ตอนที่ 210 น้ำยาปลุกเทคนิคเทียนซวน
ในห้วงจักรวาล
ภายในป้อมปราการระหว่างดวงดาว เฉินเตี้ยนเฮ่า
เสียงตะโกนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดที่ดังสะท้อนไปทั่วทั้งป้อมปราการ ผ่านไปสักพักในที่สุดก็หยุดลง
เย่เฟย์หยูทิ้งตัวนั่งลงบนพื้น ปากหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ไม่อาจเอ่ยปากพูดได้อยู่เนิ่นนาน
กู่ฉิงซานวางมือลงบนไหล่เขา ถ่ายเทพลังวิญญาณลงไปให้มันหมุนเวียนไปทั่วร่างกายอีกฝ่าย
ร่างกายของเย่เฟย์หยูยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มิได้เกิดความผิดปกติใดๆ
กู่ฉิงซานเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ นายถึงเป็นแบบนี้”
เย่เฟย์หยูเช็ดเหงื่อบนใบหน้าตน กล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “หูฉันมันรู้สึกปวดมาก ปวดจนฉันทนไม่ไหว”
“อ้าว หูของแกยังไม่ได้วิวัฒนาการอีกเหรอ?” เหลียวฮังยื่นคอออกมาจากงานที่กำลังทำอยู่และเอ่ยถาม
“บางครั้งฉันก็มักจะได้ยินเสียงแปลกๆ มันฟังเหมือนกับว่ามีสิ่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไป แต่ทว่าฉันก็แยกไม่ออกว่ามันคือเสียงอะไร” เย่เฟย์หยูกล่าวด้วยความแปลกใจ
“ถ้าอย่างนั้น ที่พอจะเป็นไปได้ก็คือ มันอาจจะเป็นเหมือนกับสัญญาณของเทคนิคเทียนซวนที่กำลังจะตื่นขึ้นในไม่ช้าก็ได้นะ” แอนนากล่าวตัดสิน
“ใช่ ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกัน” ซางหยิงฮ่าวกล่าว
หากทั้งสองคนที่ครอบครองเทคนิคเทียนซวนเอ่ยออกมาแบบนี้แล้วล่ะก็ ทุกคนคิดว่ามันคงน่าเชื่อถือและมีความเป็นไปได้อยู่หลายส่วน
ผีดิบนักฆ่ากำลังจะสามารถปลุกเทคนิคเทียนซวนขึ้นมาได้อย่างนั้นหรือ?
ในหัวใจของทุกคนขบคิดอย่างเงียบๆ และอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับมันเป็นอย่างมาก
“ไม่นานมานี้ นายได้สังหารผีดิบนักฆ่าไปแล้วมากมาย นั่นยังไม่เพียงพอที่จะวิวัฒน์ประสาทหูของนายอีกเหรอ แล้วทำไมมันถึงกลายเป็นการปลุกเทคนิคเทียนซวนไปได้กันล่ะนี่?” กู่ฉิงซานเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
“ฉันรู้สึกพลังงานที่จำเป็นในการวิวัฒน์มันเพียงพอและเกินเลยไปไกลมากแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันว่าเพราะอะไรมันถึงไม่วิวัฒน์สักที หรือว่าจะต้องใช้วิธีการอะไรบางอย่างในการกระตุ้น?” เย่เฟย์หยูเอ่ยปากอย่างกลัดกลุ้ม
เขาลูบหูและกล่าว “โชคดีที่หลังจากช่วงเวลาเจ็บปวดได้ผ่านพ้นไป มันก็พอที่จะสามารถพักฟื้นได้สักเล็กน้อย”
“ฉันว่าฉันพึ่งคิดได้ถึงความเป็นไปได้บางอย่าง” กู่ฉิงซานกล่าว “และถ้าฉันได้รับมันมา ก็อาจจะช่วยแก้ปัญหาของนายได้”
“แล้วไอ้สิ่งที่ว่านั่นคืออะไร?” เย่เฟย์หยูถาม
“สูตรน้ำยาปลุกเทคนิคทวนเซียนที่มีความบริสุทธิ์เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ ฉันอาจจะลองใช้มันกับนาย” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ทัณฑ์ปีศาจ” ขั้นสูง จำเป็นต้องการน้ำยาสามชนิด และน้ำยาปลุกเทียนซวนก็เป็นหนึ่งในนั้น
กู่ฉิงซานจะต้องเร่งทำเวลาให้ดีที่สุด ก่อนที่เขาจะกลับไปสู่โลกแห่งผู้ฝึกยุทธอีกครั้ง เขาจะต้องทำภารกิจพลังศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงให้เสร็จสมบูรณ์ให้จงได้
มิฉะนั้นแล้ว กว่าที่เขาจะได้รับน้ำยาสามชนิดนี้อีกครั้ง คงต้องรอจนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่กลับคืนสู่โลกจริงในครั้งถัดไป
แต่ถึงตอนนั้นมันคงจะสายเกินไปแล้ว และช่วงเวลาที่จะใช้สกัดพลังศักดิ์สิทธิ์อันใหม่ในขั้นแก่นทองคำก็จะได้รับผลกระทบไม่น้อย
“ระหว่างที่เกมแห่งชีวิตนิรันดร์ไม่ได้เปิดให้เล่น ฉันต้องรีบแก้ปัญหานี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เทพธิดากงเจิ้ง เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติ พบตำแหน่งที่กำหนดแล้ว มันอยู่ห่างออกไปราวๆ สามกิโลเมตร” เทพธิดากงเจิ้งกล่าว
จอม่านแสงกระจายตัวออก และทิวทัศน์อันหลากหลายของภูเขาต่างๆ ก็ปรากฏขึ้น
เทพธิดากงเจิ้งทำการปรับตำแหน่งของดาวเทียมตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งภาพบนแผนที่เกิดความเสถียร
บนหน้าจอ ปรากฏคฤหาสน์ส่วนตัวที่งดงามโอ่โถงขึ้น
ในเวลานี้ มันเป็นช่วงเวลาที่แสงยังคงสลัว บริกรจำนวนมากเดินผ่านไปผ่านมา ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจัดเตรียมอะไรบางอย่าง
ที่นี่คืออีกหนึ่งงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ ไม่ด้อยไปกว่างานเลี้ยงเต้นรำของตระกูลซู บางทีอาจจะเหนือยิ่งกว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ
“อสูรแห่งท้องทะเลและผีดิบนักฆ่ายังคงอาละวาดและสร้างความหายนะไปทั่วทุกหนแห่ง แต่พวกตัวตนระดับสูงของจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ยังคงมีเวลาว่างที่จะมาเพลิดเพลินกับงานแบบนี้ ฉันควรจะพูดว่านี่คือมนุษย์ที่พัฒนาแล้วหรือว่ามันเป็นธรรมชาติของพวกเขาอยู่แล้วดี?” เย่เฟย์หยูที่กำลังถือแก้วไวน์ ส่ายหัวเอ่ยกล่าวด้วยอารมณ์
“ฟูซีกับรัฐบาลกลางกำลังจะสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสผีดิบได้ในไม่ช้า เหลือแค่เพียงจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ซางหยิงฮ่าวกล่าว
“สมเด็จพระสันตะปาปาไม่คิดจะทำอะไรเลย ไม่สนใจถึงชีวิตของผู้คน หากพระบิดาของฉันยังคงอยู่แล้วล่ะก็…” แอนนาส่ายหัว และไม่คิดจะกล่าวต่อ
เธอพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองและเปลี่ยนหัวข้อ “นี่คืองานเลี้ยงของมาดามดู่ ไม่ว่าเวลานี้จะตกอยู่ในสถานการณ์ไหน ตราบใดที่เธอเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยง ผู้คนจำนวนมากจะต้องเข้าร่วม และแน่นอน ว่าพวกเขาทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีชื่อเสียง”
หลายคนหันมามองดูเธอ
“ดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมาดามดู่ใช่หรือเปล่า?” กู่ฉิงซานถาม
แอนนามองตอบ เอ่ยออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ “มาดามเป็นคนสนิทของพระบิดาฉันเอง และฉันก็ได้พบกับเธอหลายครั้งแล้ว แถมยังเคยขี่ม้าด้วยกันอีกด้วย”
“พระบิดาของฉันมีแฟนสาวมากมาย และฉันคิดว่ามาดามเป็นหนึ่งในคนที่ดีที่สุด”
แอนนาอธิบายอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
ทว่าเมื่อมองไปยังดวงตาที่กำลังอึ้งทึ่งของคนทั้งหลาย เธอก็เอ่ยเสริม “พระมารดาของฉันสวรรคตไปตั้งแต่ที่ฉันยังเด็ก พระบิดาจึงรู้สึกเหงาเปล่าเปลี่ยวจนเกินไป มันเลยเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีแฟนสาวหลายคนไว้พูดคุยและหลับนอน”
“แฟนสาว…หลายคน...” เย่เฟย์หยูเอ่ยเสียงต่ำ ทวนคำเดิมซ้ำๆ
“สังคมของชนชั้นสูงมันก็เป็นแบบนี้แหละ” เหลียวฮังก้มหน้าลงและกล่าวอย่างเงียบๆ
เย่เฟย์หยูยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ แล้วบ่นพึมพำ “สังคมของชนชั้นสูง ช่างฟังดูห่างไกลจากตัวฉันจริงๆ”
“เอาล่ะๆ พวกนายก็พักอยู่ที่นี่แหละ อย่าลืมพยายามสัมผัสให้ได้ถึงความเจือจางของพลังวิญญาณด้วยล่ะ ส่วนฉันขอตัวไปยังจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ก่อน” กู่ฉิงซานจบหัวข้อสนทนา
“นายต้องการไปจะจริงๆ เหรอ?” แอนนาถาม
“ใช่ ฉันต้องการสูตรน้ำยาเทียนซวนน่ะ” เขากดลงบนจอม่านแสง และเอ่ยถาม “ที่เธอบอกใช่ตรงนี้รึเปล่า”
“ไม่ ไปทางซ้ายอีกหน่อย” แอนนากล่าว
“ตรงนี้สินะ?”
“ใช่ ตรงนั้นแหละ มันอยู่บนชั้นสาม ห้องหมายเลขเจ็ด จากทางขวามือ เดินไปก็จะพบกับห้องจัดแสดงของที่ระลึกทางการทูต”
กู่ฉิงซานจ้องมองภาพอย่างเงียบๆ แล้วก็พบกับห้องที่ว่า
แอนนากล่าวต่อ “หลังจากที่นายเข้าไปแล้ว ให้ตรงไปจนกว่าจะถึงสุดทางเดิน แล้วก็นายก็จะพบกับภาพแขวนบนผนัง”
“มันคือภาพอะไร?”
“เป็นภาพที่พระบิดาร่วมฉลองวันเกิดฉันตอนอายุได้สิบขวบ”
“พระบิดาของเธอเก็บซ่อนสูตรน้ำยาอีกครึ่งหนึ่งไว้หลังภาพนั้นเหรอ?”
แอนนา “ถูกต้อง มันมีสูตรยาอีกครึ่งอยู่ที่นั่น และอีกครึ่งอยู่ที่ฉัน เรื่องนี้มีเพียงแค่ฉันกับพระบิดาเท่านั้นที่รู้”
กู่ฉิงซานจัดเรียงภาพในจอม่านแสง และทำการล็อกตำแหน่งของห้องนั้นไว้
“เทพธิดากงเจิ้ง”
“ฉันอยู่นี่ ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมแล้ว เหลือเพียงแค่รอคำสั่งจากคุณ”
“อย่างนั้นนมาเริ่มกันเลย”
“ทราบแล้ว ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติ สถานะใหม่ของคุณคือ ทูตทางการทหารของรัฐบาลกลางที่มาเยือนจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ มีชื่อว่า จางเหรินเจี๋ย”
“วันนี้เป็นครั้งแรกที่คุณได้มาเยือนจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ และพึ่งเข้ารับตำแหน่ง”
“คุณจะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงเพื่อกระชับสัมพันธ์ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลกลาง”
“ถ้าคุณต้องการที่จะไปให้ทันงานเลี้ยงอาคารค่ำ และเข้าสู่คฤหาสน์อย่างเป็นทางการ คุณจำเป็นต้องเร่งมือแล้ว”
“แล้วฉันจะเร่งไปที่นั่นได้ยังไง?”
“เริ่มทำการร่างแผนที่ใช้เวลาลอบเข้าไปได้เร็วที่สุด เงื่อนไขคือต้องหลีกเลี่ยงเรดาห์ทั้งหมด”
“กรุณาฉีดน้ำยาตัวแทนพันธุกรรมเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของคุณชั่วคราวด้วย”
กู่ฉิงซานเปิดกล่องเล็กๆ ที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน และพบว่าภายในมีเข็มฉีดยาวางอยู่
“เข้าใจแล้ว ต้องลำบากคุณอยู่เรื่อยเลย”
หลังจากที่ฉีดมันลงไป รูปร่างลักษณะของกู่ฉิงซานก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
บัดนี้ เขากลายเป็นชายที่มีตาชั้นเดียว ร่างกายกำยำบึกบึน ตามแบบฉบับสไตล์ทหาร
“ฉันจะอยู่ในรูปลักษณ์นี้ได้นานแค่ไหน” เขาเอ่ยถาม
“ห้าชั่วโมง” เทพธิดากงเจิ้งกล่าว
“แค่นั้นก็พอแล้ว”
ณ ขณะนี้ เหลียวฮังที่กำลังถืออุปกรณ์โลหะทรงกระบอก ก็ได้เดินเข้ามาอย่างยากลำบาก
“รีบถือมันเร็ว ฉันยกมันต่อไปไม่ไหวแล้ว!” เขาตะโกน
กู่ฉิงซาน รับเอาอุปกรณ์โลหะมา แล้วยกมันขึ้นมาสำรวจเล็กน้อย
มันเป็นอุปกรณ์โลหะที่สูงเท่ากับครึ่งช่วงตัวของคน ชนิดที่ว่าขนาดใช้สองมือถือก็ยังไม่สะดวก แถมยังมีน้ำหนักมากอีกด้วย
“นี่คือเครื่องจัมป์อย่างนั้นเหรอ?” เขาถาม
“มันเป็นเครื่องจัมป์ขนาดพกพารุ่นทดลอง คู่มือการใช้งานได้ถูกส่งผ่านไปยังสมองควอนตัมของแกแล้ว” เหลียวฮังอ้าปากหอบหายใจอย่างหนัก
กู่ฉิงซานเปิดสมองควอนตัมของเขา กวาดสายตามองลงบนคู่มือ ในขณะเดียวกันก็พยายามลองเล่นกับอุปกรณ์โลหะชิ้นนี้ดู
เขากล่าว “นี่มันใหญ่เกินไป แถมน้ำหนักก็มาก จริงอยู่ที่ฉันสามารถใช้งานมันได้ไม่มีปัญหา แต่ติดตรงที่มันไม่สะดวกที่จะพกพา”
เหลียวฮัง “ฉันรู้ดีน่า แต่นี่มันเป็นแค่ผลงานรุ่นทดลองเบื้องต้นเท่านั้น ตราบใดที่มันประสบความสำเร็จ หลังจากนั้นทุกอย่างจะราบรื่นเอง”
“ตกลง ถ้าอย่างนั้นก็ดี” กู่ฉิงซานกล่าว
แล้วจู่ๆ เหลียวฮังก็กลับกลายเป็นจริงจังและกล่าวต่อว่า “ผลงานชิ้นทดลองนี่นับเป็นหนึ่งในความสำเร็จมากที่สุดในปัจจุบัน มันสามารถทนต่อการจัมป์ได้รวมๆ แล้วสามครั้ง และแต่ละครั้งสามารถจัมป์ได้เพียงคนเดียว แกต้องจดจำจำนวนครั้งที่ใช้งานของมันให้ดี”
“สามครั้ง แค่นั้นก็นับว่าเพียงพอแล้ว”
“นายจะไปคนเดียวจริงๆ อย่างนั้นเหรอ?” แอนนาถาม
“อืม คนเดียวมันง่ายที่จะถอนกำลัง ถ้าไปกันหลายคนมีแต่จะสร้างปัญหามากขึ้น”
แอนนาไม่ตอบ เพียงแค่จ้องมองเขาด้วยสายตากังวล
กู่ฉิงซานตบเบาๆ ลงบนเครื่องจัมป์ขนาดพกพา และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “มีเจ้าสิ่งนี้ ฉันก็สามารถกลับมาหาเธอได้ตลอดเวลา วางใจเถอะ”
นอกจากนี้ จริงๆ เครื่องจัมป์ได้ถูกกำหนดสถานที่ที่จะถูกส่งตัวไปตั้งไว้ล่วงหน้าแล้ว ฉะนั้นมันไม่สมควรที่จะมีอันตรายใดๆ
แอนนากัดริมฝีปากและกล่าวด้วยความกังวล “ถ้าอย่างนั้นฉันขอเตือนอีกอย่างเดียว...จงระวังพระสันตะปาปาเอาไว้ให้ดี!”
...........................................................