webnovel

0877 สถานการณ์ที่อันตราย

ตอนที่ 877 สถานการณ์ที่อันตราย

สงครามกำลังจะเข้าสู่ช่วงที่เลวร้ายที่สุด

เผ่าพันธุ์บรรพกาลถูกสังหาร

ในเวลาเดียวกัน การหลอมดาบศักดิ์สิทธิ์ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์

นอกจากราชาอมตะ ยอดนักพรตทุกคนต้องออกไปแนวหน้า

พวกเขาเหาะมาอยู่หน้ายักษ์อมตะ มองฮอร์ครักซ์จำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ด้านหลังกับเหรียญของราชาอมตะ

ส่วนคนอื่น พวกเขาทราบว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้เดิมเป็นนักพรตมนุษย์

เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เกินกว่าจะจินตนาการ

เขายังมีเหรียญของราชาอมตะของจริงอยู่ในมือ

เขาสังหารเผ่าพันธุ์บรรพกาลจนหมดสิ้น!

ถ้าอย่างนั้น เขาต้องเป็นหนึ่งในพวกเราสิ

แต่ทำไมถึงไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลยล่ะ

พวกนักพรตครุ่นคิดอย่างเงียบงัน ร่างจุติของยักษ์อมตะโดยกู่ฉิงซานก้มตัวลงมาถามยอดนักพรตบางส่วนว่า

“ข้าเกรงว่าจะอยู่ในโลกสวรรค์ดึกดำบรรพ์ได้ไม่นาน เจ้าเตรียมหาที่จะไปแล้วหรือยัง”

“ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะ” ยอดนักพรตถาม

“เพราะการต่อสู้ครั้งต่อไป พวกเจ้าไม่สามารถรับมือได้”

ยักษ์อมตะมองท้องนภา

ตัวตนน่าสะพรึงทั้งสองที่ซ่อนอยู่ในหมู่เมฆเลิกสู้กันเองแล้ว

ยอดนักพรตมองตามอีกฝ่าย ใบหน้าของพวกเขาตึงเครียด

พวกมันล้วนมีสัมผัสวิญญาณในร่างกายที่แก่กล้า ทำให้สามารถสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงของตัวตนทั้งสองที่อยู่บนท้องนภาในหมู่เมฆ

แม้กระทั่งยักษ์ตรงหน้าเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของสองตัวตน

นี่คือหายนะของแท้

ยอดนักพรตกล่าวว่า “พวกข้ามีแผนถอยอยู่แล้ว เป้าหมายคือโลกเบื้องล่าง เจ้าพวกเผ่าพันธุ์บรรพกาลที่เดือดดาลนั่นสร้างความลำบากนิดหน่อย ทันทีที่พวกข้าหายไป พวกมันจะต้องหาทางตามมาอย่างแน่นอน”

โลกเบื้องล่าง!

กู่ฉิงซานเข้าใจทันทีหลังจากครุ่นคิดสักพัก

นั่นคือเศษเสี้ยวของหวนคืนชาติภพหกวิถี

เซี่ยเต้าหลิงหายไปยังหนึ่งในเศษเสี้ยวของโลกเบื้องล่างเช่นกัน หนึ่งหมื่นปีต่อมา โลกเดิมเชื่อมต่อกับเศษเสี้ยวทั้งหกชิ้นจนนำไปสู่บัญญัติราชามาร

“โลกเบื้องล่างไหนที่เจ้าเลือก” กู่ฉิงซานรีบถาม

ผู้ฝึกยุทธสามารถมีชีวิตได้หลายหมื่นปีหากไปถึงระดับแสวงโลกา แต่ในโลกแห่งการฝึกฝนช่วงหนึ่งหมื่นปีต่อมา ไม่มีนักพรตทรงพลังอีก ไม่มีมรดกหลงเหลือด้วย

ตอนนี้กู่ฉิงซานต้องยืนยันให้แน่ใจว่าคนเหล่านี้ไม่ได้กำลังไปเศษเสี้ยวของหวนคืนชาติภพหกวิถีที่เซี่ยเต้าหลิงอยู่

ไม่อย่างนั้น ประวัติศาสตร์ทั้งหมดจะพังทลาย เขาจะถูกลบล้างโดยกฎเกณฑ์แห่งเวลาและชะตากรรม

“มันคือเศษเสี้ยวทั้งหกที่ใหญ่ที่สุด… พวกข้าขโมยตำหนักราชาเทพมาจนได้วิธีเคลื่อนย้ายพริบตาไปสู่เศษเสี้ยวของโลกนั้น… พวกเราต้องไปจากสวรรค์ชั้นนอก”

กู่ฉิงซานผ่อนคลายทันที

ตอนนี้ เผ่าพันธุ์เทพองค์เดียวที่เหลืออยู่ในสวรรค์ชั้นนอกหลบหนีไปนานแล้ว

พวกเขาถึงคราวที่จะพินาศแล้ว

ถ้าเช่นนี้ ที่ต้องทำก็ง่ายมาก

เขามองรอบสมรภูมิ ยกเหรียญราชาอมตะขึ้นแล้วตะโกนว่า “กองทัพทั้งหมดถอย ไปโลกเบื้องล่าง”

“จำเอาไว้ ห้ามปรากฏตัวภายในหนึ่งหมื่นปี ไม่อย่างนั้นทันทีที่ถูกพบ เผ่าพันธุ์มนุษย์จะพินาศอย่างแน่นอน!”

“ขอรับ!” นักพรตทั้งหมดตอบรับเสียงดัง

ภายใต้การนำของยอดนักพรต นักพรตมนุษย์เริ่มรวมตัวอย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมถอยไปทางสวรรค์ชั้นนอก

ตอนนี้ เสียงหญิงสาวคมปลาบมาจากหมู่เมฆ “อยากจะหนีงั้นหรือ”

จากนั้นเสียงผู้ชายดังขึ้น “วิญญาณของพวกเจ้าจะต้องอยู่เพื่อเป็นอาหารของข้าในวันนี้”

เสียงนี้ทำให้นักพรตหลายคนหมดสติ

ในที่สุดนักพรตมนุษย์ก็ได้รู้ถึงความน่าสะพรึงของอีกฝ่าย

ไม่สงสัยเลยว่าทำไมยักษ์ถึงกล่าวว่าห้ามปรากฏตัวภายในหนึ่งหมื่นปี!

พวกนักพรตเร่งความเร็วในการถอย

“พวกข้าไปกันจะหมดแล้ว แต่ท่าน…” ก่อนยอดนักพรตคนนั้นจะไป เขาหันมามองกู่ฉิงซานด้วยความลังเล

“ข้าจะอยู่แนวหลังเอง”

ยักษ์อมตะกล่าว

มันคุกเข่าเล็กน้อยก่อนพุ่งสู่อากาศ

ร่างขนาดใหญ่ของยักษ์กลายเป็นภาพติดตากระแทกเข้าใส่หมู่เมฆราวกระสุนปืนใหญ่

หลังจากนั้นไม่นาน หมู่เมฆหนาแน่นทั่วท้องนภาถูกสายลมแรงกล้าพัดพา

ตอนนี้ เสียงชายหญิงดังขึ้นเป็นเสียงถอนหายใจอย่างเคร่งขรึมและเสียงกระซิบ “สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเอ๋ย จงมอบวิญญาณให้กับข้า วิญญาณของพวกเจ้า…”

มันพลันแผดเสียงกรีดร้องออกมา วิชาดูดกลืนวิญญาณถูกขัดจังหวะ

กลายเป็นว่ายักษ์อมตะปรากฏตัวขึ้นอยู่ด้านข้าง มือถือดาบเอาไว้แล้วฟาดฟันใส่ท้องนภา

ตูม!!!

ปฐพีสั่นไหว

นักพรตมนุษย์ส่งเสียงโห่ร้อง

ยักษ์อมตะไม่ได้สนใจขณะตะโกนใส่นักพรตว่า “ไป! ยังมีสัตว์ประหลาดแบบนั้นอีกมาก พวกเจ้าเอาชนะด้วยพละกำลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์ตอนนี้ไม่ได้ ดังนั้นพวกเราเจ้าต้องซ่อน…”

ตูม!!!!!!

เขาถูกกระแทกโดยเงาสีดำก่อนตกลงสู่พื้นดินราวอุกกาบาต

แต่เขาหายไปกลางอากาศก่อนถูกแทนที่ด้วยมังกรที่มีร่างกายคล้ายกับเขา

ขนาดของมังกรมารตัวนี้หดลงหลายเท่าเมื่อเทียบกับขนาดเดิม แต่มันปล่อยหมอกสีเทาเพื่อสร้างหายนะไปทั่ว พละกำลังคล้ายกับน่าสะพรึงยิ่งนัก!

…มังกรหุบเหว

มันหยุดนิ่งกลางอากาศขณะกล่าวด้วยน้ำเสียงชราว่า “วิชามิติหรือ ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่บ้าบอสิ้นดี ด้วยพละกำลังของเจ้าถึงกับกล้าสู้เพื่อดาบศักดิ์สิทธิ์เลยหรือ”

โดยไม่พูดจา ยกอมตะตกลงจากท้องนภาพร้อมดาบยาวก่อนฟาดฟันใส่มังกรหุบเหวอย่างบ้าคลั่ง

ตอนนี้วิญญาณกรีดร้องคืบคลานออกมาจากพื้นเช่นกัน

มันไร้รอยขีดข่วนใดๆ

“ไป!”

ยักษ์อมตะต่อสู้กับมังกรหุบเหวเพื่อหันเหความสนใจก่อนตะโกนบอกนักพรตมนุษย์

เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มองอยู่ไม่ลังเลอีกต่อไป พวกเขาเร่งความเร็วก่อนเหาะไปทางสวรรค์ชั้นนอก

แต่คราวนี้ วิญญาณกรีดร้องและมังกรหุบเหวไม่มีพลังจะไล่ตามนักพรตมนุษย์เหล่านี้

เพราะยักษ์อมตะปล่อยพลังวิเศษนั่นออกมา…

ทะลวงฝัน!

เงาดาบสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนเบ่งบานราวบุปผา ตามมาด้วยพลังอสนีบาตเรืองรอง ทำให้สัตว์ประหลาดหุบเหวทั้งสองไม่สามารถขยับได้สักพัก

ดาบลับ ตรึงเงา!

ท้องนภาเต็มไปด้วยเงาดาบไม่หายไปไหน กู่ฉิงซานสะบัดดาบยักษ์ก่อนกระจายออกเป็นดาบบินหนึ่งร้อยเล่ม

ดาบบินเหล่านี้โคจรรอบสัตว์ประหลาดหุบเหวทั้งสองขณะเคลื่อนไปมาอย่างต่อเนื่อง

ด้วยพายุดาบที่เพิ่มขึ้น อสนีบาตลากแนวยาวไปตามสายลม

ค่ายกลดาบวิญญาณอสนีบาตไท่อี่!

นี่คือค่ายกลดาบบินที่มีพลังวิเศษของอสนีบาต

ถึงแม้สัตว์ประหลาดหุบเหวทั้งสองจะทรงพลังมาก แต่พวกมันต้องรับมือกับกลิ่นอายดาบบินบนท้องนภาด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อไม่ให้โดนอสนีบาตฟาดใส่ ส่งผลให้อยู่ในสภาพหงุดหงิดยิ่ง

อีกด้าน ภายใต้การควบคุมอย่างเต็มกำลังของกู่ฉิงซาน นักพรตมนุษย์กำลังถอยด้วยความเร็วที่มากขึ้น

ขณะมองรอบข้าง ทั่วทั้งสมรภูมิ มีเพียงราชาอมตะที่ยังตีดาบศักดิ์สิทธิ์ด้วยวิชาวิเศษเพื่อพยายามหลอมให้เสร็จ

ชิ้นส่วนอาวุธแปลกประหลาดค่อยๆ ปรากฏขึ้นรอบตัวเขา รออยู่สักพักดาบศักดิ์สิทธิ์ก็หลอมสำเร็จ

พายุดาบทุ่มกำลังทั้งหมด

ยักษ์อมตะพลันตะโกนขึ้นว่า “ช้าก่อน!”

ร่างคมปลาบวูบไหวก่อนเริ่มหดตัวแล้วถอยจากวงต่อสู้ออกมาไกล

ใบหน้าของวิญญาณกรีดร้องเป็นชายครึ่งหญิงครึ่งพูดจาถากถางว่า “เจ้าทำให้ข้าเสียอาหารไปมากมาย จะมาร้องขอชีวิตตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว”

ไม่มีนักพรตมนุษย์อยู่บนปฐพีแล้ว

ยักษ์อมตะถามอย่างไม่แน่ใจว่า “พวกเราร่วมมือกันฆ่ามังกรมารดีหรือเปล่า”

วิญญาณกรีดร้องตกตะลึง จากนั้นระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“แน่นอนว่าไม่ เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ”

ยักษ์อมตะกล่าวว่า “ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าถึงยังช่วยมันอยู่”

“แบบนั้นก็ไม่ดีเหมือนกัน” วิญญาณกรีดร้องกล่าวอย่างหยอกล้อ “ข้าไม่สนเรื่องการต่อสู้ระหว่างเจ้า เจ้าไปฆ่ามันเอง ว่าไงล่ะ”

มันถอยสองก้าวเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ตั้งใจจะขัดขวางการต่อสู้ระหว่างยักษ์อมตะกับมังกรหุบเหว

กู่ฉิงซานถอนหายใจ

เขาไม่สามารถเอาชนะมังกรหุบเหวได้อย่างแน่นอนก็เลยอยากใช้พลังของวิญญาณกรีดร้อง

ใครจะรู้ล่ะว่าอีกฝ่ายฉลาด ไม่ยอมเล่นตามเกมที่เขาวางเอาไว้

เทียบกับสัตว์ประหลาดหุบเหวนิรันดร์แล้ว ยักษ์อมตะยังถือว่าอ่อนแอกว่า เพียงลำพังไม่สามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดสองตัวนี้ได้

มังกรหุบเหวพลันกล่าวว่า “ข้ามีคำแนะนำ”

“ว่ามา” วิญญาณกรีดร้องกล่าว

“ดาบศักดิ์สิทธิ์สามารถอยู่ได้ในมือของเจ้าหรือข้าเท่านั้น เจ้าตัวที่อ่อนแอนนี่ดูคิดเยอะพอสมควร ข้าไม่อยากเจอสถานการณ์ที่เกินคาด… แบบนั้นไม่ดีกับพวกเราแน่… ฆ่ามันก่อน จากนั้นมาสู้กันต่อเพื่อชิงสิทธิ์ดาบศักดิ์สิทธิ์” มังกรหุบเหวกล่าวช้าๆ

วิญญาณกรีดร้องครุ่นคิดสักพักก่อนตกลง “นี่เป็นความคิดที่ดี”

พวกมันมองยักษ์อมตะพร้อมกัน

ยักษ์อมตะถือดาบยาวขวางไว้ตรงหน้าก่อนพ่นลมออกจมูกหนักหน่วง จากนั้น…

หันหลังแล้ววิ่งหนี!

ยักษ์อมตะหนีด้วยความเร็วจนสัตว์ประหลาดหุบเหวทั้งสองไม่มีเวลาหยุดอีกฝ่าย

มันยังคงใช้ก้าวพริบตา วูบไหวอยู่หลายครั้งในท้องนภาก่อนจะหายไป

วิญญาณกรีดร้องแข็งทื่อ

มังกรหุบเหวแข็งทื่อ

“มันหนีไป…” มังกรหุบเหวกล่าวด้วยความไม่อยากเชื่อ

………………………………………