ตอนที่ 1113 และแล้ว
ยานอวกาศพุ่งไปข้างหน้าในวังวนความว่างเปล่า
ด้วยเทวภัณฑ์มิติของภูต เขาถูกเคลื่อนย้ายพริบตาไปพื้นที่ใกล้เคียงของหุบเหวนิรันดร์โดยตรง
ตอนนี้ เขากำลังกลับสู่การเดินทาง จุดหมายคืออาณาจักรหนาม
“…ซ่า…กู่ฉิงซาน ได้ยินหรือเปล่า” เสียงของลอร่าดังมาจากเครื่องมือสื่อสารของยานอวกาศ
“ได้ยิน” กู่ฉิงซานตอบ
“ทุกอย่างราบรื่นหรือเปล่า” ลอร่าถาม
“ราบรื่นดี พอข้ากลับไปถึง พวกเราจะประกาศการเข้าร่วมสงครามทันที”
“ได้ ข้าจะเตรียมตัวไว้”
การติดต่อสิ้นสุดลง
กู่ฉิงซานนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ในห้องพักขณะส่งยาเม็ดเข้าปาก
เขาเป็นคนเดียวบนยานอวกาศ
…ซูเสวี่ยเอ้อร์อยู่ในทางเดินลับ
ด้วยอาวุธกาลอวกาศของเทพธิดาแห่งความยุติธรรม นางกำลังเตรียมเข้าสู่ส่วนลึกในป้อมปราการเหล็กกล้าเพื่อรับข้อมูลกับอาวุธที่หลงเหลือไว้โดยจักรวรรดิดารา
หลานซิ่ว กู่เหยียนและฉ่าเฉียงนำกำลังคนเพื่อเตรียมไปเยี่ยมอาณาจักรภูตในฐานะแขก
ตอนที่แยกกัน พวกภูตเชิญกู่ฉิงซานและซูเสวี่ยเอ้อร์ไปเยี่ยมอาณาจักรภูตแล้ว กู่ฉิงซานย่อมไม่เห็นด้วย เขาทำได้เพียงบอกไปว่าต้องรีบกลับอาณาจักรหนามในทันที
ชายชราเครายาวเพียงถามกู่ฉิงซานเรื่องแต่งงานกับเจ้าหญิงภูต
ซูเสวี่ยเอ้อร์พลันระแวดระวังขึ้นมา
…ทำไมพวกภูตถึงกระตือรือร้นเรื่องนี้นัก
จะปล่อยให้ฉิงซานอยู่ที่นี่อีกไม่ได้!
ขณะดันกู่ฉิงซาน นางเร่งว่า “เจ้ารีบไปทำธุระเถอะ ข้าจะไปหาเจ้าทีหลัง”
ดังนั้นกู่ฉิงซานจึงไปจริง ๆ
…เขาใช้เทวภัณฑ์มิติที่ภูตสร้างขึ้นเพื่อไปจากที่นี่ทันที
“ทำไมเขาถึงรีบไปนักล่ะ” ราชาภูตสงสัย
ซูเสวี่ยเอ้อร์จ้องมองกลุ่มภูตก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเยือกว่า “เขาจะไม่แต่งกับภูต ข้าขอพูดให้ชัด ๆ เลย เขาคือเผ่าพันธุ์มนุษย์ เข้าใจหรือเปล่า เผ่าพันธุ์มนุษย์สามารถแต่งได้แต่กับเผ่าพันธุ์มนุษย์…”
คำพูดของนางถูกขัดโดยชายชราเครายาว
ชายชราเครายาวโบกมืออย่างเสียดายก่อนกล่าวว่า “แม่นาง ข้านับถือพลังใจที่เจ้าแสดงในการต่อสู้นะ ข้าอยากให้เจ้ายอมรับพรของราชวงศ์ภูตเพื่อกลายเป็นเจ้าหญิงภูตที่มาพร้อมกับความสามารถพิเศษ จากนั้นก็แต่งงานกับเขา”
ราชาภูตพยักหน้าเช่นกันก่อนชื่นชม “ใช่ วันนี้เป็นวันดี เป็นเวลาที่เหมาะจะจัดงานแต่งครั้งยิ่งใหญ่ของเจ้า”
เกิดความเงียบสงัด
ซูเสวี่ยเอ้อร์แข็งทื่อ ขยับไม่ได้อยู่พักใหญ่
เสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์พลันดังมาจากแขนของนาง “ซูเสวี่ยเอ้อร์ ถึงเวลาที่พวกเราต้องไปเข้าป้อมปราการแล้ว”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์นี้ให้ความรู้สึกยินดีและสบายอารมณ์
…แน่นอนว่าตอนนี้กู่ฉิงซานไปแล้ว เขาจะไม่มีทางรู้เรื่องพวกนี้
เขาอยู่บนยานอวกาศ กำลังเข้าสู่สภาพพักผ่อนชั่วคราว
ขณะดูดกลืนพลังของผู้ฝึกยุทธ์มากกว่าหนึ่งพันคน ประกอบกับพลังมังกรมารดั้งเดิม ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นที่พละกำลังก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด
ทุกช่วงเวลา กู่ฉิงซานสามารถสัมผัสถึงการพัฒนาของพละกำลังได้
เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่ง
แถวตัวอักษรขนาดเล็กพลันผุดขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“พละกำลังส่วนตัวของท่านไปถึงระดับนภายามค่ำแล้ว”
“ท่านสามารถเริ่มต้นภัยพิบัติได้ทุกเมื่อ”
อารมณ์ของกู่ฉิงซานไม่แปรปรวน
เขามีลางสังหรณ์ว่าพลังของมังกรมารที่หลับใหลอยู่ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ระดับนภายามค่ำ มันถึงขั้นช่วยให้เขาพัฒนาต่อไปได้
ทว่า ในยานอวกาศ มันไม่สะดวกนักที่จะอยู่รอดจากภัยพิบัติได้
ดังนั้น…
“เหวยจุน” กู่ฉิงซานส่งเสียงเรียก
เสียงตอบรับในความว่างเปล่าดังอย่างรวดเร็ว “ฟิ่ว”
กู่ฉิงซานถามว่า “เจ้าหยิบยืมความสามารถมาจากอีกฝ่ายก็เลยซ่อนตัวใช่หรือเปล่า”
จี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนปรากฏขึ้นจากอากาศทันทีขณะวนรอบตัวกู่ฉิงซาน
“ฟิ่ว ๆๆๆๆ !”
มันส่งเสียงด้วยความตื่นเต้น
กู่ฉิงซานเข้าใจก่อนยกนิ้วโป้งให้ทันที
“ทำได้ดีมาก!” เขาชม
…เพราะเหวยจุนได้รับความสามารถนี้มา ดังนั้นเขาจึงสามารถแอบมองโลกเพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมได้
ยังไงเสีย เขายืนอยู่ฝั่งบัญญัติและหุบเหวเพื่อต่อสู้กับความโกลาหลและโลกคู่ขนาน
ครั้งนี้หุบเหวนิรันดร์ดูสนใจเช่นกัน
…เดิมที โล่ของผู้พิทักษ์ทุกสิ่งจะเพียงอัญเชิญสัตว์ประหลาดหุบเหวบางส่วนแบบสุ่มเท่านั้น ไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ มันก็จะอัญเชิญมาอยู่ดี
แต่หุบเหวนิรันดร์รู้สึกถึงการเรียกของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ มันจึงส่งสัตว์ประหลาดหุบเหวที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งหมดไป
จนกระทั่งการต่อสู้สิ้นสุดลง สัตว์ประหลาดหุบเหวเหล่านั้นจึงจากไปช้า ๆ
กู่ฉิงซานรู้เรื่องนี้เช่นกัน
เขาครุ่นคิดสักพักก่อนใช้งานอุปกรณ์ปกปิดบนยานอวกาศ จากนั้นจอดยานอวกาศในความว่างเปล่าที่ไม่สะดุดตา
กู่ฉิงซานตระเตรียมค่ายกลป้องกัน จากนั้นปลดปล่อยโล่ของผู้พิทักษ์ทุกสิ่ง
เมื่อทุกสิ่งเตรียมพร้อม เขายื่นมือออกไปเพื่อเริ่มร่ายวิชา
วิชาลับ ผนึกร่างในความมืด!
วิชาลับ วิญญาณหวนกลับ!
ด้วยการใช้สองวิชา วิญญาณของเขาหลบหนีออกจากร่างอีกครั้ง
เขาปลดปล่อยจิตเทพเพื่อตรวจสอบความว่างเปล่ารอบข้างหลายหมื่นไมล์
ทุกสิ่งดำเนินไปอย่างปกติ
…นี่คือซากปรักหักพังความว่างเปล่าที่เขากำลังมองหาชั่วคราว พูดง่าย ๆ ก็คือเขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
ประกอบกับโล่ของผู้พิทักษ์ทุกสิ่งและจี้น้ำเต้าหยกเหวยจุน กู่ฉิงซานเชื่อว่ายังมีหลักประกันเรื่องความปลอดภัย
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก จากนั้นสวมหมวกเพื่อปกปิดลมหายใจและใบหน้า
นี่คือบางสิ่งจากโลกลอยฟ้า เขาคิดว่ามันใช้งานง่าย จึงได้เก็บรวบรวมเอาไว้บางส่วน
…ส่วนเกราะส่วนตัวของราชาวิญญาณธาตุ มันถูกไว้ให้ซูเสวี่ยเอ้อร์
ยังไงเสีย เขามีโล่ของผู้พิทักษ์ทุกสิ่ง อีกทั้งยังมีจี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนอยู่กับตัว ดังนั้นเขารู้สึกโล่งอกที่เกราะส่วนตัวถูกใช้เพื่อปกป้องเสวี่ยเอ้อร์
ตอนนี้ กู่ฉิงซานสวมชุดคลุมแห่งความมืดและความเงียบ สวมหมวกบนศีรษะและมีดาวยาวเหน็บอยู่ที่เอว ทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้
หลังจากเตรียมการเรียบร้อย กู่ฉิงซานกล่าวว่า “เหวยจุน เจ้าใช้วิชานั่นกับตัวข้า…แค่ใช้พลังวิญญาณเพื่อรักษามันไว้ อย่าใช้มันเต็มที่ จากนั้นก็ไปดูแลข้า”
“ฟิ่ว!” เหวยจุนตอบ
หลังจากนั้น มันใช้วิชากับกู่ฉิงซาน
สกิลเทพ วัฏจักรแห่งความเป็นความตาย!
…นี่คือสกิลเทพจากประตูสีแดง!
เพียงพริบตา กู่ฉิงซานพบว่าทุกสิ่งรอบข้างกลายเป็นภาพมายา
โลกอีกใบพลันปรากฏขึ้นแก่สายตา
เศษเสี้ยวยมโลก!
เหมือนกับวิชาที่ใช้โดยประตูสีแดงในตอนแรก วิชานี้ข้องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสองโลก ไม่สามารถทำให้สมบูรณ์ได้ในเวลาอันสั้น
กู่ฉิงซานก้าวไปบนหินแล้วพลันพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในมุมหนึ่งของภูเขาล้อมเหล็กใหญ่
…เขาเข้าสู่เศษเสี้ยวยมโลกแล้ว
กู่ฉิงซานปรับลมหายใจอย่างระวังขณะซ่อนอยู่ในสายลมแล้วมองรอบข้าง
ในท้องนภา จุดแสงหมองหม่นและโอ่อ่าจำนวนมากบินไปมา
ปฐพีสั่นสะเทือน
เทพจำนวนมากกำลังร่วมมือกันเพื่อส่งขุมนรกกลับรอยแยกระหว่างภูเขาล้อมเหล็กใหญ่และแม่น้ำแห่งการลืมเลือน
…โลกดูปั่นป่วน ดูท่าอิทธิพลของราชาภูตผีจะยังไม่สิ้นสุดลง
กู่ฉิงซานหรี่ตาขณะปล่อยจิตเทพเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด
ทันใดนั้น เขาพบคนรู้จักอยู่ตรงริมฝั่งแม่น้ำลืมเลือน
นางคล้ายกับเพิ่งทำบางสิ่งเสร็จก่อนรีบเดินไปทางหนึ่ง
กู่ฉิงซานไม่ลังเลอีกต่อไปก่อนหายไปจากที่ที่เคยอยู่ทันที
“ข้าเอง”
เขาปรากฏตัวด้านหลังผู้หญิงชุดขาวขณะกระซิบ
ผู้หญิงชุดขาวนิ่งก่อนกล่าวกับความว่างเปล่าว่า “พี่สาว เจ้ากลับไปรอข้าก่อนเลย เตรียมทำอาหารไว้เลย”
เปลวเพลิงพุ่งออกจากปากนางก่อนหายไปทันที
ผู้หญิงชุดขาวหันศีรษะก่อนเดินไปอีกทางหนึ่ง
“อย่าเหาะ อย่าวิ่ง อย่าทักทายผู้อื่น เดินมากับข้าช้า ๆ ” ผู้หญิงชุดขาวส่งเสียง
กู่ฉิงซานเข้าใจก่อนตามนางอย่างใกล้ชิด
ผู้หญิงชุดขาวเดินนำ เขาไม่พูดไม่จา ไม่กล่าวทักทายใคร ยังคงก้มศีรษะแล้วก้าวเดินไปข้างหน้า
มีภูตผีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ อยู่บนถนน บางครั้งมีเทพปรากฏตัวขึ้น
“เร็วเข้า! เร็วเข้า! ใครบางคนแอบใช้การสลับของสองโลก!”
“ด้วยคำสั่งของทวยเทพ รีบหาผู้ต้องสงสัยซะ!”
“ตอนนี้เริ่มนับกำลังคน หากพบสิ่งผิดปกติต้องรายงานทันที”
“ขอรับ!”
“เร่งมือเข้า เทพสังเกตเห็นว่าสถานที่ที่วิชาถูกใช้มีจุดเริ่มต้นที่ภูเขาล้อมเหล็กใหญ่”
“เรียงแถว เตรียมต่อสู้!”
พวกเขากรีดร้องขณะเร่งมือ
บรรยากาศในยมโลกคล้ายกับตึงเครียดอีกครั้ง
ผู้หญิงชุดขาวก้มศีรษะ ฝีเท้าเร่งความเร็วเพื่อพากู่ฉิงซานไปยังลานบ้านริมแม่น้ำแห่งการลืมเลือน
นางเปิดประตู เชิญกู่ฉิงซานเข้าข้างในก่อนรีบปิดประตู
“เอาล่ะ นี่แหละที่ของพวกเรา น่าจะปลอดภัย” ผู้หญิงชุดขาวถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ผู้หญิงชุดดำรอทั้งสองคนอยู่ก่อนแล้ว
“เจ้านี่กล้ามากเลยนะ!”
ผู้หญิงชุดดำชำเลืองมองกู่ฉิงซานขณะรีบกล่าวเช่นนั้น
กู่ฉิงซานมองความว่างเปล่า
ความว่างเปล่าส่งเสียง “ฟิ่ว ๆๆ ”
กู่ฉิงซานกล่าวทันทีว่า “วิชานี้สามารถอยู่ได้สามสิบวินาที พวกเราต้องรีบคุยแล้ว”
..............................