webnovel

0232 เงามรณะ

ตอนที่ 232 เงามรณะ

ไม่นาน สิ่งของมากมายก็ถูกวางลงบนโต๊ะ

ผ้าเช็ดหน้า สมองควอนตัม ตุ๊กตาห้อยพวงกุญแจตัวเล็กๆ กระจก กล่องแต่งหน้า ผ้าขนหนู ลิปสติก ครีมทามือ ครีมกันแดด หวีขนาดเล็ก ถุงขนมซองเล็ก และไดอารี่ที่เขียนด้วยลายมือ

“เครื่องประดับของเจ้าด้วย” หญิงไร้หน้ากล่าว

ซูเซี่ยเอ๋อร์กัดฟัน ก่อนจะถอดจี้ห้อยคอวางลงบนโต๊ะ

มันเป็นเชือกสีดำที่ห้อยแหวนวงหนึ่งเอาไว้

ตัวควบคุมเพลิงนางฟ้า

หญิงอาวุโสเหลือบมองไปที่มันวูบหนึ่ง และลอบเผยยิ้มอย่างลับๆ

เธอพึมพำ “ดูเหมือนว่าจะยังมีอย่างอื่นอยู่อีกนะ”

ซูเซี่ยเอ๋อร์ไม่มีทางเลือก เธอหยิบขวดหยกและหนังสือเทคนิคฝึกยุทธที่ซ่อนเอาไว้วางลงบนโต๊ะ

สองมือของเธอวางตามลงบนขอบโต๊ะทันที และจ้องมองไปยังไพ่สีดำด้วยความประหม่า

หากสังเกตได้ถึงความผิดปกติใดๆ เธอก็พร้อมที่จะคว้าสองสิ่งนี้กลับคืนมา

“โอ้ คราวนี้ดูเหมือนว่าจะหมดจริงๆ แล้วสินะ”

หญิงอาวุโสมองดูสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ที่กองเรียงรายอยู่บนโต๊ะ สองมือยกขึ้นมาถูๆ กัน ปากเอ่ยกล่าว

“เจ้าไม่ต้องกังวลไป ไพ่ใบนี้เรียกว่า ‘โชคชะตาที่แท้จริง’ มันมีหน้าที่เชื่อมต่อกับสิ่งมหัศจรรย์ทั้งหมดในโลกใบนี้ และมีเพียงหนึ่งเดียวในจักรวาลนี้เท่านั้น”

เธอเอ่ยต่อด้วยถ้อยคำแห่งความทรงจำ “เพื่อที่จะได้ไพ่ใบนี้มา ชายของข้าจำต้องจบชีวิตลงทั้งๆ ที่ในอดีต เขาเคยเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดแท้ๆ”

ซูเซี่ยเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะถามออกมา “ไพ่...หนูหมายถึงสิ่งที่คุณกล่าวว่ามันคือเทคนิคเทียนซวนประเภทโชคชะตา แล้วทำไมมันถึงอยู่ในรูปแบบของไพ่ล่ะคะ?”

เทคนิคเทียนซวนจะถูกแบ่งออกเป็นห้าขั้น ขั้นแรกคือการปลุกสกิลเทียนซวน ขั้นสองสามารถใช้งานมันได้ทุกที่ทุกเวลา ขั้นสามปลุกมันให้ตื่นขึ้นโดยสมบูรณ์ ขั้นสี่ช่วงเปลี่ยนผ่าน และขั้นห้าวิวัฒนาการเทียนซวนให้ก้าวขึ้นไปอีกขอบเขต

นี่คือองค์ความรู้ทั่วไป แต่ซูเซี่ยเอ๋อร์ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีใครใช้เทคนิคเทียนซวนในรูปแบบไพ่ด้วย

“เจ้าไม่ควรคิดว่าเทคนิคเทียนซวนที่ทรงพลังจะต้องมีเพียงหนึ่งสกิลไปตลอดชีวิตเท่านั้น” หญิงอาวุโสกล่าว

“ในวันที่เทคนิคเทียนซวนของเจ้าแปรเปลี่ยนเป็นรูปทรงไพ่สำเร็จแล้ว นั่นจะเป็นสัญญาณว่า เจ้ากำลังจะสามารถทะลวงผ่านขั้นที่ห้า และก้าวเข้าสู่ขอบเขตใหม่ได้ในที่สุด”

“ขอบเขตใหม่?” พอได้ฟัง ซูเซี่ยเอ๋อร์ก็เริ่มรู้สึกตกใจ

หญิงอาวุโสกล่าว “ถูกต้อง ขอบเขตใหม่จะสามารถปลุกสกิลได้หลากหลายชนิดมากขึ้น ซึ่งสกิลเหล่านั้นจะแบ่งออกไปตามแต่คุณลักษณะของเจ้า มันจะถูกแบ่งออกเป็นชุดๆ ในรูปแบบของไพ่ หนังสือ ม้วนคัมภีร์ ฯลฯ”

เธอยกมือขึ้นแล้วคว้าจับไพ่สีดำเอาไว้ในมือของเธอ

“ไพ่แต่ละใบ ล้วนแล้วแต่เป็นเทคนิคเทียนซวนทั้งสิ้น” เธอเอ่ยเสริม

มองไปยังไพ่ที่อยู่ตรงกันข้าม ซูเซี่ยเอ๋อร์ก็พบว่ารูปบนไพ่ มันเป็นวงล้อรูเล็ตที่หมุนวนอย่างไม่รู้จบ ขณะเดียวกันก็ปรากฏงูสีดำเลื้อยไปมาอยู่รอบๆ รูเล็ตอีกด้วย

หญิงอาวุโสยื่นไพ่ไปหยุดอยู่เบื้องหน้าของซูเซี่ยเอ๋อร์ เอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เปิดใช้งานไพ่ ‘โชคชะตาที่แท้จริง’ เพื่อเริ่มต้นทำการสืบทอดมรดก ‘ความแข็งแกร่ง’ ที่เจ้าได้เลือกเอาไว้” เธอกล่าว

ซูเซี่ยเอ๋อร์เอื้อมมือออกมาแตะลงบนไพ่

อักษรรูนอันลึกลับและซับซ้อนในร่างกายของเธอเริ่มไหลมาตามแขน และประทับลงบนไพ่อย่างอ่อนโยน

แสงของอักษรรูนมืดสลัวลง และหดกลับเข้าไปในร่างกายของซูเซี่ยเอ๋อร์อย่างช้าๆ

ไพ่สีดำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ราวกับว่ามันประสงค์ที่จะกระทำบางสิ่งบางอย่าง

หญิงอาวุโสเห็นดังนั้น เธอก็ผงกหัวเล็กน้อย ปากเอ่ยเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ “โชคชะตาพลิกผัน”

ทันทีที่สิ้นเสียง เจ้างูดำที่เลื่อยวนอยู่ภายในไพ่ก็เชิดหัวขึ้นหันหน้ามองตรงมายังซูเซี่ยเอ๋อร์

ซุเซี่ยเอ๋อรู้สึกราวกับว่าความคิดและจิตใจของเธอถูกดวงตาคู่นั้นทะลุผ่าน แม้กระทั่งความปรารถนาที่อยู่ลึกที่สุดในจิตวิญญาณก็ยังถูกมองเห็น

ไม่กี่วินาทีต่อมา งูดำก็ค่อยๆ เลื้อยอย่างช้าๆ ผุดออกมาจากภายในไพ่ และร่วงลงบนโต๊ะ

มันเลื้อยวนไปรอบๆ สิ่งของทั้งหลายของซูเซี่ยเอ๋อร์บนโต๊ะ

หลังจากที่มันสำรวจทุกสิ่งแล้ว ปากของมันก็อ้าออก และงับหนังสือเล่มเล็กๆ พร้อมกับลากมันกลับเข้าไปในไพ่

“อ๊า!” ซูเซี่ยเอ๋อร์เริ่มร้อนรน เพราะนั่นคือสิ่งที่กู่ฉิงซานมอบมันให้แก่เธอ

ขณะที่เธอกำลังจะผุดลุกขึ้น หญิงอาวุโสก็คว้าตัวเธอไว้เสียก่อน

“อย่าพึ่งตื่นตระหนก จงเฝ้าดูต่อไป”

น้ำเสียงของอีกฝ่ายแม้จะทุ้มลึก แต่ก็แฝงไว้ด้วยความสงบและปลอบโยน ส่งผลให้ซูเซี่ยเอ๋อร์จำต้องระงับความกังวลลงอย่างไม่เต็มใจ

หนังสือเล่มนั้นถูกวางลงบนวงล้อรูเล็ตโดยเจ้างูดำ และหลังจากที่มันถูกหมุนอยู่ในวงล้อไม่กี่รอบ มันก็ร่วงตกจากไพ่กลับลงมาบนโต๊ะ

ทว่าคราวนี้ ภายในหนังสือเล่มเล็กๆ ปรากฏไพ่สีดำใบใหม่แนบติดกลับมาด้วย

“จงดึงไพ่ใบนั้นออกมาเสีย มันคือของขวัญจากไพ่แห่งโชคชะตาที่มอบให้แด่เจ้า” หญิงอาวุโสเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูจะอ่อนล้าเล็กน้อย

ซูเซี่ยเอ๋อร์หยิบหนังสือเล่มเล็กขึ้นมา และค่อยๆ ดึงไพ่สีดำที่เสียบอยู่ภายในออกมาอย่างอ่อนโยน

บนไพ่ ไม่มีอะไรเลยนอกจากรูปประตูที่เปิดแง้มออกเพียงครึ่งหนึ่งและมีแสงสว่างลอดออกมาจากภายใน

หญิงอาวุโสสูดหายใจลึก ปากเอ่ยกล่าวด้วยความประหลาดใจ “จู่ๆ เจ้าก็สามารถดึงไพ่ใบนี้ออกมาจากไพ่แห่งโชคชะตาได้เลยอย่างนั้นหรือ ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อนเลย นี่มันเคยเกิดขึ้นได้แต่ในตำนานเท่านั้น!”

“แล้วผลลัพธ์ของมันดีหรือเปล่า?” ซูเซี่ยเอ๋อร์จี้ถาม

หญิงอาวุโสเอ่ยสรรเสริญ “ไม่เพียงแค่ดี แต่นี่มันเป็นผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมเชียวล่ะ ดูเหมือนว่างูดำแห่งโชคชะตาจะชื่นชอบของชิ้นนั้นของเจ้ามากทีเดียว”

“ถ้าอย่างนั้น ไพ่ใบนี้คืออะไรหรือคะ?” ซูเซี่ยเอ๋อร์ถาม

“มันคือไพ่ที่จะนำพาเจ้าไปสู่ชีวิตใหม่”

“แค่ไพ่ใบนี้ มันจะเป็นไปได้อย่างไร”

“เจ้าจะไม่เชื่อก็ไม่น่าแปลก เพราะนี่มันค่อนข้างที่จะแตกต่างไปจากประสบการณ์ตลอดช่วงชีวิตของเจ้าโดยสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น หากเจ้าใช้มัน เจ้าก็มีโอกาสที่จะตกตายสูงมาก แต่ถ้าเจ้าสามารถผ่านมันมาได้ ทุกสิ่งอย่างย่อมจะแตกต่างไปจากที่เคยเป็นมาอย่างแน่นอน”

“โชคชะตานี้ เจ้าต้องการที่จะลองทดสอบมันหรือไม่?”

ซูเซี่ยเอ๋อร์ขบกรามแน่น “หนูขอเลือกที่จะลอง”

หญิงอาวุโสเอ่ยเสริม “เช่นนั้นเจ้ามีอะไรเร่งด่วนที่จำต้องจัดการก่อนที่จะใช้มันหรือไม่?”

ซูเซี่ยเอ๋อร์ขบคิดและกล่าว “ไม่มีอะไรสำคัญเป็นพิเศษที่จะต้องทำ”

“เช่นนั้นก็ดี เจ้าสามารถใช้มันได้เลย”

“แต่ขอจงจดจำเอาไว้ รักษาชีวิตเอาไว้ให้ดี หากเจ้าตกตายในโชคชะตาใหม่นี้ มันจะหมายถึงการตกตายของเจ้าจริงๆ”

“ทราบแล้ว ว่าแต่หนูจะใช้ไพ่ใบนี้ได้อย่างไร”

“จงถ่ายเทพลังของจิตแห่งลมเข้าไปในไพ่”

ซูเซี่ยเอ๋อร์ทำตามคำแนะนำ

วินาทีต่อมา ม่านแสงก็พัวพันห่อหุ้มกายเธอ

ก่อนที่ทั้งคนทั้งร่างจะหายวับไปจาก ‘โลกใบนี้’

หญิงอาวุโสจ้องมองดูฉากนี้อย่างเงียบๆ

เธอถอนหายใจและเอ่ยอย่างแผ่วเบา “ไม่คาดคิดเลยจริงๆ ว่าข้าจะสามารถได้เห็นถึงฉากนี้อีกครั้งด้วยตาของตัวเอง”

“ถ้าหากนางสามารถหลุดพ้นจากเงามรณะและโชคดีรอดชีวิตมาได้แล้วล่ะก็…”

ในน้ำเสียงของหญิงอาวุโส จู่ๆ ก็เผยถึงร่องรอยของความไม่สบายใจ แต่ขณะเดียวกันก็คาดหวังออกมา

ณ มหาสมุทรอันกว้างใหญ่

ซูเซี่ยเอ๋อร์ยืนอยู่บนแพไม้ที่กำลังลอยลำอยู่

เธอมองไกลออกไปสุดสายตา และพบเห็นแค่เพียงท้องทะเลอันไร้ที่สิ้นสุด ไกลจนเห็นว่าท้องทะเลและแผ่นฟ้าอันกว้างใหญ่เชื่อมต่อบรรจบกัน

ไม่มีผืนดิน

ทว่ากลับมีเพียงทางทิศใต้ของทางฝั่งทะเลเท่านั้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอก

นอกเหนือไปจากนั้นก็ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อีกเลย

“นี่ฉัน…มาอยู่ที่ไหนกันล่ะเนี่ย?”

ในหัวใจของซูเซี่ยเอ๋อร์บังเกิดความรู้สึกอันยากที่จะอธิบายออกมา

เมื่อครู่ ตนเองยังพูดคุยอยู่กับผู้พิทักษ์ของเก้าตระกูลใหญ่ ในกระท่อมไม้บนยอดเขาที่ขั้วโลกเหนืออยู่เลย

แต่ผลกลับกลายเป็นว่า ในช่วงเวลาไม่กี่วินาที เธอก็กลับถูกส่งตัวมาที่นี่เสียแล้ว

แสงตะวันทะลุผ่านชั้นเมฆสีดำ ประกายแสงสีทองที่ทะลุลงมาสาดกระทบกับท้องทะเลจนบังเกิดประกายระยิบระยับ

ซูเซี่ยเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า

เมฆถูกพัดพาออกไปตามสายลม ค่อยๆ เผยให้เห็นถึงแสงสลัวของดวงอาทิตย์ที่มีอยู่ถึงสองดวง!

ซูเซี่ยเอ๋อร์จ้องมองฉากนี้ ทั้งคนทั้งร่างนิ่งตะลึงงันอยู่นาน

“ที่นี่ไม่ใช่โลกเดิมของฉัน” เธอเอ่ยพึมพำ

ติ๊ง!

บังเกิดเสียงที่ดังฟังชัด

บรรทัดตัวอักษรขนาดเล็กปรากฏขึ้นในแนวสายตาของซูเซี่ยเอ๋อร์

“คุณได้ค้นพบความลับของมิติและห้วงเวลา”

“ยินดีต้อนรับ ผู้ได้รับมอบการทดสอบอันดับสอง”

“ขณะนี้ ได้เวลาอธิบายถึงภารกิจการทดสอบแล้ว”

“ภารกิจ...ชีวิตหรือความตาย”

“ความต้องการของภารกิจ...จงมีชีวิตอยู่รอดต่อไปให้ได้จนกระทั่งถึงสิบสองชั่วโมง”

“คำอธิบายภารกิจ...เกมไม่ได้เก็บพลังสะสมไว้เพียงพอ ดังนั้นตั้งแต่ที่ผู้ได้รับการทดสอบอันดับสองได้มาถึง ในอีกสิบสองชั่วโมงนับจากนี้ ระบบจะไม่สามารถสนับสนุนผู้เล่นได้ ผู้เล่นจะต้องหาทางเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง”

“รางวัลภารกิจ...ได้รับสถานะส่วนบุคคลในโลกใบนี้”

“คำเตือนหนึ่ง...ตามการคาดการณ์ของระบบ หลังจากนี้อีกห้านาที แพไม้ที่ลอยอยู่ใต้เท้าของผู้เล่นจะทำการดึงดูดบางสิ่งไม่ทราบชนิดที่น่าสะพรึงกลัวออกมา ขอให้ผู้เล่นรีบออกห่างจากมันอย่างเร่งด่วนที่สุด”

“คำเตือนสอง...ผู้ได้รับการทดสอบคนแรกจะตระหนักถึงการปรากฏตัวของคุณ เธอจะเริ่มตามหาตัวคุณ และพยายามฆ่าคุณทิ้ง เนื่องจากกฎของเกมยังไม่ถูกบังคับใช้โดยสมบูรณ์ ตัวเกมจึงไม่สามารถหยุดการกระทำดังกล่าว โปรดระมัดระวังตัวให้ดี”

.......................................................