webnovel

0479 โลกมิติอนันต์

ตอนที่ 479 โลกมิติอนันต์

ท่ามกลางกระแสน้ำ กู่ฉิงซานนิ่งค้างไปราวกับถูกแช่แข็ง

“เหตุใดข้าจึงต้องถอดเสื้อผ้าออกด้วย?” กู่ฉิงซานเอ่ยถามอย่างจริงจัง

ห่วงชูชีพสีชมพูเอ่ยด้วยน้ำเสียงแปลกๆ ออกมา “แน่นอน ก็ถ้าเจ้าไม่ถอด แล้วพวกเราจะไปเผชิญกับความท้าทายได้อย่างไร?”

…ชีวิตก็เหมือนกับกล่องช็อกโกแลต ที่คุณจะไม่มีทางรู้ว่าจะได้พบเจอกับช็อกโลแกตรสใด หรือรูปทรงใดที่อยู่ภายใน

แล้วไอ้การถอดเสื้อผ้าเนี่ย มันช่างแตกต่างไปจากประโยคก่อนหน้าที่ เอ่ยถามว่าอยากจะไปเผชิญกับความท้าทายหรือไม่ลิบลับ

เอาล่ะๆ เวลานี้เขาจะต้องเข้าใจให้ได้ก่อนว่าในสถานการณ์ในปัจจุบันนี้มันเป็นเรื่องบ้าอะไรกันแน่!

สมองของกู่ฉิงซานหมุนเร็วจี๋

ด้วยเหตุผลบางประการ ส่งผลให้เขาสามารถนึกย้อนไปได้ว่าตนเองก็ เคยสื่อสารกับจิตอาร์ติแฟคมาก่อนเหมือนกันนี่นา

ในบรรดาจิตอาร์ติแฟค หรือกระทั่งจิตอาร์ติแฟคของสิ่งประดิษ์เทวะ โดยทั่วไปแล้ว คำพูดของพวกมันค่อนข้างที่จะเชื่อถือได้

ตัวอย่างเช่นฉานนู่ , เกราะรบเพลิงคำรน , ตะขอเกี่ยววิญญาณ และดาบเช่าหยิน

กระทั่งดาบพิภพที่แม้จะวาจาเราะร้าย แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องจริงจัง คำพูดของมันก็ยังมีเหตุผล และส่งผลลัพธ์ไปในทางที่ดีเป็นอย่างมาก

นอกเหนือจากสิ่งประดิษฐ์เทวะ จิตอาร์ติแฟคอื่นๆ ก็เลือกที่จะปล่อยตนเองอย่างเสรี

ตัวอย่างเช่นวิหคขาวและเครื่องจักรมากมายจากปรภพ

ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะก็ …

“งั้นข้าขอถามหน่อย ว่าความท้าทายแบบใดกันที่พวกเราจะต้องเผชิญ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

ห่วงชูชีพสีชมพูถอนหายใจยาว

มันกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตึงเครียดและกดดัน “พันกว่าปีมาแล้ว ที่ตัวข้ามิได้แข่งขันกับบรรดาคู่แข่ง ในวงการแฟชั่นของโลกมิติอนันต์ ข้าเลยไม่ทราบว่าสไตล์ของข้าจะสามารถชนะพวกเธอได้รึเปล่า”

ในขณะกล่าว ห่วงชูชีพชมพูก็ลอยขึ้น และหมุนเป็นวงกลมในอากาศ

แล้วมันก็เปลี่ยนรูปร่างไป กลายเป็นบิกินี่

บิกินี่สีชมพู ..

มันหันหน้าเข้าหากู่ฉิงซาน เปล่งเสียงเอ่ยอย่างไม่มั่นใจ “ข้ากังวลเล็กน้อยว่าข้าจะตามเทรนแฟชั่นในปัจจุบันได้รึเปล่า – เจ้าคิดว่าข้ามีเสน่ห์ไหม”

“ … มีเสน่ห์สิ”

“งั้นก็ดี ได้โปรดสวมใส่ข้า แล้วพวกเราจะก้าวเข้าไปเผชิญความท้าทายในวงการแฟชั่นของโลกมิติอนันต์กัน”

“ประเดี๋ยวก่อน” กู่ฉิงใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว “โลกมิติอนันต์คืออะไร?”

“โอ้ ข้าลืมไปเลยว่าเจ้ามันเป็นผู้มาใหม่!”

บิกินี่ชมพูเพิ่งจะตระหนักได้

มันกล่าวว่า “ในโลกลำดับชั้น อย่างเต็มที่ก็มีอยู่ทั้งสิ้นเก้าร้อยล้านชั้น ขณะที่ในแต่ละชั้นก็ยังมีโลกอยู่ภายในอีกนับล้านๆ ตรงส่วนนี้เจ้าเข้าใจดีใช่ไหม?”

กู่ฉิงซานพยักหน้า

บิกินี่ชมพู “แล้วเจ้าคิดว่าตัวตนที่แข็งแกร่งในโลกต่างๆ พวกเขาเดินทางไปยังโลกอื่นๆ ได้อย่างไรกันล่ะ?”

“ … ก็คงจะใช้ดิสก์ค่ายกล หรือค่ายกลเคลื่อนย้าย ไม่ก็บางสิ่งบางอย่างล่ะมั้ง?”

“มันไม่ใช่เลย!”

บิกินี่ชมพูอธิบาย “ในระหว่างสองชั้นโลก เจ้าสามารถใช้ดิสก์ค่ายกลได้ก็จริง ทว่าหากมีชั้นโลกคั่นกลาง มากยิ่งกว่านั้น ระยะทางมันจะกลายเป็นห่างไกลยิ่ง ไกลเกินกว่าที่ดิสก์ค่ายกลของเจ้าจะมาถึงได้”

“ดังนั้น จึงต้องอาศัยปีกชมพูที่อยู่ข้างหลังข้าสินะ?”

“จริงๆ แล้ววิธีนี้ก็ไม่ค่อยจะฉลาดซักเท่าไหร่หรอก แม้จะใช้การได้ แต่จะให้เดินทางโดยการบินไปตลอดทั้งเก้าร้อยล้านชั้นมันก็คงจะไม่ดี”

“เพราะเหตุใด?”

“เพราะในแต่ละชั้นโลกน่ะประกอบไปด้วยความลึกลับมากมายและอันตรายที่ไม่รู้จัก ผู้ที่เลือกใช้วิธีนี้น่ะ ไม่มีผู้ใดกล้ารับประกันได้หรอกว่าตนจะปลอดภัยไปตลอดการเดินทาง ผู้คนไม่สามารถบินจากสู่โลกได้ตลอดไปหรอกนะ ในกรณีนี้ ไม่เคยมีใครใช้ปีกบินไปตลอดทั้งเก้าร้อยล้านชั้นโลกได้ครบเลย เพราะหากใครคิดจะทำ พวกเขาคงจะหมดอายุขัย ตายลงไปเสียก่อน”

กู่ฉิงซานเอ่ยด้วยความสนใจ “ถ้าอย่างนั้นแล้วโลกมิติอนันต์ก็คือ?”

บิกินี่ชมพูกล่าว “มันคือโลกที่พิเศษเป็นอย่างยิ่งจากในบรรดาโลกทั้งเก้าร้อยล้านชั้น”

“โลกแห่งนั้นมักจะมี‘ภารกิจ’ให้รับ หรือไม่ก็นำพาไปสู่สถานที่ๆ พิเศษมากๆ ไม่ก็นำพาไปยังสถานที่ส่วนบุคคลที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยตัวตนที่ทรงพลานุภาพได้”

“กล่าวโดยสังเขปก็คือ โลกใบนี้สามารถอยู่เหนือกระแสมิติและเวลาได้ มันสามารถเชื่อมต่อกับทุกๆ โลกลำดับชั้นได้”

“นี่แหละคือสถานที่อันแสนมหัศจรรย์ที่ถูกเรียกว่าโลกมิติอนันต์ล่ะ”

กู่ฉิงซานตั้งใจฟังอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ปากจึงเอ่ยเสียงกระซิบว่า “สถานที่ๆ พวกเรากำลังจะไปคือโลกมิติอนันต์อย่างงั้นสินะ?”

บิกินี่ชมพู “ไม่ต้องสงสัยเลย พวกเรากำลังจะมุ่งหน้าสู่โลกมิติอนันต์อันมิชื่อเสียง!”

กู่ฉิงซานเข้าใจในทันที

เขาจ้องมองไปยังบิกินี่ชมพูที่กำลังตื่นเต้น

…ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่า ‘เสี่ยวถาย’ ได้ขอให้ตนเองช่วยส่งของบางสิ่ง แต่เธอไม่ได้บอกเขาเลยว่าต้องการให้ตนเองไปช่วยยึดครองตำแหน่งเจ้าแม่วงการแฟชั่นแทนเธอ

ดังนั้น นั่นหมายความว่า ความคิดความฝันดังกล่าวเป็นของอุปกรณ์มนตราเบื้องหน้านี่ไม่เกี่ยวกับเธอ แต่บางทีการที่เสี่ยวถายมอบมันให้แก่เขา ก็อาจจะเป็นเพราะว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับใช้ในการเดินทางไปยังโลกมิติอนันต์ก็เป็นได้

กู่ฉิงซานลังเลและเอ่ยถาม “เจ้าต้องการจะกลับคืนสู่วงการแฟชั่นของโลกมิติอนันต์อีกครั้งหรือไม่?”

“แน่นอน! นี่แหละคือช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ล่ะ! ”บิกินี่สีชมพูกล่าวด้วยน้ำเสียงกระฉับกระเฉง

“แต่เจ้า … ดูเหมือนว่าจะลืมปัญหาสำคัญที่สุดไปนะ” กู่ฉิงซานกล่าว

บิกินี่ชมพูเอ่ยถามด้วยความกังวลทันที “ปัญหาอะไรงั้นหรือ? ใช่เรื่องที่ว่าทรวดทรงของข้า ไม่สมบูรณ์แบบหรือเปล่า?”

มันที่กำลังมองกู่ฉิงซานอยู่ เอี้ยวหมุนดูสรีระของตนเอง

“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เจ้าหรอก อันที่จริงแล้วปัญหาอยู่ที่ข้าต่างหาก คือข้าเป็นผู้ชายน่ะ” กู่ฉิงซานกล่าว

บิกินี่ชมพูพอได้ฟังก็แข็งค้างไป

เป็นเวลาเนิ่นนาน มันมิได้เอ่ยสิ่งใด

กู่ฉิงซานชี้มาที่ตัวเอง “อ่า ข้าต้องขอโทษด้วยนะ แต่ข้าเป็นผู้ชายจริงๆ นี่เจ้ามิได้สังเกตเลยหรือ?”

“เจ้าก็ใครมันจะไปนึกกันว่าผู้ชายจะใช้ปีกสีชมพู! แถมยังเป็นสีชมพูคอลเลคชั่นรุ่นลิมิเต็ดอีก! เจ้ามันพวกบิดเบือน!”

บิกินี่ชมพูกล่าวเสียงสะอื้น

“สุภาพหน่อย” กู่ฉิงซานเอี้ยวไปมองปีกสีชมพูเบื้องหลังและกล่าว “ผู้ชายจะใช้สีชมพูไม่ได้รึไง? สำหรับชายแท้แล้ว ก็ยังมีบางคนอยู่นะที่ชอบสีชมพูแบบน่ารักๆ น่ะ”

บิกินี่สีชมพูเริ่มระเบิดเสียงร่ำไห้

กู่ฉิงซานยืนอยู่สักพักหนึ่ง จนเขารู้สึกว่าหากปล่อยไว้ต่อไปมันคงจะดูไม่ดี

เขาเริ่มขบคิดที่จะหาคำพูดปลอบประโลมเธอ

“ข้าว่า … ”

แต่กู่ฉิงซานก็พบว่าตัวเองไม่มีหนทางที่จะปลอบใจชุดบิกินี่ได้เลย

เขาไม่ได้มีทักษะในด้านนี้

บิกินี่ชมพูยังคงร่ำไห้อย่างโศกสลด

แต่เนื่องจากบริเวณโดยรอบเป็นน้ำอยู่แล้ว ดังนั้นกู่ฉิงซานจึงไม่ทราบว่าน้ำตาที่ร่ำไห้ออกมามันคือของจริงหรือเปล่า

หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง กู่ฉิงซานออกมาอย่างอ่อนโยนว่า “เดิมทีเจ้ามันก็ดูดีอยู่แล้วนี่ ไม่เป็นไรหรอก เอาอย่างนี้เป็นไร หากเจ้าช่วยพาข้าเข้าไปยังโลกมิติอนันต์ได้แล้วล่ะก็ ข้าจะช่วยเจ้ามองหานายหญิงที่มีสัดส่วนและรูปร่างสมบูรณ์แบบให้เป็นไง แล้วเจ้าจะได้ไปต่อสู้ในวงการแฟชั่นอีกครั้ง แบบนี้ดีหรือไม่?”

“จริงๆ หรือ?” บิกินี่ชมพูหยุดร้องและเอ่ยถามเสียงสูง

“ข้าไม่เคยลวงหลอกผู้คนทั่วไป”

“โอเค ถ้าอย่างงั้นก็ตกลง!”

น้ำเสียงของบิกินี่ชมพูเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นอีกครั้ง

มันเปลี่ยนรูปกลายเป็นห่วงชูชีพว่ายน้ำดังเดิมทันที และสวมเข้ารอบเอวของกู่ฉิงซาน

“รอก่อนเถอะโลกมิติอนันต์ พวกเราจะไปเยือนแกแล้ว!” มันตะโกน

แล้วห่วงชูชีพกับกู่ฉิงซาน ก็ว่ายลอยตามกระแสน้ำไป

สถานที่แห่งนี้คือโลกอันแปลกประหลาด

บนท้องฟ้าอันมืดมิด ถูกประดับประดาด้วยดวงดาราอันสว่างไสว

แสงดาราสะท้อนเข้ากับน้ำทะเล

สายลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่าน

กระแสน้ำซัดสาดอย่างเงียบๆ

ชายคนหนึ่งค่อยๆ ลอยขึ้นเหนือระดับน้ำทะเล

เขายืนอยู่บนผิวน้ำทะเล พร้อมกับกระตุ้นพลังวิญญาณของตน

ทันใดนั้นเอง ความชื้นจากน้ำที่ชุ่มอยู่ตามเสื้อผ้าและร่างกายก็ระเหยไปจนแห้ง

เขาเงยหน้าขึ้นหันไปมองรอบๆ

ทะเลอันไร้ที่สิ้นสุด

ไม่มีอะไรเลยนอกเหนือไปจากนั้น

เขาหยิบดิสก์ค่ายกลออกมา เพื่อต้องการจะบันทึกพิกัดของมัน

“ไม่จำเป็นต้องบันทึกพิกัดหรอก”

อีกเสียงหนึ่งดังขึ้น

มันคือเสียงของห่วงชูชีพชมพูที่สวมอยู่ตรงเอวของกู่ฉิงซาน

“ทำไมล่ะ?” เขาเอ่ยถาม

“ก็เพราะโลกใบนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพียงเพื่อเป็นสะพานเชื่อมต่อไปยังโลกมิติอนันต์ และเมื่อผู้มาเยือนได้จากไปแล้ว โลกใบนี้ก็จะถูกทำลายลง”

“มีโลกแบบนี้อยู่ด้วยงั้นหรือ?” กู่ฉิงซานไม่อยากจะเชื่อ

“แน่นอน โลกมิติอนันต์น่ะไม่ใช่ที่ๆ จะสามารถเข้าไปได้ง่ายๆ หรอกนะ บางส่วนของโลกมิติอนันต์ก็ยัง ถูกเก็บเป็นความลับ และจะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขเท่านั้นจึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้”

“ดังนั้น โลกที่ถูกใช้เป็นสะพานเชื่อมต่อเพียงครั้งเดียวนี้ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้”

กู่ฉิงซานตั้งใจฟังอย่างระมัดระวัง และในที่สุดก็เอ่ยถามออกไป “หรืออีกความหมายนึงก็คือ ตอนนี้พวกเราอยู่ไม่ไกลจากโลกมิติอนันต์แล้วใช่ไหม?”

“นั่นคือเหตุผลที่เราเดินทางมาหลายวันหลายคืน และในที่สุดก็มาถึง” ห่วงชูชีพชมพูถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า

“ข้ากำลังตั้งตารอคอยที่จะได้เห็นมัน” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างตื่นเต้น

“แน่นอน! แน่นอนอยู่แล้ว! ใครบ้างเล่าจะไม่ตั้งตารอคอย?” น้ำเสียงของห่วงชูชีพชมพูเริ่มจะกลายเป็นบ้า

มันยกน้ำเสียงขึ้นและกล่าว “เพราะมันเปรียบดั่งท่าเรือที่เป็นศูนย์กลางของการบรรจบของโลกนับล้านๆ ใบเข้าไว้ด้วยกัน มันคือดวงดาราที่เจิดจรัสที่สุดจากมวลหมู่ดาวเหลือคณาและ เป็นสถานที่พักพิงที่ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนถวิลหา”

…………………………………..........