ซาชิกิวาราชิ
"หมายความว่า เจ้านั่นเป็นคนเอามาให้งั้นเหรอ"
"อือ"
ทันทีที่ได้รับคำยืนยันกลับมา รอยยิ้มกว้างก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าจนทำให้คนที่มองอยู่ยังเผลอยิ้มตามไปด้วย ชิโนบุยกมือขึ้นมากอดอกแล้วเอนหลังพิงกำแพง ขณะที่จิมมี่ยังคงจ้องปลาย่างที่อยู่ในกล่องข้าวกลางวันของตัวเองไม่วางตา
หลังจากที่เมื่อวานทั้งคู่พาเจ้ากัปปะไปส่งที่แม่น้ำแล้วแยกย้ายกันไป วันนี้จิมมี่ก็รีบมารอเจอชิโนบุตั้งแต่เช้า ก่อนจะหยิบกล่องข้าวที่มีปลาย่างของตัวเองมาให้ดูพร้อมเล่าเรื่องแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นให้ฟัง
เจ้าตัวเล่าว่าเมื่อเช้าตอนที่คุณนากาฮาระซึ่งเป็นเจ้าบ้านที่ไปอาศัยอยู่ด้วยเปิดประตูออกมา ก็เจอปลาเป็น ๆ วางอยู่ที่พื้นสองตัว ตอนแรกจิมมี่ก็ไม่มั่นใจเท่าไร แต่จำที่ชิโนบุเคยบอกได้ว่ากัปปะเป็นพรายน้ำ ก็เลยคิดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกันเลยเอามาบอกก่อน
"เจ้านั่นคงอยากขอบคุณที่นายช่วยพาไปส่งที่แม่น้ำนั่นแหละ"
ยิ่งได้ยินแบบนั้นจิมมี่ก็ยิ่งยิ้มกว้างขึ้น ก่อนทั้งคู่จะคุยกันอีกเล็กน้อยแล้วแยกย้ายกันกลับห้องเรียนของตัวเอง
ระหว่างที่ชิโนบุกำลังจะเดินไปนั่งประจำที่ก็รู้สึกได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองมา ร่างสูงโปร่งหยุดฝีเท้าของตัวเองแล้วหันมองกลับไป เห็นทางฝ่ายนั้นสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มบาง ๆ มาให้ แล้วรีบหันไปก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่อเหมือนเดิม
"แปลก ๆ นะ"
ทันทีที่ชิโนบุนั่งลงแบล็กก็พูดขึ้นพร้อมทั้งยกมือขึ้นเท้าคาง ดวงตาเรียวคมมองไปยังเจ้าของหัวข้อบทสนทนา ที่แม้จะไม่ต้องบอกว่าเป็นใครแต่ชิโนบุเองก็เข้าใจได้เป็นอย่างดี
"ฉันก็รู้สึกได้เหมือนกัน ช่วง 3-4 วันมานี้หมอนั่นดูแปลกไปมาก"
พูดไปหัวคิ้วเหนือดวงตาคู่สวยก็ขมวดเข้าจนแทบจะรวมเป็นปม เขาเองสังเกตมาหลายวันแล้วว่าช่วงนี้อีกฝ่ายดูแปลกไป หน้าตาหม่นหมองไม่สดใสเหมือนเดิม แถมเมื่อกี้ตอนที่มองหน้ากันก็ดูยิ้มฝืน ๆ เหมือนมีเรื่องให้คิด ซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้เขารู้สึกกังวลและเป็นห่วงมาก
คิระชิมะที่เขารู้จัก ไม่ใช่คนที่จะมีสีหน้าเครียดตลอดเวลาแบบนี้
"ฉันจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"
"ฉันไปด้วยไม่ได้นะ"
ชิโนบุพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เพราะจำได้ว่าแบล็กโดนปู่ฝากให้ไปจัดการอะไรสักอย่างที่เขาเองก็ไม่รู้ พอแบล็กไม่บอกเขาก็เลยไม่ได้ถาม แต่เอาเป็นว่า...
สรุปคือเจ้าตัวจะไม่ว่างไปจัดการเรื่องนี้ด้วยกัน
"ไม่เป็นไร ฉันไปคนเดียวได้"
"ให้อัลฟ่าไปด้วย"
"ให้ไปทำไม"
"แน่นอนว่าข้อแรก ฉันต้องไม่ยอมให้โนบุจังไปคนเดียวอยู่แล้ว ส่วนข้อที่สอง..."
ชิโนบุเลิกคิ้วรอให้อีกฝ่ายบอกเหตุผลข้อที่สอง ซึ่งทันทีที่ได้ยินก็ชักสีหน้าใส่อย่างหมั่นไส้ ก่อนจะตอบกลับไปให้แบล็กได้แต่ส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ
"สัญชาตญาณฉัน"
"เกลียดคำนี้ของนายจริง ๆ"
๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐
"ที่ยังไม่อยากให้นายมาเพราะช่วงนี้ที่บ้านฉันค่อนข้างมีปัญหาน่ะ"
"ยังไงล่ะ"
"ก็ล่าสุด...แม่ฉันพลาดเดินตกบันได"
"แล้วคุณป้าเป็นอะไรมากไหม"
"ไม่ แม่จับราวบันไดทันก็เลยแค่ข้อเท้าพลิกนิดหน่อย"
คนฟังถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น แม้แต่อัลฟ่าเองที่ไม่ได้รู้จักมักจี่ด้วยก็ยังเผลอผ่อนลมหายใจตาม
ท่ามกลางทางเดินและบรรยากาศอันเงียบสงบ มีเด็กหนุ่มสามคนกำลังเดินไปด้วยกัน หลังจากที่ชิโนบุตัดสินใจจะไปดูที่บ้านของคิระชิมะว่ามีเรื่องผิดปกติอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า เจ้าตัวก็ไปบอกอีกฝ่ายว่าวันนี้ขอไปเล่นที่บ้านด้วย จะได้ถือโอกาสไปเยี่ยมคุณลุงคุณป้าเพราะไม่ได้เจอพวกท่านมานานแล้ว
ตอนแรกคิระชิมะก็มีท่าทีอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เหมือนยังไม่อยากให้ไป แต่พอโดนตื้อมากเข้าสุดท้ายก็เลยต้องยอม
"นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องอื่น ๆ อีก ฉันเองก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าเกี่ยวกันไหม แต่เหมือนเรื่องทุกอย่างจะประเดประดังเข้ามาหลังจากพ่อกับพี่ทะเลาะกันเมื่อหลายวันก่อน"
ชิโนบุขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้น แต่ยังไม่ทันได้คำอธิบายอะไรเพิ่มเติม พวกเขาก็เดินมาถึงบ้านของไคเป็นที่เรียบร้อย เรือนญี่ปุ่นโบราณที่มีขนาดใหญ่ไม่แพ้ตระกูลอาคาวะตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ที่หน้าประตูติดป้ายชื่อตระกูลไว้ว่า 'คิระชิมะ'
"เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้ รอก่อนนะ"
"อือ"
ชิโนบุมองตามอีกฝ่ายที่เดินหายไปจนลับสายตา ตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่เขาและอัลฟ่าที่นั่งอยู่ด้วยกันสองคน ดวงตาคู่สวยกวาดมองสำรวจโดยรอบอย่างละเอียด แม้ทุก ๆ อย่างจะยังคงเหมือนเดิมกับในความทรงจำ แต่เขาก็สัมผัสได้ว่ามันมีบางอย่างที่แปลกไป
อะไรบางอย่างที่ควรจะมีมันหายไป
"สรุปแล้วเกี่ยวกับเรื่องภูตผีไหม"
"คิดว่าเกี่ยว ตอนแรกฉันก็ไม่มั่นใจ แต่พอหมอนั่นบอกว่าพ่อกับพี่ทะเลาะกันก็เลยคิดว่าใช่ ยิ่งตอนนี้ฉันจับสัมผัสของเธอไม่ได้เลยด้วย"
"เธอไหน"
"ซาชิกิวาราชิ"
คำตอบที่ได้รับไม่ได้ทำให้อัลฟ่ารู้สึกเข้าใจอะไรมากขึ้น เขาไม่รู้ว่าชิโนบุหมายถึงอะไรหรือใคร แม้ตอนนี้จะได้เรียนรู้เรื่องพื้นฐานมาจากแบล็กบ้างแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เคยได้ยินชื่อของซาชิกิวาราชิมาก่อน
"ซาชิกิวาราชิคืออะไร"
"เธอเป็นภูตผีที่อาศัยอยู่ที่นี่ เป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักเลยล่ะ สูงประมาณเอวฉัน ปกติเวลามาที่บ้านหลังนี้ก็จะเจอเธอวิ่งมาหาตลอด แต่วันนี้กลับไม่เจอเลย"
"งั้นที่เราต้องทำก็คือตามหาเธอใช่ไหม"
"ใช่"
"อ๋อ...เดี๋ยวนะ ปกติเราต้องขับไล่ไม่ให้ภูตผีเข้ามาอยู่ในบ้านของคนไม่ใช่เหรอ แต่นี่เรากำลังจะหาภูตผีในบ้านของคนเนี่ยนะ"
"ภูตผีมีหลายประเภท ถึงส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่แอบมาอยู่ในบ้านของคนแล้วจะบันดาลแต่เรื่องโชคร้าย แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้ามาอยู่แล้วจะให้โชคดีเหมือนกับซาชิกิวาราชิ"
พอเห็นสีหน้าไม่เข้าใจของอัลฟ่า ชิโนบุก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะอธิบายให้ฟังเพิ่มเติมเพราะดูเหมือนว่าแบล็กจะยังสอนไม่ถึงเรื่องนี้
"ซาชิกิวาราชิเป็นภูตผีเด็ก เธอชอบอยู่ในบ้านแบบโบราณที่มีกลิ่นอายเก่าแก่ยาวนานเหมือนบ้านหลังนี้หรือบ้านของฉัน แล้วบ้านไหนที่เธอเลือกเข้าไปอยู่ เธอก็จะนำโชคลาภมหาศาลและความมั่งคั่งมาสู่บ้านหลังนั้นด้วย"
"แบบนี้ก็ดีเลยสิ"
"ใช่ แต่ปัญหาก็คือ เมื่อใดที่เธอจากไป ทั้งทรัพย์สมบัติและความเจริญรุ่งเรืองที่ซาชิกิวาราชินำมาก็จะมลายหายไป พร้อมกับความโชคร้ายที่จะมาเยือนบ้านหลังนั้น"
สีหน้าตกใจของอัลฟ่าทำให้ชิโนบุถอนหายใจออกมาอีกรอบ ก่อนจะยกมือขึ้นมากัดปลายนิ้วเบา ๆ ด้วยความเคยชิน แล้วพูดออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"เราต้องรีบหาเธอให้เจอ เพราะดูเหมือนตอนนี้คนในบ้านจะเริ่มได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้แล้ว"
"งั้นเราไปตามหาเธอกันเถอะ"
"แต่นั่นแหละคือปัญหาใหญ่สุดในตอนนี้ เพราะไม่เคยมีใครรู้ว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหน"
๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐
"เราจะเริ่มหากันยังไงดีล่ะ"
"กำลังคิดอยู่"
"แล้วปกติถ้าแบล็กอยู่ด้วยจะทำยังไง"
"แบล็กเชี่ยวชาญด้านพลังวิญญาณ แถมยังคุ้นเคยกับซาชิกิวาราชิไม่ต่างจากฉัน ให้แกะรอยไปแป๊บเดียวก็เจอ"
คำตอบที่ได้รับทำให้อัลฟ่าได้แต่ส่งยิ้มแห้งตอบกลับไป เพราะรู้ตัวดีว่าตนไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ทางด้านชิโนบุที่เห็นท่าทางนั้นก็ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นตบหลังเจ้าตัวไป 2-3 ที แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
"แค่นายมาเป็นเพื่อนฉันก็ขอบคุณมากแล้ว"
คำปลอบใจที่ได้รับทำให้อัลฟ่าเผลอยิ้มออกมาบาง ๆ ก่อนจะเดินตามชิโนบุไปเมื่อเห็นเจ้าตัวเริ่มออกเดิน ตอนนี้พวกเขาสองคนออกมาจากบ้านคิระชิมะแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไปได้ไม่ไกลนักเพราะยังหาจุดหมายปลายทางกันไม่ได้
"แล้วเราจะทำยังไงกันต่อ"
"ในเมื่อทำแบบแบล็กไม่ได้ ตอนนี้ก็คงต้องลองหาสถานที่ที่มีกลิ่นอายคล้าย ๆ กันดู"
ขณะที่พูดดวงตาคู่สวยก็กวาดมองไปรอบ ๆ อย่างสำรวจด้วย เห็นแบบนั้นอัลฟ่าเลยช่วยมองหาบ้าง
ระหว่างนั้นทั้งคู่ไม่ได้คุยอะไรกันอีก นอกจากเดินไปด้วยกันเงียบ ๆ เท่านั้น จนกระทั่งเดินมาเรื่อย ๆ แล้วเจอเข้ากับทางแยกสองทาง ตอนแรกชิโนบุจะเลือกไปทางขวา แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อเห็นอัลฟ่าเดินนำไปทางซ้าย แม้จะยังงง ๆ นิดหน่อยที่เจ้าตัวเลือกไปทางนั้น แต่ในเมื่อตอนนี้เขาเองก็ยังไม่มีเป้าหมายเหมือนกัน ก็เลยทำเพียงเดินตามไปโดยไม่คัดค้านอะไร
เวลาผ่านไปสักพักที่ทั้งคู่ทำเพียงเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย มารู้ตัวอีกทีก็หยุดอยู่ที่หน้าศาลเจ้าร้างเข้าซะแล้ว
"อ้าว พานายเดินมาเจอศาลเจ้าเฉยเลย"
"ไม่เป็นไร ไหนๆ แล้วเราไปนั่งพักหน่อยละกัน เดินมาตั้งนานแล้วนี่"
พูดจบชิโนบุก็เป็นฝ่ายเดินนำเข้าไปในอาณาเขตของศาลเจ้า แต่ยังเข้าไปไม่ทันถึงด้านใน เจ้าตัวก็ชะงักไปจนอัลฟ่าที่เดินตามมาต้องหยุดฝีเท้าตามไปด้วย หากแต่ชิโนบุไม่มีเวลาจะมาสนใจ เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันคุ้นเคยที่กำลังตามหาอยู่
ร่างสูงโปร่งรีบรุดเข้าไปในศาลเจ้า ยื่นมือไปผลักบานประตูทั้งสองข้างให้เปิดออก...
"ฮิซาเมะ"
เสียงเรียกที่ดังขึ้น ทำให้เด็กน้อยหน้าตาน่ารักที่กำลังนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเลื่อนสายตากลับมา ทันทีที่เห็นว่าเป็นใครดวงตากลม ๆ คู่นั้นก็เบิกกว้าง ก่อนที่...
'ชิโนบุ'
อัลฟ่าที่เดินตามเข้ามายังจับต้นชนปลายไม่ถูกกับเรื่องที่เกิดขึ้น ได้แต่มองภาพที่เด็กคนหนึ่งวิ่งเข้ามากอดชิโนบุไว้แน่น เธอเป็นเด็กผู้หญิงในชุดกระโปรงยาว ใบหน้าน่ารักของเธอมีเรือนผมสีดำล้อมกรอบไว้ ความสูงก็อยู่ในระดับเอวของชิโนบุพอดี จากลักษณะที่เห็นอยู่ในตอนนี้ ทำให้พอจะคาดเดาได้ว่าเธอคงจะเป็นซาชิกิวาราชิที่พวกเขากำลังตามหากันอยู่
"มาอยู่ที่นี่เองเหรอ"
คำถามที่ได้รับทำให้เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มเบะปาก น้ำตาไหลพรากแล้วร้องไห้โฮจนชิโนบุต้องรีบย่อตัวลงไปกอดปลอบไว้
"ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรแล้ว"
'ฮึก..ฮือ...'
"ทำไมถึงหนีมาอยู่ที่นี่"
'ข้าไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนั้นแล้ว'
"ทำไมล่ะ เธอชอบบ้านหลังนั้นมากไม่ใช่เหรอ"
'ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว'
"อย่าโกหก"
'ข้าพูดจริงนะ ข้าไม่ชอบบ้านหลังนั้นแล้ว ไม่ชอบคนที่นั่นแล้ว'
น้ำเสียงงอแงที่ได้ยินทำให้ชิโนบุยกมือขึ้นมาลูบหัวเธอเบา ๆ รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างเอ็นดู เพราะตอนที่ได้ยินประโยคเมื่อครู่ เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ส่งมาด้วย มันไม่ใช่อารมณ์โกรธหรือเกลียด แต่เป็นการงอแงเพราะความน้อยใจเสียมากกว่า
"ถ้าไม่ชอบจริง ๆ เธอคงไปหาบ้านอื่นอยู่แล้ว ไม่ทำแค่หนีมาอยู่ศาลเจ้าร้างแบบนี้หรอก"
'ข้า..ข้า...'
"มีอะไร ไหนบอกฉันสิ"
'ข้า ไม่ชอบเลย...'
เสียงใส ๆ ของภูตตัวน้อยเริ่มปนเปไปด้วยเสียงสะอื้น ใบหน้าน่ารักเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ก่อนสองมือเล็ก ๆ จะยกขึ้นมาปาดมันออกแล้วเริ่มพูดต่อ
'ทั้ง ๆ ที่ข้ารักพวกเขามาก แต่ว่าทำไม..ทำไมพวกเขาไม่รักกัน ทำไม..ถึงทะเลาะกันล่ะ...ทำไมไม่รักกันเหมือนที่ข้ารัก...'
"มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุก ๆ บ้านจะต้องมีการกระทบกระทั่งกัน"
'ไม่..ครั้งนี้...แรงมาก ๆ นะ...ทะเลาะกัน..หนักมาก เลย'
เห็นอีกฝ่ายสะอื้นจนตัวโยนแล้ว ชิโนบุจึงยิ่งกระชับกอดให้แน่นขึ้น ก่อนจะใช้มือเชยคางให้เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นอีกนิดเพื่อเช็ดน้ำตาให้ และเพราะอย่างนั้นเลยทำให้ซาชิกิวาราชิสังเกตเห็นใครอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล ดวงตากลม ๆ มองไปที่อัลฟ่าด้วยความสงสัย ก่อนจะหันมาเอียงคอถามชิโนบุอย่างแปลกใจ
'ไม่ใช่แบล็กหรอกเหรอ'
"แบล็กไปทำธุระ ส่วนนี่อัลฟ่าเพื่อนฉันเอง"
ได้ยินแบบนั้นเด็กน้อยก็หันไปมองอัลฟ่าด้วยแววตาอยากรู้ ซึ่งอัลฟ่าเองก็เดินมาย่อตัวลงข้าง ๆ ชิโนบุแล้วส่งยิ้มให้เธอเช่นกัน
'เข้ามองเห็นข้าด้วยเหรอ'
"เห็นสิ ก็เพื่อนฉันนี่"
'ว่าแต่แบล็กไม่ได้มาด้วยแบบนี้ แล้วเจ้าหาข้าเจอได้ยังไง'
"ก็แค่เดินมาเรื่อย ๆ น่ะ"
ระหว่างตอบไปก็ใช้มือดันหลังเด็กน้อยเบา ๆ ให้เดินเข้าไปหาอัลฟ่าด้วย เมื่อเห็นว่าเธอดูจะสนใจคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกเป็นพิเศษ ชิโนบุอมยิ้มนิด ๆ เมื่อเห็นว่าอัลฟ่าเองก็กางแขนรับเธอไว้ แต่ขณะที่กำลังมองภาพนั้นเพลิน ๆ ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในหัวให้เผลอชะงักไป
ที่เขามาเจอที่นี่ก็เพราะเดินตามอัลฟ่ามาเรื่อย ๆ
แต่ไม่น่าใช่หรอก...
คงเป็นแค่เรื่องบังเอิญนั่นแหละ
"โอ๋ ๆ นะ"
เสียงของอัลฟ่าที่ดังขึ้น ทำให้ชิโนบุหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเองทันที ดวงตาคู่สวยมองภาพที่ซาชิกิวาราชิกำลังนั่งอยู่บนเข่าข้างหนึ่งของอีกฝ่ายที่ชันขึ้น ในขณะที่ตัวอัลฟ่าเองก็กำลังเช็ดน้ำตาให้เธอ จริง ๆ มันก็เป็นภาพที่น่ารักดี เพียงแต่มีบางอย่างที่ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วแล้วถามกลับไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ
"นายใช้วิธีโอ๋คนมาโอ๋ภูตเนี่ยนะ"
"ไม่ได้เหรอ"
"ได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่ฉันก็ยังไม่เคยเจอใครที่ใช้วิธีแบบเดียวกันกับนายเลย"
"ก็ฉัน--"
'ฮึก...'
เสียงสะอื้นที่ดังขึ้นทำให้ทั้งอัลฟ่าและชิโนบุพากันชะงัก ดวงตาสองคู่รีบหันไปมองซาชิกิวาราชิ ที่ตอนนี้กำลังเบะปากเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมาอีกรอบ
'ห้ามทะเลาะกันนะ..ไม่ให้ ทะเลาะกันแล้วนะ...'
"ไม่ทะเลาะแล้ว"
"ไม่ทะเลาะกันแล้ว"
ชิโนบุรีบขยับเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อช่วยปลอบ ในขณะที่อัลฟ่าเองก็ใช้มือลูบหลังให้เจ้าภูตน้อยเบา ๆ กลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งคู่ต้องมาช่วยกันปลอบซาชิกิวาราชิให้เลิกร้องไห้ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องยากจนต้องใช้เวลากันไปไม่น้อยเลย
เวลาพักใหญ่ผ่านไปกว่าเสียงร้องไห้ในศาลเจ้าร้างจะเงียบลง ตอนนี้อัลฟ่าและชิโนบุนั่งลงไปกับพื้นอย่างไม่สนใจแล้วว่ามันจะเลอะหรือเปล่า ทั้งคู่หันหน้าเข้าหากัน โดยมีซาชิกิวาราชินั่งอยู่บนตักของชิโนบุแล้วยืดขาออกไปพาดไว้บนตักของอัลฟ่า
"สรุปที่เธอหนีมาเพราะมีคนในบ้านทะเลาะกันใช่ไหม"
'อือ'
"งั้นตอนนี้กลับกันเถอะ ฉันไม่เห็นมีใครทะเลาะกันแล้วนะ พวกเขาคืนดีกันแล้ว"
'ข้าไม่อยากให้พวกเขาทะเลาะกัน'
ชิโนบุพยักหน้ารับ เขารู้ดีว่าซาชิกิวาราชิเป็นภูตที่รักความสงบ เจ้าตัวจะชอบอยู่ในบ้านที่ผู้คนรักกัน สามัคคีกลมเกลียว พูดจาดี ไม่พูดจาร้าย ไม่พูดป้ายสีกัน และที่สำคัญคือค่อนข้างอ่อนไหวกับการทะเลาะกันของคนในบ้านเป็นอย่างมาก
"แต่เธอต้องรู้ไว้ว่าเธอห้ามพวกเขาไม่ได้หรอก ทุก ๆ บ้านต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว"
คำพูดของอัลฟ่าทำทั้งซาชิกิวาราชิและชิโนบุต่างมองไปที่เจ้าตัวเป็นตาเดียว ซึ่งอัลฟ่าเองก็หันมาสบตากับชิโนบุครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มลงมองเด็กน้อยบนตักของเจ้าตัวแล้วดึงมือเล็ก ๆ นั่นมากุมไว้
'แต่ข้าไม่ชอบให้พวกเขาทะเลาะกัน'
"พวกเขาก็ไม่ชอบที่ต้องทะเลาะกัน ไม่มีใครชอบเรื่องแบบนี้หรอก"
'ถ้าไม่ชอบแล้วทะเลาะกันทำไม'
"เพราะว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้"
'ข้าไม่เข้าใจ'
"บางครั้งคนที่ทะเลาะกันก็ไม่เข้าใจ แต่ฉันอยากให้เธอรู้ว่าถึงแม้จะทะเลาะกันบ้าง ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่รักกันนะ"
ชิโนบุที่นั่งฟังบทสนทนานั้นมาตั้งแต่ต้น เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ดวงตาคู่สวยมองอัลฟ่าที่โน้มตัวเข้ามาคุยกับเด็กน้อยบนตักของตัวเองด้วยแววตาที่ทอดอ่อนลง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอีกฝ่ายในมุมนี้ เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเวลาได้อยู่กับเด็ก ๆ อัลฟ่าจะกลายเป็นคนที่อบอุ่นได้ขนาดนี้
"นี่ ฉันขอถามอะไรเธออย่างนะ"
'อือ'
"เธอชอบพวกเขาใช่ไหม"
'ชอบสิ'
"อยากกลับไปหาพวกเขาด้วยใช่ไหม"
'อือ ก็พวกเขาน่ะ น่ารักแล้วก็ใจดีมาก ๆ เลย...'
คำตอบที่ได้รับทำให้อัลฟ่าเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้ชิโนบุอย่างโล่งใจ ที่สุดท้ายซาชิกิวาราชิก็ยอมคล้อยตามให้กับความพยายามของตัวเอง ซึ่งชิโนบุเองก็เผลอส่งยิ้มจนตาหยีตอบกลับไปเหมือนกัน
'ใจดีเหมือนชิโนบุเลยล่ะ'
ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะเลือนหายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยหัวคิ้วที่เริ่มขมวดเข้า เมื่ออยู่ ๆ บทสนทนาก็เริ่มวกเข้ามาที่ตัวเอง
'เจ้ารู้ไหม ชิโนบุเป็นคนตั้งชื่อให้ข้าด้วยนะ ชื่อว่าฮิซาเมะ ที่ผ่านมาข้าไม่เคยมีชื่อมาก่อนเลย พอชิโนบุตั้งให้ข้าก็เลยชอบมาก ๆ ข้าว่ามันเป็นชื่อที่เพราะมากเลย เจ้าว่าไหม'
"อืม เพราะมากเลยล่ะ"
'ชิโนบุบอกว่า เพราะเจอข้าครั้งแรกในวันที่ฝนตกพอดีก็เลยตั้งชื่อนี้ให้ ข้าจำได้ว่าวันนั้นชิโนบุมาเล่นกับเจ้าหนูที่บ้าน ตอนนั้นยังตัวเล็กกว่าข้าอยู่เลย เป็นเจ้าเด็กตัวน้อยที่น่ารัก'
คำบอกเล่าที่ได้ยินทำให้อัลฟ่าอมยิ้มออกมา ในขณะที่ชิโนบุขมวดคิ้วแน่นจนแทบรวมเป็นเส้นเดียวกัน ใบหน้าขาวใสในตอนนี้ถูกแต่งแต้มด้วยสีอมชมพูน้อย ๆ เพราะรู้สึกอายที่โดนเอาเรื่องตอนเด็กมาเปิดเผย จึงรีบจับเด็กน้อยให้ลุกออกจากตักโดยที่ตัวเองก็รีบลุกขึ้นยืน แล้วพูดตัดบทก่อนที่ซาชิกิวาราชิจะเล่าอะไรไปมากกว่านี้
"กลับกันเถอะ"
'แต่ข้า..ข้า ยังไม่ได้เตรียมใจเลยนะ...'
"ไว้ไปเตรียมใจระหว่างทางก็ได้"
'แต่ว่า...'
"ตอนนี้คนในบ้านเริ่มได้รับผลกระทบจากการหนีมาของเธอแล้วนะ"
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ภูตตัวน้อยก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ อารมณ์เย็น ๆ ในตอนที่นั่งคุยเล่นกับชิโนบุและอัลฟ่าเลือนหายไป แล้วถูกแทนที่ด้วยความเป็นห่วงผู้คนในบ้านหลังนั้นที่เธอหนีจากมา
ดวงตากลม ๆ ของเด็กน้อยเริ่มวาววับเพราะหยาดน้ำที่เอ่อคลอ แต่ก่อนที่มันจะไหลรินลงมาเป็นน้ำตา สัมผัสเบา ๆ ที่ลูบไปตามเส้นผมอย่างอ่อนโยนก็ทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง
"ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวฉันกับชิโนบุจะไปส่งเธอเอง"
น้ำเสียงอบอุ่นของอัลฟ่าทำให้ซาชิกิวาราชิยกมือขึ้นมาขยี้ตาเบา ๆ เพื่อไล่น้ำตา รอยยิ้มอ่อนโยนที่ได้รับทำให้เธอรู้สึกใจชื้นขึ้น ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าแล้วยื่นมือไปให้อัลฟ่าและชิโนบุจับไว้คนละข้าง
ดวงตากลมโตของภูตน้อยหันมองทั้งคู่อีกคนละที ก่อนใบหน้าน่ารักจะพยักรับแล้วส่งเสียงตอบกลับไป พร้อมด้วยรอยยิ้มที่กว้างขึ้นจนเต็มแก้ม
"เรากลับกันเถอะ"
'อือ'
tbc...