จากอุบัติเหตุสยองเหนือธรรมชาติส่งผลให้วิญญาณของแจ็ค เวลลิงตันกระเด็นข้ามไปยังโลกแห่งฝันร้ายพร้อมกับพลังพิเศษ เพียงแต่โอกาสครั้งที่ 2 นี้กลับพ่วงภารกิจฆ่าตัวตายที่ต่อให้ผู้มีพลังพิเศษเองก็ไม่แน่ว่าจะสามารถเอาชีวิตรอดไปได้ นอกเสียจากจะเด็ดหัวพราโซซินสำเร็จเท่านั้น!
แจ็คร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด สมองมึนงงไม่อาจแยกแยะว่าอะไรเป็นอะไร เหมือนกับแวบหนึ่งเขาเพิ่งเห็นแสงไฟเจิดจ้าจาก ...รถบรรทุกหรือเปล่านะ จากนั้นเสียงเปรี้ยงปร้างแบบกระสุนระเบิดจากรังเพลิงต่อเนื่องก็ดังสนั่นหวั่นไหว ไม่ใช่แบบสิ มันเป็นเสียงปืนจริง ๆ เลยต่างหาก ประกายไฟปะทุแปลบปลาบยามวัตถุขนาดจิ๋วพลังทำลายล้างสูงกระทบโครงเหล็กกระเด็นกระดอนไปมารอบตัวเขาโดยไม่มีทีท่าจะหยุดลงง่าย ๆ
เลือด... ต้นตอความเจ็บปวดนั้นอยู่ที่หน้าท้อง ตำแหน่งเหนือสะดือขึ้นมาสักหนึ่งนิ้วได้ เลือดสีเข้มทะลักจากรูโหว่เล็ก ๆ นั่น เขาที่ยังคิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าควรทำอะไรกับสถานการณ์นี้ดีก็ใช้มือไปกดบาดแผลไว้ ความเจ็บปวดระลอกใหม่ผุดขึ้นมาจนร่างกายเกร็งกระตุกกระทั่งลมหายใจก็หายไปชั่วขณะ
[ติดสถานะเลือดไหล พลังชีวิตลดลง 0.5% ทุก 2 วินาที]
"อะไรวะ!" แจ็คตะโกนแข่งกับเสียงสาดกระสุน ดูเหมือนเขากำลังติดอยู่ท่ามกลางสงครามหรืออะไรสักอย่าง โดยที่ข่าวร้ายก็คือเป้าหมายการสังหารได้แก่ตัวเขานี่แหละ
ข้อความสีแดงกะพริบอยู่ตรงหน้าประหนึ่งภาพโฮโลแกรมที่เกิดขึ้นแค่เฉพาะในหัวของเขา ซึ่งไม่ว่าจะหันไปทางไหน ข้อความนั้นก็จะลอยตามไปเสมอ จากนั้นความแปลกประหลาดยิ่งกว่าก็เกิดขึ้น เมื่อทัศนวิสัยส่วนหนึ่งจู่ ๆ ก็ถูกบดบังด้วยเฮดอัพ ดิสเพลย์(HUD) เป็นภาพกราฟิกราวกับเป็นหน้าจอในเกมยิงแบบบุคคลที่หนึ่งยังไงยังงั้น กล่าวคือตรงมุมบนซ้ายของลานสายตาปรากฏแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอนสีเหลืองซึ่งแสดงระดับพลังชีวิตของเขา ใต้แท่งพลังชีวิตเป็นแท่งสีม่วงที่มีความกว้างน้อยกว่าครึ่งหนึ่งอีกแท่งที่ไม่รู้ว่ามันแสดงถึงอะไรกันแน่ ทางด้านมุมบนขวามีไอคอนสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ จำนวนสามอันเรียงกันในแนวตั้ง
แจ็คเข้าใจทันทีว่าสิ่งที่ตนเห็นตอนนี้คืออะไร ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นหน้าจอเกมสักเกม เพียงแต่เวลานี้เขาไม่ได้กำลังสวมแว่นวีอาร์หรืออย่างน้อยที่สุดก็นั่งอยู่หน้าโน้ตบุ๊คตัวเองด้วยซ้ำ ทว่าเฮดอัพ ดิสเพลย์กลับแสดงอยู่ในดวงตาของเขาเลยต่างหาก
เขารู้ตัวว่าไม่ได้ฝันไป ด้วยความเจ็บปวดตอนนี้จริงยิ่งกว่าจริงเสียอีก
แถบพลังชีวิตของเขาค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ
เสียงปืนหยุดลงกะทันหันโดยไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้าใด ๆ แล้วเสียงผู้ชายดุดันก็ตะโกนขึ้นมา "ยอมมอบตัวดี ๆ ซะเถอะ จะได้ไม่ยุ่งยากกับทั้งเอ็งแล้วก็พวกข้า ไอ้ฆาตกร ถ้าแกว่าง่าย ๆ ละก็ ข้าสัญญาว่ามันจะเป็นการตายที่รวดเร็วและไม่ทรมาน แต่ถ้ายังงี่เง่าอยู่ละก็..."
แจ็คเข้าใจความหมายของหมอนั่นเป็นอย่างดี แต่ที่เขางงก็คือ เพราะเหตุใดฝ่ายนั้นถึงเรียกเขาว่าฆาตกรล่ะ เขาเนี่ยนะฆ่าใคร แค่คิดก็อยากจะหัวเราะแล้ว(ถ้าไม่ได้กำลังนอนท้องเป็นรูอยู่ก็นะ) ตลอดชีวิตของเขา แค่จะเตะแมวสักตัวก็ยังไม่กล้าเลย ไม่งั้นเขาจะยอมโดนหัวหน้ากับเพื่อนร่วมงานเอาเปรียบมาตลอดแปดปีที่ผ่านมาได้ยังไงกัน ที่สำคัญเขาก็จำไม่ได้ด้วยว่าเคยไปทำร้ายใครด้วย
กระนั้นก็เห็นได้ชัดว่าพวกนั้นไม่ได้เข้าใจแบบเดียวกัน สังเกตจากจำนวนกระสุนที่จัดเต็มก่อนหน้านี้
แทนที่จะยอมแพ้อย่างที่ชายคนนั้นบอก แจ็คกลับเลือกมองหาวิธีเอาตัวรอด ถ้าเขาไม่ได้เสียสติและเห็นภาพหลอนไปเองนะ ในเมื่อมันมีหน้าจอเฮดอัพ ดิสเพลย์แสดงอยู่แล้วแบบนี้ ก็เป็นไปได้ว่า...
ทันทีที่เขาโบกมือขวา ฉับพลันตารางโปร่งแสงขนาดหกคูณหกก็ปรากฏขึ้นแทนแถบพลังชีวิตและกล่องไอคอนตรงมุมขวา ข้อความเหนือตารางบอกว่านี่เป็นที่เก็บไอเทม
ถึงอย่างนั้นในที่เก็บไอเทมกลับมีเพียงไอคอนเล็ก ๆ ที่มองออกว่าเป็นรูปแผ่นกระดาษหนึ่งแผ่น
"บ้าเอ๊ย!" แจ็คสบถ "ไม่มีอะไรใช้ได้เลยเรอะ! โอ๊ย!!!" เขาสำลัก เลือดทะลักผ่านร่องนิ้วมือซ้ายเหนือบาดแผลหน้าท้อง
"เอ็งจะเอายังไง จะออกมาดี ๆ หรือเปล่า" เสียงชายคนเดิมดังข่มขู่ "ข้าจะนับถึงสามเท่านั้น"
แจ็คโบกมือตั้งใจจะปิดตารางที่เก็บไอเทม กลับกลายเป็นว่าไอคอนรูปกระดาษพลันขยายออกกลายมาเป็นแผ่นกระดาษจริง ๆ แทรกเข้ามาอยู่ในฝ่ามือ "ไม่ใช่สิ!"
"หนึ่ง!" เสียงคำรามของชายคนนั้นดังก้องในสถานที่โทรม ๆ ที่แม้จะสว่างไสวด้วยแสงไฟทว่ากลับให้บรรยากาศมืดสลัวแห่งนี้
'ตามหาคาร์ล พราโซซินให้พบและฆ่าเขาเสีย' ลายมือหวัดในกระดาษเขียนไว้เช่นนั้น
"สอง!"
แจ็คเริ่มโบกไม้โบกมือเปะปะ ไม่สนที่จะปิดแผลอีกต่อไป ตารางแสดงที่เก็บไอเทมสลับอันตรธานแทนที่กลับมาด้วยแถบพลังชีวิตแล้วก็ข้อความโปร่งแสงยาวพรืดกะพริบโผล่ ๆ หาย ๆ ถึงอย่างนั้นก็ยังคงไม่มีวิธีเอาตัวรอดใดเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง
"สาม!!!"
แวบหนึ่งเหมือนแจ็คจะเห็นกล่องป๊อบอัพสี่เหลี่ยมมีปุ่มตกลงกับยกเลิกผุดขึ้นมา เขาไม่มีเวลาอ่านด้วยซ้ำตอนที่วัตถุบางอย่างลอยผ่านหน้าต่างมาตกไม่ไกลจากปลายเท้า
บัดซบ! นั่นมันระเบิด!?!
แจ็คลุกพรวดโดยสัญชาตญาณ หัวใจสูบฉีดอะดรีนาลีนไปทั่วร่างทำเอาลืมความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งมวลไปเสียสนิท วินาทีนั้นเป็นไปได้ว่ามือที่โบกได้ไปกระตุ้นถูกปุ่มตกลงเข้า ฉับพลันเมฆหมอกดำปรากฎจากความว่างเปล่าขึ้นมาตรงหน้า บดบังสายตาประหนึ่งตัดฉากมายังคืนเดือนมืดที่ไร้แสงไฟ มืดบอดกระทั่งไม่เห็นอะไรเลย
แจ็คร้องลั่น ความหวาดกลัวทะยานพรวดสวนทางกับห้วงเวลาที่หดสั้นลงแทบไม่มีเหลือ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เขารู้สึกราวกับระเบิดทำงานขึ้นมาแบบสโลว์โมชั่น รับรู้ความร้อนระอุอาบผิวกายไม่ต่างจากถูกขังในเตาเผาของแม่มดใจร้าย ชายวัยสามสิบต้นวิ่งสะเปะสะปะชนกำแพงเหล็ก เซแซดกำลังจะล้ม ทว่าด้วยพลังเฮือกสุดท้ายทำให้เขาฝืนสู้กับอาการเสียหลักออกวิ่งต่อทั้งที่ลำตัวส่ายโอนเอนอย่างบ้าคลั่ง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามุ่งหน้าไปไหน รวมถึงการดิ้นรนหนีอย่างสิ้นคิดเช่นนี้จะช่วยให้รอดจากรัศมีระเบิดได้ยังไง
แล้วสะโพกของเขาก็ชนกับกำแพงเตี้ย ๆ ก่อนที่ร่างกายจะสัมผัสกับความเวิ้งว้าง
เวรละ! เขาเพิ่งร่วงตกจากหน้าต่าง
พร้อมกันนั้นเอง ระเบิดลูกนั้นก็ทำงานขึ้นมาจริง ๆ พลังทำลายปะทุกระจายไล่ตามแจ็คที่ยังลอยไม่พ้นจากขอบหน้าต่างเท่าไหร่ เขาได้ยินเสียงคำรามเลื่อนลั่น คลื่นคลั่งกระแทกแจ็คพุ่งฉิวปลิวไปชนผิวแข็ง ๆ ของโลหะอะไรสักอย่างที่มีขนาดใหญ่จากนั้นตีลังกาลงมาอัดกับโต๊ะเหล็กพอดิบพอดี ขาโต๊ะด้านหนึ่งหักทันทีและปล่อยเขากลิ้งลงมากองแผ่พังพาบกับพื้น
หมอกดำปริศนาอันตรธานวับไปเฉกเช่นที่มันปรากฏขึ้น สมองซึ่งยังคงมึนงงรับรู้ภาพปากกระบอกปืนกลหน้าตาโบราณสามกระบอกกับรองเท้าหนังส่วนหัวเป็นโลหะมันวับอีกสามคู่ที่ขยับมาหาราวกับภาพช้า