ตอนที่ 926 ช่วยเหลือ!
โลกภูเขาไฟ
พื้นถูกปกคลุมด้วยหินสีเทาดำจนแข็งตัว
แมกมาได้ไหลไปทั่ว
บางครั้ง ควันที่พวยพุ่งปกคลุมดินแดนขนาดใหญ่พร้อมกับการปะทุของภูเขาไฟ
นี่คือโลกที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟ ภูเขาไฟทั้งหมดอยู่ในสภาพที่สามารถปะทุได้ทุกเมื่อ โลกจึงถูกตั้งชื่อเช่นนั้น
เดิมทีแล้ว ในโลกที่โหดร้ายเช่นนี้ ไม่มีใครเต็มใจที่จะมา
แต่ตอนนี้ ทุกๆ สองสามอึดใจ ท้องนภาของโลกใบนี้จะแยกออก จากนั้นบรรยากาศอันทรงพลังจะเคลื่อนลงมา
คนจำนวนมากมาที่โลกใบนี้ พวกเขาล้วนเป็นบุคคลที่ทรงพลัง
เจ็ดวิหารใหญ่เคยส่งคำทำนายมาว่าผู้ที่จับกู่ฉิงซานที่เป็นผู้ดูหมิ่นได้จะสามารถสถาปนาเป็นเทพได้ทันที
นอกจากนี้ยังมีอีก
สหายของผู้ดูหมิ่น นักฆ่านามจางหยิงห่าวก็เป็นที่ต้องการของเจ็ดวิหารใหญ่เช่นกัน
สังหารเขาแล้วจะได้รับคำชื่นชมจากเจ็ดวิหารใหญ่จนได้รับอำนาจกับความมั่งคั่งที่เหนือยิ่งกว่าโลกมนุษย์
ในโลกเก้าร้อยล้านชั้น ทุกคนตามหากู่ฉิงซานอย่างบ้าคลั่ง แต่กู่ฉิงซานก็ไม่เคยปรากฏตัว
คนคนนี้สามารถหลบหนีจากการคว่ำบาตรของเทพได้ แน่นอนว่าเขาต้องมีความสามารถพิเศษ เป็นธรรมดาที่จะหาไม่ได้โดยง่าย ไม่อย่างนั้น รางวัลในคำทำนายจะกล่าวถึงเทพไปเพื่ออะไร
ผ่านไปสักพัก ผู้คนก็ยังไม่ได้อะไร
ดังนั้นทุกคนจึงเปลี่ยนความสนใจมาที่จางหยิงห่าว
เทียบกับกู่ฉิงซานแล้ว ที่อยู่ของคนคนนี้ถูกพูดถึงเป็นครั้งคราว ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหาตัว
คนจำนวนมากจึงมาไล่ล่าจางหยิงห่าว
ตอนนี้ที่อยู่ของจางหยิงห่าวก็ถูกเปิดเผยในที่สุด
เขาอยู่ในโลกภูเขาไฟ!
ทุกคนต่างบ้ากันไปหมด
ขอแค่สังหารเขาได้ก็จะได้รับรางวัลสุดที่จะคาดเดาจากเจ็ดวิหารใหญ่!
ผู้คนทรงพลังจากทุกหนแห่งได้รีบเร่งมายังโลกใบนี้เพื่อปูพรมค้นหา
ตอนนี้ ในหุบเขามืดของโลกใบนี้
มีวิหารหลังหนึ่งเพิ่งสร้างเสร็จ
นักบวชจากเจ็ดวิหารใหญ่คืบคลานไปที่เท้าของเทพก่อนเริ่มรายงานให้เทพทราบ
“เทพจุติแล้ว พวกข้ามีรายงานมาแจ้งให้ทราบ”
“หลังจากข่าวถูกกระจายออกไป ผู้คนจำนวนมากมาที่โลกใบนี้ก่อนจะถึงจำนวนสูงสุดเมื่อเก้าชั่วโมงก่อน”
“มีคนแข็งแกร่งจำนวนมากมารวมกัน”
“เมื่อเวลาผ่านไป ภายในครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา จำนวนผู้เก่งกาจที่มาโลกภูเขาไฟก็ลดลงอย่างรวดเร็ว”
“ข้าเกรงว่าทุกคนที่สามารถมาได้ล้วนมากันหมดแล้ว”
หลังจากพวกเขารายงานแล้ว พวกเขารอคำสั่งต่อไปจากเทพอยู่เงียบ ๆ
หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ
ทันใดนั้น แสงสีเทาเสื่อมโทรมปรากฏขึ้นบนรูปปั้นบูชา
นี่คือปาฏิหาริย์ หมายความว่าเทพได้ตอบสนองกับรายงานเมื่อครู่
นักบวชก้มต่ำมากขึ้น
พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า
เพราะในหลักคำสอนของเจ็ดเทพมาร การมองเทพตรง ๆ คือบาปร้ายแรงของผู้ดูหมิ่น
ทันใดนั้น มีเสียงดังกึกก้องในวิหาร
“หรือก็คือ คนที่อยู่ใกล้ๆ มาถึงกันหมดแล้วสินะ”
นักบวชคนหนึ่งตอบว่า “ขอรับ ท่านเทพผู้สูงศักดิ์ อย่างที่ท่านว่า จนถึงตอนนี้ มีเพียงคนที่กระจัดกระจายอยู่ตามที่อื่นๆ เท่านั้นที่ยังมาโลกใบนี้”
เสียงไม่ดังอยู่เนิ่นนาน
แต่ความเจิดจ้าของสีเทายังอยู่ที่นั่น แสดงให้เห็นว่าเทพยังไม่จากไปไหน
นักบวชยังคงไม่ขยับขณะคุกเข่ากับพื้นจนกระทั่งเสียงดังขึ้นอีกครั้ง
“ครั้งนี้ข้าใช้ความพยายามอย่างมากในการปิดกั้นโลก ข้าจะไม่ยอมให้หมอนั่นหนีรอดไปได้เด็ดขาด”
มันกำลังพูดกับตัวเอง
พูดกับเผ่าพันธุ์เทพหรือ
เทพพูดกับเผ่าพันธุ์เทพเพื่ออะไรล่ะ
นักบวชจากวิหารต่างๆ ครุ่นคิดด้วยความสงสัย
วินาทีต่อมา เสียงก้องดังขึ้นอีกครั้ง
“พวกเจ้าทำได้ดีมาก ข้าพึงพอใจยิ่งนัก”
นักบวชรีบสลัดความคิดในใจทิ้งไปก่อนตะโกนพร้อมกันว่า “เพื่อท่านเทพแล้ว พวกข้าเต็มใจสละชีวิตและทุกสิ่ง”
นี่เป็นการแสดงความจงรักภักดี
ทว่า ประโยคต่อมาที่เทพพูดทำให้ทุกคนตกตะลึง
“ทุกคนที่ควรมาก็มาที่โลกใบนี้แล้ว เวลาก็ใกล้จะถึงแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าก็หมดประโยชน์ จงยกชีวิตมาซะ”
เสียงนั้นถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “พวกเจ้าทำได้ดีมากจริงๆ แต่มีใครจะรู้ล่ะว่ามีหมอนั่นที่ชอบปลอมเป็นคนอื่นและมากด้วยความเจ้าเล่ห์อยู่ในนี้หรือเปล่า ข้าไม่เชื่อใครในโลกใบนี้หรอก”
นักบวชไม่มีเวลาแม้แต่จะคิด พวกเขารับรู้ถึงความเจ็บปวดคมปลาบ โลกทั้งใบกลายเป็นความมืดชั่วนิรันดร์
เกิดความเงียบสงัดในวิหาร
ทุกคนตายพร้อมกัน
มีเพียงลมร้อนจากหุบเขาที่ส่งเสียงหวีดหวิวผ่านวิหาร
ผ่านไปเนิ่นนาน
มีสามร่างปรากฏขึ้นในวิหาร
มังกรหุบเหว
ทั้งสองฝั่งของเขา มีสองคนที่มีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ตรงหว่างคิ้ว
เผ่าพันธุ์เทพ
หลังจากผู้สร้างปฐพีตาย มังกรหุบเหวพบฮอร์ครักซ์ของเทพที่สร้างโดยกู่ฉิงซาน หลังจากพวกมันปลุกจิตสำนึกของตัวเองขึ้นมาได้ก็ทำการพิชิตเผ่าพันธุ์เทพโบราณเหล่านี้
กู่ฉิงซานย่อมไม่รู้ว่าอาวุธที่เขาเคยใช้สู้กับมังกรมารและวิญญาณกรีดร้องจะกลายเป็นลูกน้องของมังกรหุบเหว
มังกรหุบเหวรู้สึกถึงความผันผวนการต่อสู้มากมายในโลกก่อนสูดหายใจเข้าไป
“ข้าได้กลิ่นความตาย วันนี้ ที่นี่ ความตายจะกระจายตามแต่ข้าต้องการ”
เผ่าพันธุ์เทพสองตนคุกเข่าลงข้างหนึ่งก่อนกล่าวด้วยความเคารพว่า “ท่านเทพ โปรดออกคำสั่งด้วย”
มังกรมารกล่าวว่า “ไปเสีย พาคนไปผนึกโลกทั้งใบ เข้าได้แต่ออกไม่ได้”
เผ่าพันธุ์เทพกล่าวว่า “ถ้าพวกข้าพบคนคนนั้นล่ะ”
มังกรมารตอบว่า “ฆ่ามัน ตอนนี้มันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเจ้าแล้ว”
“ขอรับ!”
เผ่าพันธุ์เทพสองตนรับคำสั่ง
มังกรหุบเหวยืนอยู่ในวิหารเพียงลำพัง
เขารออยู่สักพัก
เขาไม่เริ่มลงมือจนกระทั่งไม่มีคนหรือยานอวกาศปรากฏขึ้นบนท้องนภาอีก
ทั่วร่างของเขาเริ่มใหญ่ขึ้นก่อนกลายเป็นผิวมังกรสีเทาทึบ
ด้วยความพยายามเพียงอึดใจเดียว ร่างของเขาระเบิดวิหาร
สองอึดใจ ร่างของมังกรมารก็มีขนาดเท่าภูเขาไฟ
สามอึดใจ เปลวเพลิงสีเทาปลดปล่อยจากมังกรมาร ร่างขนาดใหญ่เหนือกว่าแม่น้ำทั้งสาย
มันปรากฏตัวบนพื้นผิวโลก ครอบคลุมระยะหลายร้อยกิโลเมตร
มังกรหุบเหวขยับร่างกายท่อนล่างก่อนพลันบินขึ้นสู่ท้องนภา
มันจ้องดินแดนกว้างใหญ่เบื้องล่าง ผู้แข็งแกร่งต่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
แข็งแกร่งหรือ
“เหอะ!”
มังกรหุบเหวเผยรอยยิ้มกว้างออกมา
“กู่ฉิงซาน ไม่ว่าเจ้าจะกลายเป็นอะไรหรือซ่อนอยู่ที่ไหน ตราบที่เจ้าได้ข่าวจนมาช่วยคนล่ะก็ เจ้าจะไม่มีทางให้หนีอย่างแน่นอน”
“ข้าจะฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกใบนี้ ต้องมีเจ้ารวมอยู่ในพวกมันแน่”
“ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะซ่อนได้อย่างไร!”
มังกรมารคำรามขณะอ้าปากเพื่อพ่นกลุ่มเปลวเพลิงสีเทาออกมา
‘ตูม!’
เปลวเพลิงสีเทาทะลวงพื้น ม้วนแมกมาจนลึกเข้าไปในพื้น
โลกเริ่มสั่นไหวและพังทลาย
…
มาย้อนเวลากลับไปอีกสักหน่อย
สองชั่วโมงก่อนหน้า
ไนท์บาร์ของโลกชายฝั่ง
ในห้องลับของบาร์ กู่ฉิงซานวางรูปปั้นไก่หลากสีสัน
ของสิ่งนี้จะส่งสารให้หน้าต่างระบบเทพสงคราม มันจะเผยข้อมูลที่เกี่ยวกับเขาทุกวัน
แต่กู่ฉิงซานไม่ตรวจสอบข่าวที่เกี่ยวข้องในทันที
อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้สิ่งนี้มาครองแล้ว ดังนั้นยังไม่ถึงเวลาที่ต้องรีบ
เขาเริ่มอ่านเอกสารของจางหยิงห่าว
อย่างไรเสีย เพื่อช่วยจางหยิงห่าวในเร็วๆ นี้ พวกเขาต้องวางแผนอย่างละเอียดเผื่อเจอกับสถานการณ์ต่างๆ
ในเอกสารนี้ ลักษณะการต่อสู้ การไล่ล่าและการตอบโต้ก่อนหน้านี้ของจางหยิงห่าว แม้กระทั่งการเคลื่อนไหวในระหว่างนั้น ความต้องการของเทพ รวมถึงสภาพแวดล้อมทั้งหมดของโลกภูเขาไฟถูกเขียนในเอกสารอย่างละเอียดยิบ
กู่ฉิงซานมองอย่างละเอียดสักพัก จากนั้นจึงปิดเอกสาร
“ไปไหม?” หลินถาม
“ไป” กู่ฉิงซานพยักหน้า
ทั้งสองออกจากห้องลับ ออกจากบาร์เพื่อกลับสู่ถนน
หลินตามกู่ฉิงซานอยู่สักพัก แต่ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติ
“กู่ฉิงซาน ทำไมเจ้าถึงมุ่งหน้ากลับไปโรงแรมอีกล่ะ” นางถาม
“จองห้องน่ะ” กู่ฉิงซานตอบอย่างช้าๆ
“ข้าบอกแล้วนี่ว่าจะไปช่วยคนกับเจ้าด้วย” หลินกล่าวอย่างสงบ
“ยังไม่ไป กลับไปที่โรงแรมก่อน”
“เพราะการช่วยยากเกินไปเจ้าก็เลยตัดใจจากเขาหรือ”
“ไม่ใช่”
กู่ฉิงซานสารภาพกับนางต่อว่า “ข้าดูแผนที่โลกแล้ว ที่นั่นอยู่ไม่ไกลจากดาวคนคู่ อยู่ใกล้พวกเรามาก ดังนั้นพวกเราจะไม่ไป”
หลินตกตะลึงจนอดที่จะถามไม่ได้ว่า “เจ้าสงสัยว่ามันจะเป็นกับดักหรือ แค่เพราะเหตุผลแบบนี้เนี่ยนะ”
กู่ฉิงซานตอบว่า “แน่นอนว่ายังมีอีกเหตุผลหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น ไม่นานนักหลังจากพวกเราแยกจากมังกรมาร สิ่งที่น่าตกตะลึงนี้ก็เกิดขึ้นทันที”
รอยยิ้มขี้เล่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “เจ้าไม่คิดว่ามันบังเอิญไปหน่อยหรือ”
“โลกใบนี้มีความบังเอิญมากมาย” หลินกล่าว
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ทุกความบังเอิญในการฆาตกรรมล้วนมีการตระเตรียมที่โง่เขลา คนที่มากประสบการณ์มาเห็นเข้าก็ได้แต่หัวเราะเยาะ”
หลินสับสน “แค่เพราะอยู่ใกล้และบังเอิญเกินไป เจ้าก็เลยไม่ไปงั้นหรือ”
“มีอีกหลายเหตุผล อย่างเช่น…เมื่อครู่เจ้าของบาร์บอกว่าโลกเข้าได้แต่ออกไม่ได้”
“นั่นเป็นเรื่องธรรมดา ไม่อย่างนั้นใครจะจับเขาได้ล่ะ” หลินกล่าวอีกครั้ง
“แต่มีกองกำลังไม่มากที่มีความสามารถปิดกั้นโลกและกันไม่ให้ทุกคนออกมาได้” กู่ฉิงซานกล่าว
หลินตกตะลึงเล็กน้อย
ใช่แล้ว มีความสามารถในการผนึกมิติอยู่ กันทุกคนให้อยู่ข้างในเหมือนกับสัตว์ประหลาดที่อยู่ในวิหาร
นอกเหนือจากกลุ่มทรงพลังแล้ว…หากเป็นคนอื่นย่อมไม่ทำสิ่งที่จะไปยั่วยุความโกรธกับสาธารณชน เพราะเบื้องหลังพวกเขาไม่มีตัวตนที่น่าสะพรึงอย่างมังกรหุบเหวคอยหนุนหลังอยู่นั่นเอง
เจ็ดวิหารใหญ่ตอนนี้เป็นของมังกรมาร
หลินเงียบจนอดที่จะกล่าวอีกครั้งไม่ได้ว่า “ถ้างั้นเจ้าไม่ได้วางแผนจะไปช่วยจางหยิงห่าวหรือ”
กู่ฉิงซานตอบช้าๆ ว่า “นอกจากลงทุนด้วยตัวเองแล้ว ข้ายังมีอีกหลายวิธีในการตามหาเขา”
เขาเดินไปที่โรงแรม
หลินมองแผ่นหลังเขาด้วยสีหน้าซับซ้อน
“…เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว…”
นางพึมพำขณะไล่ตาม
........................................