webnovel

บทที่ 14 เบื้องหลังคดี (1)

บทที่ 14 เบื้องหลังคดี (1)

ตลอดขั้นตอนทุกอย่างซ่งเว่ยหนานกับเลขาหม่าและบอดีการ์ดหย่งคังก็อยู่เป็นเพื่อนซีหลินด้วย ทำให้เธอรู้สึกเกรงใจพวกเขามาก พยายามบอกให้เขากลับไปก่อนเธออยู่ที่นี่คนเดียวได้ ซ่งเว่ยหนานก็บอกไม่เป็นไรและยอมอยู่เป็นเพื่อนเธอที่สถานีตำรวจนานหลายชั่วโมงจนเสร็จสิ้นกระบวนการ

"ฉันต้องขอโทษที่รบกวนท่านประธานซ่ง เลขาหม่า และคุณหย่งคังมากๆเลยนะคะ ทำให้พวกคุณต้องเสียเวลาไปด้วยตั้งหลายชั่วโมง"

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่เสียเวลา" ซ่งเว่ยหนานเอ่ยตอบอย่างสุภาพเช่นเดิม แต่สีหน้าของเขาดูไม่ดีนัก ซีหลินสังเกตว่าตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในสถานีตำรวจ แม้ส่วนใหญ่เขาจะมีท่าทางสุภาพสุขุมเป็นปกติ แต่บางครั้งเขาก็มีสีหน้าเหมือนมีความอึดอัดไม่สบายตัวบางอย่าง เหมือนกันกับตอนนี้ที่ตำรวจพาคนกลุ่มใหญ่เดินผ่านเราไป สีหน้าของเขาก็มืดครึ้มลงครู่หนึ่ง

เธอสงสัยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามเพราะกลัวว่าจะเป็นการละลาบละล้วง เดาเอาเองว่าเขาอาจจะไม่ชอบสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านหรือเปล่า

ยิ่งคิดว่าเขาต้องลำบากมาอยู่ในสถานที่ที่ไม่ชอบเพราะเธอ ซีหลินก็ยิ่งรู้สึกผิด

พอเจ้าหน้าที่บอกว่าทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เธอจึงรีบชวนซ่งเว่ยหนาน เลขาหม่าและบอดีการ์ดหย่งคังออกจากสถานีตำรวจทันที

ตอนนี้พวกเรายืนรออยู่ที่บันไดทางเข้าหน้าสถานี รอให้หย่งคังเอารถมารับ

"การเป็นพลเมืองดีนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ"

เลขาหม่าบ่นเบาๆ คิดถึงเรื่องที่ตนเองกับเจ้านายช่วยคุณซีหลินไว้เมื่อวาน พวกเขาก็ต้องให้การกับตำรวจเช่นกัน แต่ยังดีว่าตำรวจรู้ว่าเจ้านายของเขาเป็นใคร จึงไม่ได้ทำให้พวกเราลำบากมากนัก ประกอบกับจับคนร้ายได้ในที่เกิดเหตุ ตำรวจได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยตาตัวเอง การให้การเป็นพยานหรือชี้ตัวใดๆของพวกเขาจึงไม่จำเป็น แค่ตอบคำถามตำรวจตอนที่มาสอบถามครั้งแรกเสร็จแล้วก็ไม่มีใครมาวุ่นวายกับพวกเขาอีก

แต่คราวของคุณหนูซีหลิน เรื่องมันยุ่งยากเล็กน้อย เพราะเธอเป็นพยานที่เห็นหน้าคนร้ายชัดเจนที่สุด ส่วนกล้องวงจรปิดในสวนสาธารณะก็เป็นภาพมุมกว้างที่ค่อนข้างไกล จึงจำเป็นต้องให้เธอมาชี้ตัวคนร้ายด้วยตัวเองเพิ่มเติมเพื่อให้หลักฐานรัดกุม

รวมทั้งตำรวจที่ทำคดีแก๊งเงินกู้เมื่อวานก็อยู่สถานีนี้ด้วยเหมือนกัน เห็นว่าซีหลินมาที่โรงพักก็เลยให้เธอให้ปากคำอย่างเป็นทางการและทำเรื่องเอกสารเกี่ยวกับคดีเมื่อวานนี้ไปด้วยเลย ต้องจัดการสองคดีพร้อมกัน ไปๆมาๆ สุดท้ายจึงเสียเวลาไปเกือบสามชั่วโมง

"แต่คนร้ายคดีนี้ก็ชั่วร้ายจริงๆนะครับ ทั้งๆที่ได้คนครอบครัวเจิ้งช่วยเหลือให้มีที่อยู่ที่กินแท้ๆ แต่กลับตอบแทนความดีของพวกเขาด้วยการพยายามฆ่าหลานสาวคนเดียวของเขาแบบนี้" เลขาหม่าวิพากษ์วิจารณ์

จากที่อยู่ในสถานีตำรวจหลายชั่วโมง กลุ่มของซีหลินจึงได้ทราบข้อมูลของคดีนี้เพิ่มเติมว่า

นางถู่โต้ว คนร้ายในเหตุการณ์นี้ เป็นหญิงในชนบทหมู่บ้านเดียวกับคุณเจ้าเซียง ยายของเด็กหญิงซานซานที่ตกน้ำ ถู่โต้วกับเจ้าเซียง เคยเป็นเพื่อนรู้จักกันในวัยเด็ก พอเติบโตทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป เมื่อสามสี่เดือนก่อน คุณนายเจิ้งไปเจอถู่โต้วทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดอยู่ในร้านค้าริมถนน และพึ่งถูกทางร้านไล่ออก จดจำได้ว่าเป็นเพื่อนสมัยเด็กจึงเข้าช่วยเหลือ หาที่อยู่อาศัย และให้เธอมาทำงานเป็นแม่บ้านที่บ้านตระกูลเจิ้งก่อนชั่วคราว รอว่าถ้ามีงานดีๆงานอื่นก็จะแนะนำให้เธอไปทำ

คุณนายเจิ้งคิดเจตนาดี ไม่รู้ว่าความช่วยเหลือของเธอทำให้นางถู่ไม่พอใจและค่อยๆสะสมความโกรธแค้นจนกระทำเรื่องร้ายแรงอย่างในวันนี้

จริงๆนางถู่โต้วอิจฉาคุณนายเจิ้งมาตลอด ทั้งๆที่พวกเธอมีพื้นฐานครอบครัวที่เหมือนกัน และถู่โต้วสวยกว่าคุณนายเจิ้งเสียด้วยซ้ำ ในอดีตใครก็คิดว่าเธอจะต้องมีชีวิตที่ดีที่สุดในรุ่นแน่ๆ และนางถู่เองก็เชื่อมั่นเช่นนั้นมาตลอด

ด้วยความสวยของเธอ นางถู่จึงสามารถเลือกคู่ครองที่ดีที่สุดให้ตัวเองได้ เธอเลือกแต่งงานกับชายหนุ่มที่หล่อและรวยที่สุดในตำบล ส่วนคุณนายเจิ้ง หรือเจ้าเซียงในสมัยนั้น เลือกจะแต่งงานกับชายหนุ่มธรรมดาที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง

ใครจะคิดว่าเมื่อแต่งงานไปชีวิตถู่โต้วจะพบกับปัญหา เพราะว่าเธอไม่สามารถให้กำเนิดลูกชายได้ เธอคลอดลูกผู้หญิงออกมาสามคน ไม่มีลูกชายเลยสักคนทำให้แม่สามีไม่พอใจ จึงนำเมียน้อยเข้าบ้านมาให้ลูกชาย นางถู่โต้วโมโหเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ทำร้ายเมียน้อยได้รับบาดเจ็บ สามีและแม่ย่าไม่ชอบเธออยู่แล้วจึงหาเรื่องหย่าขาดจากเธอ แล้วไล่เธอออกจากบ้าน ลูกสาวที่เธอคลอดออกมาก็ไม่มีใครไยดีเธอ เนื่องจากนางถู่โต้วเองก็มีความเชื่อว่าลูกชายดีกว่าลูกสาว ทำให้เธอรังเกียจเด็กหญิงทั้งสามที่เธอคลอดออกมาเป็นอย่างมาก คอยด่าว่าทุบตีระบายอารมณ์โทษความผิดทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเองว่าเป็นความผิดของเด็กหญิงทั้งสามคนนั้น เธอเลี้ยงดูลูกอย่างโหดร้ายทารุณ ความรักความผูกพันธ์ที่ลูกมีต่อเธอจึงน้อยนิดเต็มที เมื่อออกจากบ้านอดีตสามีชีวิตของเธอจึงล้มเหลวลงเรื่อยๆ

แตกต่างกับชีวิตของเจ้าเซียงที่ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นด้วยดี ตัวเธอเองมีอาชีพการงานที่มั่นคง สามีคนธรรมดาที่เธอแต่งงานด้วย ก็พัฒนาตนเอง ขยันทำงานอย่างซื่อสัตย์จนกลายเป็นข้าราชการระดับสูงในหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่ง มีรายได้และฐานะมั่นคงเป็นที่นับหน้าถือตาของผู้คน และแม้เจ้าเซียงจะคลอดลูกสาวและมีลูกได้แค่คนเดียว สามีและครอบครัวก็ยังรักและดีกับเธอ ไม่มีใครด่าว่าที่เธอไม่มีลูกชายเลย และลูกสาวของเธอก็เติบโตมาอย่างดี ได้เรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำ มีอาชีพการงานมั่นคง และได้แต่งงานกับชายหนุ่มที่ดีมีครอบครัวอบอุ่น ทั้งยังกตัญญูกับเจ้าเซียงและสามีอย่างมาก

เมื่อเจ้าเซียงกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมเมื่อไหร่ ถู่โต้วที่ได้เห็นแต่ชีวิตที่มีแต่ดีวันดีคืนของจ้าเซียง ก็รู้สึกอิจฉาริษยามาตลอด

หลังหย่าขาดกับสามีคนแรกถู่โต้วก็แต่งงานใหม่อีกหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยราบรื่น ครั้งสุดท้ายเธอไปหลงใหลชายหนุ่มอายุน้อยวัยยี่สิบกว่าปีคนหนึ่ง เพื่อให้ได้อยู่กับหนุ่มคนนี้เธอจึงขโมยโฉนดที่ดินสมบัติของตระกูลถู่ไปขายให้พ่อค้าที่เข้ามากว้านซื้อที่ดิน ได้เงินแล้วก็หนีตามเด็กหนุ่มนั้นมาที่เมืองB แต่มาถึงเมืองBได้ไม่นานเด็กหนุ่มก็เผยธาตุแท้ เขาลักเอาเงินทั้งหมดที่เธอมีแล้วหนีไป ทิ้งเธอให้เผชิญกับเมืองใหญ่แปลกหน้าเพียงลำพัง