webnovel

ตอนที่42.

ในพื้นที่หอคอยชั้นบนสุด ท้องฟ้าสีดำขมุกขมัวดูน่ากลัวปรากฏชายผอมแห้งถูกโซ่ตรึงรั้งเอาไว้ ด้านในขยายออกไปหลายกิโลเมตรเพื่อต้อนรับผู้ที่มาเยือน แต่ละคนนั่งลงแล้วค่อยๆเก็บเกี่ยวพลังวิญญาณสีดำเข้าไปในร่างกาย

ยามนี้หลงเยี่ยนหมิงมองดูด้วยความพึงพอใจ พวกมนุษย์เหล่านี้มีความโลภที่ไม่สิ้นสุด หลังจากรับรู้ว่าเขาคือผู้ควบคุมหอคอยและดันเจี้ยน ยิ่งเสนอไปว่าถ้าอยู่ฝั่งเขาพวกมันจะไม่ต้องพบเจอกับสัตว์อสูรแถมจะได้รับจิตวิญญาณที่สองรวมทั้งการเคลื่อนย้ายเงาไปอีกด้วย

อย่างเงื่อนไขการใช้เงาคือการเคลื่อนย้ายจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งเพียงแต่มีเงื่อนไขการใช้งานเล็กน้อย ตามด้วยจิตวิญญาณที่สองที่พวกนั้นจะต้องทำเอาเองโดยผ่านการดูดซับพลังวิญญาณสีดำที่สลักตราทาสเอาไว้ไม่ให้พวกมันขัดขืนในตอนสุดท้าย

หลังจากที่มนุษย์โลกพ่ายแพ้ในสงคราม ยามนั้นเขาจะครองโลกนี้ทั้งใบแล้วตั้งตนเป็นพระเจ้าองค์ใหม่ โดยมีมนุษย์เหล่านี้เป็นข้ารับใช้ ส่วนคนที่รอดจาดสงครามจะกลายเป็นทาสตีตราในทันที

โดยลืมไปว่าเส้นทางมันไม่เรียบง่ายขนาดนั้น ตราบใดที่เบื้องหน้ายังต้องชนกับผู้ชายที่ชื่อหลงจือหยางคนที่มองว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูตลอดการณ์ ไม่ว่าจะฐานะหรือคนรัก

"หอคอยเหลืออีกสี่ชั้นก่อนจะถึงชั้นที่ยี่สิบ หลังจากจบการประลองเราค่อยเข้าไปด้านในกันนะครับ"เยว่ชิงเอ่ยกับหลงจือหยางให้ส่งข้อความนัดแนะกับกิลด์และคนอื่นๆ จากนั้นก็หันมาสนใจเรื่องการประลองด้านหน้า

"พี่จะแจ้งให้เอง"หลงจือหยางยกฝ่ามือวางลงบนผมนุ่มนิ่มแล้วยีเบาๆอย่างหมั้นเขี้ยว ไม่ว่าจะตอนไหนๆจิ้งจอกน้อยของเขาก็น่ารักมีเสน่ห์มากจริงๆ

คุณชายโจวและคุณชายจ้าวก้าวขาขึ้นเวทีรับบทพิธีกรคนดังดำเนินรายการโดยมีผู้ให้คนสนใจหลายคน

"อะแฮ่มๆมาฟังกติกากันก่อนนะครับ การคัดเลือกจ่าฝูงจะใช้ร่างสัตว์ปกติในการต่อสู้ ไม่ใช้พลังระดับจิตวิญญาณเพื่อความเท่าเทียม วัดผลจากความเฉียบคมของฝีมือและสัญชาตญาณของสัตว์ล้วนๆ"

"แน่นอนครับ การคัดเลือกแบบนี้ยุติธรรมที่สุด หากคุณมีสัญชาตญาณของสัตว์นั้นๆดีที่สุด คุณจะกลายเป็นผู้ชนะทันที"

"และเรามาฟังถึงรางวัลเข้าร่วมกันบ้าง นับว่าทางเจ้าภาพใจป้ำมากจริงๆ สำหรับผู้เข้าร่วมจะได้รับหินวิญญาณระดับหนึ่ง หนึ่งร้อยก้อน สำหรับผู้ที่ตกรอบแรก"

"ผู้ที่ได้เป็นจ่าฝูงจะได้รับหินวิญญาณระดับหนึ่ง หนึ่งหมื่นก้อน"

"ตามด้วยรองจ่าฝูงจะเรียกว่าเป็นแม่ทัพได้รับหินวิญญาณระดับหนึ่ง ห้าพันก้อน"

"มีชนชั้นแม่ทัพแล้วก็ต้องมีชนชั้นทหารหรือก็คือผู้ที่ผ่านเข้ารอบ ในการประลองรอบแรกเป็นต้นไป จะได้รับหินวิญญาณระดับหนึ่ง หนึ่งพันก้อน"

"เอาละครับการประลองรอบแรกเป็นของหมีนั่นเอง มีหมีขาวขนฟูมากครับกับหมีนักล่าสีน้ำตาล"คุณชายโจวมองตาปริบๆเมื่อหมีสองตัวขึ้นเวทียามที่ได้ยินเสียงเริ่มการแข่งขัน หมีสองตัวก็กระโจนเข้าหากัน

"โอ้โห ไม่ธรรมดานะครับ ถ้าพวกเราไม่ใช้จิตวิญญาณไม่มีทางต่อสู้กับหมีได้จริงๆ แต่ก็สมชื่อสายพันธุ์นักล่าอีกเช่นกัน ผู้ชนะคือหมีน้ำตาลแดงนะครับ ผ่านเข้ารอบต่อไป ส่วนหมีขาวไปรับหินวิญญาณนะครับ"หมีขาวพยักหน้างึกงักแล้วเดินลงจากเวลา

"คู่ต่อไปเป็นหมีแพนด้าและหมีแพนด้าแดง อยู่ไหนครับผู้เข้าแข่งขัน กรุณาขึ้นเวที"แพนด้าแดงโบกมือหย่อนๆให้คุณชายโจว ขึ้นมาทั้งตัวทำไมไม่เห็น ถึงแม้ยืนแล้วจะตัวเท่าหัวเข่าก็ตาม

" โอ้ เรากำลังทำการทารุณสัตว์น้อยน่ารักรึเปล่า แพนด้าครับเราไม่อนุญาตให้นำกิ่งไผ่มาตีหัวเพื่อนนะครับ ถือว่าผิดกติกา"คุณชายจ้าวแบมือแล้วกวักยิกๆแพนด้าตัวขาวดำยืนนิ่งกอดไม้ไผ่แล้วมองสลับไปมา ก่อนจะตัดสินใจวางลงบนมือของพิธีกรพ่วงด้วยกรรมการ

"เริ่มได้เลยครับ"แพนด้าสองตังวิ่งเข้าหากันก่อนจะกระโจนฟัดกันอุตลุดอย่างไม่มีใครยอมใคร 

"โอ้โห้ ท่าม้วนตัวน่ารักมากครับ น่ารักโคตรๆและแล้วก็กลายเป็นแพนด้าแดงนะครับที่ชนะไปอย่างงดงาม"ไม่รู้ตีกันอีท่าไหนเพราะเห็นม้วนตัวกันเป็นก้อนเท่านั้น

"เอาไม้ไผ่คืนไปแล้วแล้วเดินไปรับหินวิญญาณได้เลย"แพนด้าตัวขาวดำพยักหน้างึกงักก่อนจะม้วนตัวลงจากเวลา ส่วนแพนด้าแดงกระกระโดดไปมาก่อนจะลงจากเวทีเช่นกัน

"ไปครับ ไปๆ ต่อไปเป็นช้างนะครับ"

"ต่อไปเป็นสิงโตนะครับ"

"ตามด้วยจระเข้"

"มีตั๊กแตนด้วยเหรอ เราจะตัดสินยังไง"

"แมงมุมด้วย"

และแล้วการประลองก็จบด้วยประการฉะนี้ หลังจากได้จ่าฝูงประจำเผ่าพันธุ์ 

นอกจากผู้เข้าแข่งขันจะได้รับหินวิญญาณจนบางคนยกระดับไปอีกชั้น แต่ก็บางคนที่หว่านเสน่ห์แบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะแพนด้าแดงและแพนด้าขาวดำที่ตอนนี้มีมเป็นก้อนๆกำลังเป็นที่นิยมในแอปพลิเคชั่นชื่อดัง

หลังจากวันนั้นจ่าฝูงประจำเผ่าพันธุ์จะต้องจัดการเรื่องของการสู้รบด้วยตัวเอง ทำให้แต่ละเผ่าขยันกันมากขึ้นมีการประชุมและเปิดใช้ห้องฝึกซ้อมจำนวนมาก เยว่ชิงรู้สึกพอใจที่ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น

ทางด้านคนใหม่ๆที่รับเข้ามา แต่ละคนจะมีพี่เลี้ยงส่วนตัวที่มีจิตวิญญาณแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะกระบี่ ดาบ ค้อน แส้ หอก เครื่องดนตรี โดยเฉพาะเด็กๆตามชนบทหลายร้อยคนที่มีฝีมือมากหากขัดเกลาอย่างดี

หลงจือหยางคาดการณ์ว่าพวกเขาจะพร้อมในเวลาเพียงสองเดือน เจ้าตัวเลยเลือกที่จะเข้าหอคอยโดยนำคนในทีมใหม่ๆไปสร้างผลงานเพื่อได้รับหินวิญญาณระดับสองและเป็นการฝึกฝนไปในตัว

เมื่อกำหนดการเป็นที่เรียบร้อย ผู้คนก็ทยอยกันเข้าหอคอยอีกครั้ง แน่นอนว่าทุกกิลด์ต่างก็ทำแบบหลงจือหยางคือมีพี่เลี้ยงตามประกบแล้วให้คนใหม่ในทีมสร้างผลงาน

{ ผู้เข้าร่วมท้าทายหอคอยชั้นที่สิบหก ไม่สามารถกลับออกไปได้ตราบใดที่บอสยังไม่ตาย ผู้ที่พิชิตจะได้รับสินสงครามตามสมควร อีกสิบนาทีเตรียมการปะทะ}

เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น พี่เลี้ยงแต่ละคนลงมือก่อนอันดับแรกจากนั้นก็นำมาให้ปลิดชีพ ก่อนจะยืนดูอยู่ห่างๆปล่อยให้เด็กๆจัดการกันเองโดยมีการเฝ้าระวังเป็นระยะ พร้อมทั้งมีพี่เลี้ยงที่มีความสามารถจิตวิญญาณดนตรีที่ทำให้เป้าหมายเคลื่อนที่ช้าๆ

การกำจัดและสร้างผลงานไม่ใช่เรื่องยาก เพียงผ่านไปสามชั่วโมงทุกอย่างก็เสร็จสิ้น เด็กๆหลายคนเมื่อกลับถึงที่พักก็ดูดซับหินวิญญาณ ยิ่งระดับสูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งใช้ทรัพยากรมากเท่านั้น

วันถัดมาผู้คนจำนวนเท่าเดิมกลับมายืนอีกครั้งและได้ยินเสียงเดิมๆทุกครั้งที่เป็ดประตู จะมีเพียงลำดับชั้นเท่านั้นที่ขยับขึ้นเรื่อยๆ

{ ผู้เข้าร่วมท้าทายหอคอยชั้นที่สิบเจ็ด ไม่สามารถกลับออกไปได้ตราบใดที่บอสยังไม่ตาย ผู้ที่พิชิตจะได้รับสินสงครามตามสมควร อีกสิบนาทีเตรียมการปะทะ}

{ ผู้เข้าร่วมท้าทายหอคอยชั้นที่สิบแปด ไม่สามารถกลับออกไปได้ตราบใดที่บอสยังไม่ตาย ผู้ที่พิชิตจะได้รับสินสงครามตามสมควร อีกสิบนาทีเตรียมการปะทะ}

{ ผู้เข้าร่วมท้าทายหอคอยชั้นที่สิบเก้า ไม่สามารถกลับออกไปได้ตราบใดที่บอสยังไม่ตาย ผู้ที่พิชิตจะได้รับสินสงครามตามสมควร อีกสิบนาทีเตรียมการปะทะ}

ทุกคนโฮ่ร้องอย่างดีใจเมื่อผ่านชั้นที่สิบเก้าอย่างงดงาม เรียกได้ว่าหินวิญญาณมีล้นหลามมากจริงๆ ก่อนจะกระจายไปยังประเทศต่างๆเท่ากัน ที่เหลือก็เป็นของรางวัลของผู้ที่โดดเด่นในสนามรวมทั้งผู้ที่เข้าร่วมอย่างกระตือรือร้น

โดยเฉพาะอู๋ซวนเด็กหนุ่มที่มีจิตวิญญาณกระบี่คู่ ยามที่อยู่ในสนามรบนับว่าเก่งกาจและเลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็ว จนทุกวันนี้มีคนเห็นพ้องต้องกันว่านี่อาจจะเป็นหลงจือหยางอีกคน แม้อู๋ซวนจะอายุเพียงสิบหกปีก็ตาม

เมื่อแต่ละประเทศได้รับหินวิญญาณจำนวนมากก็รีบติดต่อกลุ่มคนที่ลงทะเบียนไว้แต่ยังไม่ได้รับ ส่งไปให้ตามบ้าน ในส่วนของคนที่ทำงานหนักก็ได้รับโบนัสเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าแต่ละฝ่ายเร่งช่วยเหลือกันเต็มที่

ผลรายงานจากประเทศXก็ไม่เลว มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จ จนมีการฝังหินวิญญาณเพิ่มขึ้น คาดการณ์ว่าไม่เกินหนึ่งสัปดาห์จะทราบถึงผลทันที

ทางฝากฝั่งเยว่ชิงก็ยิ้มแก้มปริเมื่อระบบแจ้งเตือนถึงภารกิจล่าสุดที่สำเร็จแต่โดยดี

" ภารกิจพิเศษ เสร็จสิ้น

รางวัลภารกิจ:กำหนดความงามได้สองอย่างระดับเพชร(กำลังประมวลผล)

point:110,589 "

"อืม เหลืออะไรอีกบ้าง ก้น ขา เอว  เอาลำคอมาหนึ่งกับนิ้วมือแล้วกัน"เยว่ชิงนึกถึงตอนที่จับมือกับหลงจือหยางบ่อยๆ

[ลำคอยาวระหง ระดับเพชร

นิ้วมือเรียวยาว ระดับเพชร]

"หลังจากผ่านวันนี้ไปอีกสามเดือนข้างหน้าเราจะพิชิตหอคอยชั้นที่ยี่สิบกันนะครับ ในส่วนของตอนนี้ก็มุ่งไปที่ดันเจี้ยนตามปกติ"หลงจือหยางกล่าวจบแต่ละคนก็แยกย้าย ใช้เวลาสามเดือนดูดซับหินวิญญาณให้คุ้มค่า

ส่วนคนอื่นๆก็ขัดเกลาฝีมือจากการท้าทาย รวมไปทั้งบทฝึกที่เมื่อผ่านบทฝึกนั้นๆจะได้รับหินวิญญาณอีกด้วย

ส่วนหลงจือหยางก็ต้องพาเยว่ชิงไปพักผ่อน หลังจากที่พวกเขาหัวหมุนกันตั้งหลายวัน ยิ่งตอนนี้คนใหม่ๆก็ปรับตัวเข้ากับกิลด์ได้อย่างดีไม่มีอะไรที่น่าห่วง หลงจือหยางเลยอยากใช้ทุกช่วงเวลาไปกับเยว่ชิงมากกว่า

ยามที่คนน้องนอนบิดเร้าบนเตียงกว้าง หลงจือหยางก็แทบคลั่ง ค่อยเล้าโลมคนรักก่อนจะสอดประสานกันและกัน ริมฝีปากทั้งคู่ดูดดึงจนได้ยินเสียงครางอย่างพึงพอใจ ยามที่ริมฝีปากของทั้งคู่อยห่างน้ำลายยืดๆสีใสก็ไหลตามจนดูลามกและเซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน

"พี่ อ๊ะ"เยว่ชิงยกฝ่ามือกุมหัวไหล่ของคนรักเอาไว้ เรียวขาค่อยๆอ้าออกให้กว้างขึ้นเพื่อให้คนรักกระแทกเข้าออกได้อย่างถนัด หลงจือหยางครางเสียงต่ำตวัดลิ้นโลมเลียจุกนมสีหวาน

เยว่ชิงมองคนตัวโตที่หิวกระหายจนกินมูมมาม จากที่ตอนแรกคิดว่ารอบเดียวจบกลายเป็นว่าผ่านไปสามรอบคุณพี่ก็ยังคงคึกคัก จนเยว่ชิงต้องตีหน้าอกแล้วหยิกเอวเบาๆให้อีกฝ่ายพอ เพราะตอนนี้เขาปวดเอวเอามากๆ

และกลายเป็นว่าหลงจือหยางจะต้องลงมือบีบนวดเอวให้จิ้งจอกน้อยแทนที่จะได้เล่นปู้ยี่ปู้ยำกันอีก