บทที่ 67 หมาป่าเผยตัวแล้ว
ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นเปลี่ยนจุดหมายปลายทางกะทันหัน คนขับรถก็หักเลี้ยวพวงมาลัยมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลเหรินอ้าย
“สาวน้อย ทำไมเปลี่ยนไปโรงพยาบาลกะทันหันล่ะ? รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” คนขับรถไม่ค่อยสบายใจ จึงเอ่ยถามขึ้นมา
“เปล่าหรอกค่ะ คือว่าแฟนของหนูเขานอนไม่หลับเป็นประจำ หนูได้ยินมาว่าที่โรงพยาบาลเหรินอ้ายมีแพทย์แผนจีนอาวุโสที่มีฝีมือมากอยู่ท่านหนึ่ง เก่งทางด้านรักษาโรคนอนไม่หลับ ก็เลยอยากไปปรึกษาดูค่ะ”
“แบบนี้นี่เอง แฟนของหนูโชคดีจังเลย!” คนขับรถเอ่ยชื่นชม
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่เบนสายตามองไปทางหน้าต่าง
ไม่นาน รถก็แล่นมาหยุดหน้าประตูโรงพยาบาลเหรินอ้าย
ครั้งนี้เยี่ยหวันหวั่นมาในสภาพที่เป็นตัวของตัวเอง สวมชุดเดรสสีชมพู ยืนอยู่ตรงนั้นช่างงดงามและโดดเด่นมาก
เฉินเมิ่งฉีที่แอบซุ่มตัวมาโดยตลอดสามารถมองเห็นเธอได้ชัดเจนในทันที
เมื่อได้เห็นรูปลักษณ์อันน่าดึงดูดของเยี่ยหวันหวั่นแล้ว ดวงตาของเฉินเมิ่งฉีพลันประกายความร้ายกาจขึ้นมา แต่ว่า การได้เห็นเธอมาที่โรงพยาบาลตามที่คาดการณ์เอาไว้ ใบหน้าพลันเปี่ยมไปด้วยความเยาะเย้ยดูหมิ่น
รูปร่างหน้าตาสวยแล้วอย่างไรเหรอ ก็เป็นแค่คนโง่เขลาเท่านั้น ถึงได้ยังโดนเธอปั่นหัวเล่นอยู่แบบนี้
เฉินเมิ่งฉีเห็นว่าเยี่ยหวันหวั่นเดินเข้าโรงพยาบาลเหรินอ้ายกับตาตัวเองจึงค่อยสบายใจ แล้วหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความหาซือเยี่ยหาน [คุณซือคะ ไม่ทราบว่าเยี่ยหวันหวั่นตอนนี้อยู่กับคุณหรือเปล่า? เมื่อครู่ฉันไม่ค่อยสบายเลยแวะไปที่โรงพยาบาล บังเอิญเห็นคนคนหนึ่งดูแล้วคล้ายกับหวันหวั่นมากเลย ไม่แน่ใจว่าใช่เธอหรือเปล่า ฉันโทรหาเธอก็ไม่รับสาย รู้สึกเป็นห่วงจริงๆ เธอคงไม่ได้ป่วยไม่สบายใช่ไหม?]
แน่นอนว่าเธอคงไม่โง่ขนาดยุแยงออกไปตรงๆ แต่เป็นการชักนำให้ซือเยี่ยหานมาเห็นด้วยตัวเอง
แม้ว่าเธอไม่ค่อยอยากยอมรับ แต่ซือเยี่ยหานห่วงใยเยี่ยหวันหวั่นมากจริงๆ หากรู้ว่าเยี่ยหวันหวั่นป่วย จะต้องมาหาเธอที่โรงพยาบาลแน่นอน
ถึงตอนนั้น รอให้เขามาหาเธอด้วยความรู้สึกเป็นห่วงเป็นกังวล ทว่ากลับมาเห็นภาพเยี่ยหวันหวั่นกำลังกระซิบรักห่วงใยซึ่งกันและกันอยู่กับกู้เยว่เจ๋อ คงต้องสนุกมากแน่...
หลังจากส่งข้อความนี้ออกไปแล้ว เฉินเมิ่งฉีก็จากไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
หึหึ เยี่ยหวันหวั่นยัยโง่ ยังคิดว่าเธอเป็นเพื่อนรักของตัวเองมาโดยตลอด ต่อให้ยัยโง่นั่นต้องตาย ก็ไม่มีทางคิดว่าเป็นฝีมือของตนแน่!
ทว่า ต่อให้เฉินเมิ่งฉีฝันไปก็ไม่มีทางคาดคิดว่า ณ บริเวณหน้าต่างชั้นสองของโรงพยาบาล เยี่ยหวันหวั่นได้เห็นเธอหลบมุมแอบหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความส่งไป จนกระทั่งเธอเดินจากไปด้วยท่าทีได้ใจอย่างที่สุดเสียแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นยืนอยู่ข้างหน้าต่าง หยักมุมปากโค้งขึ้น เหอะ เธอต้องมาโรงพยาบาลรอบนี้อยู่แล้ว ขอเพียงได้เห็นว่าเธอปรากฎตัว เฉินเมิ่งฉีถึงจะได้อวดฉลาดไปบอกความลับ และยุแยงต่อไป
เรื่องราวเด็กเลี้ยงแกะตะโกนว่าหมาป่าปรากฎตัว ใครก็รู้ทั้งนั้น ครั้งสองครั้งไม่มีอะไร หากเป็นครั้งที่สาม ครั้งที่สี่ล่ะ?
หากว่าการยุแยงของเฉินเมิ่งฉีล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ต่อให้ครั้งหน้าสิ่งที่เธอพูดเป็นเรื่องจริง ซือเยี่ยหานก็ไม่มีทางเชื่อเธออีก
สำหรับจิตวิทยาของซือเยี่ยหานก็เช่นกัน
หากว่าครั้งสองครั้งหรือสามสี่ครั้งเขาพบว่าตนเองเข้าใจเธอผิดไป เช่นนั้นครั้งหน้าต่อให้เธอจะพูดเท็จ จิตใต้สำนึกของซือเยี่ยหานจะต้องรู้สึกว่าเธอนั้นพูดความจริง
และสิ่งที่เธอต้องการก็คือ ผลลัพธ์แบบนี้
เธอรู้ว่าการทำแบบนี้เสี่ยงอันตรายมาก แต่การที่คิดจะเอาชนะความเชื่อมั่นของซือเยี่ยหานให้ได้ ก็มีเพียงใช้กลเม็ดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
เวลานี้เอง ณ ด้านในสวนหย่อมของบ้านใหญ่
ตั้งแต่เยี่ยหวันหวั่นจากไป ซือเยี่ยหานยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย
กระทั่ง โทรศัพท์บนโต๊ะสั่นครืด หน้าจอแสดงข้อความที่ส่งมาจากเฉินเมิ่งฉี
ซือเยี่ยหานกวาดตาอ่านข้อความนั้น ใบหน้าเย็นชาไร้ร่องรอยของอุณหภูมิใด คงความเรียบเฉยไร้ซึ่งระลอกอารมณ์ใดๆ ราวกับว่าอารมณ์ทั้งหมดได้ถูกดวงตาคล้ายหลุมดำคู่นั้นกลืนกินไปจนสิ้นแล้ว
สวี่อี้ชำเลืองมองไปยังข้อความของเฉินเมิ่งฉี ค่อยมองดูปฏิกิริยาของซือเยี่ยหาน ทว่าก็ยังเดาอะไรไม่ออกสักอย่าง
ความเงียบอันน่าสะพรึงกลัวดำเนินต่อไปไม่รู้ว่านานเท่าไร ซือเยี่ยหานจึงหยิบมือถือขึ้นมา กดสายโทรออก “เธออยู่ที่ไหน”
สวี่อี้เห็นว่าซือเยี่ยหานกดหมายเลขโทรด่วน ก็รู้ว่าเขาโทรไปที่หมายเลขของเยี่ยหวันหวั่น สีหน้าแย่ลงไปอีก
ครั้งนี้ต่อให้เยี่ยหวันหวั่นจะโกหกหรือจะพูดความจริง ล้วนแต่ไม่มีทางกอบกู้สถานการณ์ได้อีกแล้ว...
ได้ยินเพียงเยี่ยหวันหวั่นตอบกลับมาจากทางปลายสาย “คือว่าฉันมีธุระนิดหน่อย ระหว่างทางเลยแวะไปที่โรงพยาบาลเหรินอ้าย เพราะว่าฉัน...”
ไม่รอให้เธอพูดจบ ก็ถูกน้ำเสียงเยียบเย็นสายหนึ่งพูดตัดบท “กลับสวนจิ่นหยวนเดี๋ยวนี้”
หลังจากวางสายแล้ว ซือเยี่ยหานตวัดสายตาเย็นชามองไปยังสวี่อี้ “ไปตรวจสอบ”
สวี่อี้ชะงักอึ้ง รีบพยักหน้ารับคำสั่ง
...........................................................