webnovel

[งดงามและห้าวหาญ]

"เมื่อกี้ว่าไงนะ สงสัยหูฝาดแน่เลย แจ็กนายพูดใหม่สิ"

"พวกเราจะ 'ลอบ' เข้าไปเล่นในคฤหาสน์ของเสี่ยสมบัติ"

"...."

วินไม่พูดอะไรตอบแจ็ก และเดินผ่านเข้าไปในบ้านเพื่อเอาข้าวของเข้าไปเก็บด้านใน แจ็กเดินตามเข้ามาเช่นกัน เมื่อวินเก็บของเสร็จ เขาเดินไปหยิบน้ำเปล่าในตู้เย็นมาสองขวด และโยนให้แจ็กขวดหนึ่ง

จากนั้นทั้งคู่ทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟา วินพูดขึ้นว่า

"...ก่อนอื่นเลย ไหนลองเล่ามาสิว่าความคิดนี้เป็นไงมาไง"

แจ็กยิ้มออกมาและเริ่มเล่า "วันนี้เมื่อตอนช่วงเที่ยง ป้าชื่นหัวหน้าแม่บ้านของเสี่ยสมบัติ โทรมาสั่งก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน สั่งออเดอร์ใหญ่เลย น่าจะเลี้ยงคนงานทั้งหมดในคฤหาสน์เลยทีเดียว ฉันเลยถูกใช้ให้เป็นคนเอาไปส่ง ปกติแล้วบ้านนี้ในหนึ่งเดือนจะสั่งแบบนี้สัก 2-3 ครั้ง โดยทุกครั้งฉันจะเอาไปส่งแค่ที่ประตูรั้ว ฝากไว้ที่ป้อมยาม แต่วันนี้ที่ป้อมยามมียามแค่คนเดียว จากที่ควรมีสองคน แล้วเมื่อลุงยามโทรตามป้าชื่นให้ ป้าชื่นตอบกลับมาว่าให้ช่วยขนเข้ามาให้หน่อย เพราะตนกำลังยุ่งทำอาหารอย่างอื่นอยู่อีกด้วย"

วินนั่งฟังอย่างตั้งใจ ถึงแจ็กจะเล่ามาเป็นน้ำเน้นๆ ไม่มีเนื้อก็ตาม แต่เขาเชื่อว่าทุกสิ่งสำคัญหมด ถ้าพวกเขาจะตัดสินใจทำในเรื่องที่แจ็กเสนอมา

"พอฉันถามลุงยามว่าวันนี้มีปาร์ตี้อะไรกัน เขาเลยเล่าให้ฟังว่าวันนี้เป็นวันเกิดสามีป้าชื่น เสี่ยสมบัติเลยถือโอกาสเลี้ยงพนักงานในบ้านทั้งหมดกว่า 20 คน ให้งบมาจัดปาร์ตี้ใหญ่เลย เหล้าเบียร์เพียบ แม้แต่ตู้คาราโอเกะก็มี เห็นว่าคืนนี้ทุกคนเตรียมจัดเต็มกันเลย เพราะตั้งแต่เย็นนี้เสี่ยสมบัติจะไปประชุมที่พัทยา กำหนดการ 3 วัน เห็นว่าจะพายูกินะไปดูอสังหาที่นู้นด้วย เออพูดถึงตรงนี้แล้ว ฉันตกใจเลยว่ายูกินะกลับมาแล้วนะ นายรู้หรือยัง?"

"รู้แล้วละ วันนี้เธอเข้าไปเยี่ยมแม่ฉันที่โรงพยาบาล" วินตอบเสียงอ่อย

"เหรอๆ เป็นไงบ้าง มีซัมติงอะไรบ้างไหม" แจ็กทำหน้าทะเล้นใส่

"ซัมติงอะไรล่ะ ฉันดันไปทำงี่เง่า… เฮ้อ! ค่อยเล่าละกัน เอาเรื่องนายก่อนดีกว่า"

"อ่ะ โอเค งั้นเล่าต่อนะ เขาไม่ให้ขับรถเข้าไป ฉันจึงต้องเดินหอบก๋วยเตี๋ยว 30-40 ห่อ กับน้ำซุปอีกสามถุงใหญ่เบ้อเริ้มเข้าไปส่งที่บ้านพักของพนักงานในสวนด้านหลังและขณะที่เดินไปบ้านพักนั้น ระหว่างทางฉันเดินผ่านอาคารหลังหนึ่ง ลักษณะคล้ายโกดัง แต่ที่แปลกคือติดผ้าม่านสีดำสนิท แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญประตูเปิดอยู่พอดี ฉันก็เลยไปแอบส่องดูซะหน่อย"

"เมื่อได้เห็นข้างในฉันนี่ร้องว้าวออกมาทันที ภายในบ้านหลังนั้นคือโรงฉายหนังส่วนตัว เก้าอี้ฮันนีมูนรอยัลสวีทเรียงรายอยู่เป็นแถว ห้องถัดจากส่วนของโรงหนัง ก็มีเครื่องเล่นเกมอาร์เขต ตู้คีบตุ๊กตา โต๊ะโป๊กเกอร์ โต๊ะรูเล็ต โต๊ะฮ๊อกกี้ โต๊ะสนุ๊ก โต๊ะพูล แล้วยังมี มินิบาร์เหล้า เครื่องคราฟท์เบียร์ เครื่องดื่มอีกสารพัด เรียกได้ว่าเป็น "บ้านบันเทิงเริงใจ" เลยทีเดียวเชียว

"แล้วห้องส่วนสุดท้ายนั้นก็มี…"

แจ็กทำท่าดีดนิ้วเสียงดัง เป๊าะ! แล้วพูดว่า

"เครื่อง VR แคปซูลอยู่ทั้งหมด 10 เครื่องนั้นเองครับผม!" แจ็กผายมือออกสองข้างเหมือนรอให้ใครตบมือให้ แต่วินนั่งเงียบฟังอย่างตั้งใจอย่างเดียว แจ็กจึงพูดต่อว่า

"ว่าแต่เสี่ยซื้อมาทำไมตั้งเยอะแยะ ไว้ให้ลูกน้องเล่นรึไง?"

"ตอนนี้มันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เทคโนโลยี VR สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางธุรกิจได้มากมาย เช่นถึงจะอยู่คนละซีกโลก ก็นัดประชุมในนั้นแบบเห็นหน้าเห็นตาได้ หรือคิดโปรเจ็คยักษ์ใหญ่กันในนั้น บางบริษัทถึงขั้นเปิดตัวจดทะเบียนในนั้นเลยก็มีนะ เพราะความต่างด้านเวลานี่แหละที่เป็นตัวแปรสำคัญ"

"เทคโนโลยี VR Full Drive ได้เปลี่ยนโลกของเราไปแล้ว"

"อือฮึ…" แจ็กพยักหน้าทำความเข้าใจ "ใช่ๆ จำได้ละ ไอ้เด็กบ้านรวยท่าทางอวดดีคนนั้นที่ได้เครื่อง VR จากงานโปรโมทเกม ได้ยินมันพูดว่าที่บ้านมีตั้ง 50 เครื่อง แสดงว่าบ้านมันคงอภิมหาเศรษฐีเลยสินะ

รวยขนาดนั้นยังมาหาไอเท็มที่งานอีก ทำไมไม่ใช้เงินซื้อไปเลยละ จะได้จบๆ" แจ็กบ่นเสร็จก็ดื่มน้ำในมือ อึกๆๆ

"อืมม์ นั่นก็เพราะใน Another World Online มีของบางอย่างที่ถึงแม้จะมีเงินมากมายล้นฟ้า แต่ก็ไม่สามารถครอบครองได้ยังไงล่ะ"

วินตอบ

"ห๊ะ? มีด้วยเหรอ คืออะไรอ่ะ ตรงนี้ฉันงงแฮะ ถ้าเรามีตังค์มากมาย เราก็ช้อปปิ้งไอเท็มเจ๋งๆ ในตลาดประมูลได้ไม่ใช่เหรอ แค่มีเงินก็เก่งขึ้นได้ละ"

วินดื่มน้ำที่ถืออยู่สองอึกแล้วพูดต่อว่า "เรื่องนี้อธิบายเลยมันก็ยาว ยกตัวอย่างเรื่องอาวุธหกดาวที่เพิ่งขายไปให้ฟังละกัน สิ่งที่ทำให้ทุกคนประมูลกันจนราคาอาวุธชิ้นนั้นขึ้นสูงไปถึง 120,000 บาท ไม่ใช่เพราะมันเป็นอาวุธหกดาวที่มีสกิลเจ๋งๆ อย่างเดียวหรอก แต่สิ่งที่ทุกคนอยากได้คือ 'ข้อมูลลับ' ต่างหาก"

"ข้อมูลลับ? ไอ้เงื่อนไขปรากฏตัวบอสลับน่ะนะ"

"ใช่ เวลาสู้กับมอนสเตอร์ก็อย่างหนึ่ง แต่เวลาสู้กับเพลเยอร์ด้วยกันเนี่ยตรงนี้สำคัญมาก สมมติว่านายต้องปะทะกับคนที่ซื้ออาวุธหกดาวของฉันไป นายก็รู้แล้วนี่ว่ามีสกิลอะไรบ้างถูกไหม แน่นอนว่าแพ้ชนะมันไม่ได้ตัดสินกันตรงนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มันก็เพิ่มโอกาสชนะได้มากขึ้นแน่นอน ข้อมูลลับถึงสำคัญกว่ายังไงล่ะ คนที่ได้รู้เงื่อนไขปรากฏตัว

บอสลับมาคิน่าออคโต้ จากนี้ไปเขาก็คงไปไล่ฟาร์มอาวุธหรือไอเท็มดีๆ ได้อีกเพียบ เพราะเนื่องจากมันเป็นบอสลับ ไอเท็มที่ออกจึงเป็นการสุ่มในระดับห้าดาวขึ้นไป เผลอๆ ถ้าได้ไอเท็มระดับตำนานด้วยละก็ คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม"

"โอ้~ เข้าใจละ เพราะงี้อาวุธในตำนานถึงได้ราคาสูงกว่าใช่มะ มันสามารถอัพเกรดได้ แถมมีไม้ตายโคตรเจ๋งซ่อนอยู่อีก"

วินพยักหน้าตอบแจ็ก และถามต่อว่า "เล่าเรื่องที่คฤหาสน์ของเสี่ยต่อซิ ตกลงเป็นไงต่อ คือนายตีสนิทกับป้าชื่นจนป้าเค้าจะแอบลอบพาพวกเราเข้าไปเล่นเกมใช่ไหม"

แจ็กทำหน้าแหยๆ "เปล่า… ไม่ใช่อย่างนั้น"

"อ้าว ไม่ใช่เรอะ แล้วตกลงยังไง?"

"คืองี้ ให้ฉันเล่าต่อก่อน ขณะที่ฉันกำลังเพลิดเพลินไปกับการเล่นตู้คีบตุ๊กตาอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงป้าชื่นแม่บ้านดังมาจากประตูทางเข้าอาคาร

"เธอเป็นใคร เข้ามาทำอะไรในนี้?!"

"ผม...เอ่อ ผมแจ็กครับ ลูกร้านก๋วยเตี๋ยวกลางซอยน่ะครับ ผมเอาก๋วยเตี๋ยวเข้ามาส่ง--"

"ป้าก็เดินมาหาเธอนี่แหละ นึกว่าเดินหลงไปไหนแล้ว เห็นไม่มาสักที เธอไม่ควรเดินเผ่นผ่านเข้ามาในนี้นะรู้ไหม ถ้าคนที่มาเจอไม่ใช่ป้าละก็ บางทีเธอคงโดนยิงไปก่อนจะได้อธิบายข้อแก้ตัวอะไรแล้ว!" ป้าชื่นกล่าวเสียงดุ

"โดนยิง?! ขนาดนั้นเลยเหรอครับป้า เวอร์ไปรึเปล่า"

"เอาก๋วยเตี๋ยวมาให้ป้า แล้วกลับไปได้แล้ว!" ป้าชื่นรับถุงใหญ่ที่แจ็กส่งให้ แล้วทำมือไล่

"ทีนี้ระหว่างเดินออกไป ฉันแกล้งสะดุดที่วางไม้คิวแทงสนุ๊กให้ล้มระเนระนาด ป้าชื่นเลยต้องเดินมาช่วยเก็บ จังหวะนั้นเลยแอบปลดล็อกกลอนหน้าต่างเอาไว้บานหนึ่ง แล้วก็ช่วยป้าชื่นเก็บไม้คิวต่อ"

"เฮ้อ เด็กสมัยนี้มันไม่ได้เรื่องเลย ทำไมไม่เรียบร้อยกันเลยสักคน" ป้าชื่นบ่นเข้าให้อีกดอกหนึ่ง

…..

"เรื่องจบแค่นี้ละพวก" แจ็กบอกวิน

"...."

"สรุปคือ… นายจะชวนฉันลอบเข้าไปในบ้านเสี่ยสมบัติยามดึก ผ่านยามหน้าประตูสองคน ยามด้านในสามคน หลบกล้องวงจรปิดสิบตัว หลบหมาร็อดไวเลอร์อีกสองตัว เพื่อเข้าไปเล่นเกม ซึ่งถ้าเกิดพลาดโดนจับได้ขึ้นมา เราคงโดนยิงตาย ไม่ได้กลับมาเจอหน้าแม่กันอีกเลย.... นายจะพูดงี้ใช่ไหม? วินกล่าวออกมาเสียงเครียด

"อะ...เอ่อ ก็ตามนั้นแหละ ทำไมนายพูดแล้วมันฟังดูแย่จังวะ เค้าคงไม่ถึงขั้นยิงเราหรอกมั้ง เสี่ยสมบัติเป็นนักธุรกิจอสังหา ให้เช่าตึกเช่าร้านกับเป็นเจ้าของปั้มปากซอยไม่ใช่เหรอ? แจ็กตอบเสียงอ่อน

"ไอ้แจ็ก แกคิดจริงๆ เหรอว่าเค้ามีธุรกิจแค่นั้น เสี่ยสมบัติทำซุ้มมือปืนนะเฟ้ย และค้ายาเสพติดอีกด้วย!"

"ไอ้วิน เรื่องนั้นนายไม่เคยเห็นสักหน่อย คนในซอยก็แค่ลือไปเฉยๆ" แจ็กเถียงกลับ

วินถอนหายใจแล้วพูดว่า "เสี่ยสมบัติส่งออกยาเสพติดข้ามชาติ ไปประเทศอื่นเพราะไม่อยากมีปัญหากับตำรวจและนักการเมืองในประเทศไทย ส่วนปั้มน้ำมันกับร้านข้าวแกงปากซอยที่อร่อยและถูกที่สุดในประเทศไทยนั่นนะ เพราะเสี่ยเค้าทำเพื่อให้ผู้คนละแวกบ้านนี้ชื่นชม จะได้ไม่มีใครมีปัญหาอะไรด้วยไงล่ะ

"แม่นายเล่าให้ฟังเหรอ?" แจ็กถามวิน

"เออสิ ข้าวแกง 2 อย่าง 20 ทุกวันนี้จะหาที่ไหนกินได้อีกละ แม่ฉันทนทำงานที่ร้านข้าวอาหารนั่นมาเป็นสิบปี เงินเดือนขึ้นมานิดเดียว ไม่มีสวัสดิการอะไร ไม่มีโบนัส เพราะร้านขายถูกเลยไม่มีกำไรมากมายอะไรเลย แต่ที่แม่อดทนทำเพราะว่ามันใกล้บ้าน และครอบครัวรวมถึงพนักงานในร้านสามารถทานอาหารได้ฟรีแค่นั้นแหละ" วินบ่นออกมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด

แจ็กเอามือจับเข่าวินแล้วพูดว่า "เอาน่าไอ้วิน นายใจเย็นๆ ก่อนสิ ฉันเชื่อว่านายต้องหาทางจนได้แหละน่า ฉันบอกข้อมูลทุกอย่างไปหมดแล้ว ที่เหลือนายเป็นคนตัดสินใจเลยเพื่อน ว่าไงว่าตามกัน"

"งั้นก็… ไปบ้านเสี่ยสมบัติกันเลย" วินพูดพร้อมลุกขึ้นยืน

"ห๊ะ? ไปตอนนี้เลยเหรอวะ กลางวันแสกๆ เนี่ยนะ"

"ไปดูลู่ทางก่อนสิฟะ ไม่งั้นจะวางแผนได้ไงล่ะ"

…...

วินนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เวสป้าสีแดงซีดคันเก่าของแจ็ก ตรงไปยังที่หมายคฤหาสน์หลังใหญ่ท้ายซอย แจ็กขับวินพาวนดูรอบนอกทั้งหมด ซึ่งด้านหน้าและด้านข้างมีกำแพงสูงใหญ่ล้อมรอบอาณาบริเวณพร้อมรั้วไฟฟ้าและกล้องวงจรปิด ส่วนด้านหลังติดคลองแม่น้ำเจ้าพระยา มีบ้านพักคนงานอยู่ติดกับท่าเรือเฟอร์รี่ของตนเอง

แจ็กยังพูดเสนอไอเดียออกมาเรื่อยระหว่างที่ขับรถ

"เราปลอมตัวเป็นช่างแอร์ไหม? ไม่ต้องในตำนานก็ได้"

"เราวางยานอนหลับยามดีป่ะ?"

"แผนนี้เวิร์คแน่ เราปลอมตัวเป็นศพเกยตื้นที่ท่าเรือเอาม่ะ?"

"...."

ตอนนี้พวกเขาขับวนกันมาจอดฝั่งตรงข้ามประตูทางเข้าด้านหน้าอีกครั้ง วินยังคงไม่พูดอะไรและเหมือนนั่งพึมพำอะไรสักอย่างอยู่ตลอดเวลา

"วินดูนั่นสิ! ยูกินะใช่ไหมน่ะ?!" วินเงยหน้ามองอย่างรวดเร็วตามเสียงตะโกนของแจ็ก

"...ใช่ นั่นเธอล่ะ"

ยูกินะเหมือนจะเพิ่งกลับมาถึงบ้าน รถของเธอจอดที่หน้าป้อมยาม และเธอลงมาจากรถโดยที่เอาขนมหรืออะไรสักอย่างให้ยามเฝ้าประตู และดูเหมือนเธอจะสัมผัสได้ว่ามีคนมองเธออยู่ เธอหันมามองพวกเราสองคน พอยูกินะรู้ว่าเป็นผม เธอสะบัดหน้าหันหนีทันที ผมรู้เลยว่าเธอโกรธผมแหงๆ

ผมไม่ได้เจอยูกินะมา 3 ปีก็จริง แต่จริงๆ แล้วครั้งสุดท้ายที่พวกเราคุยกันคือ ช่วงไม่กี่วันก่อนเปิดเทอมขึ้นชั้น ม.ต้น ผมยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี ขณะที่ผมกับแจ็กนั่งชิงช้าคุยกันอยู่ที่สนามเด็กเล่นในซอย มีรถโรลส์รอยซ์สีดำของเสี่ยสมบัติขับมาจอดที่หน้าสนาม ยูกินะก้าวลงมาจากรถ เดินก้มหน้าไหล่ตกมาบอกกับพวกเราว่า

"เมื่อขึ้นชั้น ม.ต้น พ่อจะให้ฉันไปเข้าเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ และพ่อของฉัน…สั่งห้าม...ไม่ให้ฉันคบกับพวกนายอีกต่อไป… ฮึก…" เสียงที่สั่นเครือของเธอจากประโยคช่วงหลังทำให้ผมรู้ว่าเธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้อยู่ แต่ดูเหมือนจะกลั้นไม่ไหว ผมเห็นมีน้ำตาหยดหนึ่งไหลออกจากดวงตาของเธอ นั่นเป็นครั้งแรกที่พวกเราได้เห็นน้ำตาของยูกินะ

ปกติแล้วเธอเป็นเด็กที่ร่าเริง สดใส ยิ้มอยู่เสมอ เข้มแข็งและแข็งแกร่ง ในที่นี้คือแข็งแกร่งตามตัวอักษรเลย อาจจะมากกว่าผู้ชายอย่างพวกผมก็เป็นได้ มีครั้งหนึ่งที่ยูกินะเข้าไปปกป้องเพื่อนผู้หญิงในห้อง จากการถูกเด็กผู้ชายตัวโตกว่าสองเท่ารังแกตบตีจิกหัวอย่างน่าสงสาร ผมกับแจ็กเห็นเหตุการณ์และกำลังจะวิ่งเข้าไปช่วยยูกินะอีกแรง แต่พวกผมช้าไป เพราะเธอหมุนตัวหลบหมัดอย่างรวดเร็ว จับแขนที่พุ่งเข้ามาเหวี่ยงทุ่มเด็กผู้ชายคนนั้นข้ามสะโพกลงพื้นเสียงดังตึง ไทยมุงรอบข้างฮือฮากันใหญ่ ผมมารู้ทีหลังว่าท่านั้นเรียกว่า 'ท่าทุ่มเซโออิ' เท่านั้นยังไม่พอ เธอเอาแขนเด็กคนนั้นรวบมาไว้ด้านหลัง และดัดแขนเด็กผู้ชายคนนั้นซะเขาร้องไห้ ซ้ำยังบอกให้ขอโทษเพื่อนของเธอซะ เมื่อเด็กคนนั้นไม่ยอมขอโทษ เสียง 'กร๊อบ' ดังลั่นก็ตามมา

'โอ๊ยยยย!' เด็กผู้ชายตัวโตคนนั้นร้องสุดเสียง และในที่สุดครูก็มาจนได้และรีบพาไปหาหมอที่ห้องพยาบาล พ่อแม่ของเด็กคนนั้นมาถึงโรงเรียนก็มาดุด่าว่ายูกินะใหญ่เลย ว่าตั้งใจทำร้ายลูกชายคนดีของเค้าให้ต้องแขนหัก บอกครูให้ไล่เธอออกซะ ไม่งั้นจะฟ้องกระทรวงศึกษาธิการ จะทำให้เป็นข่าวใหญ่โตเลย ก่อนอื่นเลยให้ยูกินะก้มหัวขอโทษเดี๋ยวนี้ แต่ยูกินะไม่ยอม และบอกว่าต้องให้ลูกชายคุณขอโทษก่อนสิ แล้วหนูถึงจะขอโทษที่ทำเกินกว่าเหตุ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อเสี่ยสมบัติไปถึง เพียงแค่ 5 นาที สถานการณ์ทุกอย่างก็เคลียร์ เรื่องจบลงที่พ่อแม่ฝ่ายนั้นและลูกชายตัวแสบก้มหัวขอโทษ ยูกินะก็เดินเข้าไปใกล้และบอกว่า

"เราอาจทำแรงไป ขอโทษด้วยนะ แต่นายไม่ควรใช้กำลังกับผู้หญิงแบบนั้นนะ รู้ใช่ไหม? ถ้าเรารู้ว่านายทำอีกละก็..." แล้วยูกินะก็ทำท่าเอานิ้วชี้ปาดคอ และยิ้มหวานกับส่งวิ้งค์ให้เด็กผู้ชายหนึ่งที

"...."

ในวันวาเลนไทน์ในอีก 3 เดือนให้หลัง ได้ข่าวมาว่าเด็กคนนั้นมาสารภาพกับยูกินะว่า 'หลงรักและอยากขอเป็นแฟนด้วย' และก็ผิดหวังกลับไปตามระเบียบ เหมือนๆ กับเด็กผู้ชายอีกหลายสิบคนในวันนั้นที่รวบรวมความกล้าสารภาพรักกับเธอ ด้วยความน่ารัก สดใส ฉลาด และเสน่ห์ของเธอที่งดงามจากทุกกริยานั้น ทุกคนต่างให้สมญานามเธอว่า 'องค์หญิงยูกินะ' และเจ้าหญิงองค์นี้ไม่ได้เป็นรักแรกของผมเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่เธอยังเป็นรักแรกของเด็กนักเรียนชายสองในสามของโรงเรียนอีกด้วย

...

ระหว่างที่ขับมอเตอร์ไซค์ดูลู่ทางบ้านของเสี่ยสมบัติอีกรอบหนึ่ง ผมที่นั่งซ้อนท้ายแจ็กอยู่ก็คิดตลอดว่าจะทำดีรึเปล่า ครั้งนี้เป็นเรื่องผิดกฎหมายเลยนะ แต่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนี่นา เพราะงั้นมันคงไม่เป็นไรมั้ง ด้วยสภาพการเงินที่กดดันชีวิตขนาดนี้ ขอเข้าไปเล่นเกมฟรีอีกสักคืนเถอะ อย่างน้อยพวกเราจะต้องหาเงินได้ 2-3 หมื่นบาทแน่นอน เอาไว้เป็นทุน แล้วหลังจากนี้ค่อยไปเช่าเครื่องเล่นเอาก็ได้

"เป็นไงบ้าง คิดออกหรือยังว่าจะเข้าไปยังไง" แจ็กหันหน้ามาถามระหว่างขับรถ

"รู้ตั้งแต่ขับวนรอบแรกแล้ว" ผมตอบ "แต่ฉันว่านายต้องไม่ชอบแน่ แจ็ก หึหึหึ"

"เสียงหัวเราะแบบนี้มันคืออะไรฟะ รีบบอกมาเลย"

"วิธีนั้นก็คือ..."