webnovel

0966 ความสามารถของเย่เฟยหลี

ตอนที่ 966 ความสามารถของเย่เฟยหลี

ขณะรอจางหยิงห่าวเข้ามา เย่เฟยหลีสนทนากับกู่ฉิงซานถึงเรื่องโลกดั้งเดิม

“เจ้าไต่หอคอยโลกเสร็จหรือยัง” กู่ฉิงซานถามด้วยความสนใจ

“อ้า ใช่ ต้องขอบคุณเจ้าที่สร้างสิ่งนี้ขึ้นมา พละกำลังข้าถึงได้เพิ่มขึ้นมาเยอะเลย” เย่เฟยหลีตอบ

“แล้วเป็นอย่างไรบ้างไต่หอคอยยากหรือเปล่า?” กู่ฉิงซานถาม

“ขั้นตอนทั้งหมดเหมือนกับเกมผจญภัย เจ้าก็รู้ว่าข้าเก่งเรื่องนี้” เย่เฟยหลีกล่าวอย่างพึงพอใจเล็กน้อย

“แบร์รี่และเสี่ยวเมียวไต่หอคอยด้วยหรือเปล่า”

“ไม่ บรรยากาศหุบเหวไหลย้อนกลับมาที่โลกเก้าร้อยล้านชั้น แม้กระทั่งโลกประปรายก็เผชิญกับปัญหาเดียวกัน พวกเขาต้องต่อสู้กับไฟ บางครั้งก็ออกไปช่วยสหายจากโลกเก้าร้อยล้านชั้นกันอย่างเงียบๆ”

“จะว่าไปแล้ว ทำไมเลี่ยวสิงไม่มาด้วยล่ะ ยังมีอีกหลายสิ่งที่ไม่รู้จักในโลกเก้าร้อยล้านชั้น ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะไม่เคลื่อนไหว” กู่ฉิงซานถามด้วยท่าทีแปลกประหลาด

“เอาเถอะ ถึงเจ้าจะพูดอย่างนั้น แต่เจ้าก็น่าจะรู้นี่ว่าเขามีลูกหลายคน”

“ใช่ ข้ารู้” กู่ฉิงซานพยักหน้า

ตอนเขาประมือกับเลี่ยวสิงครั้งแรก กู่ฉิงซานก็รู้สึกประทับใจในตัวอีกฝ่ายมาก

“เขามีลูกหลายคน คนที่อายุมากสุดก็สามารถแต่งงานได้ ดังนั้นเขาจึงเป็นห่วงเรื่องงานแต่งของลูก ซื้อบ้าน ซื้อรถ หางานและอื่นๆ เสมอมา”

“ทั้งที่เป็นจุดจบของโลกแท้ๆ แต่ยังจะตามหางานอีก…”

“แน่นอนสิ หาเงินหนึ่งวันเพื่อมีชีวิตหนึ่งวันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ แถมอาชญากรทุกคนถูกเทพธิดาแห่งความยุติธรรมฆ่าไปแล้วด้วย”

“โลกมันโกลาหลมากเลยหรือ”

“ไม่ ถ้าไม่มีการระบาดของหายนะหุบเหว โลกดั้งเดิมคงจะดีมากแน่ๆ หกโลกหลอมรวมเป็นหนึ่ง ทุกสิ่งเจริญงอกงาม ความจริง แบร์รี่และเสี่ยวเมียวใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่ที่นั่นเช่นกัน ข้าไม่คิดว่าพวกเขาเต็มใจจะออกมานะ”

“เรื่องเป็นแบบนี้แหละ หลังจากนั้น…”

กู่ฉิงซานจำถึงความน่าอายของทั้งสองได้ จากนั้นครุ่นคิดถึงไพ่สองใบที่มีเครดิตไม่จำกัดที่ได้มาจากเทพธิดาแห่งความยุติธรรมก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ

เขาไม่ได้กลับมานานมาก ไม่รู้ว่าเทพธิดาแห่งความยุติธรรมในตอนนี้วิวัฒนาการไปถึงไหน

กู่ฉิงซานกำลังครุ่นคิด อารักขาเดินเข้าห้องมาพร้อมกับคนคนหนึ่ง

เป็นผู้ชายสมส่วน สวมแว่นกันแดด ปากคาบบุหรี่ มือล้วงกระเป๋า

จางหยิงห่าว

“รู้สึกเหมือนผ่านไปนานมากเลยนะ”

เขาทักทาย

กู่ฉิงซานและเย่เฟยหลียืนขึ้นพร้อมรอยยิ้มก่อนสวมกอดอีกฝ่าย

“ข้าได้ยินว่าหลังจากออกมาแล้วว่าเจ้าเตรียมที่จะฆ่าเทพหรือ” กู่ฉิงซานถาม

“เจ้าคือคู่หูข้า ถ้าเจ้าตาย ข้าจะสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ข้าต้องหาทางเอาคืน” จางหยิงห่าวตอบ

ทั้งสองมองหน้ากัน

“ไม่สิ เจ้า เกิดอะไรขึ้นกับตาน่ะ” จางหยิงห่าวถามด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป

“ไม่เป็นไร ช่วงนี้ข้าฝึกวิชาน่ะ ตาก็เลยมองไม่เห็นชั่วคราว” กู่ฉิงซานตอบ

“แบบนี้นี่เอง”

ตอนนี้จางหยิงห่าวผ่อนคลายลงแล้ว

เขาเดินไปที่โซฟา นั่งลงก่อนยกเท้าพาดขึ้นบนโต๊ะ

“ข้าเหนื่อยมากเลยล่ะ มีอะไรให้กินไหม ข้าไม่ได้กินมาหลายวันแล้ว”

เขาผ่อนคลาย

หลังจากรับพรมามากมาย เขายังดูเป็นกันเองอย่างเป็นธรรมชาติ

หรือนักฆ่าจะเป็นแบบนี้กันหมดนะ

ในตำหนักของอาณาจักรหนาม การรักษาความปลอดภัยพื้นฐานที่สุดคือหลักประกัน ประกอบกับมีตัวตนของสองพี่น้องอย่างกู่ฉิงซานและเย่เฟยหลีด้วยแล้ว จางหยิงห่าวจึงไม่หักห้ามตัวเองอีกต่อไป

“ไว้พวกเรากินข้าวเย็นทีหลัง ไปแนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักกันก่อนเถอะ”

กู่ฉิงซานทักทายทุกคน

“นี่คือราชินีหนาม ลอร่า”

ลอร่าเผยรอยยิ้มสดใส “สวัสดี ทุกท่าน ข้าได้ยินกู่ฉิงซานพูดถึงเจ้าแล้วล่ะ หวังว่าพวกเจ้าจะมีความรู้สึกดี ๆ ในประเทศข้านะ”

“แน่นอน” จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีกล่าวพร้อมกัน

กู่ฉิงซานเข้ามาแนะนำตัว “นี่ เออ นี่คือพี่สาวข้า นางชื่อหลินน่ะ”

หลินโบกมือเล็กน้อยเพื่อทักทายทั้งสอง

“หืม เจ้ามีพี่สาวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” จางหยิงห่าวถามด้วยท่าทีแปลกประหลาด

“แยกจากกันหลายปี หลายปีมากเลยล่ะ”

กู่ฉิงซานตอบอย่างคลุมเครือ

เขาแนะนำหลินกับลอร่า “นี่คือเย่เฟยหลี สหายข้าเอง”

เย่เฟยหลีโบกมือให้ทั้งสองอย่างระแวดระวัง

หลินจ้องฝ่ายตรงข้ามสักพักก่อนถามด้วยความสงสัยว่า “ข้ามองออกว่าเจ้าคือผู้ทำลายโลก กระบวนการวิวัฒนาการของเจ้าถูกทำลายไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่จากนั้นจู่ๆ ก็เปลี่ยนมาเป็นวิวัฒนาการอย่างสมบูรณ์แบบ นี่นับว่าหายากนัก ตอนนี้เจ้ามีความสามารถอะไรล่ะ”

นางสนใจความสามารถใหม่ๆ เสมอ

เย่เฟยหลีไม่ได้ตั้งใจจะพูดอะไร แต่หลังจากครุ่นคิดสักพัก นี่คือพี่สาวของกู่ฉิงซาน ดูจากบทสนทนาและสีหน้าระหว่างกู่ฉิงซานกับผู้หญิงคนนี้ ทั้งสองเข้ากันได้ดีมาก ไม่ใช่การเสแสร้งแต่อย่างใด

ในเมื่อไม่ใช่คนนอก เป็นเรื่องดีที่จะทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น จะได้ร่วมมือกันต่อสู้ในอนาคตได้ดีขึ้นด้วย

กู่ฉิงซานอาจจะให้ทุกคนรู้จักกันเพราะเหตุนี้ก็ได้

เมื่อคิดดังนี้ เย่เฟยหลีอธิบายว่า “เรื่องการต่อสู้คงไม่มีอะไรจะเล่าเท่าไหร่ แต่ความสามาถรพิเศษของข้าคือสิ่งนี้”

ทันทีที่เขายื่นมือออกไป พลังที่มองไม่เห็นรวมอยู่ในมือ ก่อเกิดเป็นกระป๋อง

“นี่มันอะไรน่ะ” กู่ฉิงซานสนใจเล็กน้อยเช่นกันขณะถาม

“เครื่องดื่มวิญญาณน่ะ” เย่เฟยหลีตอบด้วยน้ำเสียงลึกลับ

“เครื่องดื่มวิญญาณหรือ ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนั้นมาก่อนเลย” หลินถาม

เย่เฟยหลีตอบว่า “นี่คือชื่อที่ข้าตั้งเอง ตอนข้าทำให้ศัตรูบาดเจ็บ ข้าสามารถดูดกลืนพลังวิญญาณจากพวกมัน กักเก็บเอาไว้แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มจำนวนมากได้ทุกเมื่อ”

“การทำงานของเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง” จางหยิงห่าวถามด้วยความสนใจ

“สิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุดคือการรักษาบาดแผล หลังจากนั้นข้าก็พัฒนาเป็นรูปแบบพลังชีวิต พลังวิญญาณ พลังความคิด พลังเวทมนตร์ พลังงานและอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะแบบไหนข้าก็สามารถเติมเต็มให้ได้” เย่เฟยหลีอธิบาย

กู่ฉิงซานคร่ำครวญออกมา “สิ่งนี้…ฟังดูเหมือนกับสิ่งที่ใช้เติมเต็มกำลังกายในเกมเลย”

“นั่นแหละ!”

เย่เฟยหลีกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ขอแค่ข้าทำให้ศัตรูบาดเจ็บได้ ข้าสามารถช่วงชิงพลังวิญญาณและสำรองมันไว้ได้โดยตรงเพื่อเสริมความแข็งแกร่งยามที่เจอกับศัตรูที่ทรงพลังเหล่านั้น”

ทุกคนเงียบ

หมอนี่เสพติดกับการเล่นเกมเข้าแล้ว จางหยิงห่าวคิดเช่นนั้น

“พลังน่าสนใจดี ช่างเปิดหูเปิดตานัก” หลินพยักหน้า แสดงให้เห็นว่านางพึงพอใจกับสิ่งที่ได้พบเจอ

ลอร่าครุ่นคิดสักพักแล้วถามว่า “แล้วเครื่องดื่มนี่มีรสชาติแบบไหนหรือ”

ตอนนี้เย่เฟยหลีหงุดหงิดเล็กน้อย “รสชาติสุ่มน่ะ ข้าศึกษาเรื่องนี้มานานแล้ว แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถควบคุมได้”

“ข้าขอลองได้หรือเปล่า” ลอร่ากระตือรือร้นที่จะลอง

“เจ้าอยากดื่มอะไรล่ะ”

“พลังงาน”

“รอเดี๋ยวนะ นี่”

ลอร่าหยิบกระป๋องแล้วเปิดฝาทันที

นางจิบอย่างระวัง

“หืม กลิ่นเหมือนแชมเปญเลย”

ลอร่าจิบอีกคำจนอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้

“แจ๋ว! ในที่สุดข้าก็ไม่ต้องกลัวอ้วนแล้ว!”

นางตะโกน

ทั้งเย่เฟยหลีและจางหยิงห่าวไม่รู้ว่าทำไม

กู่ฉิงซานและหลินต่างเข้าใจ

ถ้าสามารถเสริมการใช้พลังงานได้จริง ลอร่าก็จะสามารถคว้ามสมบัติได้มากขึ้นหรือเปล่า

จนกว่าพลังวิญญาณที่สำรองไว้ของเย่เฟยหลีจะหมด ลอร่าก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการกินที่จะทำให้อ้วนอีกต่อไป

นี่มันช่างสุดยอด!

หลังจากนั้น ลอร่ายื่นมือออกไปคว้าในความว่างเปล่า

เหรียญสีทองโบราณขนาดใหญ่ตกลงกับพื้น

“ฮ่าๆ นับจากนี้ ไม่มีใครสามารถห้ามข้าค้นหาสมบัติอีกแล้ว!” ลอร่ากล่าวอย่างมีความสุข

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักแล้วถามว่า “เฟยหลี พลังวิญญาณที่เจ้าช่วงชิงมาสามารถเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มได้โดยไม่ต้องแปรสภาพใดๆ เลยหรือ”

“ใช่ ประหยัดเวลาไปได้มากโขเลย” เย่เฟยหลีตอบอย่างมีความสุข

กู่ฉิงซานตบบ่าเขาแล้วกล่าวว่า “ไม่เลว!”

ตอนนี้เขารู้สึกยินดีเล็กน้อยเช่นกัน

เขามีแหล่งพลังวิญญาณเสริมแล้ว

สิ่งสำคัญคือ

แหล่งพลังนี้จะไม่ถูกหน้าต่างระบบเทพสงครามเอาเปรียบ!

แหล่งพลังนี้จะไม่ถูกหน้าต่างระบบเทพสงครามเอาเปรียบ!

แหล่งพลังนี้จะไม่ถูกหน้าต่างระบบเทพสงครามเอาเปรียบ!

เขาเน้นสิ่งสำคัญนี้สามครั้ง!

ตอนนี้เย่เฟยหลีกล่าวอีกครั้งว่า “นี่ อย่าพูดแต่เรื่องข้าสิ แล้วความสามารถของเจ้าคืออะไรล่ะ”

ลอร่าคว้าเข็มทิศจากความว่างเปล่าแล้วตอบว่า “ข้าไม่จำเป็นต้องบอกหรอก ความสามารถของข้ารู้กันทั้งโลกนั่นแหละ”

ใช่แล้ว คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเก้าร้อยล้านชั้น ลอร่ามีชื่อเสียงมากเกินไป

ความสามารถทั้งสามของนางเป็นความลับที่ถูกเปิดเผยนานแล้ว

เย่เฟยหลีมองกู่ฉิงซาน

ดาบยาวสี่เล่มพลันปรากฏขึ้นที่ด้านหลังกู่ฉิงซาน

“เจ้ายังใช้ดาบสี่เล่มอยู่อีกหรือ”

เย่เฟยหลีพยักหน้าก่อนมองหลินอีกครั้ง

หลินกอดอกแล้วกล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “ข้าไม่มีความสามารถพิเศษอะไร แต่เกรงว่าต่อให้พวกเจ้าร่วมมือกันก็ไม่สามารถเอาชนะข้าได้”

เย่เฟยหลีและจางหยิงห่าวมองหน้ากันก่อนหันมามองกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานพยักหน้าเพื่อเป็นการยืนยัน

ทั้งสองสูดหายใจเข้า

ไม่สงสัยเลยว่าผู้หญิงคนนี้ถึงเป็นพี่สาวของกู่ฉิงซาน!

เย่เฟยหลีถามจางหยิงห่าวว่า “แล้วเจ้าล่ะ ข้าไม่ได้เจอเจ้าตั้งนาน ไพ่นักฆ่าของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

จางหยิงห่าวยิ้มขมขื่นแล้วตอบอย่างหงุดหงิดว่า “หลังจากเห็นความสามารถของเจ้า ข้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาไปเลย”

“เจ้าไม่ใช่คนธรรมดา เจ้าถูกล่าในพื้นที่จ้าวโลกมานาน แม้กระทั่งยอดฝีมือมากมายที่ถูกเทพส่งมาก็ยังตามล่าเจ้าไม่ได้เลยนะ” หลินกล่าวอย่างแผ่วเบา

กู่ฉิงซานชำเลืองมองนางอย่างเงียบงัน

เขาจำได้ว่าก่อนจะกลับมา เทพจากพื้นที่จ้าวโลกเหมือนจะเป็นหลิน…

จางหยิงห่าวส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ “ข้าตามหลังเจ้ามากนัก ข้าไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าคนเขียนและสร้างหนังจะต้องมากลายเป็นตัวละครแบบนี้เสียเอง ผู้คนมักจะสร้างพันธมิตรกับวีรชนสองสามคนที่มีพละกำลังเทียบเท่ากัน จากนั้นก็ไปช่วยโลก แล้วดูข้าสิ ต่อหน้าพวกเจ้าข้าก็เป็นเพียงน้องเล็ก”

กู่ฉิงซานปลอบอีกฝ่าย “และน้องเล็กคนนั้นก็ฆ่าเป็น หรือจะบอกว่าไม่เป็น”

จางหยิงห่าวหันมาแล้วกล่าวว่า “ทว่า ข้าพึ่งสหายมากเกินไปตอนออกไปทำงาน สหายคนก่อนเคยบอกข้าว่าอยากพบเจ้า”

“อยากพบข้าหรือ” กู่ฉิงซานตกตะลึง

จางหยิงห่าวหยิบปืนพกสีดำจากแขนเสื้อออกมาวางบนโต๊ะ

…………..……………..