webnovel

0179 เทพแห่งความตาย

ตอนที่ 179 เทพแห่งความตาย 

ในห้วงจักรวาล 

บนเฉินเตี้ยนเฮ่า ทั้งสี่คนลืมตาขึ้นพร้อมกัน 

“ดูเอาเถอะ” เหลียวฮังกล่าว “รางวัลคือชีวิตอันเป็นนิรันดร์ แบบนี้ใครเล่าจะไม่ถูกล่อลวง?” 

เย่เฟย์หยูกล่าว “ถ้าอย่างงั้นพวกเราลองเอารางวัลเป็นอาวุธที่แม้กระทั่งหากพบเจอกับพวกมืออาชีพ อีกฝ่ายก็ยังต้องหวาดกลัวเป็นอย่างไร อาวุธชนิดที่ว่ากระทั่งสาธารณรัฐฟูซีก็ยังมิอาจลอกเลียนแบบได้” 

“พวกนายเชื่อรึเปล่า? เชื่อว่าจะสามารถมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ได้?”กู่ฉิงซานมองไปยังหลายคน 

ซางหยิงฮ่าวเอ่ยเย้ยหยันเล็กน้อย “ที่ฉันเห็นก็มีเพียงแค่คนมากกว่าหนึ่งหมื่นคน ต้องตกตายลงกับเกมโง่ๆ นี่เท่านั้น” 

เย่เฟย์หยูขบคิด เอ่ยพึมพำ “สำหรับชีวิตของฉัน…อาจจะวิวัฒนาการไปถึงขั้นนั้นก็ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องขึ้นไปบนสังเวียน…” 

“ส่วนฉัน บอกตรงๆ ว่าอยากจะสัมผัสได้ถึงไอ้เจ้าสิ่งที่เรียกว่าชีวิตนิรันดร์จริงๆ แต่ฉันไม่ใช่พวกมืออาชีพด้านการต่อสู้ ดังนั้นหากเข้าร่วมคงมีแต่ตายกับตายอย่างเดียว” เหลียวฮังกล่าวอย่างไม่ยินยอม 

“เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างงั้นเรามาเริ่มหารือกันต่อเถอะ” กู่ฉิงซานกล่าว 

“นี่ๆ จะไม่มีใครสนใจเรื่องอาวุธที่ฉันพูดไปสักหน่อยเหรอ” เย่เฟย์หยูเอ่ยอย่างเศร้าๆ 

“ถ้าเป็นเรื่องอาวุธที่ว่านั่นล่ะก็ พวกเราก็สามารถทำมันได้ในอนาคตอันใกล้” กู่ฉิงซานกล่าว ขณะที่เขาระลึกได้ถึงคนคนหนึ่ง 

ปรมาจารย์อาวุธแห่งสาธารณรัฐฟูซี ดู่กู้ฉง 

บางเรื่อง ผู้คนในโลกนี้สมควรที่จะมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือบ้างได้แล้ว 

มันจะเป็นการดีกว่าหากสอนให้คนตกปลา แทนที่จะตกปลาให้แก่พวกเขา 

“เทพธิดากงเจิ้ง” กู่ฉิงซานกลับมาสงบจิตใจ ส่ายหัวและเอ่ย 

นี่มันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น มันยังคงเร็วเกินไป เขามีหลายสิ่งที่จะต้องทำ ยังไม่สามารถมีเวลาไปมัวสนใจถึงเรื่องนั้นได้ 

“ฉันอยู่นี่ ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติเชิญชี้แนะ” เทพธิดากล่าว 

“ช่วยตรวจสอบ ชายที่มีชื่อว่า โอวหยางเฟยหยู ให้ฉันหน่อยว่าเขาอาศัยอยู่ที่ไหน” 

“จากการตัดสินโดยอ้างอิงจากนามสกุลในขั้นต้น เขาคือคนของสาธารณรัฐฟูซี กำลังเริ่มต้นกระบวนการค้นหาเพิ่มเติม…” 

“การค้นหาเสร็จสิ้น ใช้เวลาทั้งหมดสองวินาที ค้นพบบุคคลที่มีชื่อเดียวกันทั้งหมดห้าคน” 

จู่ๆ เหลียวฮังชูกระดาษในมือของเขาขึ้นและกล่าว “เทพธิดากงเจิ้ง มองตามแบบร่างนี้ คุณก็น่าจะสามารถพบตัวของเขาได้” 

บนแผ่นกระดาษสีขาว เป็นรูปวาดภาพเสมือนของโอวหยางเฟยหยู 

“โห ฝีมือพื้นฐานการวาดภาพของคุณไม่เลวเลยนี่” ซางหยิงฮ่าวกล่าวชื่นชมคำหนึ่ง 

“เหอะ เรื่องง่ายๆ ขนาดใบหน้าของฉันในตอนนี้…” เหลียวฮังเอ่ยได้เพียงครึ่งคำก็ต้องหุบปากลง 

เทพธิดากล่าว “อ้างอิงจากภาพร่างเสมือน สามารถคัดออกไปได้สี่ ค้นพบเป้าหมายที่ถูกต้องแล้ว” 

“โอวหยางเฟยหยู อายุหกสิบเก้าปี ผู้ก่อการร้ายที่สาธารณรัฐฟูซีต้องการตัวมากที่สุด เป็นมืออาชีพผู้ใช้ธาตุทั้งห้า ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา เขาได้ฆ่าสังหารมืออาชีพคนอื่นๆ ไปแล้วมากกว่าสิบคน หลบหนีการไล่ล่าของฟูซีอยู่หลายครั้ง” 

“ระดมสามสิบเอ็ดดาวเทียมสอดแนมเพื่อทำการค้นหา...ค้นพบที่อยู่ของเขาแล้ว ขณะนี้เขาอยู่ในสาธารณรัฐฟูซี ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ในจังหวัดหมิงหยาง” 

กู่ฉิงซานเงียบไปครู่หนึ่ง 

ทั้งสามไม่อาจนึกได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ทำได้เพียงจ้องมองอย่างเงียบๆ 

จนสักพัก ซางหยิงฮ่าวก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมา “นั่นนายกำลังคิดอะไรอยู่?” 

“เกมพึ่งจะจบลง ผู้ชนะถูกส่งตัวกลับไป นั่นหมายความว่า มันกำลังแสดงตัวอย่างของผู้ที่ได้รับชีวิตนิรันดร์ให้คนอื่นๆ เห็นแล้วน่ะสิ” กู่ฉิงซานพึมพำ 

เขาเดินวนไปมาอยู่สองสามรอบ และจู่ๆ ก็เอ่ยปากว่า “พวกเราจะต้องดึงเกมกลับมา” 

“แล้วจะทำอย่างไร?” ซางหยิงฮ่าวถาม 

“เป้าหมายของพวกเราก็คือผู้ชายคนนั้น โอวหยางเฟยหยู ไอ้ตัวโฆษณาเกมที่พึ่งได้รับรางวัลชีวิตนิรันดร์ไป” กู่ฉิงซานกล่าว 

เหลียวฮังขบคิดในสมองอย่างรวดเร็วและกล่าว “แกกำลังคิดจะฆ่ามันใช่รึเปล่า?” 

“ใช่” กู่ฉิงซานกล่าว “หากเขายังคงลอยชาย จนถูกยกย่องให้กลายเป็นวีรบุรุษขึ้นมาจริงๆ จะมีผู้คนจำนวนมากตกหลุมพรางและต้องการมีส่วนร่วมในเกมแห่งชีวิตนิรันดร์นี้มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ” 

สองตาหรี่แคบลง กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ผู้คนนับหมื่นต้องตกตายลง ส่วนมากเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของเขา โดยใช้ชีวิตนิรันดร์มุ่งเน้นความสนใจของผู้คนทั้งหมดไป” 

“เราไม่สามารถปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้ หากมนุษยชาติเสียสติ แล้วมีบุคคลเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นเป็นคนที่สอง ผู้คนทั้งหมดก็จะสูญเสียจิตนึกคิดไป” 

เย่เฟย์หยูกล่าว “งั้นในเรื่องการฆ่ามัน ให้ฉันเป็นคนจัดการใช่ไหม” 

“ฉันอยากให้นายลงมือ เพราะปัจจุบันนี้นายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มพวกเราแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าว 

“แล้วฉันจะไปที่นั่นได้อย่างไร” เย่เฟย์หยูมองลอดออกไปยังนอกหน้าต่าง และเห็นแค่เพียงจักรวาลอันมืดมิด 

“ฉันกำลังทำการค้นหาศูนย์กลางเมืองของจังหวัดหมิงหยางในฟูซีอยู่ และจะทำการจัมป์แกลงไปกลางเมืองเองเลยโดยตรง” เหลียวฮังกล่าว 

หลายคนหันไปมองเขา 

“ฉันเคยได้ยินมาว่าเทคโนโลยีจัมป์จะถูกติดตั้งไว้บนป้อมปราการระหว่างดวงดาวก็จริง” ซางหยิงฮ่าวกล่าว “แต่ฉันไม่เคยได้ยินมาว่าเจ้าสิ่งนั้นถูกติดตั้งเอาไว้ในเมืองของฟูซีมาก่อนเลย” 

เหลียวฮังทำเสียงจิ๊จ๊ะ หันไปถามกู่ฉิงซาน “ฉันนับว่าเป็นหุ้นส่วนของแกรึเปล่า” 

กู่ฉิงซานวางมือลงบนไหล่เขาและกล่าว “ใช่แล้ว และคุณนับว่าเป็นกำลังหลักเลยล่ะ”

 เหลียวฮังเชิดหน้าขึ้น หันไปทางซางหยิงฮ่าว เอ่ยปากอย่างภาคภูมิ “เจ้าเด็กเหลือขอ ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ ไม่ว่าจะเป็น จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ ฟูซี รัฐบาลกลาง หรือประเทศอื่นๆ น่ะ ฉันได้ทำการติดตั้งเครื่องจัมป์ขนาดเล็กทิ้งเอาไว้แล้วทั้งนั้นแหละ” 

“ว่าอย่างไรนะ…ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ซางหยิงฮ่าวเผยถามอย่างตื่นตระหนก 

“ตั้งแต่เมื่อสามสิบปีก่อน” เหลียวฮังกล่าว 

“ถ้าอย่างงั้นมันก็คงจะพังไปแล้วล่ะ” ซางหยิงฮ่าวถอนหายใจ 

“หา? แกมันจะไปรู้อะไร ในช่วงสามสิบปีมานี้ฉันคอยเฝ้าดูแลเครื่องมือพวกนี้อย่างโดดเดี่ยวๆ มาตลอดเลยนะ ” 

“ฉันมีหุ่นยนอัตโนมัติที่คอยทำหน้าที่รับผิดชอบในการบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็จะถูกเก็บไว้ในสำนักงานลับของชาติ มันเป็นโครงการอิสระ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องจะไม่ได้รับอนุญาตให้แทรกแซงระบบการบำรุงรักษาอัตโนมัติ ตามคำสั่งของรัฐบาล และใช้เงินจากภาษีอีกด้วย” 

“เทคโนโลยีจัมป์นี่มันชักจะน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว” ซางหยิงฮ่าวเอ่ยพึมพำ 

“อีกนัยหนึ่งก็คือ ฉันจะสามารถไปได้ทุกที่ที่ฉันต้องการจะไปใช่ไหม?” เย่เฟย์หยูกล่าวด้วยความสนใจ 

“ไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมพวกเขาถึงจับคุณได้ยากนัก” กู่ฉิงซานกล่าวยกย่อง 

“ถ้าเป็นในกรณีนี้” ซางหยิงฮ่าวกล่าว “ไม่จำเป็นต้องให้เย่เฟย์หยูลงมือเป็นการส่วนตัวหรอก เพียงแค่ให้นักฆ่าภายใต้สังกัดของฉันซักกลุ่มหนึ่ง ก็น่าจะสามารถฆ่าชายคนนั้นได้แล้ว” 

“ไม่ได้” กู่ฉิงซานกล่าว “อย่างไรฉันก็ต้องการให้เย่เฟย์หยูไปเองอยู่ดี” 

“ทำไมล่ะ?” 

กู่ฉิงซานกล่าว “เพราะเกมแห่งชีวิตนิรันดร์น่ะมันปรากฏขึ้นต่อสายตามนุษยชาติทั้งหมด ในเมื่ออีกฝ่ายได้สร้างราชาแห่งชีวิตนิรันดร์ขึ้นมา ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ต้องสร้างพระเจ้าแห่งความตายขึ้นมาสู้มัน” 

เขาโบกมือออกไป พร้อมกับปรากฏเกราะรบต่อสู้ชุดหนึ่งที่สูงกว่าห้าเมตรผุดขึ้นมาจากพื้น 

มันคือหุ่นรบเพลิงนางฟ้ารุ่นทดสอบ 

ส่วนชุดเพลิงนางฟ้าที่เสร็จสมบูรณ์ เขาได้มอบมันให้แก่ซูเซี่ยเอ๋อไปแล้ว 

นั่นเพราะชุดเกราะรุ่นทดสอบนี้  ได้ทำการติดตั้งระบบอาวุธที่รุนแรงและโหดร้ายมากเกินไป มันจึงถูกผนึกเอาไว้ที่นี่โดยกู่ฉิงซาน 

กู่ฉิงซานลูบไล้เกราะเหล็กกล้าที่สาดประกายเย็นฉ่ำ ปากเอ่ยกล่าว “เนื่องจากชีวิตนิรันดร์สามารถทำให้ผู้คนตกอยู่ในความบ้าคลั่ง ฉะนั้น คงมีเพียงความหวาดกลัวในความตายเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาใจเย็นลง และช่วยเรียกสติให้กลับคืนมาได้” 

เขาเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงทะมึน ขณะที่ทั้งคนทั้งร่างของเขาถูกบดบังอยู่ภายใต้เงาสลัวที่ทอดยาวลงมาของหุ่นรบจักรกลขนาดยักษ์ 

“พูดได้สมกับเป็นลูกผู้ชายตัวจริงเลยนี่” เหลียวฮังมองเขา เอ่ยคำชื่นชมออกจากปากเป็นครั้งแรก 

“นั่นคือคำชมจริงๆ ใช่ไหม แต่ก็เอาเถอะ ฉันต้องการที่จะให้คนทั้งโลกได้เห็นว่า ใครก็ตามที่เข้าร่วมเกมแห่งชีวิตนิรันดร์ ฆ่าสังหารเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน มันก็จะเปรียบดั่งการยกตัวเองขึ้นไปบนเขียง และจะต้องตกตายตามคนที่ถูกฆ่าไปไม่อาจปล่อยให้มีชีวิตรอดไปได้” กู่ฉิงซานกล่าว 

“เทพธิดากงเจิ้ง คุณช่วยเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการเชื่อมต่อเครือข่ายเครื่องจัมป์ของมิสเตอร์เหลียวด้วยนะ” 

“ทราบแล้ว” 

“นอกจากนี้ คุณช่วยมากับฉันหน่อย พวกเราจะเริ่มลงมือทำอะไรบางอย่างกัน” 

“ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติ คุณต้องการที่จะทำสิ่งใด” 

“ทำการรื้อถอนระบบอาวุธรุ่นทดสอบ พวกเราจำเป็นต้องย้ายมันออก” 

“เพราะอะไร ทำไมคุณถึงต้องการที่จะประกอบมันขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วย?” 

“ฉันต้องการจะใช้มันเป็นเกราะรบที่คอยปกปิดร่างกายของเย่เฟย์หยู และมีระบบโจมตีตอบโต้แบบเฉพาะเจาะจง” 

เขากวักมือเรียกเย่เฟย์หยูให้เดินมา 

“สร้างเกราะรบขับเคลื่อนให้ฉัน? นี่ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม?” เย่เฟย์หยูบังเกิดความลังเล สีหน้าของเขาเผยถึงความตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด 

รังสีแสงปรากฏขึ้นมาในอากาศที่บางเบา และเริ่มทำการสแกนรูปร่างของเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า 

“รูปแบบร่างกายส่วนบุคคลได้ถูกจัดตั้งขึ้นแล้ว” เทพธิดากล่าว 

“โปรดพิจารณาถึงเรื่องปีกกระดูกด้านหลังของเขาด้วยล่ะ” กู่ฉิงซานเตือน 

“ขออภัย ฉันลืมไปซะสนิทเลย ขอให้ฉันเริ่มทำการสแกนใหม่อีกครั้ง ร้องขอให้มิสเตอร์เย่เฟย์หยูเรียกปีกกระดูกของคุณออกมาด้วย”

.........................................