อาหมิงหน้าตาเศร้าสร้อยเอ่ยกับคุณหนูตนเสียงแผ่วเบาเพราะกลัวจะพูดจากระทบคุณหนูให้เสียใจ
"คุณหนู…เรากลับ…"
"เอาอีกตา!!!"
"คุณหนู…" อาหมิงไร้คำเอื้อนเอ่ย นางที่คิดว่าตนเองรู้จักคุณหนูฉีอันหนิงของตนดียิ่งกว่าใคร ทว่าวันนี้ราวกับนางเพิ่งจะรู้จักนายของตนเป็นครั้งแรก
ปกติคุณหนูมิได้เป็นคนเช่นนี้ ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่รู้ว่าอย่างไรตนเองก็พ่ายแพ้นางย่อมไม่มีทางปล่อยหมูไปสู้กับเสือเป็นแน่
สาวใช้ตัวน้อยมองคนที่กำลังเมามันด้วยสายตาละห้อย ทว่ายามนี้มิมีสิ่งใดให้ความสนใจกับคุณหนูได้นอกจากการเล่นตรงหน้า
ชายหนุ่มอาภรณ์สีขาวหัวเราะชอบใจ "เชิญแม่นาง"
เฮ่อซินหมิงกวาดตามองไปรอบกาย ที่นี่ไม่มีอะไรเป็นของเธอสักอย่าง ที่ติดตัวอยู่ตอนนี้ก็เหลือแค่เสื้อผ้าแล้ว
เธอครุ่นคิดก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นสาวใช้ของตนที่นั่งหงอยอยู่ใกล้ ๆ เหมือนกับมีเขาเล็ก ๆ และเขี้ยวงอกออกมาจากหน้าของเธอที่กำลังมองหาของมีค่าเพื่อจะนำไปเดิมพัน
เฮ่อซินหมิงยิ้มพราวทันใด
อาหมิงจู่ ๆ ก็รู้สึกร้อนวูบวาบจึงเงยหน้าขึ้นก็พบกับสายตาแปลกประหลาดของคุณหนูตนที่จ้องมองมา นางเริ่มรู้ตัวทันที
"มะ…ไม่ได้นะเจ้าคะคุณหนู!…ข้า…ข้า…คุณหนูจะทำแบบนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ!!" อาหมิงลุกลนรีบกอดแขนคุณหนูของตนแน่น
"เธอรู้เหรอว่าฉันต้องการอะไร?" เมื่อได้ยินประโยคนั้นอาหมิงก็ขนลุกวาบไปทั่วร่าง รีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน
"ไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าจะไม่ยอมจากคุณหนูไปไหนแน่ ๆ " อาหมิงยืนยันหนักแน่น น้ำตาเริ่มคลอเบ้า
"ห๊ะ!…อะไรนะ? เธอพูดอะไรฉันไม่เข้าใจ?" สาวใช้ชะงักงันน้ำตาเหือดแห้งไหลกลับเข้าไปหมด ค่อย ๆ เงยหน้ามองนายสาวของตนก่อนจะเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจเช่นกัน
"คุณหนูกำลังพูดถึงอะไรอยู่หรือเจ้าคะ?"
เฮ่อซินหมิงตบหน้าผากตัวเองดังเผียะ พร้อมกับอุทาน "ปัดโธ่!"
"ท่านตากับท่านยายสอนฉันว่าไม่ควรยืมของ ๆ ใครที่ไม่ใช่ของตัวเอง แต่ว่าตอนนี้ฉันคงจะต้องทำผิดใหญ่หลวงด้วยการยืมของ ๆ เธอมาก่อนซะแล้วน่ะสิ"
.........…
ทั้งศาลาเงียบกริบไปตามกัน
คนที่งงงวยที่สุดก็คงจะเป็นอาหมิง นางขมวดคิ้วมุ่นจนแทบชนกันแล้วเอ่ยถามเสียงยานอย่างไม่เชื่อหู "ท่านตาท่านยายหรือเจ้าคะ? แล้วยืมของ?…อะไรที่ว่าทำผิดใหญ่หลวง?..."
เฮ่อซินหมิงโบกมือปัดอย่างไม่ใส่ใจ "โอ๊ย! เอาเถอะ ๆ เอาเป็นว่าฉันขอยืมของเธอมาก่อนแล้วกัน เดี๋ยวจะคืนให้อย่างแน่นอน สัญญาเลย"
นิ้วก้อยเล็ก ๆ ชูมาตรงหน้าของอาหมิง นางสบสายตาที่จริงจังของนายสาวตนแล้วก็อดหัวเราะมิได้
"คุณหนูไม่จำเป็นต้องยืมของข้าหรอกเจ้าค่ะ ถ้าท่านต้องการข้าก็ให้ท่านได้…" พานนึกไปถึงเมื่อครู่ที่ตนคิดว่าคุณหนูจะวางตัวนางเป็นเดิมพัน คำพูดจึงจบลงเพียงเท่านี้
"ฉันจะคืนให้สองเท่าเลย ถ้ามีคืนอะนะ แต่ว่าตอนนี้เธอมีอะไรติดตัวบ้างเนี่ย"
อาหมิงครุ่นคิด มีเพียงปิ่นปักผมทำจากไม้ดำราคาไม่สูงมากที่มารดาของนางปักให้ตอนครบสิบห้าปีเมื่อปีที่แล้วเท่านั้น นางก็ไม่มีของมีค่าอันใดอีก
อาหมิงถอดปิ่นบนหัวออกยื่นให้กับคุณหนูของตนอย่างไม่ลังเล
เฮ่อซินหมิงรับของในมือคนข้างกายตนมาด้วยใบหน้าปลื้มปริ่มปนเกรงใจ หันมาวางปิ่นนั้นลงตรงหน้าคุณชายชุดขาวที่กำลังมองสาวใช้ของตนด้วยแววตาครุ่นคิด
นางช่างเป็นบ่าวที่จงรักภักดีต่อนายของตนยิ่งนัก มอบของล้ำค่าของตัวเองให้กับเจ้านายตนโดยไม่มีอาการอิดออดเสียดายแม้แต่น้อย
เขาหัวเราะคำหนึ่งแล้วเอ่ย "ข้าวางของเดิมพันเป็นตำลึงก้อนนี้เช่นเดิม"
เฮ่อซินหมิงถกแขนเสื้อตัวเองขึ้นทั้งสองข้างด้วยท่าทางราวกับนักเลงที่พร้อมจะไปต่อยตี "มา…เริ่ม!"
"เชิญท่านก่อน ๆ " เธอรีบเอ่ยก่อนที่เขาจะทันอ้าปาก ชายหนุ่มพยักหน้าเบา ๆ แล้วหยิบลูกเต๋าทั้งสามลูกขึ้นโยนลงไปในถ้วย
แกร๊ง!
ทุกคนชะโงกหัวเข้ามาเช่นเดิม เมื่อเห็นผลทุกคนก็ต้องเบิกตาโพลงแล้วมองไปยังสาวน้อยผู้น่าสงสารด้วยแววตาเศร้าสลดแกมขบขัน
ดูแม่นางผู้นี่สวรรค์ไม่เข้าข้างเอาเสียเลย ถ้านับลูกสุดท้ายที่มีจำนวนไม่เหมือนทั้งสองลูกเขาก็ได้ไปหกแต้มแล้ว
เฮ่อซินหมิงไม่มีอาการร้อนใจเธอยกมุมปากขึ้นน้อย ๆ หยิบลูกเต๋าในถ้วยทั้งสามลูกมาไว้ในกำมือก่อนจะเขย่าไปมาท่ามกลางสายตางุนงงของคนทั้งหลายด้วยที่ไม่เข้าใจในการกระทำของนาง แต่ทุกคนก็เริ่มคาดเดาชะตากรรมของนางได้แล้วว่าโอกาสครานี้มีน้อยกว่าครั้งแรกเสียอีก
แกร๊ง!
มีบางคนเท่านั้นที่ยื่นคอเข้าไปดูผลแต้มในถ้วย เมื่อพวกเขาเห็นแต้มที่ออกก็เขย่าคนที่อยู่ข้างกายให้ดูกันอย่างโกลาหล
"จะ…เจ้า! เจ้าดู!!"
"โอ้!…เป็นไปได้อย่างไร!"
"นี่ ๆ เห็นเช่นที่ข้าเห็นหรือไม่!"
นางทอยได้ สี่ ห้า หก นั่นถือว่าชนะขาดลอย!!
เสียงโห่ร้องอย่างยินดีและประหลาดใจดังกึกก้อง อาหมิงที่นั่งหงอยเมื่อครู่เผลอกรีดร้องสุดเสียงด้วยความดีใจยิ่ง ชายหนุ่มที่นั่งฝ่ายตรงข้ามส่งยิ้มมาให้เช่นเดิมทว่าแววตากลับฉายแววชื่นชมสาวน้อยวาสนาดีตรงหน้า
"คุณหนู!!! คุณหนูเจ้าค้าาาา!!! คุณหนูชนะเจ้าค่าาาา!!!" อาหมิงกรีดร้องแข่งกับชาวบ้าน เฮ่อซินหมิงยิ้มกว้างตบหลังอีกฝ่ายอย่างเบิกบาน
"ฉันนี่มันอัจฉริยะจริง ๆ "
"แม่นาง…นี่ของเดิมพันของข้า" มือหนาผายไปยังก้อนตำลึงทองที่วางส่องประกายอยู่ คุณหนูตัวน้อยหยิบมันขึ้นมาด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
"นี่ปิ่นของเธอ อาหมิง" อาหมิงรับปิ่นในมือของนายสาวมาด้วยความซาบซึ้งยิ่ง
"เกมนี่มันสนุกจริง ๆ ท่านจะเล่นกับฉันอีกสักหน่อยได้ไหม?" เธอเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างกระตือรือร้น
ชายหนุ่มมีหรือจะปฏิเสธได้ เขาเองก็ชักจะอยากรู้แล้วเช่นกันว่านางจะดวงดีไปได้ถึงเพียงไหน "ตกลง"
"ของเดิมพันของฉันเอาเป็นตำลึงทองก้อนนี้ต่อก็แล้วกัน" ทุกคนต่างงุนงงนัก หากแพ้ขึ้นมามิเท่ากับว่าเล่นเสียเปล่าหรอกหรือ? ถ้าเป็นพวกเขาได้กำตึงทองก้อนนั้นไปก็บุญโขแล้ว
"เจ้าแน่ใจรึ ว่าจะใช้ตำลึงทองก้อนนั้นวางเดิมพัน?" แม้แต่เขาเองก็สงสัยเช่นกัน
"แน่ยิ่งกว่าแน่! " ทุกคนในที่นั้นต่างคิดไปทางเดียวกัน นี่นางเอาความมั่นใจมาจากไหน คิดว่าสวรรค์เข้าข้างตนเองทุกครั้งหรืออย่างไรกัน?
"อย่ามัวชักช้า!! เริ่ม!!" เสียงหวานใสเอ่ยอย่างฮึกเหิม ทว่าก็ต้องแปลกใจเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงสายตาร้อนแรงคมกริบที่ทะลุผ่านผู้คนมาจากทางด้านหลัง แต่เวลานี้เธอต้องมีสมาธิอยู่กับเรื่องสนุกตรงหน้าก่อน
...........................................
เรื่องสนุกยิ่งกว่าจะมาต่อจากนี้ต่างหากเจ้าค่าาาา!! เอ๊ย ๆ ๆ อย่าพูดมาก ๆ เดี๋ยวน้องรู้สึกตัวทัน o0o!!
คอมเมนต์ได้นะเจ้าค้าาาา ขอบพระคุณรี้ดที่น่ารักทุกท่านเจ้าค่าาาา