ตอนที่ 696 หลบหนี
แสงสีทะมึนปกคลุมไปทั่วทั้งทะเลทราย แปรเปลี่ยนตลอดทั้งพื้นที่ให้กลายเป็นความมืดมิด
ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นใจกลางความมืดมิดที่ว่า
ชุดคลุมยาวสีดำของเขา ถูกลงอักขระไว้ด้วยอักษรรูนโบราณตลอดทั้งชุด กระทั่งหมวกปีกกว้างที่สวมใส่ก็ยังเป็นสีดำ มันถูกดึงลงมาจนปกปิดรูปลักษณ์ใบหน้า
ตลอดทั้งพื้นที่ หลงเหลือแค่เพียงจุดเดียว คือจุดที่ราชินีแมงป่องยืนอยู่ ที่ยังมิได้ถูกความมืดมิดกลืนกินไป
ชายคนนั้นหันไปมองรอบๆ ก่อนจะมุ่งความสนใจไปยังราชินีแมงป่อง
“แล้วคนอื่นๆ เล่า?” เขาถามห้วนๆ
ราชินีแมงป่องยกมือป้องปากหาว “เจ้าถามข้าหรือ?”
“อย่ามาเล่นลิ้น! ที่นี่มันมีแต่ท่าน หากไม่ถามท่านแล้วยังเหลือใครให้ถามอีก!” ชายคนนั้นกล่าวด้วยความโกรธ
ราชินีแมงป่องเอียงศีรษะ ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย “โอ้ คนอื่นๆ คงหมายถึงข้าด้วยสินะ เพราะที่นี่มีแค่ข้าคนเดียว อืม ข้าอยู่ที่นี่นี่แหละ และตอนนี้ก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะไปที่ไหนดี”
“ท่านกล้าล้อข้าเล่นหรือ?”
“ข้าก็แค่พูดความจริง”
“ได้ ได้เลย รอให้ข้าพบไพ่ใบนั้นก่อนเถอะ แล้วจะกลับมาคิดบัญชีกับท่าน”
ชายคนนั้นกระทืบเท้า เตรียมที่จะแยกตัวออกไป
ทว่าทันใดนั้นเอง สีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนกลับกลาย เจ้าตัวเหวี่ยงสะบัดมือไปยังเบื้องหลัง พลางเรียกไพ่กว่าแปดใบออกมา
บังเกิดชั้นแสงห่อหุ้มรอบตัวเขา ก่อร่างเป็นกำแพงทะมึน ซ้อนทับๆ กันหลายชั้นจนกลายเป็นโล่ขนาดใหญ่ พร้อมกับปรากฏเกราะยักษ์ที่กำลังสาดแสงสีดำหม่นสวมทับตัวเขา
ตูม!
ตามด้วยประกายแสงเสียบแทงเข้ามาดั่งสายฟ้าฟาด
ด้านในของกำแพงทะมึนแตกสลาย โล่ทั้งหมดถูกทำลายลง เหลือเพียงปราการเกราะยักษ์สุดท้ายเท่านั้น ที่สามารถทานทนต่อกระแสแสงนี้ได้
ชายเสื้อคลุมดำถูกแรงปะทะ ถอยไถลไกลออกกว่าหลายสิบเมตรในคราเดียว
เขาอยู่ในสภาพกึ่งลุกกึ่งหมอบ ก้มลงมองไปยังกำแพงโล่
พบว่ามันถูกปลายหางแหลมแทงเข้าใส่ จนกลายเป็นร่องลึก
ดูเหมือนว่าแม้จะเพียงเล็กน้อย แต่หางแหลมก็มิอาจเจาะปราการเกราะยักษ์ได้
“ราชินีปีศาจแมงป่อง ทำแบบนี้หมายความว่าอะไร? อย่าบอกนะว่าท่านคิดจะขโมยไพ่? อยากจะก่อสงครามเต็มรูปแบบกันอย่างนั้นหรือ?”
การแสดงออกของชายชุดคลุมดำกลายเป็นเดือดดาล เขาจั่วไพ่ใบหนึ่งออกมาจากในความว่างเปล่า และแสดงมันต่อหน้าราชินีแมงป่อง
มันไม่มีสิ่งใดอยู่บนหน้าไพ่เลย นอกเหนือไปจากแตรเขาสัตว์
แตรเขาสัตว์แห่งสงคราม
ราชินีแมงป่องค่อยๆ หดหางของเธอกลับมาอย่างช้าๆ เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ต่อให้เจ้าใช้แตรสงครามเรียกใครมามันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ คือสิ่งที่ข้าต้องทำเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของราชินี”
“ลองใช้ไพ่ใบนั้น และกล่าวหมิ่นข้าอีกครั้งดูสิ?” เธอล้อเลียนน้ำเสียงห้วนๆของอีกฝ่าย
“เจ้าลองคาดเดาดูเองก็แล้วกันว่าเกรย์แฮนด์จะตัดสินว่าอย่างไร ถ้าเจ้าอยากจะสู้ข้าก็ยินดี และขอสัญญาเลยว่าข้าจะค่อยๆกินเจ้าทีละนิด ทีละนิด จนกว่าเจ้าจะยอมแพ้ และหมดสติไป”
ราชินีแมงป่องกล่าว ขณะเดียวกันก็ส่ายหางของเธอ
ร่างกายส่วนบนของเธอช่างแสนจะมีเสน่ห์ ทว่าส่วนล่างของเธอกลับอยู่ในรูปลักษณ์ของแมงป่อง
หางอันแหลมคมของเธอ ชูขึ้น ชี้ตรงมายังตำแหน่งหัวใจของฝ่ายตรงข้าม คล้ายกับว่าพร้อมที่จะจู่โจมอีกครั้งได้ตลอดเวลา
“เหอะ! ในเมื่อท่านกล้าที่จะแตะต้องไพ่ใบนั้น นั่นหมายความว่าท่านได้ฉีกข้อตกลงกับพวกเราแล้ว ท่านจะกลายเป็นผู้ร้าย! เป็นผู้ก่อให้เกิดสงคราม!” ชายชุดคลุมกล่าวอย่างไม่ยินยอม
แต่ราชินีแมงป่องกลับหัวเราะ
“ข้าบอกตอนไหนว่าเป็นข้าที่ขโมยไพ่ใบนั้นมา? กลับกลายเป็นว่าเกรย์แฮนด์ส่งไอโง่แบบเจ้ามาเฝ้าที่นี่ ช่างน่าสมเพชซะจริง”
“ข้ามีหลักฐาน! คอยดูเถอะถ้าแสดงมันออกมาแล้วท่านจะยังหัวเราะได้อีกหรือไม่” ชายชุดคลุมดำกล่าวอย่างเคร่งขรึม
เขาเรียกสติฟื้นคืน บังคับอารมณ์ให้มันสงบลง และจั่วไพ่ออกมา
“เทคนิคมนตรา ย้อนปรากฏ!”
เห็นแค่เพียงคนตะคอกคำหนึ่ง เปิดใช้งานไพ่ทันที
ทุกสรรพสิ่งโดยรอบก็พลันมืดมิด ก่อนจะฉายภาพเสมือนของไพ่ขึ้น
ในเสี้ยววินาที ร่างเงาของไพ่หลายสิบใบก็ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า
ชายคนนั้นเดินไปที่ไพ่แต่ละใบ ตรวจสอบมันดูอย่างระมัดระวัง
หุ่นเชิดสงคราม ดาบสั้น หอกปีศาจแดง และไพ่อุปกรณ์บางอย่าง ทุกชนิดของไพ่ที่วัยรุ่นสาวได้ใช้ บัดนี้ปรากฏขึ้นตรงหน้าของชายชุดคลุมดำ ในรูปแบบภาพมายา
เขามองดูไพ่แต่ละใบ ในที่สุดก็มาถึงภาพสุดท้าย
“หุบเหวแห่งบาป อัญเชิญราชินี”
สีหน้าของชายชุดคลุมแปรเปลี่ยนไป
แต่เดิม กลับกลายเป็นว่าราชินีแมงป่องเป็นฝ่ายถูกเรียกตัวมาจริงๆ
ช่วงเวลานี้ ได้พิสูจน์แล้วว่าราชินีแมงป่องบริสุทธิ์โดยสมบูรณ์
เมื่อได้ลองมองย้อนกลับไป น้ำเสียงที่เขาใช้พูดกับอีกฝ่ายก่อนหน้านี้ มันก็ดูจะเป็นการล่วงเกินอยู่เล็กน้อยเหมือนกัน
แต่ว่านะ
ราชินีแมงป่องจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยได้อย่างไร?
ชายคนนั้นหันมองราชินีแมงป่อง เอ่ยเสียงหม่น “ไพ่อัญเชิญก็หายไปแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดท่านถึงยังอยู่ที่นี่”
ราชินีแมงป่องจ้องกลับ และเอ่ยถาม “เจ้าถามข้าหรือ?”
ชายคนนั้นพยายามอดทน และในที่สุดก็เปลี่ยนน้ำเสียงตนให้ฟังดูเคารพอีกฝ่ายมากขึ้น “ข้าขอเรียนถาม ว่าเหตุใดท่านถึงยังคงอยู่ที่นี่?”
ราชินีแมงป่อง “เจ้าสมองหมู แค่นี้ก็ไม่เข้าใจหรือ? นั่นเพราะเดิมทีข้าก็อาศัยอยู่ในทะเลทรายแห่งนี้อยู่แล้วน่ะสิ เจ้าจะให้ข้าไปที่ใดกัน?”
ชายชุดคลุมดำแข็งค้าง
มันจบแล้ว ทุกอย่างถูกปะติดปะต่อเข้าด้วยกันพอดิบพอดี
เขาเข้าใจแล้ว ว่าฝ่ายตรงข้าม กำลังถ่วงเวลาให้กับไพ่ที่กำลังหลบหนีไป
และเกรงว่าด้วยความแข็งแกร่งของเขา หากคิดจะหนีรอดจากราชินีเพื่อไล่ตามไพ่ไป มันคงจะเป็นไปไม่ได้
เขาถอนหายใจยาว
ไพ่ใบนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด แต่มันดันหายไปอย่างกะทันหัน แล้วตัวเขาเองก็ถูกตรึงให้ติดอยู่ที่นี่
นอกจากนี้ ยังต้องโทษตัวเองที่ร้อนรนเกินไป จนเผลอมัวแต่เล่นกับแมงป่องตัวนี้
เมื่อคิดได้ เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป ในมือจั่วไพ่ และเริ่มกระตุ้นมันทันที
ไม่ช้า เสียงที่ต่ำลึกของชายคนหนึ่งก็ดังออกมาจากไพ่
“เจ้าพบมันหรือเปล่า?”
“รายงานท่านอาจารย์ ราชินีแมงป่องหยุดข้าเอาไว้ ข้าเลยยังไม่อาจหาไพ่ใบนั้นพบ” ชายชุดคลุมดำจ้องมองราชินีอย่างรุนแรง
“ราชินีปีศาจแมงป่อง…”
ปลายสายจากในไพ่เงียบงันไปครู่หนึ่ง
แล้วจู่ๆ หนังสือเล่มหนึ่งก็กระโดดออกมาจากไพ่ บินเข้าไปหาราชินีแมงป่อง
ราชินีแมงป่องยิ้มเล็กน้อย และวางมือของเธอกดลงบนหนังสือ
หนังสือส่งเสียงดังออกมาทันที “ข้อตกลงยังไม่ได้รับความเสียดายใดๆ ราชินีเพียงถูกอัญเชิญออกมาเท่านั้น!”
ชายชุดคลุมดำตกใจจนตื่นตระหนก เขาคุกเข่าลงกับพื้น “ท่านอาจารย์ แต่ราชินีต้องการทำร้ายข้า!”
“สิ่งที่เกิดขึ้น ค่อยว่ากล่าวกันในภายหลัง แต่ตอนนี้ เจ้าจะต้องเร่งออกไปรับไพ่คืนมาโดยเร็วที่สุด”
“รับทราบ!” ชายชุดคลุมดำตอบกลับอย่างรวดเร็ว
ด้านหน้าเขา หนังสืออีกเล่มหนึ่งพลันปรากฏออกมา
หน้าหนังสือเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เผยให้เห็นถึงไพ่แต่ละใบที่ฝังอยู่
“นี่คือไพ่พันธนาการที่ห้าร้อยสามสิบเจ็ดที่ข้าได้ทำการติดตั้งเอาไว้บนไพ่ใบนั้น ตอนนี้ เจ้าได้รับอนุญาตให้ใช้มัน จงเร่งไปเก็บกู้ไพ่ใบนั้นคืนมาทันที!”
“ขอรับ!”
ชายชุดคลุมดำคว้าจับหนังสือ และทะยานหายขึ้นไปบนฟากฟ้าทันที
อย่างไรก็ตาม ไพ่ที่เขาใช้ในการสื่อสารก็ยังคงมิได้ถูกยกเลิกไป
ชายที่ชื่อว่าเกรย์แฮนด์เปล่งเสียงออกมา “ฝ่าบาท ข้าจำเป็นต้องบอกท่านอย่างจริงจัง ว่าไพ่ใบนั้นสำคัญต่อข้ามาก หวังว่าท่านจะเข้าใจ”
“แล้วเจ้าสิ่งนั้นมันเกี่ยวข้องอะไรกับข้าด้วย? เดิมทีข้ากำลังเตร็ดเตร่อยู่ในทะเลทราย แต่ดันถูกอัญเชิญมาอย่างกะทันหัน จนถึงตอนนี้ก็ยังสับสนอยู่เลย” เธอหัวเราะ
เกรย์แฮนด์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะตาม “ข้าไม่คิดว่าท่านจะเข้ามาแทรกแซงเกี่ยวกับเรื่องพิธีกรรมไพ่ของข้าหรอก เพราะอย่างไรเสีย ทั้งหมดนี้มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของข้า ผู้สูงศักดิ์เช่นท่านย่อมไม่ลดตัวลงมายุ่งเกี่ยว”
“แน่นอน เจ้าเองก็คอยดูแลตลาดมืดของเจ้าไป ส่วนเราจะอยู่ที่นี่ ใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างสงบสุข นี่คือข้อตกลงที่พวกเราคุยกันเมื่อนานมาแล้ว”
“นั่นคือสิ่งที่สมควรจะเป็น” เกรย์แฮนด์เห็นด้วย
“แต่ว่านะ ลูกศิษย์เจ้านี่มันช่างหยิ่งยโส ตรงตามลักษณะนิสัยของผู้ใช้ไพ่เสียจริง ข้าคิดว่ายิ่งนานวัน เขาก็ยิ่งโง่เง่า ทำอะไรไม่ยั้งคิดมากขึ้นเรื่อยๆ”
ราชินีแมงป่องกล่าวต่อ “เห็นได้ชัดว่าการแทรกแซงเจ้ามันไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อหุบเหวแห่งบาปของเรา ดังนั้นเจ้าควรจะเชื่อใจข้า ว่าข้าหาใช่คนโง่ที่จะทำให้ทุกอย่างมันพังลงไม่”
อีกฝั่งหนึ่งพลันเงียบงัน สักพักเลยกว่าจะได้ยินเสียงถอนหายใจออกมา “นี่ไม่มีทางเลือก เพราะเวลานี้ข้ามีบางสิ่งบางอย่างต้องทำ และจำต้องใช้เวลาอีกสักพักจึงจะกลับไปได้ ตอนนี้เลยได้แต่ต้องให้ลูกศิษย์เป็นคนดูแลตลาดมืดไปก่อน ใครจะรู้ว่าเขาจะทำตัวไร้สมองแบบนี้”
น้ำเสียงของเกรย์แฮนด์ฟังดูหงุดหงิดเล็กน้อย
เขาได้ทำการติดตามร่องรอยของเทคนิคมนตราแล้ว และพบว่าราชินีแมงป่องถูกอัญเชิญมาที่นี่จริงๆ
แม้กระทั่งข้อตกลงระหว่างทั้งสองฝ่าย ที่ได้ตรวจสอบผ่านเล่มหนังสือ ก็ยังไม่มีปัญหา
และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่อีกฝ่ายกล่าว ต่อให้เธอมาขัดขวางเขา มันก็ไม่ได้ก่อประโยชน์ใดๆ
สำหรับตัวตนอย่างราชินีแมงป่อง หากเธอไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ เธอย่อมไม่มีวันที่จะหันมาเหลียวแลคุณ
ฉะนั้น
เรื่องราวทั้งหมดนี้จึงล้วนแต่เป็นความผิดพลาดของลูกศิษย์โง่เขลาของเขา
มันช่างงี่เงาซะจริงๆ ถึงแม้ว่าอาชีพผู้ใช้ไพ่จะกุมอำนาจเหนือกว่าในหลากหลายอาชีพตั้งแต่แรกเริ่มก็เถอะ แต่ถ้าไม่รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ใจเย็นเข้าไว้ ต่อไปภายภาคหน้าคงไม่สามารถพัฒนาตนเอง ทำสัญญากับสิ่งที่แข็งแกร่งกว่าได้
และเนื่องจากเขาเป็นลูกศิษย์ของตน ดังนั้นจึงมักจะคิดไปเองว่าตัวเขาสูงส่งอยู่เสมอ
เจ้าศิษย์บ้านี่ คงจำเป็นต้องการรับการสั่งสอนอย่างจริงจังสักครั้งซะแล้ว มันถึงจะได้รู้จักยอมรับความจริง และเปลี่ยนทัศนคติให้รู้จักทำตามกฎเกณฑ์กับเขาบ้างสักที
แต่น่าเสียดาย ที่เวลานี้เกรย์แฮนด์อยู่ในโลกที่ห่างออกไปกว่าร้อยล้านชั้น ดังนั้นในระยะเวลาสั้นๆ เขาย่อมไม่อาจกลับมาที่นี่ได้
ไม่ว่าจะเป็นการสอนสั่งศิษย์ หรือว่าการตามหาไพ่ที่แสนสำคัญ เขาไม่สามารถกระทำสิ่งใดได้เลย
ดังนั้นเกรย์แฮนด์จึงจำได้แต่ข่มสติอารมณ์ และพยายามรับรู้ถึงปัญหาในเวลานี้
“หากศิษย์ของข้าทำอะไรหยาบคายลงไป ข้าขอใช้นามตนเอง ขออภัยแทนเขาด้วย” เกรย์แฮนด์ยอมรับผิด
ราชินีแมงป่อง “แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่นับว่าเป็นสิ่งใด แต่ข้าแค่หวังว่า หลังจากนี้ไป จงอย่าได้อัญเชิญข้าแบบมั่วซั่วอีก เพราะข้าเองก็มีหลายสิ่งที่จะต้องทำ”
เกรย์แฮนด์นิ่งคิด สักพักกล่าวเสียงอ่อนลง “โปรดวางใจ ตัวข้าครอบครองเทคนิคมนตรายับยั้งอยู่นับร้อย หากกลับไป ข้าจะมาจัดการเรื่องนี้ให้ จะไม่สร้างปัญหาให้แก่ท่านอีก”
“ได้ยินเช่นนั้นก็ดี” ราชินีแมงป่องพูดด้วยความพอใจ
“เอาล่ะ หวังว่าพวกเราคงจะได้เจอกันอีก ลาก่อน”
“ลาก่อน”
แล้วไพ่สื่อสารก็หายไป
เทคนิคมนตราทั้งหมดถูกยกเลิก
เกรย์แฮนด์จากไปแล้ว
เหลือเพียงราชินีแมงป่องที่ยืนอยู่ในจุดเดิมอย่างเงียบๆ คล้ายกับว่าเธอกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
สักพักหนึ่ง
เธอก็ถอนหายใจเบาๆ “เท่านี้ก็หายกันแล้วนะเจ้าผู้ฝึกยุทธ์หนุ่ม”
….
ท่ามกลางทะเลทรายอันไร้ที่สิ้นสุด
กู่ฉิงซานยังคงหลบหนี
ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรไล่ตามมาก็จริง แต่ในหัวใจของเขามันกลับฟุ้งไปด้วยความกดดันและตึงเครียด
หากกระทั่งพลังผนึกอาวุธของวัยรุ่นสาวยังไม่อาจต่อกรกับอีกฝ่ายได้ ฉะนั้นศัตรูย่อมจะต้องแข็งแกร่งมากแน่ๆ
และหากไพ่วัยรุ่นสาวมีความสำคัญจริงๆ อีกฝ่ายย่อมไม่ยอมทิ้งไป อย่างไรก็ต้องไล่ตามมา
ชั่วขณะหนึ่ง หางตาของกู่ฉิงซานก็กระตุกวูบ
ความรู้สึกเร่งร้อนในหัวใจของเขาพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างกะทันหัน การรับรู้ทางจิตวิญญาณเริ่มสัมผัสได้ถึงความตายอันคลุมเครือ ปรากฏขึ้นมาอย่างเงียบๆ
หากเทียบเปรียบกับอาชีพอื่นๆ ผู้ฝึกยุทธ์จำต้องข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ ดังนั้นการยกระดับแต่ละคราวของพวกเขา มันจึงเป็นไปอย่างยากเย็นยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ผู้ฝึกยุทธ์ก็ยังมีข้อดีที่โดดเด่นกว่าสายอาชีพอื่นๆ อยู่อย่างหนึ่งเหมือนกัน นั่นก็คือ พลังในการรับรู้ทางจิตวิญญาณของพวกเขาจะเฉียบคมมาก สามารถคาดเดาสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในอนาคตอันใกล้ได้
แม้ตอนนี้กู่ฉิงซานค่อนข้างจะห่างไกลจากสถานที่ต่อสู้แล้ว ทว่าในหัวใจของเขาก็ยังสัมผัสได้ว่านี่มันพึ่งจะแค่เริ่มต้น
มีบางอย่างกำลังไล่ติดตามเขามา
กู่ฉิงซานหยุดลงอย่างกหนะทันหัน
เขาเร่งตบลงในถุงสัมภาระ และหยิบไพ่ออกมา
ทันทีที่ไพ่ปรากฏขึ้น มันก็แปรสภาพกลายเป็นวัยรุ่นสาวในชุดขาว
“เธอช่วยใช้ไพ่เทคนิคมนตราตรวจสอบหน่อยจะได้ไหม ว่าพวกเราปลอดภัยหรือยัง” กู่ฉิงซานกล่าว
“ไม่ปลอดภัยแน่นอน” วัยรุ่นสาวกล่าวด้วยความกังวลใจ เพราะฉันถูกจองจำโดยกฎเกณฑ์ของไพ่จำนวนมาก หนึ่งในนั้นต้องมีไพ่ติดตามตัวอยู่แน่ๆ”
กู่ฉิงซานหยิบไพ่ ‘เทพแห่งกองทัพทะเลเลือด’ ออกมา ปากเอ่ยถาม “แล้วถ้าฉันให้ไพ่ใบนี้กับเธอล่ะ เธอพอที่จะสามารถจัดการกับเทคนิคที่กำลังตีตรวนและติดตามเธออยู่ได้หรือเปล่า?”
“ถ้าเช่นนั้นช่วยถ่วงเวลาให้ฉันหน่อย” วัยรุ่นสาวกล่าว
........................................