เรย์ชายหนุ่มปริศนาที่อ้างตัวเป็นทหารรับจ้างเข้าแนะนำตัวกับพวกเซเลน่าที่ขึ้นมาบนรถม้า จากคำเชื้อเชิญของพ่อค้าที่อาสาจะพาพวกเขาเดินทางไปยังเมืองค็อกคาเทลโดยอาศัยขึ้นรถม้าของเขาไป
นั่นเองทำให้เซเลน่าแสดงสีหน้าร้อนรนขึ้นมาเพราะนึกว่าความแตกเสียแล้ว ท่าทีของเธอลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่สุขอย่างเห็นได้ชัด ในตอนนั้นทางเรย์ที่สังเกตเห็นพิรุธเลยถามไปด้วยความสงสัย
"เธอคนนั้นเป็นอะไรหรือเปล่า? เห็นท่าทางอยู่ไม่สุขเลย" แล้วเขาก็เขยิบเข้าใกล้เรื่อยๆ จนทางเซเลน่านั้นต้องไปกอดที่แขนของแมม่อนแน่น สั่นด้วยความกลัว
"ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นดูคุ้นๆนะ ไหนขอข้าดูชัดๆหน่อยได้ไหม?" เรย์เอื้อมมือพยายามจับเข้าที่ใบหน้าของเซเลน่า
ในขณะนั้น...แมม่อนก็รีบปัดมือของทางเรย์ออกอย่างทันที "พอดีนายข้าไม่ค่อยถูกกลับคนแปลกหน้าสักเท่าไหร่ แต่ว่าท่านเองก็เสียมารยาทนะ ที่จะมาจับใบหน้าของสตรีที่ไม่รู้จักมักจี่นี่..."
"ถ้าอย่างนั้นคงต้องขออภัยให้ข้าด้วยพี่ชาย พอดีแค่สงสัยในสัญชาตญาณของตัวเองเฉยๆ แต่คงจะคิดผิดไปสินะ? จะเชื่อแค่สัญชาตญาณอย่างเดียวไม่ได้จริงๆ" แล้วเรย์ก็ค่อยๆถอยกลับไปที่เดิม
แมม่อนที่เห็นว่าเซเลน่ายังกอดแขนของเขาเอาไว้แน่นด้วยท่าทีที่ตื่นตระหนกอยู่ เลยกระซิบที่ข้างหูของเธอเบาๆ เพื่อเรียกสติ "ไม่ต้องห่วงนายของข้า มนต์ของจี้ท่านยังอยู่ดี"
เซเลน่าเองเลยเข้ากระซิบที่ข้างหูของแมม่อนเบาๆกลับไปเช่นกัน "...ถ้าอย่างนั้น แล้วทำไม?"
"ถึงแม้ว่าจะหลอกสายตาคนอื่นได้ก็ตาม แต่สำหรับบางคนที่ฝึกฝนมาอย่างหนักจะมีสัญชาตญาณที่เฉียบแหลมพอจะรับรู้ตัวได้ แสดงว่าชายหนุ่มที่ชื่อเรย์คนนี้ฝีมือน่าจะเก่งกว่าพวกที่เข้ามาทำร้ายท่านเมื่อตอนนั้นเสียอีก ฉะนั้นแล้ว...อย่าแสดงอะไรที่มันดูมีพิรุธออกมาเด็ดขาด!" แมม่อนกระซิบกลับไป...
"เข้าใจแล้ว!"
ในขณะนั้นเองทางพ่อค้าก็ขึ้นมาบังคับที่บังเหียนรถม้าและเดินทางออกต่อย่างทันที
...
เวลาผ่านไปสักพัก...แมม่อนเกิดสงสัยในตัวตนของทางชายหนุ่มที่ชื่อเรย์เลยถามถึงจุดประสงค์ที่ตามหาองค์หญิงที่หายตัวไป
"ที่ว่าท่านเดินทางมาที่นี่เพราะว่ามาตามหาองค์หญิงที่หายตัวไป จริงอย่างนั้นหรอ?"
"ข้าดูไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยหรือไง? ถึงแม้ว่าภายนอกของข้าจะดูยังเป็นเด็กหนุ่มก็ตาม แต่มั่นใจเลยว่าฝีมือในตอนนี้นั้นมีเพียงไม่กี่คนบนโลกใบนี้ที่จะชนะข้าได้" เรย์พูดออกมาอย่างมั่นใจ
"เปล่าหรอก! ข้าไม่เคยสงสัยในฝีมือของเจ้าเลยแม้แต่น้อย แค่มองไปที่ดาบเล่มนั้นข้าก็รู้แล้ว"
"โห... ตาถึงดีนี่" แล้วเรย์ก็หันไปมองที่พ่อค้าที่กำลังคุมบังเหียนอยู่ "ท่านพี่ชายยังดูจะมีความรู้การศึกษามากกว่าคนหลายคนที่ข้าพบเจอมาอีกนะ เขาพวกนั้นมักจะดูถูกด้วยสายตามองมาที่ข้าเหมือนเด็ก ไม่มั่นใจในฝีมือของข้าบ้าง จนขนาดหลอกเอาคนที่ดูแข็งแกร่งอย่างพี่ชายขึ้นรถม้ามาด้วยเลย..."
พ่อค้าที่โดนพูดแซะอย่างนั้นเลยยิ้มและหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงแห้งๆ บนใบหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่าความแตกเสียแล้ว "แฮะ... แฮะ"
กลับกันทางแมม่อนกลับไม่ได้คิดอะไรมากเลยตอบไป... "ไม่เป็นไร! ข้าไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้ว อีกทั้งข้าเองก็อาศัยรถของท่านมาด้วย จะให้ความช่วยเหลือเท่าที่ทำได้"
"แต่คงไม่จำเป็นแล้วล่ะ..." เรย์พูดขึ้น...
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ม้าก็เริ่มร้องเสียงดังยกขาหน้าทั้งสองขึ้นสูง พ่อค้ารีบดึงบังเหียงลงอย่างทันทีเพื่อให้ม้าสงบ
ภายภาคหน้าของพ่อค้าปรากฏกลุ่มชายหลายสิบคนยืนล้อมรถม้าเอาไว้พร้อมกับอาวุธที่อยู่ในมือ ดูเหมือนว่ากลุ่มคนเหล่านั้นจะเป็นโจรที่เข้ามาเพื่อปล้นสินค้า
"โจร!!!" เสียงร้องอันตกใจของพ่อค้าดังขึ้นอย่างทันควัน เขาหันหลังอย่างรวดเร็วและพยายามมุดหัวเข้าไปข้างในอย่างหวาดกลัว "ช่วยด้วยครับ!!!" เขาร้องขอทั้งสองคนที่พอจะช่วยเหลือได้ด้วยสีหน้าอย่างกับคนสิ้นไร้ไม้ตอก
ทันใดนั้นก็มีโจรคนหนึ่งกระโดดขึ้นมาบนรถม้าและกำลังจะฟันลงที่หลังของพ่อค้า ในขณะที่เขากำลังพยายามมุดตัวเข้าไปในนั้น แต่ทางเรย์ก็เข้ามารับแทน เขาใช้ฝักดาบที่ยังไม่ได้ชักออกมาจากฝักดาบรับการโจมตีนั้น
"เดี๋ยวข้าจัดการเอง ส่วนพี่ชาย...ฝากดูแลพวกคนที่อยู่บนรถม้าทีนะ!" แล้วเขาดันดาบของโจรออก จนทางนั้นเสียสมดุลและตามด้วยใช้ฝักดาบของเขาฟาดเข้าที่กลางท้องอย่างแรงจนกระเด็นตกรถม้าไป...
เรย์กระโดดลงรถม้าตามไปอย่างทันทีด้วยท่าทางสบายใจ เหมือนพวกคนเหล่านี้นั้นไม่ได้เป็นปัญหากับเขาสักเท่าไหร่
"เอาล่ะพวกเศษเดนสวะ! จะเข้ามาจากทางไหนก็เชิญ..." เขากางแขนออกรับเย้ยหยันพูดจาดูถูกพวกโจรที่เข้ามาปล้น
ซึ่งในขณะที่เขากำลังพูดจาดูถูกฝั่งโจรอยู่นั้น ก็มีลูกธนูพุ่งออกมาจากกลุ่มอย่างรวดเร็ว แต่ทางของเรย์นั้นสามารถรับได้ด้วยมือเปล่าอย่างง่ายดาย เหมือนเป็นเรื่องปกติ
"ที่นี่เขาทักทายกันแบบนี้หรอ?" พูดไม่ทันขาดคำ ก็มีโจรคนหนึ่งพุ่งเข้ามาโจมตีเขา ซึ่งเป็นที่แน่นอนเรย์สามารถหลบได้อย่างง่ายดาย แล้วสวนกลับอย่างทันที เข้าถีบที่กลางลำตัวของโจรคนนั้นจนกระเด็นไถลไปไกล "คนประเทศนี้ไม่ค่อยจะมีมารยาทเลยนะ อย่างน้อยก็น่าจะฟังที่ฉันพูดให้จบเสียก่อนสิ!"
ดูเหมือนว่าในจังหวะที่โจรผู้นั้นโดนถีบ ซึ่งเป็นขณะกันที่เขาได้โดนฝั่งเรย์แย่งดาบไปโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว
"สวะอย่างพวกแกไม่มีค่าพอให้ฉันใช้ดาบเล่มนั้นหรอก...ไม่สิ! ฝีมือโจรกระจอกแบบพวกแก ไม่จำเป็นที่ฉันจะเอาจริงเลยด้วยซ้ำ!" เรย์พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เหยียดหยามดูถูก พร้อมกับโยนดาบของตัวเองเข้าไปในรถม้า
"กะอีแค่เด็กเวร! อย่ามาทำเป็นได้ใจไปหน่อยเลย! เดี๋ยวฉันจะสอนมารยาทที่แท้จริงให้แกเอง ...เฮ้ย!!! พวกแกออกมาได้แล้ว!!!" ชายที่ดูเป็นหัวหน้าเหล่ากลุ่มโจรนั้นตะโกนออกมาเสียงดังเรียกเหล่าลูกน้องที่ทำการดักซุ่มซ่อนตัวออกมาอีกเกือบเท่าหนึ่ง เข้าล้อมรอบรถม้า "ยังหรอก...ยัง" แล้วเขาก็คำรามออกมาเสียงดังราวกับสัตว์ป่า หลังจากนั้นไม่นานนักเหล่าลูกน้องของเขาทุกคนก็เริ่มแสดงอาการผิดปกติออกมา หลายคนเริ่มมีอาการคลั่งออกมาเอามือทุบตามหัวและอก บางคนมีน้ำลายฟูมปาก
ทางของเรย์นั้นแสดงท่าทีที่น่าประหลาดใจหลังจากที่ได้เห็นแบบนั้น "โห~ คำรามสงครามคลั่งอย่างนั้นหรอ? เพิ่มพลังการต่อสู้ให้กับพวกของตัวเองชั่วคราว โดยแลกกับสติสัมปชัญญะที่ลดลงสินะ?" ถึงแม้จะรู้แบบนั้นเขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าที่ดูเดือดร้อนออกมาอย่างใด
"ฉลาดดีนี่... แต่รู้ไปก็เท่านั้น เพราะไม่ว่าตัวแกจะร้องขอให้ไว้ชีวิตอย่างไร ฉันก็..." ไม่ทันที่เขาได้พูดจบ หัวของเขาก็หลุดออกจากบ่าไปอย่าทันที ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?
"ฉันดูเหมือนคนที่จะร้องขอชีวิตกับสวะอย่างแกขนาดนั้นเลยหรอ?"
หัวของชายที่เป็นหัวหน้าของเหล่าโจรถูกฟันกระเด็นตกลงพื้นต่อหน้าต่อตาเหล่าโจรทุกๆคน..หลังจากนั้น...พวกโจรก็เริ่มตื่นตระหนก เกิดความวุ่นวายทุกคนเริ่มสูญเสียสติและควบคุมตัวตน
หลังจากที่เห็นหัวหน้าของตัวเองตาย ต่างคนต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอดอย่างสุดชีวิต แต่ไม่ว่าจะพยายามหนีอย่างไร ไม่ว่าจะวิ่งเร็วเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่า...จะไม่มีใครสามารถหนีพ้นได้เลย...
"ดูเหมือนว่า...ผลของเสียงคำราวีรชนคลั่งจะคลายแล้วสินะ!" เรย์เริ่มยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างสะใจ ในขณะที่มือเองก็จับดาบร่ายรำท่ามกลางเสียงกรีดร้อง และเสียงร้องขอชีวิตของเหล่าโจร เขาร่ายรำท่ามกลางกองซากศพและกองเลือดอย่างสนุกสนานไปเรื่อย... ไปเรื่อย... ไปเรื่อย... จนเสียงเหล่านั้นได้เงียบลง...
เวลาผ่านไปสักพัก...
พ่อค้าที่เห็นว่าเสียงจากภายนอกดูเงียบลงไป เขาเลยจะออกไปดูสถานการณ์ข้างนอกเสียหน่อย แต่ในตอนที่โผล่หน้าออกไปก็พบกับเรย์ที่ยืนอยู่หน้ารถม้าเสียแล้ว ด้วยสภาพที่ทั่วทั้งตัวและใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดของพวกโจร
"จะ...จัดการหมดแล้วหรอครับ" พ่อค้าถามแล้วหันมองไปซ้าย-ขวาอย่างกล้าๆกลัวๆ
"เอ่อ!" เรย์ทำการทิ้งดาบที่เต็มไปด้วยคราบเลือดสดๆ แล้วหลังจากนั้นก็หันไปขึ้นเสียงสั่งกับทางพ่อค้า "ช่วยเอาผ้าที่ชุ่มน้ำมาให้ที!"
"ครับ!" พ่อค้าตอบรับอย่างลุกลี้ลุกลน เอาผ้าหนึ่งผืนที่ดูเหมือนจะเป็นสินค้าแล้วเทน้ำดื่มที่อยู่ในถุงหนังสัตว์ และยื่นให้กับทางเรย์ไป "นะ...นี่ครับ!"
"ชักช้าเป็นบ้า!"เรย์รับมาด้วยท่าทีที่ดูหงุดหงิด เช็ดเข้าที่ตามเนื้อตัวอย่างทันที "เอ่อ...จะว่าไป ฉันขอเตือนอะไรไว้หน่อย...หลังจากนี้รีบขับรถม้าตรงออกไปอย่างทันที ห้ามหันมองหลังหรือมองข้างทางโดยเด็ดขาด! จนกว่าจะถึงเมือง...เข้าใจไหม?"
"คะ...ครับ เข้าใจครับ!"
หลังจากที่ทำการเช็ดตัวแล้วเรียบร้อย เรย์ก็ขึ้นมาบนรถม้าอย่างปกติโดยที่ไม่ปริปากต่อสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกเลยแม้แต่นิดเดียวว่าเกิดอะไรขึ้น? เขาทำอะไรกับพวกโจรเหล่านั้น? เขาเพียงแค่นั่งเอนตัวลง พร้อมกับกอดดาบของเขาไว้อย่างแน่นหนา ก่อนที่จะหลับลงไป...
ทางเซเลน่าที่เกิดสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกโจรเหล่านั้นเลยพยายามที่จะแหงนหน้าออกไปมอง แต่ในตอนนั้นที่ทางแมม่อนก็ได้เข้ามาดึงที่คอเสื้อเอาไว้ก่อน
"อะไรเล่า?"
"...ข้าว่าท่านอย่ารู้เลยดีกว่า เพราะว่าชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ มันคงไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่"