เมื่อเสือและภีมเดินเข้ามาในบ้าน ทุกคู่สายตาของเพื่อนๆที่กำลังนั่งรอพวกเขา ต่างหันมองกันเป็นทางเดียว
"ไอ้ภีม สรุปยังไง? อธิบายมาดิ"
วินเพื่อนที่สนิทที่สุดทวงถามขึ้น เนื่องจากท่าทีของทั้งสองที่เห็นที่น้ำตกมันดูผิดวิสัยเกินกว่าจะเป็นเเค่รุ่นพี่กับรุ่นน้อง
"เออๆ…แฟนกู"
"ห๊ะ…อะไรนะ"
"จิ…พวกมึงเนี่ยหูหนวกรึไง"
"สัด…มึงก็พูดดังสิว่ะ ดังๆชัดๆนะพูดเป็นไหม"
"เออ!...กู กับ เสือ เป็น เเฟน กัน...พอใจพวกมึงไหม"
"กูว่าแล้ว ไงละไอ้วิน ไอ้ปอนด์ บอกแล้วว่าไอ้ภีมมันต้องมีซัมติงกับพี่เสือ"
"หุบปากไปเลยไอ้บีม"
ทุกคนที่ได้ยินกลับไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร เพียงแต่ต้องการความแน่ใจให้หายสงสัยก็เท่านั้น ภีมถลึงตาใส่เพื่อนตัวดีแล้วหันมาทำหน้าบึ้งตึงใส่คนตัวสูงที่ยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆ
"งั้นที่เราจูบกับเสือ…เออ…เราขอโทษจริงๆนะ เราคิดว่าเสือยังโสดก็เลย…"
"เลยอ่อยให้ท่างั้นสิ"
"บีม! นิสัยไม่ดี หยุดพูดเลยนะ"
"ใครว่า…พูดความจริงต่างหาก"
"บีม ไอ้บ้า ไอ้…"
"พอๆ หยุดเลยทั้งคู่"
วินรีบพูดห้ามเพื่อนทั้งสอง ก่อนที่จะลงมวยกลางบ้านให้ปวดหัว
"ภีม งั้นพวกกูกลับก่อนละกัน ไม่งั้นบ้านมึงได้กลายเป็นสนามมวยแน่"
"วิน…คือ…เออคือ มึงไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอว่ะที่กูคบผู้ชาย"
"รู้สึกอะไรว่ะ ไม่ว่าเพื่อนกูจะคบใคร ถ้าเป็นคนดีกูโอเคหมดแหละ มึงอย่าคิดมาก"
"โห กูนึกไม่ถึงเลยว่ามึงจะเป็นเพื่อนที่ดีขนาดนี้ มาให้กูกอดทีดิ"
ภีมทำท่าจะยกแขนขึ้นมากอดเพื่อนซี้ แต่ดันกลับถูกขายันไว้ให้ออกห่าง เสียงหัวเราะพร้อมคำพูดด่าทอแค่หยอกล้อกัน ทำให้วันนี้กลายเป็นอีกวันที่เสือรู้สึกว่าการได้มีคนข้างๆที่ชื่อภีม มันช่างดีกว่าที่ผ่านมา แต่ไม่ทันทีจะได้ดื่มด่ำกับความสุขจนเต็มปอด ข้อความจากโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้เขาต้องรีบบึ่งรถมายังที่ที่ไม่อยากมา
"เสือ…มึงใจเย็นๆ พ่อมึงต้องไม่เป็นอะไร"
ณ โรงพยาบาลเอกชน เสือรีบวิ่งตรงมายังห้อง ICU ที่มีแม่กับน้องชายนั่งรออยู่หน้าห้องอย่างกระวนกระวาย
"แม่…"
"เสือ…พ่อ…อยู่ๆพ่อเขาก็ล้มหมดสติไป…แม่กลัวเสือ แม่กลัว"
"แม่ครับ ไม่เป็นไรนะครับ พ่อต้องไม่เป็นไร"
ผ่านไปหลายชั่วโมงกว่าประตูห้องฉุกเฉินจะถูกเปิดออก แพทย์ที่ดูแลอาการรีบออกมาแจ้งผล และขอคุยรายละเอียดกับสมาชิกในครอบครัวเพื่อทำความเข้าใจ
"ไหนญาติคนไข้ครับ"
"ฉัน…ฉันเองค่ะ ฉันเป็นภรรยาเขา"
"คนไข้เส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลัน หลังจากการผ่าตัดเรายังคงต้องรอดูอาการอีกสักระยะ เนื่องจากยังไม่พ้นขีดอันตราย"
"หมอ…หมอต้องช่วยสามีฉันให้ได้นะคะ อย่าให้เขาเป็นอะไรไปนะคะ"
"ครับ แต่ยังไงญาติก็ต้องเพื่อใจไว้ส่วนหนึ่งนะครับ ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ"
หญิงสาวร้องไห้โห่เมื่อรับรู้ถึงอาการที่ไม่สู้ดีของผู้เป็นสามี เสือได้แต่กอดปลอบผู้เป็นแม่ไว้แนบอก เขาหันมองสิงห์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่มีคำพูดจามีแต่ความเข้าใจที่สองพี่น้องแสดงถึงกันและกัน
"สิงห์มึงพาแม่กลับบ้านไปก่อน เดี๋ยวกูไปส่งภีมแล้วจะตามไป"
"เฮ้ย ไม่ต้อง กูกลับเองได้ มึงกลับไปพร้อมแม่เถอะ แม่มึงร้องไห้ไม่หยุดเลย"
"ภีม…"
"เออน่า กูไม่ใช่เด็กๆแล้ว"
"อืม งั้นถึงคอนโดแล้วโทรหากูด้วย"
"เออๆ"
เสือเดินประคองผู้เป็นแม่พาไปที่รถ โดยมีสิงห์เดินตามไม่ห่าง ภีมถึงกับอมยิ้มเมื่อเห็นสองพี่น้องที่ก่อนหน้านั้นแทบจะฆ่ากันตาย แต่มาวันนี้กลับเดินอยู่ข้างกันไม่ทิ้งไปไหน เมื่อเสือขึ้นรถออกไป ภีมจึงเรียกรถแท็กซี่กลับคอนโด ทันทีที่ถึงห้อง เขารีบหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาคนที่คิดถึง แต่ปลายสายกับไม่มีผู้รับ ภีมรอสายอยู่นานจนต้องกดตัดสาย นั่งมองหน้าจอที่ดับไป
"เฮ้อ…"
คนตัวขาวนั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในสถานการณ์แบบนี้ตัวเขาเองก็เข้าใจได้ถ้าอีกคนจะไม่รับสาย ภีมใช้เวลาอยู่ในห้องคนเดียว กินข้าว อาบน้ำ ดูหนังจนหลับคาโทรทัศน์แต่มือยังคงถือโทรศัพท์ของเดิมไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยให้ห่างตัว
"อือออ"
ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ ตอนนี้ร่างกายเหมือนรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นๆที่หน้าผากและข้างแก้มจนต้องร้องท้วง
"เฮ้ย!"
คนที่นอนสะดุ้งตื่นเมื่อร่างกายเหมือนถูกอุ้มให้ลอยขึ้นไปกลางอากาศ
"เสือ!?"
"ทำไมไม่ไปนอนในห้อง เดี๋ยวก็ไม่สบาย"
"มึง…"
คนที่ถูกอุ้มถูกวางบนเตียงนอน ก่อนที่เจ้าของห้องจะเดินหายเข้าห้องน้ำไป ไม่นานก็กลับมาพร้อมเนื้อตัวที่มีน้ำใส่เกาะเป็นหยดตามร่างกายกับผ้าเช็ดตัวที่พันไว้รอบเอว เสือเดินมานั่งบนเตียง ภีมมองใบหน้าอมทุกนั้น ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าผืนเล็กมาเช็ดผมที่เปียกให้
"ทำหน้าที่เมียเหรอมึง"
"สัด…กูอุตส่าห์มีน้ำใจช่วยเช็ดผมให้ มึงต้องสำนักบุ…"
"กูคงต้องดรอปเรียน"
คำพูดเรียบเฉยทำคนฟังใจไม่ดี ภีมหยุดชะงักก่อนจะค่อยๆเช็ดศีรษะที่เปียกชื้นนั่นต่อ เขานิ่งเงียบรอฟังสิ่งที่อีกคนอยากจะอธิบาย
"ตอนนี้ที่บริษัทไม่มีใครจะขึ้นมาทำหน้าที่แทนพ่อกูได้ แต่ถ้าจะมีบริษัทพ่อกูคงโดนโกงไม่เหลือ แม่กูเลยขอให้เข้าไปช่วยทำงานที่บริษัทแทนพ่อ กูไม่รู้ว่าพ่อจะหายดีเมื่อไหร่ ตอนนี้กูเป็นเสาหลัก กูต้องทำหน้าที่ทุกอย่างแทนพ่อ…ตั้งแต่พรุ่งนี้กูต้องเข้าบริษัทและเริ่มทำงานเต็มตัว…คงไม่ค่อยได้ไปส่งมึงที่มหาลัย"
"ไม่เป็นไร กูไปเองได้ อย่าทำเหมือนกูเป็นเด็กสิว่ะ"
"หึ…เราอาจจะเจอกันน้อยลง…แต่..."
เสือจับมือนิ่มที่กำลังเช็ดผมของตนไว้แน่น
"แต่กูมีสายสืบ ถ้ามึงจะไปแรด ออกนอกลู่นอกทาง…กูกระทืบมึงแน่ ภีม"
"เชี่ย กูนึกว่ามึงจะพูดเรื่องซึ้งๆ มึงแม้งโคตรบ้า"
ภีมทุบหลังหนาด้วยความโมโหไปแรงๆหนึ่งที ก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีแต่กลับถูกดึงให้หันมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง
"ต่อจากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…อย่าทิ้งกู อย่าไปไหน ขอแค่อยู่ข้างๆกัน…ตลอดไป…ได้ไหมภีม?"
สายตาเศร้าบอกผ่านความหมายอะไรหลายๆอย่างของเสือ ทำให้ภีมต้องรีบดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดไว้แน่น เขาลูบกลุ่มผมหนาอย่างเบามือ ก่อนจะพูดคำที่อีกคนรอฟัง
"กูสัญญา กูจะอยู่ข้างมึงตลอดไป"
นี่เป็นครั้งแรกที่ภีมได้เห็นความอ่อนแอของคนดิบเถื่อน คืนนี้เสือแทบไม่ปล่อยให้อีกคนห่างตัวเลยสักวินาที เขานอนกอดคนรักไว้จนถึงรุ่งเช้า ก่อนที่คนเพิ่งตื่นจะหันกลับมาแล้วเห็นเพียงความว่างเปล่า มีเพียงไออุ่นจางๆของคนที่นอนกอดเขาไว้ให้ได้คิดถึง