"พ่อ!" เจแปนที่เห็นชายที่เดินออกมาก็รีบวิ่งเข้าไปหาด้วยความดีใจ จนลืมไปแล้วว่าชายคนนี้คือคนที่ทำให้ฮันต้องนั่งอาบเลือดอยู่ตรงนั้น
เมื่อชายคนนั้นเห็นเจแปนที่วิ่งเข้ามาก็ยกปืนจ่อหน้าลูกชายของตนทันทีก่อนจะหันไปเห็นคนอื่นๆ ที่อยู่ตรงนั้น
"ว่าไงลูกพ่อ" ชายคนนั้นพูดขึ้นก่อนจะใช้สายตามองไปที่โซลลูกชายคนแรกของตน "อย่ามาเรียกตัวเองว่าพ่อ" โซลตอบกลับชายตรงหน้าก่อนจะหันไปมองฮันที่ตอนนี้สลบไปแล้วกับเจแปนที่ถูกคนที่ชื่อว่าพ่อของตนกำลังเอาปืนจ่อหัวน้องชายของเขาอยู่
"แกทำอะไรฮัน" สกายถามคนตรงหน้า "ทำอะไรอย่างงั้นเหรอ ก็ทำแบบนี้ไง" ชายตรงหน้ากล่าวออกมาก่อนจะออกแรงตบลูกชายคนที่สองของตน "โอ๊ย" เจแปนที่โดนตบอย่างแรงก็ถึงกับล้มลงไป "อะไรกัน อ่อนแอกันจริงๆ เลย" ชายคนนั้นพูดออกมาก่อนจะจ่อปืนไปที่เจแปนและเตรียมจะลั่นไก
ปัง!
เลือดค่อยๆ ไหลออกมาจากลำตัวของโซล ใช่ เขาวิ่งมาบังให้น้องของตน เจแปนที่เห็นโซลโดนยิงต่อหน้าต่อตาก็น้ำตาไหลออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ "รักกันดีจริงๆ เลยนะ" ชายคนนั้นพูดออกมาอย่างประชดประชัน "แกทำแบบนี้ไปทำไม" ชาร์ลีถามชายคนนั้นพร้อมกับค่อยๆ พยุงเจแปนและโซลขึ้น "ทำไมน่ะเหรอ" ชายคนนั้นเว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา
"ก็ไอ้เด็กเวรนี่กับแม่ของมันทำให้แผนของฉันพังน่ะสิ" เขาพูดก่อนจะหันกลับไปยิงที่ท้องของฮันหนึ่งนัด
ปัง!
"รู้อะไรไหม ความจริงแล้วฉันน่ะ ไม่ได้เข้าไปอยู่ในคุกด้วยซ้ำพวกแกก็น่าจะรู้ดีว่าศาลน่ะแพ้อะไร เงินยังไงล่ะ ฉันก็แค่ยัดเงินนิดๆ หน่อยๆ ให้มันก็แค่นั้น" ชายคนนั้นพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าโซล "แกอยากรู้ไหมว่าฉันหาตัวไอ้เด็กเวรนี่เจอได้ยังไง" เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่อ
"ก็ไอ้น้องชายที่แสนน่ารักของแกน่ะสิ มันเป็นคนบอกฉันทุกอย่างหลอกง่ายจริงๆ เลยนะเจแปน ฉันจะบอกอะไรให้นะโซล ถ้าแกไม่หนีฉันออกมา ป่านนี้แกก็คงได้ฆ่าไอ้นี่ด้วยตัวเอง"
ปัง!
ชายคนนั้นยิงอีกนัดเข้าไปที่ขาของฮันทำให้ฮันที่สลบไปรู้สึกตัวอีกครั้งก่อนที่ฮันจะหันกลับมาบอกพวกเขาให้ออกไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน
"อ้าว ตื่นแล้วงั้นเหรอ" ชายคนนั้นหันไปหาฮันและกำลังจะใช้หมัดต่อยเข้าไปที่คนตัวเล็กแต่กลับถูกดึงไว้ด้วยลูกชายของตนแทน "พ่อ พอได้แล้ว" เจแปนที่ดึงพ่อของเขาอยู่ได้แต่ร้องไห้ให้กับการกระทำของผู้เป็นพ่อและความรู้สึกผิดที่ตนเป็นคนบอกทุกอย่างให้เขาได้รู้
เขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพ่อของเขาถึงทำแบบนี้ เขารู้แต่เพียงว่าตอนนี้พ่อกำลังทำร้ายฮันและทำร้ายพี่ชายของเขา เขาอยากจะขอโทษที่ถ้าเขาฟังโซลว่าอย่าตอบแชทพ่อ เขาอยากจะขอโทษที่บอกทุกอย่างกับพ่อของเขาไป เขาอยากจะขอโทษที่เขาไม่ดูฮันให้ดีจนมันกลายเป็นแบบนี้
.
"นี่มันหุ่นยนต์นี่" เลวิสพูดก่อนจะยิงเข้าไปอีกนัดที่แขนข้างที่มันถือมีดอยู่ "มีความเป็นไปได้ว่าหุ่นตัวนี้จะเป็นคนฆ่าหมอพิชนะ" คริสพูด เลวิสพยักหน้าตอบ ก่อนที่เขาจะบอกให้ทิมโทรหามาร์โคและเล่าเรื่องทั้งหมด ทิมที่ได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งออกไปทันที
.
"ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกน้องของฉันมันจะทำงานพลาดถึงขนาดที่เอาตัวไปปล่อยผิด หึ" ชายคนนั้นพูดก่อนจะสะบัดมือของเจแปนให้ออกไปให้พ้นๆ ข้อมือของตน
"แกคือลูกชายของไอ้มาร์โคใช่ไหม" ชายคนนั้นพูดก่อนจะชี้ไปที่ชาร์ลี "ถ้าใช่แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับแก" ชาร์ลีตอบชายคนนั้น "ถ้างั้นก็บอกพี่ชายของแกให้ระวังตัวดีๆ หน่อยก็แล้วกัน" เมื่อได้ยินชายคนนั้นพูดชาร์ลีก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อตอนที่เขาถามเรื่องที่ฮันหายตัวไป คริสกลับตอบเขามาว่าฮันอยู่ที่บ้าน แล้วแบบนี้ใครกันล่ะ ใครอยู่ที่บ้านของพวกเขา
.
หลังจากจัดการกับหุ่นตัวนั้นเรียบร้อยแล้วคริส เลวิสและทิมก็จัดการนำหุ่นตัวนั้นไปไว้ที่สถานีตำรวจ ก็อย่างว่าแหละ ต่อให้เก่งแค่ไหนถ้าโดนรุมก็คงไม่ต่างจากปลาที่ดิ้นอยู่บนพื้น
เมื่อพวกเขาเจอมาร์โคก็พากันไปยังสถานที่ที่ชาร์ลีส่งมาให้เพื่อที่จะไปหาฮันและคนอื่นๆ
.
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่จากปืนของชายตรงหน้าสกายแต่เป็นเสียงปืนที่ดังมาจากทางหน้าทางเข้า กระสุนจากการยิงนัดนั้นส่งผลให้ชายตรงหน้าของเขาล้มลงไป เจแปนที่เห็นว่าเขาล้มลงไปก็อดไม่ได้ที่จะไปดูถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะทำอะไรพี่ชายและเพื่อนของเขา แต่อย่างไรเสียเขาก็ยังคงเป็นพ่อของเจแปนอยู่ดี
ชายคนนั้นถูกยิงเข้าที่หน้าท้องฝั่งซ้าย เลือดไหลออกมาไม่หยุดแต่สภาพนั้นก็ยังดูดีกว่าฮันที่นั่งอยู่บนเก้าอี้และไม่รู้สึกตัวเป็นไหนๆ
คนที่ยิงชายคนนั้นปรากฏตัวขึ้นและรีบวิ่งเข้ามาทันที คนที่ยิงชายคนนั้นก็คือมาร์โค มาร์โควิ่งมาจับชายคนนั้นเข้าไปในรถก่อนจะบอกให้คริสพาคนที่บาดเจ็บไปที่โรงพยาบาลด้วย
.
หลังจากที่ทุกคนมาถึงโรงพยาบาลตอนนี้อาการของทิมดีขึ้นแล้วเพราะเขาโดนเพียงแค่มีดเท่านั้น แต่ที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้คือโซลและฮันที่ถูกยิง
"พี่คริสโซลเป็นยังไงบ้าง" เสียงของน้องชายที่ถามถึงพี่ชายของตนดังขึ้นหลังจากที่เจแปนไปดูฮันมา "ดีขึ้นแล้ว ฮันล่ะ" คริสตอบและถามเขากลับในประโยคเดียว "ยังไม่ออกจากห้องฉุกเฉินเลยครับ"
อาการของโซลในตอนนี้ถือได้ว่าคงที่แล้ว ยังคงเหลือแต่ฮันที่ถูกยิงเข้าไปถึงสองนัดและยังถูกทำร้ายร่างกายสาหัดที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกจากห้องฉุกเฉิน
"ถ้าอย่างนั้นเราไปดูฮันกันไหม" สกายถามขึ้น "อืม ไปสิ เดี๋ยวเฝ้าโซลให้เอง" เจแปนบอก สกายพยักหน้าให้เพื่อนของตนก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับคริส ทิม เลวิสและชาร์ลี
.
ทั้งสี่ที่เพิ่งเดินมาถึงแผนกฉุกเฉินได้แต่ยืนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าเมื่อหมอและพยาบาลต่างพากันวิ่งเข้าออกห้องของฮันกันอย่างวุ่นวาย "ขอโทษนะครับ มันเกิดอะไรขึ้น" เลวิสถามญาติของผู้ป่วยคนอื่นว่ามันเกิดอะไรขึ้นเพราะเขาเองก็ไม่อยากรบกวนเวลาหมอในการให้เขามาหยุดเพื่อตอบคำถามของตนเหมือนกัน "ได้ยินว่าผู้ป่วยห้องนั้นหัวใจหยุดเต้นค่ะ"
เมื่อได้ยินคำตอบทิมก็ถึงกับทรุดลงตรงนั้นทันที ทำไมต้องเป็นฮันล่ะ อย่าเป็นอะไรไปเลยนะ
.
"คุณคริสครับ" หมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน นี่คือหมอที่มาดูแลฮันแทนคุณพิชนั่นเอง
คริสที่ได้ยินคุณหมอคนใหม่เรียกก็ยืนขึ้นพร้อมกับจะถามอาการของฮัน แต่ยังไม่ทันที่คริสจะได้ถามคุณหมอคนนี้ก็บอกขึ้นมาว่า "ตอนนี้เราเอาน้องกลับมาได้แล้วครับ" ทุกคนที่ได้ยินดังนั้นก็ดีใจในทันที เพราะนั้นแสดงว่าฮันพ้นระยะอันตรายแล้วนั่นเอง "แต่ว่า ตอนนี้น้องอยู่ในสภาพผัก1 ครับน้องต้องได้รับการดูแลอย่างดีจนกว่าจะหาย เพราะหากมีอาการแทรกซ้อนก็ทำให้ถึงตายได้ครับ หมอคาดว่าน้องอาจจะโดนของแข็งฟาดทำให้สมองกระทบกระเทือนน่ะครับ" หลังจากได้ยินหมอพูด คริสก็พยักหน้ารับจากนั้นทุกคนก็เดินตามหมอเข้าไปในห้อง
ฮันนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงตอนนี้เขามองเห็นได้ยินส่งเสียงได้เล็กน้อย แต่นอกจากนั้นเขาก็ทำอะไรไม่ได้เลย
.
ตอนนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วหลังจากที่ฮันนอนเป็นผักอยู่ ทุกๆ คนต่างผลัดกันมาอยู่กับฮันคอยดูแลและพยุงเขาทั้งยังช่วยเขาทำเรื่องต่างๆ จนถึงวันนี้ฮันสามารถที่จะขยับได้แล้ว ใช่ เขาหายแล้ว
เขาได้กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ และยังจำเรื่องทั้งหมดได้แล้ว และมันก็เป็นอย่างที่หมอพิชเคยบอกเอาไว้ เขาไม่ได้กลัวฝนอีกแล้ว แต่ก็นะ เรื่องทั้งหมดมันก็ยังคงฝังอยู่ในหัวของเขา มันไม่เคยหายไปไหนต่อให้เขาจะหลับตาลงกี่ครั้งความเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นแผลเป็นที่หน้าขาและหน้าท้องของเขามันก็ไม่เคยหายไปไหนเลย
1 สภาพผัก (vegetative state) คือ ภาวะที่สมองใหญ่ของผู้ป่วยได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ส่งผลให้สูญเสียการรับรู้และเข้าใจ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ต้องได้รับการดูแลจากผู้อื่น แต่ยังตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้บางส่วนเช่น ลืมตา หลับตา ส่งเสียงคราง
- END -