คำพูดของริสาทำให้อัญชันนั้นตกอยู่ในความคิดนานเเสนนานจนกระทั่งเสียงเล็กๆของลูกชายเรียกสติเธอให้กลับมา
"แม่เป็นไอใยเหรอ...ภูผาเรียกตั้งนานแม่ก็เหม่ออยู่นั้นแหล่ะ" เขาถาม
" แม่ไม่ได้เป็นอะไรครับ...แค่คิดไม่ตกว่าจะทำอะไรกินกันดี" เธอตอบลูกชายแม้ว่าความจริงแล้วเธอไม่ได้คิดแบบนั้นอยู่สักนิดเดียว
" ภูผาอยากกินหมูกะทะ...อยากกินกับพวกคุณลุงคุนน้า...ได้ไหมครับแม่...นะนะนะ" เด็กชายออดอ้อนเขาคิดถึงช่วงเวลาแห่งความสุขที่เขาได้รับยามที่อยู่กับคุณลุงคุณน้าและอยากแบ่งปันช่วงเวลานั้นให้แม่ของเขาอีกอย่างช่วงเวลาหมูกระทะคือช่วงเวลาที่เขาเองก็โปรดปรานที่สุดเช่นกัน
" ก็ได้ๆ...งั้นเราไปซื้อของกันเถอะ" อัญชันตอบตกลงพลางจูงมือลูกชายของตนขึ้นรถเพื่อไปจ่ายตลาด ริสาที่ตื่นเต้นกับหมูกระทะที่เด็กน้อยพูดถึงนั้นก็พลอยตื่นตาตื่นใจรอชิมเมนูที่เรียกได้ว่านิยมที่สุดในประเทศก็ได้
บ้านพักหลังเล็กๆถูกยกมาทั้งหลังแล้ววางบนรากฐานที่ปรับแต่งรออยู่ก่อนแล้วด้วยอำนาจของเงินตราจึงทำให้บ้านพักหลังเล็กๆใหญ่ๆผุดขึ้นบนที่ดินตรงข้ามบ้านของอัญชันไลอาร์ควบคุมดูแลการทำงานอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอนโดยเฉพาะสนามเด็กเล่นขนาดย่อมที่สร้างขึ้นมาเพื่อเด็กชายตัวน้อยที่เขาผูกพันธ์
" ผลดีเอ็นเอมาถึงแล้วครับนายท่าน" เอเลนยื่นซองกระดาษสีน้ำตาลให้ชายหนุ่มเขารีบรับมันมาเปิดอ่านอย่างตื่นเต้นตัวเลขความเข้ากันของเขากับภูผานั้นคือ100%อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด เขาดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้นที่เขานั้นมีลูกกับหญิงสาวที่รักสุดหัวใจ เขาฉีกยิ้มกว้างจนแทบฉีกถึงหูหันไปเขย่ากายองครักษ์ข้างกายด้วยความตื่นเต้น
"ภูผาเป็นลูกของฉันจริงๆด้วยเอเลน!!!เป็นทายาทคนเดียวของฉันเอเลน!!!ลูกของฉันกับอัญชัน!!!แสดงว่าที่ผ่านมาเธอก็ไม่ได้มีใคร!!!คำพูดของมหาราณีไม่ได้เป็นความจริง!!!"
" ตุบ!!!!"
เสียงสิ่งของร่วงหล่นกระแทกพื้นร่างบางที่กำลังลงจากรถยนต์คันหรูพร้อมกับข้าวของเต็มในมือร่วงหล่นลงไปอยู่กับพื้นดิน อัญชันตะลึงงันกับสิ่งที่ชายหนุ่มพูด แสดงว่าที่ผ่านมาเขานั้นไม่ได้เชื่อใจเธอเลยสักนิดเดียวและยังคิดว่าภูผาไม่ใช่ลูกของเขาทั้งๆที่มีดวงตาแบบเดียวกับเขาอีกทั้งที่เขาไม่ง้อเธอเสียทีเพราะเขานั้นยังยึดถือในคำพูดที่มหาราณีใส่ความเธอ ความรู้สึกน้อยใจของอัญชันนั้นมันจุกอกจนแทบหายใจไม่ออกร่างบางเดินหนีเข้าบ้านไปโดยไม่ได้สนใจแม้แต่ลูกชายของตนเลยด้วยซ้ำ ไลอาร์มองแค่แวบเดียวก็สัมผัสได้ว่าหญิงสาวอันเป็นที่รักนั้นได้โกรธเขาเป็นแน่ร่างสูงจึงไม่อยากปล่อยโอกาสนี้อีกเขาเลยวิ่งตามอัญชันพลางร้องเรียกเธอ
" อัญ!!! คุณฟังผมก่อน!!!" ไลอาร์คว้าข้อศอกของเธอเอาไว้จนร่างบางเซถลากระแทกเข้ากับหน้าอกแกร่ง
" ปล่อย!!"
" ไม่!!!! ผมจะไม่ยอมปล่อยคุณอีก!!" เขาดื้อรัน อ้อมแขนแกร่งกอดรัดร่างบางเอาไว้จนเธอดิ้นไม่หลุด
" ไลอาร์ !!!!! คุณจะทำร้ายจิตใจฉันอีกแค่ไหนถึงจะพอใจกันห๊ะ!!!" อัญชันยังคงขัดขืนแต่ดูเหมือนยิ่งเธอดิ้นยิ่งถูกรัดแน่นกว่าเดิม
" ผมขอโทษ!!! แต่คุณก็ทำร้ายผมมาตลอดห้าปีไม่ใช่หรือไง!!!! คุณหนีผมทำไม???คุณโกหกผมได้ยังไง!!!คุณต่างหากที่ทำร้ายจิตใจผมก่อนไม่ใช่หรือ!!"
" ปล่อยฉันนะ!!!!คุณจะยึดติดกับนางบำเรออย่างฉันทำไม??เจ้าชายผู้ครองแคว้นฮาลันน่าร์อย่างคุณไม่ควรมาเกลือกกลั้วกับคนอย่างฉันสักนิด!!!"
" มันไม่สำคัญว่าคุณเป็นใคร!!!แต่คุณเป็นภรรยาของผมเป็นแม่ของลูกผม!!!และเป็นดวงใจของผม!!!"
ไลอาร์สารภาพรักอีกครั้งร่างบางที่ดีดดิ้นในอ้อมแขนของเขาสงบลงทว่าตัวของเธอกลับสั่นเทา
" ฉัน...ก็เป็นได้เพียงนางในฮาเร็ม...หากว่าฉันต้องทนดูคุณแต่งงานกับคนอื่น...ฉันทนไม่ได้มันเจ็บ...ฮึก...เจ็บข้างในนี้!!!" อัญชันหลั่งน้ำตางบนหน้าอกแกร่งความรู้สึกที่เก็บลึกไว้ในใจพลั่งพรูออกมากับอ้อมอกที่เธอแสนจะคิดถึง
" ผมไม่มีฮาเร็ม..ผมไม่มีเมียหนึ่งหรือสอง...ผมมีแต่เพียงคุณ...ขอสัญญาต่อพระเจ้า" เขาให้คำมั่นสัญญาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นมือหนาค่อยๆเฉยคางมนขึ้นเผชิญหน้าพลางค่อยๆจูบซับน้ำตาของเธอจนเหือดแห้ง ก่อนจะหยุดอยู่ตรงริมฝีปากที่อวบอิ่มนั้นเนิ่นนาน
" แต่มหาราณีกับองค์สุลต่านคงไม่ยอม "
" ผมลาออกจากราชสกุลแล้ว"
" แล้วคุณจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ..แล้วฮาลันน่าร์ล่ะ"
" ผมไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกขนาดนั้นนะอัญ...ต่อให้ไม่มีฮาลันน่าร์ธุรกิจของผมก็ไม่ล่มจมหรอก" ไลอาร์นั้นรู้สึกอิ่มใจจนแทบจะตะโกนให้โลกนี้ได้รับรู้ทั้งโลก เพราะผู้หญิงคนนี้ห่วงเขาเพราะเขาเป็นนายไลอาร์ไม่ใช่ห่วงเขาที่เป็นหนึ่งในราชสกุลอัลโลฟาร์สักนิดเดียว
" อัญ...แต่งงานกับผมเถอะนะ...คุณดีขนาดนี้จะให้ผมไปหาคนอื่นอีกผมจะไปหาได้ที่ไหน? คนที่คอยให้กำลังใจผมจัดการงานบ้านแทนผมเทคแคร์และดูแลผมยามเจ็บป่วยที่ผ่านมาก็มีเพียงคุณเท่านั้น...อย่าทิ้งผมไปอีกเลยนะอัญ"
ไลอาร์อ้อนวอนเขาใจสั่นทุกครั้งที่พูดความในใจออกไปดวงตาสีอำพันที่จ้องมองร่างบางนั้นบ่งบอกว่าคำพูดนั้นคาดหวังต่อคำตอบนั้นอยู่
" ตะ...แต่...ฉันไม่พร้อม...ฉัน...ฉัน...ขอโทษนะคะไลอาร์...ภูผาคงจะหิวแย่แล้ว...ไปทานเนื้อย่างด้วยกันเถอะค่ะ" อัญชันสะบัดกายออกจากอ้อมอกขอฃไลอาร์ได้สำเร็จร่างบางเดินหายเข้าไปในครัวทิ้งให้ไลอาร์ทอดสายตาอาลัยมองร่างบางนั้นอย่างอาวร ทว่าในความคิดของเขากลับลิงโลดเพราะนั่นไม่ได้แปลว่าอัญชันจะปฏิเสธเขาดั่งตอนแรกอีกแล้ว เพียงแต่เธอต้องการเวลาที่จะเรียนรู้เท่านั้น ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นตรงมุมปากก่อนจะเดินตามอัญชันเข้าไปในครัว
เด็กชายตัวน้อยๆหัวเราะชอบใจกับสนามเด็กเล่นที่เขาได้รับเป๋นของขวัญเขาวิ่งเล่นกับริสาอย่างสนุกสนานจนเสียงหัวเราะนั้นกังวาลไปทั่วลาน
" ภูผา!!!หยุดวิ่งเล่นก่อนแล้วมากินได้แล้วลูกเดี๋ยวจะอ้วกนะ!!" อัญชันดุลูกชายเบาๆพลางคีบชิ้นเนื้อที่กำลังสุกวางบนจานของไลอาร์ที่กำลังเพลิดเพลินกับหมูกะทะกีบน้ำจิ้มรสแซ่บ
" แม่ๆๆ...คุณลุงให้สนามเด็กเล่นกับภูผาด้วย!!!" เด็กชายตัวน้อยตื่นเต้นดีใจวิ่งมาบอกมารดาก่อนจะหยิบน้ำส้มของโปรดขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหาย
" ภูผา...ไม่คิดถึงพ่อเหรอครับ!!" ไลอาร์ถามเด็กชายตัวอวบอ้วนที่กำลังเคี้ยวลูกชิ้นจนแก้มตุ่ย
" คิดถึงครับ...แต่ภูผาอยู่กับแม่ก็มีความสุขดีแล้ว" เขาตอบด้วยความไร้เดียงสาคำตอบนั้นทำเอาอัญชันกับไลอาร์ต่างก็รู้สึกจุกอยู่ในอก
" งั้นภูผาอยากเจอพ่อไหมครับ" เรนดอลพูดเสริม
" อยากสิ....แต่พ่อจะอยากเจอภูผาไหมอันนี้ภูผาไม่รู้"
" อยากสิ!!!เขาอยากเจอภูผากับแม่มากรู้ไหมเขาตามหาภูผากับแม่ตลอดห้าปี...ก็เพราะเขาอยากเจอกับหนูไงลูก" ไลอาร์รีบตอบด้วยความกระวนกระวายใจ เขาไม่อยากให้ลูกชายของเขาต้องเข้าใจผิดอีกต่อไป
" คุณลุงเป็นพ่อของภูผาเหรอ...คุณลุงถึงรู้" เด็กชายพูดตอกกลับทว่าแววตาไร้เดียงสากลับเเข็งกร้าวขึ้น ไลอาร์รู้สึกเหมือนได้เห็นตัวเองในตัวเด็กคนนี้ขึ้นมา คำพูดคำจาช่างฉะฉานเกินเด็กสี่ขวบนัก
" แล้วถ้าลุงเป็นพ่อของหนู...หนูจะโกรธไหม" ไลอาร์กลืนน้ำลายลงคออย่างฟืดเคืองกลัวว่าบุตรชายของเขาจะไม่ยอมรับเขาที่เป็นบิดา
" ภูผาชอบคุณลุง...คุณลุงใจดี...แต่ภูผาต้องถามแม่ก่อน...พี่ดอนพี่เลน...ไปเล่นตรงโน้นกับภูผาที!!" เด็กชายตัวน้อยวิ่งไปหาเรนดอลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเอเลนแล้วลากทั้งสองไปวิ่งเล่นสนุกต่อ
" ลูกว่าอย่างงั้นนะ...แล้วคุณล่ะอัญ...คุณจะใจอ่อนกับผมได้ไหม" เขาถามหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่นาน
" ฉันไม่มีความคิดเห็นค่ะ...ริสา...ลองชิมอันนี้ดูสิอร่อยนะ" อัญชันคีบชิ้นเนื้อที่กำลังเกรียมได้ที่ยื่นให้ริสา หมูกระทะในมื้อนี้นั้นอร่อยที่สุดเลยก็ว่าได้แต่สำหรับทุกคนแล้วเป๋นมื้อที่เปี่ยมความสุขที่สุดแล้ว
" คุณอัญยอมพูดกับนายท่านแล้วอีกไม่นานก็คงจะมีข่าวดี...ว่าไหมเรนดอล" เอเลนพูดกับเรนดอลขณะยืนแกว่งชิงช้าให้กับภูผา
" นายหญิงใจแข็งยิ่งกว่าอะไรอีก...ฉันก็ไม่รู้ว่านางจะเปิดใจให้นายท่านอีกเมื่อไหร่...เห้ออออ!!!" เรนดอลถอนหายใจเฮือกด้วยความอ่อนใจ
" เอาเถอะน่า...ทำไมฉันถึงนึกถึง มิสนภัททราก็ไม่รู้สิ...หรือเป็นเพราะคำพูดที่เธอมักจะพูดบ่อยๆกันนะ" เอเลนพูดเมื่อจู่ๆเขาก็หวนนึกถึงเหตุการ์ณที่ผ่านมาตลอดห้าปี เขานั้นมักจะติดต่อกับมิสนภัททราอยู่เสมอเพื่อถามข่าวของอัญชันและด้วยความที่เจรจาเข้าคอกันทำให้เขากับนภัททรานั้นเป็นเพื่อนกันไปโดยปริยาย
" พูดถึงมิสนภัททราแล้ว...นางรู้หรือยังว่าเราเจอนายหญิงกับนายน้อยแล้ว" เรนดอลถาม
" ยัง...มัวแต่ยุ่งๆจนลืมบอกนางไปเลย...พรุ่งนี้ค่อยบอกนางก็แล้วกัน"
" บอกข่าวนางช้าอย่างนี้ระวังโดนชุดใหญ่นะครับพี่..." เรนดอลแซวเพราะเขาเองก็เริ่มสนิทกับหญิงสาวเช่นกันและรู้ดีเลยว่าเธอนั้นจริงใจกับเพื่อนทุกคนแค่ไหนจึงไม่แปลกที่เธอจะเป็นที่รักของทุกคนแม้กระทั่งกับน้องๆเช่นอัญชันและเพียงจันทร์