webnovel

31. แต่งงานกันนะ (18+)

เสียงจากกองไฟลั่นเปรี๊ยะๆทำลายความเงียบในคืนที่ดึกสงัด อัญชันเหม่อมองท้องฟ้าที่ดาษดื่นไปด้วยดวงดาวที่ประกายพราวบนฟากฟ้า ร่างสูงกำยำที่นั่งเงียบๆอยู่ข้างๆใช้ไม้เขี่ยขี้เถ้าเล่นแก้เบื่อ เขาไม่อยากรบกวนเวลาของหญิงสาวแต่ก็ไม่อยากห่างจากเธอหลังจากอาบน้ำแล้วเขาก็รีบนำผ้าห่มมาให้เธอห่มกันหนาว อัญชันนั่งเงียบมานานกว่าสิบนาทีแล้วและเขาก็ไม่อยากรบกวนอะไรเธอจึงได้แต่นั่งเงียบๆ

" ทำไมคุณยึดติดกับคนอย่างฉันนัก" อัญชันพูดทำลายความเงียบไลอาร์ชะงักเล็กน้อยที่เธอยอมเปิดปากพูดกับเขาเสียที

" นั่นสิ...ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน..รู้แต่เพียงว่าผมมีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับคุณและลูก" เขาตอบ

" ฉันไม่ได้สวยเหมือนนางแบบงานก็ทำไม่ค่อยเป็นแถมไม่ได้มียศฐาอะไรติดตัว...ฉันจะอยู่ข้างๆคุณได้ไหม...คนอื่นๆจะไม่ดูถูกคุณเอาเหรอ" อัญชันถามเธอรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่อยากจะฟังคำตอบหากเขาบอกว่าเธอจะต้องเป็นเพียงนางในฮาเร็มหัวใจของเธอคงจะเจ็บปวดอีกเป็นแน่

" คุณก็ถามอะไรแปลกๆ...ที่คฤหาสน์ตะวันดาราเป็นคฤหาสน์ของนายหญิงแห่งฮาลันน่าร์คนที่ดำรงตำแหน่งนายหญิงเท่านั้นถึงจะอยู่ที่นั่นได้ นั่นหมายถึงว่าคุณคู่ควรที่จะอยู่ที่นั่น" เขาตอบ คำตอบของเขานั้นทำเอาอัญชันถึงกับตะลึงค้างเธอนึกขึ้นมาได้ว่าอิลลาเคยพูดถึงเรื่องนี้แต่เธอกลับไม่เชื่อเขาแต่ไปเชื่อคำยุแหย่ของใครก็ไม่รู้ อัญชันเอนศรีษะซบลงบนไหล่กว้างหลับตาลงแล้วปล่อยให้ความคิดถึงส่งผ่านใจสองดวงที่เต้นใกล้ๆกัน

" ฉันขอโทษนะคะไลอาร์ที่ใจร้ายกับคุณถึงขนาดนี้" หญิงสาวพูด เสียงประกายไฟยังคงส่งเสียงแข่งกับเหล่าแมลงตัวน้อยที่ส่งเสียงร้องยามค่ำคืนเหมือนเป็นบทเพลงขับกล่อมให้ผ่อนคลายความกังวลใดๆ อ้อมแขนแกร่งเอื้อมไปกอดกายบางที่แนบไหล่ให้กระชับเข้ากับกายหนาไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากของทั้งคู่ มีเพียงแต่เสียงหัวใจสองดวงที่เต้นรัวอยู่ในอก ความรู้สึกนั้นมากล้นเกินกว่าจะพูดคำใดๆออกมา

" ผมเองก็ขอโทษคุณด้วยนะอัญ...ที่ไม่อาจปกป้องคุณได้เท่าที่ควรทำให้คุณต้องระแวงถึงจนาดนี้" เขาจุมพิตหน้าผากมนอย่างเเผ่วเบา ยิ่งนานเขายิ่งรักหญิงสาวร่างบางคนนี้จนแทบบ้า ยิ่งเธอนั้นคือมารดาของบุตรชายเพียงคนเดียวของเขายิ่งทำให้เขารักเธอมากขึ้นอีก

" อัญชัน...แต่งงานกันนะ..." เขาพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบของค่ำคืนที่ดวงดาวพราวเต็มท้องฟ้า อัญชันเงยหน้ามองชายหนุ่มข้างๆอย่างลึกซึ้ง ใบหน้าที่งดงามราวกับจันทร์ฉายบนฟากฟ้าแย้มยิ้มขึ้นมาราวกระประกายของดวงดาวที่ทำให้พระจันทร์นั้นงดงามขึ้นหลายเท่าเธอไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแต่พยักหน้ารับเบาๆ พวงแก้มนวลซับสีระเรื่อขวยเขิน ไลอาร์เองก็แทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจแต่ทว่าถูกอัญชันห้ามเอาไว้ก่อน

" อย่าเสียงดังไปค่ะ...เดี๋ยวลูกตื่น" เธอพูดพลางหลบสายตาที่ร้อนแรงจากอีกฝ่าย

" งั้นผมขอมัดจำก่อนได้ไหม...คุณรู้ไหมว่าผมคิดถึงคุณมากแค่ไหน"

น้ำเสียงนั้นแหบพร่าสายตาเจ้าเล่ห์มองร่างบางราวกับสัตว์ป่าที่หิวกระหายแทบบ้า

" มัดจำอะไรกัน...อะ...ว้าย!!!" ร่างบางถูกอุ้มขึ้นจนหญิงสาวกรีดร้องตกใจจนเผลอคว้ากอดเข้าที่ลำคอหนาเอาไว้แน่น

" ห้าปีที่ผ่านมาผมเฝ้านึกถึงแต่คุณในทุกๆวัน...ในเมื่อคุณตกลงที่จะเป็นภรรยาผมแล้ว...ผมก็ต้องขอลงโทษคุณที่ทำให้ผมทรมาณมาตั้งห้าปี" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นภายใต้เงาของพระจันทร์ยามค่ำคืน ดวงตาสีอำพันเปล่งประปายราวกับจะฉกฉวยเอาร่างบางนั้นเป็นเหยื่อชั้นดี ร่างสูงก้าวข้ามกองไฟที่ไกล้มอดดับ ก้าวเท้ายาวๆไปยังเรือนนอนที่อยู่อีฝากของถนน อัญชันไม่ได้ขัดขืนอะไรต่อไลอาร์ กลับกันหัวใจของเธอกลับเต้นโครมครามราวกับจะหลุดออกจากอก ดวงหน้าซับสีเลือดฝาดปลดปล่อยให้ร่างสูงกำยำทำตามใจต้องการ

ห้องสีทึบในแบบของชายหนุ่มที่ดูหรูหราผิดกับภายนอกเตียงกว้างที่นุ่มราวปุยเมฆที่บางเบาไลอาร์ค่อยๆวางร่างบางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา บรรจงจุมพิตลงบนริมฝีปากอวบอิ่มที่เขาโหยหา มือหนาตระกรุ่มตระกรามลูบไล้กายบางไปทุกซอกทุกมุมราวกับนักสำรวจ เนินปทุมถันชูช่อสู้มือหนาที่แวะมาหยอกเหย้ามัน ร่างบางแอ่นกายเสียวสะท้านทรวง โพลงปากอวบอิ่มของหญิงสาวในตอนนี้ถูกดูดกลืนราวกับผึ้งหลวงที่กระหายน้ำ ไลอาร์สะบัดมือเพียงไม่กี่ครั้งอาภรณ์ที่กีดขวางเขาและเธอก็ถูกเหวี่ยงลงไปกองอยู่ข้างๆเตียง ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่แดงไปทั้งกายตรงใต้ร่างของเขานั้นดูงดงามราวกับฝัน เขาคิดถึงเธอจนแทบจะขาดใจ คิดถึงร่างกายนี้จนแทบจะบ้าตาย ฉนั้นแล้วคืนนี้คงจะยืนยาวสำหรับพวกเขาทั้งสองคนเป็นแน่

" ไลอาร์.....'' อัญชันร้องเรียกเสียงกระเส่า มือบางปะป่ายควานหาบางสิ่งบางอย่างที่เต้นตุบๆอยู่ตรงท้องน้อยของเธอ พญางูชูคอชี้หน้าเจ้าของอย่างองอาจ ทว่าเมื่อถูกมือบางสัมผัสมันกลับร่ำร้องไม่มีหยุด

" อะ...อัญ..." เขาครางเสียงแหบพร่าสายตาเลือนลางแทบจะสะกดอารมณ์ไม่อยู่เมื่อเห็นสายตาอันเร้าร้อนของภรรยา

เขาดันพญางูเข้าปากถ้ำเกสรที่ฉ่ำหวานความคับแคบที่ไม่เคยมีพญางูตัวไหนมาเยือนตลอดห้าปีนั้นทำเอาชายหนุ่มถึงกับซูดปากเสียวซ่าน ร่างบางภายใต้ร่างของเขาเองก็เกรงไปทั้งกายเนื่องจากห่างหายผู้มาเยือนมานาน ไลอาร์จูบปลอบประโลมหญิงสาวให้ลืมเจ็บเพราะพญางูของเขานั้นออกจะมีขนาดที่พิเศษนิดหน่อย และเมื่อเธอกำลังเพลิดเพลินกับรอยจูบที่เขาปรนเปรอให้เธอนั้น ชายหนุ่มก็ไม่ลืมที่จะดันพญางูเข้าไปจนมิดลำเพื่อสำรวจภายในไห้ถ้วนถี่ แต่ดูเหมือนว่าเจ้างูตัวใหญ่ตัวนี้นั้นจะไม่ค่อยมีความมั่นใจในตนเองเท่าไหร่นักมันจึงเข้าๆออกๆอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้นทุกทีทุกที จนร่างบางนั้นกระสันเสียวจนร้องไม่ได้ศัพท์ออกมาไม่หยุดปาก ทว่าเสียงครวญครางนั้นกลับเป็นแรงฮึดให้เอวสอบมีแรงขยันขึ้นมาทันทีทันใด เขาจึงพาเจ้างูเข้าๆออกๆปากถ้ำอน่างหนักหน่วงและถี่จนอัญชันรู้สึกเหมือนวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง เธอสุขสมอารมณ์หมายไปถึงสามครั้งแล้วแต่ดูท่าทางชายหนุ่มร่างสูงยังคงมัวเมาอยู่กับร่างเธออยู่ เขาจัดการพลิกกายบางให้นอนคว่ำแล้วยกบั้นท้ายให้เผชิญหน้ากับเขา กลีบกุหลาบที่บวมช้ำจากการกระทำของเขานั้นแย้มยิ้มเชื้อเชิญให้เขาเข้าไปสำรวจต่อ ไลอาร์ไม่รีรอให้ใครมาตัดริบิ้นอีกแล้ว เขาจัดการกระหน่ำบั้นท้ายนั้นอย่างหิวกระหายโดยไม่สนว่าร่างบางนั้นจะครวญครางขนาดไหน

" ไลอาร์!!! " อัญชันกรีดร้องเสียวซ่านในหัวของเธอขาวโพลนไม่รู้สึกอพไรเลยนอกจากความเสียวซ่านที่จุกแน่นไปทั่วท้องน้อย

" อ่าห์...อัญ!!!!!" เขาเรียกเธอ พลางพลิกกายของเธอกลับแล้วอุ้มเธอนั่งคร่อมเขา

" คุณเป็นเพียงคนเดียวที่ทำให้ผมคลั่งได้ขนาดนี้ยอดรักของผม" เขากระซิบเสียงแหบ

" คุณก็เติมเต็มฉันจนอิ่มเช่นกันค่ะที่รัก" อัญชันพูดตอบคำพูดของเธอยิ่งทำให้เขานั้นจับกายบางโยกอย่างรุนแรงก่อนจะปล่อยพิษงูสีขาวฝากเอาไว้ในกายบางของเธอ

ค่ำคืนที่ดาวดาษดื่นเต็มท้องฟ้าพระจันทร์นวลส่องแสงลงมายังผืนโลก สองหนุ่มสาวตระกองกอดกันอย่างลึกซึ้งแนบแน่นไม่รู้ต่อกี่ครั้งจนถึงกี่ครั้ง รู้แต่เพียงว่าในคืนนั้นคนทั้งคู่ได้เติมเต็มกันและจนอิ่มเอมและหลับไปด้วยกันจวบจนพระอาทิตย์แห่งรุ่งอรุณจับฉายขอบฟ้าของวันใหม่พร้อมหมอกสีขาวที่ปกคลุมยอดเขาจนเป็นทะเลหมอกที่งดงาม