เกือบเดือนที่พวกเขาทั้งคู่แทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเนื่องจากเสือต้องทำงานหนักเป็นสองเท่า ทุกอย่างบีบรัดให้ต้องเรียนรู้งานแข่งกับเวลา แถมยังต้องประชุมและติดต่อกับลูกค้าซึ่งเป็นหน้าที่ที่ไม่คุ้นเคย เสือจึงเลือกที่จะนอนที่บริษัทซึ่งมีเพนท์เฮ้าส์สำหรับผู้บริหารอยู่ด้านบนสุดของตึก เขาไม่อยากกลับไปนั่งหน้าเครียดให้อีกคนเครียดตามไปด้วย แต่ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนทุกวันเลิกงาน ก็จะต้องโทรหาอีกคนให้หายคิดถึง
"ฮัลโหล ว่าไงมึง"
"อยู่ไหน ทำไมรับสายช้า"
"กูเพิ่งถึงห้องเนี่ย ให้เวลาถอดรองเท้าเก็บของบ้างสิว่ะ"
"2 ทุ่ม มึงเพิ่งถึงบ้าน…ทำไมกลับช้า มึงไปไหนมา"
"จิ มึงหนิ…ติดทำรายงานกับเพื่อน ทีแต่ก่อนกูกลับเที่ยงคืนไม่เห็นบ่น งั้นกูไปอาบน้ำก่อนเสร็จแล้วจะโทรกลับ แค่นี้…"
"เดี๋ยว!"
"อะไรอีก"
จากการพูดผ่านเสียงจึงถูกสลับมาเป็นวีดิโอคอล
"มึงจะเปิดกล้องทำไมเนี่ย"
"หึ…กูอยากเห็นมึงอาบน้ำ"
"สัด ไอ้หื่น กูจะอาบน้ำแค่นี้แหละ"
ภีมรีบกดตัดสาย ก่อนจะไปอาบน้ำและทำธุระส่วนตัวต่างๆให้เสร็จ แล้วล้มตัวลงนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น เขาหยิบมือถือขึ้นมากดไปหาคนที่เพิ่งวางสายไป รอไม่นานปลายสายก็กดรับแต่ดันเป็นเสียงคนที่ไม่คุ้นเคย
"ฮัลโหล สวัสดีค่ะ"
"เออ…คือ เสือ…"
"หืม…ท่านประธานเหรอค่ะ พอดีท่านไปห้องน้ำเดี๋ยวคงกลับมา มีอะไรฝากไว้ไหมค่ะ"
"ไม่ครับ งั้นเดี๋ยวผมค่อยโทรมาใหม่"
"คุณน่าจะให้ท่านได้พักบ้างนะคะ วันนี้ท่านเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว อีกอย่างเมื่อกี้…ท่านก็เพิ่งเสร็จ…อุ้ย! เพิ่งทำงานเสร็จนะคะ"
"ครับ ขอบคุณที่บอก"
ภีมรีบกดตัดสาย นั่งโมโหหน้าแดงหน้าดำอยู่หน้าทีวี เขาต้องพยายามหายใจเข้าออกช้าๆปรับอารมณ์ที่เหมือนปรอทแตกของตัวเองหลายรอบ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนหูเบา แต่การที่เสือปล่อยให้เลขาเข้ามายุ่งกับเรื่องส่วนตัวมากถึงขนาดนี้ มันเป็นสิ่งที่เขายอมรับไม่ได้
ตื้ดดดด🎶
โทรศัพท์ราคาแพงดังขึ้นต่อเนื่องหลายครั้ง แต่เจ้าของเครื่องดันมัวแต่จ้องการแข่งขันคู่เตะหยุดโลกที่กำลังผลัดกันขึ้นนำอย่างเอาเป็นเอาตาย ถึงแต่จะรับรู้การสั่นสะเทือนของสายเรียกเข้าที่ดังอยู่ตรงหน้า แต่กลับไม่ได้มีท่าทีสนใจมันเลยสักนิดเดียว ผ่านไปเกือบชั่วโมง การแข่งขันใกล้จะจบลงภีมถึงได้หยิบมือถือขึ้นมาดู
" 95 สาย! เชี่ย!"
แกร๊ก
เปิดประตูขึ้นพอดี คนที่กำลังตกใจกับข้อความเรียกเข้าไม่ทันหาย ยังต้องมาตะลึงตาค้างกับผู้ที่เปิดประตูเข้ามาจนสติแทบหลุด
"เสือ! มึง…อ๊ะ…"
ร่างของภีมถูกอุ้มลอยพาดบ่าเข้ามาที่ห้องนอน ก่อนจะถูกเหวี่ยงลงบนเตียง
"ทำไม…มึง"
"มึงไม่รับสายกู หาเรื่องเองนะมึง"
เสือค่อยๆเลื่อนเนคไทปลดออกจากคอ แล้วถอดมันโยนทิ้งลงที่พื้น คนตัวหนารีบลงมาคร่อมร่างขาวพร้อมจับสองแขนกดไว้เหนือศรีษะ
"ปล่อย มึงเป็นบ้าอะไรเนี่ย!"
"ทำไม ไม่ รับ สาย กู"
เสือค่อยๆพูดออกมาช้าๆ ทีละคำ อย่างหนักแน่นและจงใจ
"คือ…คือกูดูบอลอยู่"
"แน่ใจ?"
สำหรับเสือเหตุผลเพียงเท่านี้คงไม่ใช่คำตอบที่เขาต้องการ มันต้องมาอะไรมากกว่านั้น เพราะเขารู้จักนิสัยของคนตรงหน้าดี
"พูดมาภีม"
"กูบอกไปแล้วไง มึงจะเอาอะไรอีกว่ะ…อ๊ะ เชี่ย เจ็บ!"
เสือก้มลงกัดหัวนมของอีกคนผ่านเสื้อยืดตัวบางจนเต็มแรง ยิ่งคนปากเเข็งปิดปากเงียบมากเท่าไหร่ แรงขบกัดก็ยิ่งทวีคูณมากเท่านั้น
"โอ้ย เจ็บๆ พอแล้ว กูบอกก็ได้…ก็เห็นเลขามึงบอกว่ามึงเพิ่งประชุมเสร็จ น่าจะให้พักบ้าง กูก็เลยไม่อยากวุ่นวาย อยากให้มึงได้พักตามที่เขาบอกไง"
"หึ…แค่นี้?"
"เออ!แค่นี้ ปล่อยกูได้ยัง"
"มึงหึงกูกับเลขาว่างั้น"
"จิ…หึงพ่อมึงสิ กูยังไม่ได้พูดสักคำ"
"แต่การกระทำมึงบอกว่าใช่ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปเปลี่ยนเลขาใหม่ มึงจะได้สบายใจ"
"เฮ้ย! ไม่ต้อง กูไม่ได้อยากให้มึงไล่เขาออก กูแค่ไม่ชอบที่เขามาวุ่นวายเรื่องของเรา…จิ เชี่ย…"
ภีมรีบเม้มปากเน้น เมื่อดันเผลอพูดเรื่องไม่อยากพูดออกไป
"หึ…ได้ เอาตามที่มึงสบาย งั้นต่อไปกูจะระวังตัว และก็จะห้ามไม่ให้เขาเข้ามายุ่งในห้องทำงานกูอีก"
"เออ! ปล่อยกูได้แล้ว แขนชาหมดแล้ว"
"ไปอาบน้ำ"
"อะ อะไรกูอาบแล้ว…"
"แต่กูยังไม่ได้อาบ มึงเป็นเมียก็ควรจะไปขัดหลังให้ผัวไม่ใช่รึไง"
"สัด เมียเชี้ยไร ปล่อยยย"
ถึงจะไม่เต็มใจ แต่สุดท้ายภีมก็ถูกลากเข้ามาในห้องน้ำอย่างเลี่ยงไม่ได้ อ่างอาบน้ำที่ไม่ค่อยได้ใช้ถูกเปิดน้ำใส่จนเกือบเต็ม
"เร็ว ภีม มึงจะยืนอีกนานไหม หรือจะให้กูเอา…"
"…เออๆ มึงก็ขยับไปสิ"
ขาเรียวรีบก้าวลงในอ่างน้ำ คนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วจึงขยับให้อีกคนลงมานั่งประชิดตัวได้ถนัด เสือนั่งพิงลงไปกับอกบางอย่างสบายใจ ความเครียดและความเหนื่อยล้าที่เคยมีมาแทบจะหมดสิ้น คนด้านหลังชะงักไปชั่วขณะกับท่าทีที่ไม่ชินตาของคนเผด็จการ แต่ก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ภีมยกมือขึ้นมาบีบนวดข้างขมับให้คนตรงหน้า กดนวดเป็นจุดๆไล้ลงมาถึงไหล่แกร่ง
"เสือ เหนื่อยไหม"
"อืม แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว"
เสือจับมือนิ่มขึ้นมาจูบอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับคนที่เอาแต่ก้มหน้าซ้อนความเขินอายไว้
"หึ…อย่าทำตัวน่ารักสิว่ะ กูหลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว"
"…พูดอะไรของมึง ขนลุก"
เสือเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้คนี่กำลังตัวแดงเป็นลูกมะเขือเทศ กดจูบลงไปเบาๆก่อนจะหนักหน่วงมากขึ้น แล้วบรรเลงเพลิงรักกันต่ออีกหลายยก จนมาจบที่เตียงใหญ่
"อือออ เสือพอแล้ว กูไม่ไหวแล้ว"
"ซี๊ดด อีกครั้งนะ กูคิดถึงมึงแทบบ้า"
"อ๊ะ เจ็บ!เสือ แรง มันแรงไป อ๊าาห์"
ร่างกายสูงใหญ่พร้อมด้วยกล้ามเนื้อมัดแน่น กระแทกท่อนเอ็นใส่รูแคบจนตัวโยก เสียงตุบตับดังไปทั่วห้องจวบจนเสร็จไปอีก 2 รอบ ภีมจึงได้สลบหลับคาอกหนาไปจนถึงเช้า
เช้านี้ไออุ่นจากคนคุ้นเคยยังคงอบอวลไม่ได้หายไปไหน ภีมตื่นเช้ากว่าทุกวันเพราะรู้สึกตัวรุมๆเหมือนจะเป็นไข้ แต่เมื่อได้เห็นหน้าคนที่นอนกอดข้างๆ เขากลับอยากนอนต่อไปอีกนานๆ นิ้วเรียวแตะลงไปที่หน้าผากไล้เรื่อยมาจนถึงสันจมูกและจบลงที่ริมฝีปากอิ่ม เพื่อตรวจเช็คว่านี่คือความจริงไม่ได้ฝันไป
"โอ้ย เจ็บ!"
ฟันคมงับลงไปที่นิ้วขาว แกล้งจนอีกคนสะดุ้ง
"จะลักหลับกู?"
"เปล่าเฮอะ กู…กูจะปลุกมึงต่างหาก จะ 8 โมงแล้ว มึงไม่ไปทำงานเหรอ"
"อืมมม ไป แต่วันนี้เข้าสายได้ มีประชุมตอนบ่าย"
"รอดตัวไปนะมึง งั้นปล่อยกูได้แล้วจะไปห้องน้ำ"
"มึงไปกับกู"
"อะไร? ไปไหน"
"ก็ไปบริษัทไง วันนี้วันเสาร์มึงไม่มีเรียน"
"หึ…ไม่เอาอะ กูจะไปทำไม เกะกะเปล่าๆ"
"ไปดูบริษัทผัวไง"
"สัด มึงปล่อยเลย ก่อนที่กูจะถีบมึงตกเตียง"
เสือส่ายหัวอย่างเอ็นดูให้กับคนที่เอาแต่บ่นไม่หยุดเดินเข้าไปในห้องน้ำ เขาบีดขี้เกียจพอให้หายง่วง ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเช็ครายงานและข้อความต่างๆที่ส่งเข้ามา จนเกือบ 10 โมง หลังจากทั้งคู่อาบน้ำและกินข้าวเช้าเสร็จ เสือจึงขับรถพาคนหน้าหงิกมายังร้านเสื้อที่เลขาได้จัดการสั่งชุดสูท และเสื้อเชิ้ตพร้อมกางเกงราคาแพงไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
"นี่มึงต้องซื้อชุดใหม่เลยเหรอ"
"หึ…เรื่องของธุรกิจ มึงรอกูตรงนี้ เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดก่อน"
คนตัวสูงเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุด สักพักก็เดินกลับออกมาพร้อมเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งตัว
"ตายแล้ววว คุณเสือ หล่อยังกับเจ้าชาย"
"หึ…เจ้าชายอสูรสิไม่ว่า"
ภีมแอบพูดเหน็บคนหน้าหล่ออย่างหมั่นไส้
"งั้นมึงก็คงเป็นเบลล์สินะ"
"สัด พูดบ้าอะไร คิดแล้วขนลุก"
เสือเดินมานั่งข้างๆคนที่นั่งรอ แกล้งแหย่ไปพลางแอบจับตัวไปพลางจนสนุกมือ แต่เมื่อพนักเดินเข้ามาใกล้ภีมจึงต้องรีบจับมือหนาให้หยุดลูบตัวเขาได้แล้ว
"เออ…งั้นดิฉัน ขออนุญาตถ่ายรูปคุณเสือโปรโมทร้านได้ไหมค่ะ"
"ได้ครับ ไม่มีปัญหา"
เจ้าของร้านยิ้มหน้าบานเมื่อลูกค้ารายใหญ่ให้การสนับสนุน แถมยังใจดีช่วยโปรโมทร้านให้อีก
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เสือจึงขับรถตรงไปยังบริษัท เมื่อจอดรถเสร็จทั้งสองคนจึงเดินขึ้นตึกเคียงคู่มาด้วยกัน แต่ระหว่างทางกลับมีสายตาของพนักงานคอยสอดส่องมองตามทุกระยะ ถึงอย่างนั้นเสือก็ไม่ได้มีท่าทีใส่ใจอะไร ผิดกับอีกคนที่ดูจะกังวลจนเดินเงอะงะไม่เป็นท่า
"สวัสดีค่ะท่าน…เออ….แล้วนี้?"
"คนสำคัญของผม ยังไงช่วยเอาของว่างเข้ามาเสริฟให้ผมด้วย แล้วก็…ถ้าผมไม่สั่ง อย่าเข้ามารบกวนในห้องเด็ดขาด"
"ระ รับทราบค่ะ"
"อีก 10 นาทีผมจะตามเข้าไปในห้องประชุม เตรียมเอกสารให้เรียบร้อย"
"ค่ะท่าน"
สีหน้าของเลขาสาวบ่งบอกถึงความไม่พอใจจนสังเกตได้ชัด แต่ก็ต้องก้มหน้าทำตามที่เจ้านายสั่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเข้ามาในห้องทำงานภีมแทบทรุด ไม่รู้ทำไมทุกอย่างถึงได้ดูน่าอึดอัดไปหมด แทบไม่อยากจะก้าวขาออกไปจากห้องนี้เลย
"ไง เข่าทรุดเลยนะมึง"
เสือนั่งลงบนเก้าอี้หนังราคาแพง พร้อมหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาตรวจเช็คความเรียบร้อยของงาน แล้วเอยแซวคนที่นั่งตัวอ่อนเพลี้ยอยู่บนโซฟา
"เออ…พนักงานมึงโคตรน่ากลัว"
"หึ…ถ้ามัวแต่กลัวก็บริหารคนไม่ได้กันพอดี มึงต้องเข้มแข็งมากกว่านี้นะภีม"
ภีมอยากจะเถียงกลับไป แต่พอเงยหน้ามองคนที่กำลังขมักเขม้น เพ้งมองเอกสารในมืออย่างตั้งอกตั้งใจ ความรู้สึกทึ่งและภาคภูมิใจจึงเกิดขึ้น จนไม่อาจละสายตาไปจากภาพตรงหน้าได้เลย
ก๊อกๆ
"เข้ามา"
"ท่านประธานค่ะ ดิฉันนำของว่างมาให้แขกของท่านค่ะ"
"ขอบใจ อีก 5 นาทีให้ทุกคนไปรอที่ห้องประชุมได้เลย"
"ค่ะ ท่าน"
เลขาสาววางน้ำและขนมที่เตรียมมาลงบนโต๊ะ ก่อนจะชำเลืองตามองไปที่ภีมอย่างไม่พอใจ คนที่นั่งอยู่บนโซฟาต้องรีบเบี่ยงหน้าไปทางอื่น เพราะไม่อยากจะมีเรื่องให้เสือต้องปวดหัว เมื่อเลขาเปิดประตูออกไป ไม่นานหลังจากที่เสือตรวจแฟ้มเอกสารเสร็จ เขาก็เดินตามออกไป แต่ไม่วายก้มหอมแก้มนิ่มของคนที่นั่งบนโซฟาฟอดใหญ่เพื่อเป็นกำลังใจในการออกไปทำงาน
"ไอ้เสือ ทำไรเนี่ย"
"ขอกำลังใจ"
"มึงนี่มัน…"
"เดี๋ยวมา ถ้าเบื่อก็ลงไปเดินเล่นข้างล่างได้ วันนี้เหมือนจะมีตลาดนัด"
"เออๆ มึงรีบไปได้แล้ว"
ภีมรีบดันหลังคนตัวสูงให้ออกจากห้อง กลบเกลื่อนความเขินอายที่เริ่มจะปิดไม่มิด เมื่อในห้องเหลือเพียงเขาแค่คนเดียว คนที่ไม่รู้จะทำอะไรจึงหยิบมือถือขึ้นมานั่งเล่นเกมส์ฆ่าเวลาไปพลาง
ก๊อกๆ
"คะ ครับ"
คนที่นั่งเล่นเกมส์เพลินๆตัวสะดุ้งโหยง เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น และคนที่เปิดประตูเข้ามาก็ดันเป็นเลขาสาวที่ดูก็รู้ว่าไม่ชอบขี้หน้าเขาสักเท่าไหร่
"ท่านประทานให้มาถามว่า คุณต้องการทานเป็นพิเศษไหมเพราะน่าจะต้องประชุมกันอีกนาน"
"เออ…ไม่ครับ ถ้าผมหิวเดี๋ยวผมลงไปหาข้าวกินข้างล่างก็ได้ครับ ขอบคุณครับ"
"ค่ะ ข้างล่างมีตลาดนัด ก็เหมาะกับคุณดีนะคะ ดูบ้านๆ…แล้วก็…ต่อไปถ้าคุณจะมากับท่านประธาน ดิฉันขอแนะนำว่าให้แต่งตัวให้ดีกว่านี้หน่อยนะคะ แต่งตัวแบบนี้คนอื่นจะเอาไปนินทาได้ค่ะ ว่าคู่ควงดูไม่สมฐานะ น่าจะหาได้ดีกว่านี้ แล้วก็…ระวังอย่าให้ตัวจริงเขารู้ละกันนะ"
"ปากหรือว่าชักโครกครับ พูดแบบนี้ระวังโดนออกโดยไม่รู้ตัวนะคุณเลขา"
"คุณสิงห์!?"
ยังไม่ทันที่ภีมจะได้พูดโต้กลับไป คนมาใหม่ก็พูดแทรกขึ้นซะก่อน
"ไม่มีใครเขาสอนเหรอครับ ว่าหน้าที่เลขามีอะไรบ้าง...แบบนี้สงสัยผมคงต้องรายงานให้ท่านประธานรู้สึกหน่อย ว่าเลขามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับแขกคนสำคัญ"
"ยะ อย่านะคะ ดิฉันขอโทษค่ะ"
"หึ…ขอโทษผิดคนรึเปล่าครับ คุณเลขา"
"เออ…คือ…ดิฉันขอโทษค่ะ"
เลขาสาวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปขอโทษภีมแบบไม่เต็มใจ หลังจากนั้นเจ้าหล่อนก็เชิ่ดหน้าสบัดตัวออกไปทันที
"สงสัยจะอยู่ได้ไม่นาน ไม่มีสำนึกสักนิด"
สิงห์บ่นอย่างหัวเสียถึงพฤติกรรมแย่ๆของพนักงานที่เขาไม่ชอบใจเอาเสียเลย
"เออ…คือ ขอบใจ"
"หึ…เปลี่ยนจากขอบใจเป็นอย่างอื่นแทนได้ไหม"
"นี่นาย…"
"555 ผมล้อเล่น ผมไม่กล้าเตะพี่หรอก เสือมันได้ฆ่าหมกป่าแน่"
"แล้วนี่มาหาเสือเหรอ"
"ครับ เสือมันสั่งให้มาประชุม แต่ผมมาสาย เลยขี้เกียจเข้าไปมันแค่จะให้มาฝึกดูงานไว้ ไม่ได้สำคัญอะไร"
"อ่อ…ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะ"
"ครับ ไม่ต้องไปสนใจคนแบบนั้นหรอก คงอยู่ได้อีกไม่นาน งั้นผมไปละ"
คนที่มองว่าไม่ดีสุดท้ายกลับมีจิตใจที่ดีกว่าที่เขาคิดไว้ แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องที่เลขาคนนั้นพูดถึง ก็ยังคงมีบางเรื่องที่ยังติดค้างอยู่ในใจจนรู้สึกตะขิดตะขวงใจแปลกๆ