(ณ Arizona เวลา 22:15 น. ที่บ้านของผู้ตาย)
ณ บ้านของผู้ตายในย่านชานเมือง Azel และ Seraphiel มาถึงที่เกิดเหตุในชุดปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ FBI ตำรวจท้องถิ่นยังคงตรึงกำลังอยู่รอบบริเวณ ขณะที่บางส่วนกำลังสอบสวนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูเงียบสงบ ทว่าแฝงไว้ด้วยความแปลกประหลาด
ตำรวจท้องถิ่นคนหนึ่งเดินมาหาพวกเขาและเอ่ยทักทาย "พวกคุณคือเจ้าหน้าที่จาก FBI ใช่ไหมครับ?"
Seraphiel พยักหน้าด้วยท่าทางสงบนิ่ง "ใช่ครับ เรามาสืบสวนเรื่องนี้เพิ่มเติม" เขาชูบัตรประจำตัวปลอมให้ตำรวจดู ซึ่งดูน่าเชื่ออย่างประหลาด ตำรวจพยักหน้าให้พวกเขาผ่านไป
Seraphiel สบตากับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งที่ดูมีสีหน้ากังวล "นี่...พวกคุณแน่ใจเหรอว่าเขาตายเพราะหัวใจวาย?"
เจ้าหน้าที่ตำรวจถอนหายใจลึกพร้อมส่ายหัวเล็กน้อย "ก็พยายามอธิบายให้เป็นแบบนั้น แต่เอาจริงๆ นะครับ เราไม่เจอหลักฐานทางการแพทย์ที่ชัดเจนเขาสุขภาพแข็งแรงดี เขาดูเหมือนจะตายจากความหวาดกลัวอะไรบางอย่างมากกว่าครับ...เรื่องนี้มันแปลกพิกล"
ทั้งคู่เดินเข้าไปในบ้านที่เต็มไปด้วยกลิ่นอับของไม้เก่าและฝุ่นละออง เฟอร์นิเจอร์ยังคงจัดวางเหมือนที่เจ้าของบ้านทิ้งไว้ก่อนเสียชีวิต ทุกอย่างดูปกติ แต่บรรยากาศภายในนั้นเต็มไปด้วยความกดดัน Azel มองไปรอบๆ รู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้
"ผู้ตายเสียชีวิตในห้องนั่งเล่นครับ" ตำรวจคนหนึ่งกล่าว พร้อมกับชี้ไปที่โซฟาตัวใหญ่ที่ผู้ตายนั่งอยู่ตอนที่หัวใจวาย ตำรวจอีกคนกำลังถ่ายภาพและบันทึกหลักฐานในที่เกิดเหตุ
Azel และ Seraphiel ยังคงอยู่ในที่เกิดเหตุ ตำรวจท้องถิ่นยังคงตรวจสอบหลักฐานในห้องนั่งเล่น เมื่อพวกเขาเดินไปถึงห้องนอนของเหยื่อซึ่งมีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ Azel รู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวซ่อนอยู่ในห้องนี้
"เหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในที่นี่" Azel พูดขึ้นอย่างเบาๆ ขณะที่เขามองไปรอบๆ ห้อง และสายตาของเขาจับจ้องไปที่ตู้เสื้อผ้า "ผมคิดว่าเราควรตรวจดูในนั้น"
Seraphiel พยักหน้าและเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ภายในตู้เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าของผู้ตาย มีถุงหนังสีดำที่ดูเก่าและแปลกตาวางอยู่ด้านหลังสุด มันถูกซ่อนไว้อย่างดี "นี่มัน..." Seraphiel หยุดพูดเมื่อเห็นสัญลักษณ์ที่สลักบนถุงนั้น เป็นสัญลักษณ์ต้องสาปที่เกี่ยวข้องกับการใช้มนตร์ดำ
Azel หรี่ตามองถุงนั้น "คุณคิดว่านี่คืออะไร?" เขาถาม
"นี่มัน...ถุงสาปแช่งของแม่มด" Seraphiel กล่าวเสียงต่ำ "ไม่ต้องสงสัยเลย ว่านี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เหยื่อเสียชีวิต" เขากล่าวพลางจับโครงกระดูกเล็กๆ ที่อยู่ในถุงขึ้นมาดูอย่างละเอียด
Azel ส่ายหน้า "เขาถูกสาปเหรอ?"
"ถูกต้อง เธอรู้ไหม การใช้ถุงสาปแช่งพวกนี้ทำให้หัวใจของเหยื่อหยุดเต้นได้โดยไร้สาเหตุ นี่มันมนตร์ดำแบบโบราณเลย" Seraphiel ตอบขณะสำรวจถุงและของในนั้น "เราต้องหาว่าใครเป็นคนวางมันไว้ที่นี่"
ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนา ตำรวจที่อยู่ด้านนอกห้องได้ยินการพูดคุย พวกเขาเดินเข้ามาใกล้ "พวกคุณเจออะไรเหรอครับ?" หนึ่งในตำรวจถาม
"แค่บางอย่างที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม" Seraphiel ตอบอย่างรวดเร็ว พร้อมกับซ่อนถุงสาปแช่งในเสื้อโค้ตของเขาโดยที่ตำรวจไม่ทันสังเกต "เราจะนำของนี้ไปวิเคราะห์ในห้องแล็บ"
หลังจากเขาพูดจบ เขาก็เดินกลับไปที่รถด้วยท่าทีเร่งรีบและหัวเสีย
ภายในรถที่จอดอยู่ริมถนน เงียบสงบไปชั่วครู่หลังจากที่ทั้งสองออกมาจากบ้านของเหยื่อ Seraphiel นั่งอยู่ที่เบาะคนขับ แต่ท่าทางของเขาดูไม่เหมือนปกติ เขากำพวงมาลัยแน่น จ้องไปข้างหน้าอย่างเคร่งเครียด ขณะที่ Azel นั่งข้างๆ สังเกตเห็นอารมณ์ของเขาเปลี่ยนไป
"นี่คุณโอเคหรือเปล่า?" Azel ถามอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้น Seraphiel ก็ทุบพวงมาลัยด้วยความหงุดหงิด ทำให้ Azel ผงะ "แม่มด...ไม่ควรจะยังอยู่ได้! ฉันแน่ใจว่าพวกนั้นถูกกำจัดไปหมดแล้วตั้งแต่ยุคของการล่าแม่มด!" เขาเริ่มพูดเสียงดังด้วยความโกรธแค้น "ฉันจำได้ชัดเจน ฉันจัดการพวกมันเองกับมือ ทุกคนถูกตามล่าจนหมดสิ้น! แล้วนี่มันหมายความว่าไง ทำไมถึงยังมีของต้องสาปหลงเหลืออยู่ได้!"
Azel นิ่งเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะถามขึ้น "คุณแน่ใจเหรอว่าแม่มดถูกกำจัดไปหมดแล้ว? บางทีอาจมีคนอื่นที่ยังรู้วิธีใช้เวทมนตร์พวกนั้นอยู่ก็ได้"
Seraphielขมวดคิ้ว มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างหงุดหงิด "ฉันแน่ใจ แต่ถ้ามีใครบางคนยังใช้เวทมนตร์พวกนี้ได้ แสดงว่าพวกมันซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง รอจังหวะที่จะกลับมาเล่นงานเราอีกครั้ง"
เขาถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนจะขยับตัวให้สงบลงเล็กน้อย "นี่มันเกินกว่าที่ฉันคาดคิดไว้ เราต้องหาทางกำจัดพวกมันให้หมดอีกครั้ง คราวนี้ให้แน่ใจว่าพวกมันจะไม่เหลือรอดอีกแม้แต่คนเดียว"
Azelมองไปที่ Seraphiel ที่ยังคงอยู่ในสภาพโกรธ "ถ้าพวกมันกลับมา ผมว่าเราน่าจะหาต้นตอของพวกมันก่อนดีกว่า แค่กวาดล้างไปอีกครั้งอาจไม่พอ"
Seraphielพยักหน้าเบาๆ "ใช่... เราต้องหาตัวแม่มดคนที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้ ก่อนที่มันจะทำให้มีคนตายอีก"
(ณ สวรรค์ เวลา 23:57 น. สนามรบกลางสวรรค์)
Michael และ Gabriel ยังคงฝ่าวงล้อม ของกองกำลังเทวทูตฝ่าย Uriel อย่างไม่ หยุดยั้ง แสงของดาบศักดิ์สิทธิ์ฟาดฟันพลัง ความมืดที่ล้อมรอบ ทั้งสองตั้งใจแน่วแน่ที่จะ ตามล่า Uriel ที่หลบหนีอยู่ในสนามรบ
เสียงก้องจากการต่อสู้ยังดังไม่หยุดยั้ง ขณะ ที่ Michael และ Gabriel กำลังเข้ามาใกล้ Uriel มากขึ้น ทว่าตลอดเวลานี้ Uriel กลับไม่ ได้ลงมือทำอะไรเพื่อป้องกันตัวหรือสวนกลับ เขาเพียงแต่หลบหนีไปเรื่อยๆ ฝ่าทางผ่าน เทวทูตของตัวเองเพื่อหลบเลี่ยงการเผชิญ หน้า
Michael: กระชับดาบของเขาแน่น พร้อม ตะโกนเสียงดังลั่น "คิดจะหนีข้าไปตลอด หรือยังไง Uriel? เผชิญหน้ากับข้าเดี๋ยวนี้!"
Uriel ยังคงวิ่งหนีไป ท่ามกลางเสียงการต่อสู้ แต่ไม่ว่ายังไง Michael และ Gabriel ก็เร่ง ตามเขาไปเรื่อยๆ ฝ่าวงล้อมเทวทูตของฝ่าย ศัตรูด้วยความมุ่งมั่น ในที่สุดพวกเขาก็เข้า ประชิดตัว Uriel จนสามารถกักตัวเขาไว้ได้
Gabriel โบกมือเรียกเหล่าอัครเทวทูตที่ตามมาเพื่อจับกุม Uriel "หมดเวลาเล่นซ่อนแอบ แล้ว Uriel ตอนนี้เจ้าจะไม่มีทางหนีไปไหน อีก!"
Uriel สบสายตากับ Michael ด้วยแววตาที่ มืดหม่น แต่ไร้ซึ่งความท้าทายหรือความกล้า เขาถูกเหล่าอัครเทวทูตของ Michael จับกุม เอาไว้โดยไม่มสามารถต่อสู้หรือขัดขืนใดๆ
Michael: ถอนหายใจหนัก และกล่าวอย่าง จริงจัง "เจ้าเลือกเส้นทางที่ผิดพลาด Uriel ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจในสิ่งที่เจ้าทำลงไปใน ที่สุด"
หลังจากที่ Uriel ถูกจับกุม เหล่าอัครเทวทูตของ Michael ได้นำตัวเขาไปยังเรือนจำศักดิ์สิทธิ์ของสวรรค์ สถานที่ที่ไม่มีเทวทูตตนใดสามารถหนีออกมาได้แม้จะมีพลังมหาศาลเพียงใดก็ตาม
Michael และ Gabriel เดินตามหลังขบวนอัครเทวทูตที่คุมตัว Uriel มายังประตูทองคำสูงตระหง่านของเรือนจำ เมื่อมาถึง Gabriel ยื่นมือออกไปเปิดประตู ก่อนที่เหล่าอัครเทวทูตจะนำ Uriel เข้าไปข้างใน
Gabriel หันมาพูดกับ Michael "ในที่สุด ทุกอย่างก็จบลงแล้ว Uriel จะไม่สามารถก่อความวุ่นวายได้อีกต่อไป"
Michael เพียงพยักหน้าอย่างเงียบๆ สายตาจับจ้องที่ Uriel ผู้ซึ่งถูกนำไปขังในห้องขังลึกสุดของเรือนจำแห่งนี้ ซึ่งจะไม่มีแสงสว่างหรือความหวังหลงเหลือให้เขาได้สัมผัสอีกก่อนจะพูดว่า
"หวังว่าการถูกคุมขังนี้จะทำให้เขาได้ใคร่ครวญถึงสิ่งที่เขาได้ทำลงไป...เจ้าช่วยเตรียมการสอบปากคําเขาเกี่ยวกับเรื่องการอัญเชิญภูตมรณะให้ข้าที เราจะเริ่มกันพรุ่งนี้"
จบตอนที่ 4.