้ชายสวมแหวนแล้วกล่าวว่า “ข้า เหล่าต้า ขอสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายทุกคนในห้องนี้”

แหวนแห่งความภักดีเปล่งแสงระยิบระยับออกมา มันหมุนรอบผู้ชายหลายครั้งก่อนจมเข้าสู่ร่างกายของเขา

ลอร่ากล่าวว่า “ต่อให้เจ้าไม่พูดชื่อจริงออกมา แหวนแห่งความภักดีจะยังส่งผลที่แท้จริงอยู่ดี เพราะมันผูกพันกับวิญญาณของเจ้าโดยตรง”

หลังจากพูดจบ นางจ้องผู้ชายใกล้ๆ พยายามตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้า

“ข้าใช้ชื่อเล่นมามากมาย แต่พวกมันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ข้าตัดสินใจแล้ว นับจากนี้ ข้าจะเรียกตัวเองว่าเหล่าต้า” ผู้ชายยืนยัน

ทุกคนสิ้นหวังเล็กน้อย

นี่ต้องเรียกเขาว่าเหล่าต้าในอนาคตจริงหรือ

พอนึกภาพเวลาสนทนาทั่วไปแล้ว

“เหล่าต้า มากินกันเถอะ”

“เหล่าต้า สวัสดีตอนบ่าย”

“เหล่าต้า เจ้าจะไปไหนหรือ”

พวกเขาจะเข้ากันได้อย่างไรในเมื่อต้องสนทนากันแบบนี้

กู่ฉิงซานไม่สนเรื่องนี้ก่อนยื่นมือออกไปแล้วเผยรอยยิ้มออกมา “เหล่าต้า ยินดีต้อนรับสู่กลุ่มพวกข้า”

ผู้ชายมองมือที่ยื่นออกมาแล้วถามอย่างสงสัยว่า “เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ”

อีกด้าน จางหยิงห่าวถามว่า “เขาอยากจับมือกับเจ้า นี่ถือเป็นสัญญาณต้อนรับ แต่เจ้ากลับไม่รู้เรื่องแบบนี้ ไม่ค่อยได้ติดต่อกับคนอื่นหรือ”

“ใช่” ผู้ชายสารภาพก่อนพยักหน้าด้วยความใจกว้าง “ข้าอยู่ในสถานที่ที่ไกลจากฝูงชน จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนถูกกู่ฉิงซานช่วยเอาไว้จนมาเจอกับพวกเจ้า”

เมื่อทุกคนได้ฟังดังนั้น พวกเขาล้วนรู้สึกเห็นใจ

ไม่มีครอบครัว

ไกลห่างจากฝูงชน

ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ความจริง คนคนนี้ยังทรงพลังมาก แต่เขากลับเผชิญกับโชคชะตาเช่นนั้น

ช่างเถอะ เหล่าต้าก็เหล่าต้า

ยังไงมันก็แค่ฉายา

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทุกคนค่อยๆ ยอมรับชื่อดังกล่าว

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “เหล่าต้า เจ้าควรออกไปพักสักหน่อย หลังจากนั้น เฟยหลี เจ้าให้กระป๋องเครื่องดื่มวิญญาณกับเขา”

“ได้” เย่เฟยหลีกล่าว

กู่ฉิงซานมองมังกรมารแล้วกล่าวว่า “ทีนี้โปรดบอกข้าทีว่าเสี่ยวซีอยู่ที่ไหน”

“นางถูกข้าจองจำในส่วนลึกของวิหารแห่งชะตากรรม เหรียญก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน จ้าววิหารแห่งชะตากรรมรับหน้าที่ดูแลที่นั่น” มังกรมารกล่าว

“ดีมาก พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” กู่ฉิงซานกล่าวทันที

“ข้าไม่อยากไปน่ะ” มังกรมารกล่าว

“มันยังไงหรือ” กู่ฉิงซานถาม

“จ้าววิหารชื่นชมข้าเสมอมา ข้าคือเทพของนาง เจ้าอยากให้ข้าไปพบนางในสภาพนี้งั้นหรือ” มังกรมารกึ่งท้วงกึ่งบ่น

ขณะพูด มันแอบมองนายท่าน

นายท่านไม่เหลียวแล เพียงแค่มองกู่ฉิงซานอย่างไม่ใส่ใจ

กู่ฉิงซานมองมังกรมารผู้สวมหมวกสีเขียว ทรงผมเดทร็อคและมีเครื่องประดับอยู่บนศีรษะ ใบหน้าของเขาถูกระบายด้วยลวดลายต่างๆ

อืม ภาพนี้ดูไม่เหมาะกับผู้หญิงจริงๆ

มีปัญหาเพียงแค่การชี้แจงล่วงหน้าเท่านั้น

“เจ้าเคยอาศัยตัวตนของเทพเพื่อรับบทบาทรอบโลกเก้าร้อยล้านชั้นหรือเปล่า” กู่ฉิงซานถามอย่างเคร่งขรึม

“ไม่ ไม่ใช่แน่นอน ข้าไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย จ้าววิหารและข้าค่อยๆ ติดต่อกันผ่านการสนทนาเรื่องมิติ เวลากับชะตากรรม” มังกรมารสาบาน

“เข้าใจล่ะ ตอนนี้ข้าจะเชื่อเจ้าไปก่อน มีโทเค็นอะไรหรือเปล่า” กู่ฉิงซานถา

มังกรมารถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนตอบว่า “มี ถ้าเจ้าเอาเส้นผมข้าไป จ้าววิหารจะต้องรู้ว่าเป็นข้าอย่างแน่นอน”

กู่ฉิงซานตวัดดาบยาวก่อนตัดเส้นผมของอีกฝ่าย

เขากำลังจะเอื้อมมือไปหยิบเส้นผม แต่ทันใดนั้นตัวก็แข็งทื่อ

เงาที่ลึกล้ำจนหายใจไม่ออกซึมผ่านความรู้สึกทางวิญญาณของเขา

กู่ฉิงซานสั่นสะท้าน

เขามองหลิน

ใบหน้าของหลินหนักอึ้งเล็กน้อยเช่นกัน

“เจ้ารู้สึกถึงมันใช่ไหม” หลินถาม

“ใช่ แล้วเจ้าล่ะ” กู่ฉิงซานถามกลับ

“สัญชาตญาณของข้าไม่ได้ไวเท่ากับนักพรตอย่างพวกเจ้า แต่ข้าสังเกตเห็นเช่นกันว่าการต่อสู้อันดุเดือดกำลังจะมาเยือนพวกเราแล้ว” หลินตอบ

ความรู้สึกถึงสงครามอันเลือนรางปรากฏขึ้นจากร่างของนาง

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ไม่ใช่แค่การต่อสู้ ความรู้สึกทางวิญญาณของข้าแข็งแกร่งกว่านักพรตส่วนใหญ่ ที่ข้ารู้สึกมีเพียงความตาย”

กู่ฉิงซานแตะหลังตัวเอง

เหงื่อเย็นติดมือมา

เมื่อคนอื่นได้ฟัง พวกเขาเผยสีหน้าแตกต่างกันออกไป

เย่เฟยหลีกล่าวอย่างจนใจว่า “ข้าสังเกตไม่เห็นอะไร”

จางหยิงห่าวครุ่นคิดก่อนกล่าวว่า “ข้ารู้สึกเล็กน้อย ดูท่าพวกเราจะตกอยู่ในสถานการณ์ถูกล่าเสียแล้วล่ะ”

ผู้ชายที่ชื่อ “เหล่าต้า” หยิบหนังสือออกมาดูอย่างละเอียด

“อา โอ้ ข้าเห็นล่ะว่ามีหนึ่งในศัตรูของข้ากำลังมา” เขากล่าว

“ศัตรูของเจ้าหรือ ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าตัวข้าตกเป็นเป้ากันล่ะ” กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว

เหล่าต้าตอบว่า “มันขึ้นอยู่กับว่าเจ้าข้องเกี่ยวกับเรื่องของข้ามากแค่ไหน เอามือเจ้าจับมือข้า ข้าจะดูสิ่งที่ข้องเกี่ยวกับเจ้าให้”

“ผ่านหนังสือของเจ้าหรือ”

“ข้าสามารถเห็นบางสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น รวมถึงบางสิ่งที่ข้องเกี่ยวกับชีวิตของพวกเราได้”

กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปสัมผัสกับมือของเหล่าต้า

ดวงตาของเขาจับจ้องหนังสือ

บางสิ่งที่น่าทึ่งเกิดขึ้น

ที่ฝั่งซ้ายล่างของหนังสือเดิมว่างเปล่า ตอนนี้ รูปลักษณ์ของวิญญาณกรีดร้องถูกวาดอย่างรวดเร็ว

วิญญาณกรีดร้องยืนอยู่บนหลังของสัตว์ประหลาดหุบเหว กำลังเคลื่อนที่ในความว่างเปล่าไม่มีสิ้นสุดอย่างรวดเร็ว

ที่ฝั่งขวาบนของหนังสือ อีกาสีดำค่อยๆ ปรากฏขึ้น

บนหลังของอีกาสีดำ มีผู้หญิงนั่งอยู่สามคน

ซูเสวี่ยเอ้อร์ แอนนา หนิงเยว่ฉาน พวกนางสามคนยังถูกวิญญาณกรีดร้องไล่ล่าได้ยังไง!

กู่ฉิงซานครุ่นคิดเงียบๆ

“หนิงเยว่ฉานหรือ” จางหยิงห่าวถาม

“ใครคือหนิงเยว่ฉาน” เย่เฟยหลีถามเช่นกัน

“นางคือคนที่ฝึกฝนโลกเดียวกับข้าน่ะ” กู่ฉิงซานตอบ

“เป็นพี่สาวที่เดินทางไปทั่วโลก ตามหากู่ฉิงซานทุกหนแห่ง นางอยู่เคียงข้างข้า ตอนนี้เป็นหัวหน้าอารักขาหนาม” ลอร่าตอบพร้อมกัน

จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีเข้าใจ

กู่ฉิงซานไม่สนสิ่งอื่นสิ่งใดแล้ว เขาตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงลุ่มลึกว่า “ลอร่า ขอเกราะให้ข้าหน่อย”

“ได้!” ลอร่าตอบ

เกราะของราชาปรากฏขึ้นบนกู่ฉิงซานอีกครั้ง ดาบยาวสี่เล่มปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา

ไม่ผิดแน่ วิญญาณกรีดร้องคือสิ่งที่ต้องเผชิญ การเตรียมการยังไม่มากพอ

“เจ้ารู้ตำแหน่งพวกนางหรือเปล่า” กู่ฉิงซานถามเหล่าต้า

“น่าเสียดายที่ข้าทำได้เพียงเห็นความคิดคร่าวๆ ในหนังสือเล่มนี้ ไม่สามารถยืนยันตำแหน่งได้” เหล่าต้ากล่าวขอโทษ

“กู่ฉิงซาน อย่าห่วงไปเลย ในเมื่อสามารถเห็นภาพเหล่านี้ได้ ข้าก็มีทางที่จะรู้ข้อมูลเพิ่มได้” ลอร่ากล่าว

“จริงหรือ” กู่ฉิงซานถามอย่างยินดี

ลอร่าดึงนาฬิกาปลุกสีทองออกมาจากกระเป๋าก่อนส่งให้เหล่าต้า

“นี่คืออุปกรณ์ประกอบมิติและเวลาแบบใช้ครั้งเดียวที่สามารถย้อนกลับไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้ตามเบาะแสที่มี จากนั้นมันจะแสดงภาพขึ้นมาจนระบุตำแหน่งได้”

เหล่าต้ารับนาฬิกาปลุกสีทองก่อนยิ้มออกมา “สิ่งนี้ดูแพงมาก แล้วก็ใช้ได้ครั้งเดียวงั้นหรือ”

“ใช่ ใช้เลย” ลอร่าตอบ

เหล่าต้าพยักหน้าก่อนขยี้นาฬิกาปลุกสีทอง

เข็มชั่วโมง เข็มนาที เข็มวินาที ตัวเลขและชิ้นส่วนต่างๆ ตกลงบนหนังสือ

ซากสีทองเหล่านี้เปล่งแสงเจิดจ้าออกมา ทะยานสู่ขึ้นไปในอากาศจากหนังสือ

ในเวลาเดียวกัน ภาพที่ปรากฏในหนังสือหายไป

ทุกคนเห็นว่าแสงเจิดจ้าที่ลอยในอากาศกลายเป็นแสงและเงา

“นี่คือฉากเมื่อราวสิบนาทีก่อน เจ้าสามารถได้ยินว่าพวกนางกำลังพูดอะไร ส่วนตำแหน่ง อีกสักพักถึงจะระบุได้” ลอร่าอธิบาย

“สิบนาทีก่อนหรือ” กู่ฉิงซานรู้สึกวิตก

ผ่านไปสิบนาทีแล้ว เขาไม่รู้ว่าวิญญาณกรีดร้องจะตามพวกนางทันหรือยัง

บัดซบ!

พวกนางอยู่ที่ไหน

กู่ฉิงซานกำหมัดแน่น

ในแสงและเงา ผู้หญิงสามคนเริ่มสนทนา

ซูเสวี่ยเอ้อร์เป็นฝ่ายพูดก่อน “น่าเสียดายที่พวกข้าดันมาชอบผู้ชายคนเดียวกัน”

เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดดังกล้าวก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้

มันเกิดอะไรขึ้น

วิญญาณกรีดร้องกำลังไล่ตามพวกนาง แล้วทำไมถึงยังคุยกันด้วยท่าทางเกียจคร้านแบบนั้นอยู่อีก

ทุกคนอดที่จะแอบมองกู่ฉิงซานไม่ได้

กู่ฉิงซานแสร้งทำเป็นไม่เห็นสายตาของทุกคนขณะยังคงดูแสงและเงาต่อไป

ขณะดูแสงและเงา หนิงเยว่ฉานพูดขึ้น

นางถามว่า “เขาเป็นคนแบบไหนหรือ”

“เออ มันก็พูดยากอยู่ ใช่ เขาเองก็เป็นผู้ฝึกยุทธเหมือนกัน”

“ผู้ใช้วิชาดาบหรือ หึ!” หนิงเยว่ฉานกล่าวอย่างเหยียดหยัน

“ผู้ใช้วิชาดาบมันยังไงหรือ” ซูเสวี่ยเอ้อร์และแอนนาถามพร้อมกัน

“…ผู้ใช้วิชาดาบ…โลเล…”

“…ข้าคิดเสมอว่าผู้ใช้วิชาดาบไม่ได้มีดีอะไร”

“…เขารู้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ถึงกับใช้วิชาเพื่อพิชิตใจพวกเจ้าพร้อมกันจนทำให้พวกเจ้าทนทุกข์กับความปั่นป่วนและอึดอัดนี่ ข้าเกลียดคนแบบนั้นจริงๆ”

“…พวกเจ้าไม่ต้องอธิบายเรื่องผู้ชายคนนี้อีกแล้ว พอไปถึงอาณาจักรหนามเมื่อไหร่ ข้าจะไปดูเองว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่”

ในแสงและเงา บทสนทนาของสามสาววูบไหว

ดวงตาของทุกคนค่อยๆ จับจ้องกู่ฉิงซาน

“อา เรื่องนี้ ความจริง ข้าสามารถพิสูจน์ได้ว่ากู่ฉิงซานไม่น่าจะทำอะไรแบบนั้น” เย่เฟยหลีกล่าว

“ดูไม่เหมือนอย่างนั้นนั่นแหละ” หลินกล่าวอย่างแผ่วเบา

จางหยิงห่าวตาแหลมกว่าเย่เฟยหลีจึงเลือกวิธีพูดได้ดีกว่า จากนั้นเขาจึงกล่าวว่า “กู่ฉิงซานเป็นพี่น้องแสนดีของข้า ความจริง หลายปีมานี้ เขามีเวลานอนไม่มากนัก ดังนั้นจึงไม่ได้ไปยั่วโมโหใคร แต่เขาเป็นคนน่ารักนะ จะไปทำอะไรแบบนั้นได้ยังไง”

หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลินนึกถึงอดีตของกู่ฉิงซานที่เคยเห็น สักพักใหญ่ นางรู้สึกว่ากู่ฉิงซานลำบากมามากจริงๆ

ตกหลุมรักหรือ

นางรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับกู่ฉิงซานและรู้จักผู้หญิงเหล่านี้ ดังนั้นนางจึงเตรียมตัวสำหรับเรื่องนี้

เห็นได้ชัดว่านางรู้ แต่เวลาที่โกรธ นางจะเสียการควบคุม

อีกอย่าง เรื่องอารมณ์มักเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจเสมอ

หลินใช้ความคิดก่อนนึกถึงผู้หญิงอีกสองคนที่เคยเห็นในความทรงจำของกู่ฉิงซาน

นั่นคือสาวใช้สองคนของกู่ฉิงซาน ท้ายที่สุดก็กลายเป็นศิษย์น้องของเขา

ตอนพวกเขาพูดคุย

กู่ฉิงซานยังเป็นหนุ่ม…

เมื่อคิดถึงภาพที่เห็นในตอนนั้น อาการเซื่องซึมของหลินก็จางลงเล็กน้อย

แสงและเงาค่อยๆ หายไป ทิ้งตัวเลขยาวไว้ในอากาศ

ลอร่าจ้องตัวเลขก่อนถอนหายใจด้วยความโล่งอก “นี่คือสัญลักษณ์พิกัดโลกเก้าร้อยล้านชั้น ดีมาก ดูท่าพวกนางจะรู้ที่อยู่ของพวกเรา”

นางกล่าวอย่างตกตะลึงว่า “หืม พวกนางเหมือนจะอยู่ใกล้กับอาณาจักรหนาม พวกนางจะมาที่นี่ในไม่ช้า!”

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบที่แสนยินดี

หรือก็คือเด็กผู้หญิงสามคนนี้จะต้องมาหากู่ฉิงซานอย่างแน่นอน

แต่ดูจากท่าทางพวกนางเมื่อครู่ ดูเหมือนว่าพวกนางจะไม่รู้เลยว่าต่างฝ่ายต่างกำลังตามหากู่ฉิงซาน

นี่มันช่าง

ควรทำยังไงต่อไปดี

ทันใดนั้น ท้องนภาด้านนอกมืดมิด

อีกาสีดำปรากฏขึ้น

“อย่าห้ามข้า ข้ากำลังตามหากู่ฉิงซาน!”

เสียงของซูเสวี่ยเอ้อร์ดังมาจากเหนือท้องนภาที่ถูกปกคลุม

ด้วยการสยายปีก อีกาสีดำพุ่งดิ่งลงมาทางตำหนักหนาม

ลอร่ารีบสั่งว่า “ไป ให้พวกนางเข้ามา อย่าเปิดฉากโจมตีทั้งสิ้น อย่าทำร้ายพวกนาง”

“ขอรับ”

แม่ทัพหนามลิเลียออกไปทันที

นางหักห้ามรอยยิ้มที่มุมปากไว้ รีบวิ่งออกไปแล้วตะโกนบางสิ่งกับคนรอบข้าง

“พี่ฉิงซาน ตอนนี้ข้าควรทำยังไงดี”

ลอร่ามองกู่ฉิงซานอย่างระแวดระวังขณะถาม

กู่ฉิงซานไม่ตอบ

เขายังอยู่ที่เดิม เขาไม่รู้ว่าเอาความสงบที่เคยมีเมื่อนานมาแล้วไปทิ้งไว้ไหน

เขาดูสับสนและวิตกเล็กน้อย

บรรยากาศเงียบสงบ

คนอื่นพยายามเงียบขณะมองเขาเป็นครั้งคราว

ถึงแม้วิญญาณกรีดร้องจะใกล้เข้ามาแล้วเช่นกัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหายนะที่คล้ายสัตว์ประหลาดเช่นนี้ ทุกคนยังสามารถหนีได้ถ้าเป็นไปได้

แต่กู่ฉิงซานไม่รู้ว่าจะหนีไปไหน

ในการเผชิญหน้ากับหายนะ เขามักมีความสามารถกลับมาจากความตายเพื่อพลิกสถานการณ์

แต่ครั้งนี้นับว่าอันตรายกว่าครั้งก่อนๆ

ในความเงียบ

“พรืด!”

เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นว่าคือมังกรมารที่ส่งเสียง

มังกรมารจำคำถามสำคัญของกู่ฉิงซานเกี่ยวกับตัวเองก่อนหน้านี้ได้ ทำให้อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

……….……….……….……….