ตอนที่ 103 เลือกจากหนึ่งในสี่
เขาพยายามสงบสติอารมณ์ให้มั่นคง และมองไปยังหน้าต่างระบบเทพสงคราม
ไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นมากมายก็ตาม แต่อันดับแรกคงต้องรับรางวัลก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
นอกเตาหลอม สีหน้าของห่านขาวและฉินเซี่ยวโหลวปรากฏเลือดฝาดขึ้น ทั้งสองต่างพากันถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
“รอดไปที” ฉินเซี่ยวโหลวมิได้ทำสมาธิควบคุมลมหายใจต่อ เขาผุดลุกขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ เหยียดแข้งขาและกล่าว “ดูจากโชคของเขาในตอนนี้ คิดว่าเมื่อเข้าสู่ขอบเขตก่อตั้งก็คงจะไม่แคล้วสามารถปลุกพลังศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้ด้วยเช่นเดียวกัน”
“ตัวคนไม่เป็นอะไรต่างหากคือสำคัญ เรื่องพลังศักดิ์สิทธิ์น่ะช่างหัวมันเถิด” ห่านขาวเอ่ยอย่างแผ่วเบา
“แล้วตกลงศิษย์พี่สามจะเป็นอะไรไหม?” ซิวซิวที่เพียงรับฟังทั้งสองมาโดยตลอดกล่าวออกมา
“ไม่เป็นอะไรหรอก” ห่านขาวพยักหน้าให้เธอ
ท่าทีของซิวซิวพลันผ่อนคลาย บนใบหน้าปรากฏซึ่งรอยแย้มยิ้ม
ในหน้าต่างระบบเทพสงคราม บังเกิดวงแหวนสี่รูปแบบขึ้นพร้อมกัน
เส้นแสงหิ่งห้อยแต่ละอัน ลอยล่องอยู่เบื้องหน้าของวงแหวนทั้งสี่
“การสกัดพลังศักดิ์สิทธิ์เสร็จสิ้นลงแล้ว เนื่องจากผลประเมินของภารกิจที่ผู้เล่นปฏิบัติได้คือ เอส ดังนั้นจำนวนสูงสุดที่ทำการสกัดขึ้นได้คือ สี่”
“ร้องขอให้ผู้เล่นเลือกหนึ่งในสี่พลังศักดิ์สิทธิ์ ที่ต้องการจะปลุกมันขึ้นมา”
แน่นอนว่ายิ่งจบภารกิจได้สมบูรณ์แบบมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งส่งประโยชน์ต่อกู่ฉิงซานมากขึ้นเท่านั้น กู่ฉิงซานพลันตระหนักได้ในทันที
หากเขาไม่คิดทำอะไรเลย บางทีเมื่อเกิดการสกัดพลังศักดิ์สิทธิ์ เกรงว่าคงมีเพียงตัวเลือกเดียว
มองไปยังไอค่อนทั้งสี่ พวกมันก็พลันสว่างวาบ พร้อมกับคำอธิบายที่ปรากฏขึ้นถัดจากไอค่อน
ไอค่อนแรกเป็นรูปนาฬิกา
ไอค่อนนี้โดยธรรมชาติแล้วมันคือตัวแทนของพลังศักดิ์สิทธิ์ในหมวดหมู่เวลา
หัวใจของกู่ฉิงซานเต้นครึกโครมอย่างแรง
เขารีบเลื่อนสายตาลงและกวาดผ่านคำอธิบาย
“เทคนิคเทียนซวน คำประกาศก้องแห่งห้วงเวลา”
“คำอธิบาย ในวันเกิดอายุครบรอบยี่สิบสองปีของผู้เล่น ช่วงเวลายี่สิบนาฬิกา ผู้เล่นจะสามารถใช้สกิลนี้ได้ โดยคำประกาศดังกล่าวจะดังก้องไปทั่วทั้งโลกให้ผู้คนได้รับรู้”
ผายลมเถอะ! นี่มันไม่มีประโยชน์เลยไม่ใช่หรือไร
สมแล้วที่เป็นสไตล์รูปแบบของเทคนิคเทียนซวน ช่างเป็นสกิลที่ฉีกทุกกฎเกณฑ์จริงๆ
ขมับของกู่ฉงซานผุดรอยเส้นเลือดขึ้น เขาเลือกที่จะละเลยไอค่อนนี้โดยตรง
ไอค่อนที่สองคือรูปกำปั้น
“หวูเต๋ากุ่ยชั่ง หวนคืนไร้ลักษณ์ หมัดสุญญากาศ”
“คำอธิบาย สามารถใช้มือเปล่าโจมตีศัตรูที่อยู่ภายในระยะสามเมตรได้”
นี่มันเป็นสกิลของพวกนักสู้หวูเต๋า แม้จะเป็นสกิลที่ดี แต่กู่ฉิงซานตัดสินแล้วว่าจะเลือกเดินในวิถีแห่งดาบ
เขาจึงยอมตัดใจจากสกิลนี้ด้วยความเสียดายเล็กน้อย
ไอค่อนที่สามเป็นรูปใบหน้าของหญิงสาว
“เทคนิคเทียนซวน แปลงร่างกลับกลายเป็นหญิง”
“คำอธิบาย การใช้ออกด้วยสกิลนี้จะส่งผลให้ร่างกายของผู้เล่นแปรเปลี่ยนเป็นหญิง ความงดงามเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณหลายพันเปอร์เซ็นต์ และความแข็งแกร่งโดยรวมเพิ่มสูงขึ้น หนึ่งร้อยสิบห้าเปอร์เซ็นต์”
ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอ่านคำอธิบายจนจบ กู่ฉิงซานตัดตัวเลือกนี้ออกไปอย่างไม่ลังเล
ในช่วงเวลานี้หัวใจของเขาเริ่มจะกระสับกระส่ายเล็กน้อยแล้ว
นี่ก็ผ่ามา สามสกิลแล้ว ทว่าจนกระทั่งตอนนี้ยังไม่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ใดที่สอดคล้องกับความต้องการของเขาเลย
หากสกิลสุดท้ายยังไม่เหมาะสมกับเขาจริงๆ กู่ฉิงซานก็คงจำเป็นต้องเลือกหมัดสุญญากาศ เพราะจะดีจะร้ายมันก็ยังเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์
กู่ฉิงซานถอนหายใจและเบนสายตาไปยังไอค่อนตัวสุดท้าย
ในไอค่อนที่สี่ ปรากฏรูปของงูสีเงินสองตัวที่เจิดจรัส
เมื่อเขาจ้องมอง งูทั้งสองก็เข้าพัวพันกันอย่างรวดเร็ว แลดูคล้ายการร่ายรำของหงส์และมังกร ก่อนจะปรากฏสองตัวอักษรจีนขนาดใหญ่เบื้องหน้าเขาใจความว่า
“ทัณฑ์ปีศาจ”
จ้องมองไปยังสองตัวอักษรนี้ หัวใจของกู่ฉิงซานพลันกระตุกวูบ
“มันคือทัณฑ์ปีศาจจริงๆ หรือนี่”
เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้าน
โดยไม่จำเป็นที่จะต้องอ่านคำอธิบาย กู่ฉิงซานได้ทำการเลือกพลังศักดิ์สิทธิ์นี้เลยโดยตรง
“ผู้เล่นได้ทำการเลือกทัณฑ์ปีศาจ ซึ่งเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง ทำการส่งมอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
“นับจากนี้อีกสิบวินาที ผู้เล่นต้องเลือกประเภทของสายฟ้า ว่าต้องการตัวเลือกสนับสนุนชีวิตหรือมุ่งเน้นสังหารความตาย”
บนหน้าต่างสถานะของระบบเทพสงคราม วงแหวนที่เขาเลือกค่อยๆ ร่วงหล่นลง และตกลงไปยังปุ่มแถวด้านล่างที่ถูกปกคลุมด้วยสีดำทึบตลอดมา และเข้าไปแทนที่หนึ่งในปุ่มเหล่านั้น
เดิมทีปุ่มสีดำทึบทั้งหลาย ในอดีตที่ส่องสว่างมีแค่ ‘วิชายุทธเทพสงคราม’ เท่านั้น ทว่าตอนนี้มันได้เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแล้ว โดยวงแหวนอันใหม่นี้
ในวงแหวน ไอค่อนน้อยๆ พลันสว่างขึ้น
หากจ้องมองอย่างใกล้ชิด คุณจะพบว่ามีคำว่า ‘ทัณฑ์ปีศาจ’ เขียนเอาไว้อยู่
วงแหวนทั้งหมดหายไปในความว่างเปล่า เหลือทิ้งไว้เพียงอย่างเดียวคือพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเลือกและกำลังลอยเด่นอยู่เบื้องหน้าในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม เพียงเท่านี้กู่ฉิงซานก็พอใจมากแล้ว
นี่คือพลังของหวูหังเฉาฟ่านห้าธาตุจำเพาะ เป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างพากันปรารถนาจะครอบครองแม้กระทั่งในความฝัน
พลังวิญญาณธาตุสายฟ้า!
ธาตุสายฟ้า เป็นธาตุปฏิปักษ์ที่มีอำนาจการทำลายล้างต่อเผ่ามาร ไม่ว่าจะเป็นในด้านพลังหรือเทคนิคมนตราของมันก็ล้วนแล้วแต่น่าอัศจรรย์ใจยิ่ง
ในชีวิตก่อนหน้า มีชายคนหนึ่งที่สามารถปลดผนึกรากวิญญาณสายฟ้าได้ เขาทำการปล้นเรือรบ และบุกตะลุยฝ่าวงล้อมของมอนสเตอร์เอกภพ หลุดพ้นสู่ชั้นบรรยากาศนอกโลก จากนั้นก็เริ่มเฟ้นหาดาวเคราะห์ที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้เพื่อหลบซ่อน
และเขาก็ค้นพบกับสถานที่ดังกล่าวจากการค้นหาข้อมูลมาล่วงหน้า และที่นั่นแทบจะไม่มีมอนสเตอร์เอกภพปรากฏตัวขึ้นมาเลย
ด้วยวงจรและระบบนิเวศบนเรือรบ และกระแสไฟฟ้าที่เขาสามารถสร้างมันได้ด้วยตนเอง ทำให้เพียงพอต่อการใช้งานได้ถึงห้าสิบปี!
ช่วงระยะเวลาห้าสิบปี นับจากวันสิ้นโลก ก็กล่าวได้ว่าเพียงพอแล้วที่จะใช้ชีวิตอยู่จนสิ้นอายุขัย
ในช่วงปีสุดท้ายอันมืดมิดของวันสิ้นโลก ชายคนนั้นได้ใช้เครื่องมือสื่อสารโพสต์คลิปวิดีโอการใช้ชีวิตอันหรูหราและสะดวกสบายของตนเองลงมายังโลกเบื้องล่างในทุกวี่ทุกวัน
ใช่แล้ว ยามที่เขาจากไป เขาได้นำแฟนสาวสวยผมทองติดตามไปด้วย
นอกจากนี้ยังมีสุนัข
และในช่วงก่อนวันสิ้นโลกตัวเขาเองก็ยังเป็นพ่อครัว
เรื่องอาหารการกินจึงไม่นับว่าเป็นปัญหา กล่าวได้ว่าชีวิตนั้นของเขามีทุกสิ่งเพียงพอแล้ว
แต่ช่วงชีวิตอันโชติช่วงของเขากลับมีระยะเวลาเพียงแค่เจ็ดปีเท่านั้น ในปีที่แปด มอนสเตอร์เอกภพได้เคลื่อนผ่านและสังเกตเห็นยานรบของเขาพอดี จึงกวาดกินเอาทั้งยานรวมถึงชีวิตของเขาจากไปด้วย
เมื่อข่าวนี้ได้แพร่มาถึงโลก มันก็กระจายออกไปเป็นวงกว้าง ผู้คนที่สามารถรอดชีวิตมาได้จนถึงปีที่แปดต่างก็พากันสะใจ
ทว่านั่นมันก็เป็นการใช้รากวิญญาณสายฟ้าในแง่ลบมากที่สุด และมันไม่พึงประสงค์อย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขากระทำก็เพียงพอแล้วที่จะบอกได้ว่าคุณประโยชน์ของธาตุสายฟ้านั้นมากมายเพียงไร
ในเตาหลอม คู่ดวงตาของกู่ฉิงซานเบิกออก
ชัดเจนแล้วว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกปลุกขึ้นมาแล้ว แล้วเหตุใดเขายังจะต้องเลือกประเภทของมันอีก?
“ถ้าอย่างงั้นก็...เริ่มทำการเลือก!”
วินาทีต่อมา โลกทั้งใบก็หายวับไปในทันใด
กู่ฉิงซานปรากฏตัวขึ้นที่สันเขาสูง เขายืนอยู่บนถนนสายเล็กๆ ที่ทอดยาวออกไป
นี่เป็นช่วงเวลากลางดึก บนท้องฟ้าเดิมทีร่วงโรยไปด้วยฝนพรำ ทว่าเมื่อกู่ฉิงซานปรากฏตัวขึ้น สายฝนก็ราวกับมีชีวิต มันหยุดลงในทันใด
ชั่วขณะหนึ่ง ทุกสรรพเสียงในธรรมชาติพลันเงียบลงอย่างสมบูรณ์ สายลมยามค่ำ พัดผ่านอย่างเชื่องช้า สายฟ้าสาดประกายแวบ! แต่ไม่ส่งเสียงใดๆ
ราวกับว่าทั่วทั้งสวรรค์และโลกกำลังเฝ้ารออะไรบางอย่างอยู่
บรรทัดข้อความปรากฏขึ้นท่ามกลางอากาศที่ว่างเปล่าเบื้องหน้ากู่ฉิงซานอย่างเงียบๆ
“สายฟ้าเล่ย ภายนอกคือหยิน ภายในคือหยาง ปั่นป่วนหมุนเวียนไปมา มันมีเสียง และสสาร”
“ไฟฟ้าเดี๋ยน ภายนอกมีทั้งหยินและหยาง สามารถระเหยในอากาศ ทว่าขณะเดียวกันก็ยังเป็นไฟฟ้า พวกมันเหล่านั้นไร้เสียง”
“สายฟ้าคำรณเล่ยถิ ภายในเป็นทั้งหยิงและหยาง เป็นการดำรงอยู่ที่มีเพียงแค่การฆ่า มีกฎเพียงหนึ่งเดียวคือการฆ่า ฆ่าสังหารไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด หรือแม้กระทั่งตัวเจ้าของเอง”
‘คุณมีเวลา หนึ่ง นาทีเพื่อทำการเลือก’
กู่ฉิงซานจ้องมองมันอย่างเงียบงัน จิตใจของเขาจมลงสู่ห้วงความคิด
เขามีความรู้ในด้านธาตุทั้งห้าและห้าธาตุจำเพาะอยู่ในระดับที่สูงกว่าปกติ ทว่าเขากลับไม่รู้เลยว่าพลังวิญญาณธาตุสายฟ้าจะมีการจำแนกประเภทด้วย?
โดยทั่วไปแล้วคนที่สามารถปลุกธาตุทั้งห้าหรือห้าธาตุจำเพาะได้ก็นับว่าหาได้ยากยิ่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะธาตุสายฟ้ายิ่งหายากเข้าไปใหญ่
แล้วฉันสมควรจะเลือกประเภทไหนดี?
มีเวลาจำกัดแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น
กู่ฉิงซานตัดสินใจทำการเลือกอย่างรวดเร็ว
จริงๆ แล้วเขาไม่ได้สนใจสายฟ้าคำรณเล่ยถิง เลย เพราะเขาเป็นผู้ฝึกดาบ การล่าสังหารโดยคมดาบก็นับว่าเพียงพอแล้ว
แถมจริงๆ ที่บอกว่ามันมีกฎเพียงหนึ่งเดียวคือการฆ่า แต่แท้จริงแล้วมันจะทำให้ผู้ฝึกยุทธเกิดความสับสนในด้านผิดชอบชั่วดี และอาจจะส่งผลกระทบต่อการทะลวงสู่ขอบเขตอื่นอย่างแท้จริง
ครั้งหนึ่งในโลกก่อนหน้า กู่ฉิงซานเคยเห็นผู้ฝึกยุทธที่ใช้พลังวิญญาณธาตุสายฟ้า ‘สายฟ้าคำรน’ ต่อสู้กับศัตรู
สายฟ้าของเขาช่างทรงพลังอย่างแท้จริง กลิ่นอายของมันเต็มไปด้วยการทำลายล้าง
แต่ก็แน่ล่ะ หากในช่วงชีวิตก่อนหน้า คุณเป็นผู้เล่นก็ต้องเลือกสายฟ้าคำรนอยู่แล้ว เพราะมันเป็นสายล่าสังหารที่เน้นสไตล์ไปทางการโจมตีที่รุนแรง
ทว่าสำหรับกู่ฉิงซาน เขาเชื่ออย่างสุดใจในวิถีดาบของตนเอง เขามั่นใจว่ามันย่อมไม่มีทางด้อยไปกว่าพลังวิญญาณธาตุสายฟ้าประเภทล่าสังหารของผู้ฝึกยุทธคนใดอย่างแน่นอน
........................................