webnovel

ตอนที่15.

"เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้!!! พวกแกทุกคนต้องตาย โจมตีพวกมัน"น้ำเสียงของบอสกระต่ายที่กำลังคลุ้มคลั่งเมื่อไม่เป็นไปตามที่ต้องการ บอสกระต่ายมันอ้าปากกว้างแล้วตะโกนก้องจนคนในหอคอยต้องย่นหัวคิ้วยกมือปิดหู

เพล้ง!!!ช่วงเวลาที่คนของกิลด์หมื่นดาบทำลายอาณาเขตได้ เป็นเวลาเดียวกับที่กระต่ายสองแสนตัวอ้าปากกรีดร้องออกมา

"กร๊าซซซซ"

"สั่นกระดิ่ง"ต้นดอกกระดิ่งพุ่งจากพื้นเติบโตอย่างรวดเร็ว ลำต้นสั่นไหวก่อนที่คลื่นเสียงจากดอกกระดิ่งทั้งเจ็ดดอกจะสะท้อนกลับไป คนอื่นๆรีบเข้ามาโอบล้อมลำต้น

ทุกคนในสนามรบมีความตื่นตัวตลอดเวลา ต่างก็เรียกจิตวิญญาณของตัวเองเพื่อรอคอยการสิ้นสุดของเสียงกรีดร้อง ในขณะที่คนทั่วทั้งโลกกำลังลุ้นถึงการเปิดฉากโจมตี

หลงจือหยางกระดิกนิ้ว ดาบหนึ่งหมื่นเล่มลอยขึ้นท้องฟ้าในสภาพโปร่งแสง เป็นครั้งแรกที่คนทั้งโลกได้เห็นจิตวิญญาณของคนที่เก่งเป็นอันดับหนึ่งของโลก เมื่อปลายนิ้วของหลงจือหยางชี้ไปที่กระต่าย ดาบทั้งหมื่นเล่มก็พุ่งชนเข้าไป

ตู้มมมม เสียงปะทะกันสนั่นหวั่นไหว บอสกระต่ายยืนตรงกลางโดยมีองครักษ์ทั้งเก้ารายล้อม บรรดาร้อยสามเสาหลักเลือกจะมุ่งโจมตีบอสกระต่ายชั้นที่1-9เพื่อเปิดทางให้กับคนสองคนได้ประชิดตัวตนของบอสกระต่ายในชั้นที่สิบ

เสวียนอวี้ตวัดฝ่ามือเรียกเคียววิญญาณสีดำออกมาก่อนจะพุ่งเข้าไปตรงกลาง กระต่ายทั้งเก้าตัวกระโดดออกห่างก็เป็นจังหวะที่พวกมันแต่ละตัวจะต้องโดนรุมด้วยจำนวนคนไปต่ำกว่าห้าคน

"โอหังนัก"บอสกระต่ายกรีดร้องออกมาเมื่อเคียวขนาดใหญ่ตวัดเขาบนหัวของมัน ดวงตาสองข้างแดงกล่ำราวกับเลือดก่อนที่เลือดของมันจะควบแน่นกลางอาการ

หนึ่งในความสามารถของกระต่ายคืออาณาเขตฝนโลหิต เป็นความสามารถของบอสทุกตัวตั้งแต่ชั้นที่หนึ่ง พวกเขามีวิธีรับมือแต่ก็ไม่ทั้งหมด อย่างแรกบอสตัวนี้มีพละกำลังมากที่สุดในบรรดาบอสกระต่ายทั้งหมด

"อาณาเขตฝนเลือด!!!"เม็ดเลือดที่ควบแน่นกลางอากาศกระจายตัวออกเป็นเม็ดเล็กๆก่อนที่เลือดเม็ดนั้นมันจะหมุนตัวเองเพื่อเพิ่มความแรง ถ้าถามว่าแรงขนาดไหน ก็ขนาดที่บอสในชั้นที่เก้ามีความเร็วที่สามารถเจาะผ่านลำตัวคนได้ทันทีภายในเสี้ยววิ

"ป้องกัน/ป้องกัน"หลายคนเรียกจิตวิญญาณที่สามารถรุกและรับได้ออกมา หนึ่งในนั้นคือผู้เฒ่าหวัง ชายที่อายุเยอะที่สุด อาวุธของเขาคือกระบองคลั่ง หวังเค่อซวน รายชื่ออันดับที่หนึ่งของหนึ่งร้อยสามเสาหลัก

เป็นมนุษย์กลุ่มแรกที่เข้าดันเจี้ยนโดยบังเอิญ แต่ชายคนนี้บังเอิญหลายครั้งจนเกินไป เขาถูกเรียกว่าตาเฒ่าผู้ไม่มีโชค ไม่ว่าจะไปทะเลก็เจอดันเจี้ยน ไปภูเขาก็เจอดันเจี้ยน

แต่เพราะแบบนั้นเขากลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ถูกบีบบังคับให้ต่อสู้จนขึ้นระดับSคนแรกของโลกและทรงพลังเป็นอันดับที่สาม

หลงจือหยางเป็นคนแรกที่กระโดดไปหลบหลังหวังเค่อซวน แถมยังหิ้วคอเสวียนอวี้ตามมาด้วย กระบองขนาดพอดีมือถูกขยายใหญ่ราวกับเสาที่ยักษ์คอยถือไว้ มันหมุนวนจนฝนเลือดไม่เข้ามาด้านในแต่กระจายออกไปด้านข้าง

แต่ละคนสูดปากเบาๆเมื่อเห็นว่าฝนเลือดมันแรงถึงขนาดแทงทะลุเข้าไปที่พื้นและลึกมากแถมยังพิเศษตรงที่มันมีฤทธิ์กัดกร่อนจนพื้นค่อยๆละลาย

"จิตวิญญาณเครื่องดนตรีมัวทำอะไรอยู่ ปลอบประโลมเร็วเข้า ถ้าดินยุบขึ้นมาจะลำบาก"เฉินจงอี บอสใหญ่ของกิลด์อันดับที่สอง กิลด์อัศวินสีชาด ผู้รั้งอันดับสองของตารางคนที่ทรงพลังมากที่สุดในโลก เป็นรองแค่หลงจือหยาง ส่วนอันดับสามคือเสวียนอวี้

เหล่าคนที่มีจิตวิญญาณประเภทเครื่องดนตรีนำออกมาบรรเลง คลื่นจางๆค่อยๆปลอบประโลมผืนดินให้กลับมาสมบูรณ์ หากมันถล่มลงไปผู้คนที่อยู่ระดับDบางคนอาจจะตกลงไปและโดนกรดที่คอยกัดกร่อนได้

อาณาเขตฝนเลือดใช้เวลาไปนาทีหนึง ที่ทำให้พวกเขาหยุดชะงัก เมื่อมันจบลง กลายเป็นฝั่งกระต่ายที่กระโดดเข้ามาโจมตี คนแรกที่โดนคือหญิงสาวผู้มีจิตวิญญาณดอกกระดิ่ง

"อั่ก"กระต่ายตัวเล็กที่เป็นชนชั้นทหารหลายพันตัวกระโดดปริดชีพตัวเองเพื่อทำลายฝั่งตรงข้าม กลุ่มตรงกลางถูกโจมตีอย่างหนักบาดเจ็บไม่ต่ำกว่าร้อยคน หลงจือหยางควบคุมดาบเข้าฟาดฟันบางตัวที่ยังลอยอยู่กลางอากาศ

"ลิลลี่สีขาวแห่งการเยียวยา"

"ลิลลี่สีฟ้าแห่งการปลอบประโลม"

"ลิลลี่สีม่วงแห่งการฟื้นฟู"

สามแฝดสตรีจากตระกูลฟุยุกะเอ่ยออกมา ลิลลี่สีขาวเบ่งบานกำลังช่วยรักษาบาดแผลภายนอก เลือดค่อยๆหยุดไหล ตามด้วยดอกสีฟ้าที่กำลังลดอาการตื่นกลัวทำให้พวกเขาสงบและดอกสีม่วงที่กำลังรักษาอาการบอบช้ำที่ภายใน

"ขอบคุณมากท่านหลงจือหยาง"สามแฝดเอ่ยพร้อมกัน หากไม่ได้คนตรงหน้าคอยปกป้อง พวกเธอก็ไม่สามารถรักษาคนนับร้อยเหล่านี้ได้

"ไม่เป็นไร"หลงจือหยางบอกปัดเมื่อมองเห็นสามสาวหน้าแดงกล่ำ พวกนางใจเต้นแรงทุกครั้งเวลาที่อยู่ต่อหน้าเขาหรือบางทีอาจจะเป็นสตรีทุกคนที่เข้าร่วมสงครามในครั้งนี้

เฉินจงอีจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ เขามักจะเป็นตัวเลือกที่สองเสมอและเป็นอันดับสองรองจากหลงจือหยางไปเสียทุกๆอย่าง แล้วจะยังเรื่องสามแฝดอีก ทางตระกูลฟูยุกะประกาศชัดว่าสามสาวจะแต่งให้กับชายคนเดียวกัน ถ้าได้ขุมพลังนี้มาครอบครอง โอกาสรอดชีวิตของคนในกิลด์ก็จะสูงขึ้น

"เถาหนามกุหลาบ"โอลิเวียยอมรับไม่ได้เธอจะต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถของตัวเธอเอง เพื่อให้หลงจือหยางได้เห็นว่าเธอมีดีกว่าสามแฝดนั่น นอกจากจะป้องกันตัวเองได้ เธอยังโจมตีได้อีกด้วย

โอลิเวียแต่เดิมมีศักดิ์ถึงเจ้าหญิงแถมเกิดในตระกูลหลัก พวกเขาต่างทุ่มเททั้งเงินและโอกาสเพื่อให้เธอได้มาจนถึงจุดนี้ เธอได้รั้งเป็นอันดับหนึ่งในตารางฝั่งสตรีมาโดยตลอด แต่ทำไมหลงจือหยางไม่มองเธอบ้าง

"แยกกันโจมตี"หลงจือหยางไม่อยากจะเก็บภาพเบื้องหน้ามาใส่ใจ เขาโบกมือให้คนในกิลด์ของตัวเองเข้าปะทะบอสตัวอื่นๆในขณะที่เขาจะเผชิญหน้ากับบอสกระต่ายชั้นที่สิบเอง โดยมีคนคอยช่วยในเงามืดอย่างเสวียนอวี้

หลงจือหยางเรียกดาบนับหมื่นให้รวมกันเป็นดาบเดียวก่อนจะกระโดดหมุนตัวตวัดเข้าที่ลำคอของบอสกระต่าย

"เจ้ามนุษย์ ต้องตาย"ตัวมันสั่นไปด้วยความโกรธเมื่อขนตรงคอของมันหล่นลงพื้นหลายเส้น เสวียนอวี้ที่อยู่ด้านหลังตวัดเคียวตัดเข้าที่ลำคอ เจ้ากระต่ายเพียงก้มหัวก่อนจะหมุนตัวหลบหนี

"ต้องตาย!"หลงจือหยางกับเสวียนอวี้ขมวดคิ้วเข้าหากัน สัญชาตญาณสัตว์ป่าของมันออกจะดีเกินไป พบจิตสังหารเล็กน้อยก็โยกตัวหลบได้ตลอด

"จงอี้"หลงจือหยางเรียกคนของตัวเอง เจ้าของชื่อขานรับก่อนจะเรียกจิตวิญญาณแซกโซโฟนออกมาเป่า มันคือประเภทคอนทร่าเบสแซกฯ ตัวเครื่องใหญ่และสูงเท่าลำตัวคนเป่า ตรงปากของมันไม่เพียงแต่มีเสียงออกมาเมื่อใช้ปลอบประโลม แต่สามารถโจมตีด้วยโซ่ล่องหนที่พุ่งออกไป

บอสกระต่ายก้มมองขาตัวเองเมื่อเห็นโซ่จางๆรัดเอาไว้ กระกระทืบเท้าเพื่อให้หลุดพ้น ด้านหน้าของมันถูกดาบใหญ่ฟันจนเลือดกระเซ็น ในขณะที่ด้านหลังของมันถูกตวัดด้วยเคียวขนาดใหญ่

"อ๊ากกกกก"เลือดของมันลอยขึ้นฟ้าควบแน่นอีกครั้งก่อนจะเกิดโดมขนาดใหญ่ที่ผ่านร่างกายของคนทั้งสามเอาไว้ เสวียนอวี้ใช้เคียวตวัดเพื่อพังมันออก ทุกครั้งที่ฟันมันจะเกิดรอยแยกก่อนจะถูกซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว

"อ่า ดูเหมือนเราสามคนจะโดนปิดตายนะ"คนพูดอยู่ระดับSแต่เขาจงอี้คนนี้เพิ่งอยู่ระดับCเท่านั้น เจ้าตัวน้ำตาจะไหลอะไรทำให้บอสกระต่ายเลือกเขาไปด้วย

"ง่ายๆฆ่ามัน"หลงจือหยางบอกอย่างไม่หยี่ละ ในขณะที่จงอี้แทบเข่าทรุด นายท่านไม่เป็นอะไรแต่จงอี้มีสิทธิ์ตาย

"ตายซะ ตาย! ตาย! ตาย!"ทั้งสามคนกระโดดขึ้นกลางอากาศเมื่อบอสกระต่ายกระทืบเท้าจนพื้นด้านล่างยุบลงไป แผ่นดินแตกระแหงจนไม่สามารถควบคุมสมดุลของร่างกายได้เมื่ออยู่บนพื้น

หลงจือหยางดึงดาบออกมาสามเล่มจากดาบเล่มใหญ่ก่อนจะบังคับให้มันลอยโดยที่พวกเขาแต่ละคนยืนบนดาบอีกทีหนึ่ง

"เสวียนอวี้ดึงความสนใจที จออี้รอรับคำสั่งฉันจะแทงเข้าที่ลำคอของมัน"เสียงกระซิบแผ่วเบาของหลงจือหยางลอยเข้าหูของทั้งสองคน เสวียนอวี้ตวัดเคียวใส่จนกระต่ายกระโดดหลบอีกครั้ง

"จงอี้ตอนนี้แหละ"โซ่โปร่งแสงหลายเส้นโอบรัดรอบลำตัวของกระต่าย หลงจือหยางทะยานพุ่งเข้าไปก่อนที่ดาบจะปักเข้าที่ลำคอแทงทะลุไปด้านหลัง

"เราจะตายไปด้วยกัน มนุษย์!"หลงจือหยางได้ยินแบบนั้นก็ดึงดาบออกช่วงเวลาที่มันอ่อนแรงและรวบรวมกำลังเพื่อระเบิดฆ่าตัวตาย พวกเขาทั้งสามก็พุ่งออกมา เพียงเสี้ยววินาทีที่ตัวบอสกระต่ายเรืองแสงสีขาว หลงจือหยางก็คว้าคอน้องชายสุดรักให้มาบัง

"อั่ก ไอ้"แสงสว่างหายไปพร้อมกับดาบนับหมื่นกันเป็นทางยาวราวกับรั้วบ้าน โดยมีเพียงช่องเดียวที่ไม่ได้ปิดก็คือตรงที่หลงจือหยางยืนอยู่ ในอ้อมแขนของเขามีหลงจือหมิงน้องชายที่ห่างไม่กี่เดือนคนละแม่นอนกระอักเลือด

"หลงจือหมิง อย่าเป็นอะไรนะ นายไม่จำเป็นต้องมาบังพี่เลย พี่บาดเจ็บได้ถ้ามันป้องกันคนอื่นๆ" หลงจือหมิงกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง มองใบหน้าหลงจือหยางก่อนจะสบถในใจ ไอ้ตอแหล....

"ท่านหลงจือหยางคิดจะเสียสละเพื่อพวกเรา ดีจังเลยนะคะ"สตรีนางหนึ่งยกมือปิดปากน้ำตาไหลพราก หลงจือหมิงผงกหัวขึ้นด้วยสายตาฟาดฟัน คนเจ็บคือกูนี่ไม่เห็นเลือดเหรอ แล้วอีกอย่างมันไม่ได้เสียสละมันตั้งใจฆ่ากูนี่ ยัยผู้หญิงตาบอด

"ขอบคุณมากน้องรัก พี่ซึ้งใจจริงๆ"หลงจือหยางยิ้มออกมาเป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นในสายตาชาวโลก ส่วนในสายตาหลงจือหมิงมันคือรอยยิ้มเยาะเย้ยชัดๆ

ชื่อของหลงจือหยางถูกตะโกนก้องฟ้า ผู้ชายคนนี้แสนดีที่หนึ่ง ใช้ดาบทำแนวกั้นลดแรงปะทะการระเบิดของบอสยกเว้นตัวเอง ส่วนหลงจือหมิงนะเหรอ ไม่เกินสามวันคนก็ลืม....

{ดันเจี้ยนชั้นที่สิบถูกพิชิตสำเร็จ ชั้นที่สิบเอ็ดได้เปิดออกระยะสี่เดือนของการพิชิต}