"เมื่อครู่ท่านดูลุกเหินลำบากฤๅเปล่าหนา ย่าพวาสี? "
เมื่อพระสงฆ์หมดกิจสงฆ์ ร่างที่ลอยเคว้งบนอากาศก็รีบถลาฟังวาจาเจ้าชายเมงจีสวา ก่อนหันหน้าไปยังหัวหน้านางกำนัลสนองโอษฐ์ของพระอัครมเหสีซึ่งนั่งอยู่ สีหน้าของนางยังคงยิ้มแย้มอบอุ่น
"หม่อมฉันยังแข็งแรงดีเพคะองค์ชาย ขอบพระทัยที่ทรงเป็นห่วงคนแก่" ย่าพวาสีตอบกลับองค์หลานหลวงด้วยน้ำเสียงสดใส แต่เมื่อนางพยายามจะลุกขึ้น ดวงตาหญิงชราก็หรี่ลง สีหน้าของนางก็ดูแฝงฝืน จังหวะการลุกเหินเริ่มสำแดง เจ้าชายเมงจีสวาไม่รอช้ารีบผินพระองค์ไปทางอัครมเหสี
"เสด็จย่า...นางมีอาการเจ็บข้อเท้า" เจ้าชายตรัสกริยาท่าทีสมวัยหกชันษา
"จริงฤๅ ที่เจ้าเจ็บดั่งหลานข้าบอก" สายพระเนตรคมของอัครมเหสีเสไปยังบ่าวคนสนิท หัวหน้านางกำนัลหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนชี้แจ้งด้วยท่าทีสงบจำยอม
"ขออภัยเพคะพระนาง หม่อมฉันเคยนึกว่าเป็นอาการปวดเมื่อยตามประสา ก็พักหลังเริ่มปวดบ่อยขึ้นเจ้าค่ะ"
"เสด็จแม่ หม่อมฉันเห็นว่าให้หมอหลวงมาดูเถิด" พระชายาราชมารดาตรัสด้วยน้ำเสียงความห่วงใย ขณะที่พระนางใช้พระหัตถ์แตะเหล่ากุมารีของพระองค์ให้มาใกล้ตน
"นั่นสิหนา" พระนางผู้เป็นใหญ่เห็นพ้อง "พวาสี เจ้าก็เหมือนน้องนางร่วมอุทรเรา อยู่ดูแลกันมาตั้งแต่ตองอูจนหงสานี่ ป่วยไข้ได้ป่วยไยไม่แจ้งก่อน เช่นนี้ก็ตำหนักใต้ของเราคงจะโดนนินทาว่าดูแลกันไม่ดี จงพักเสียแล้วให้หมอหลวงมารักษา"
"ขอพระนางโปรดอภัย หากให้หมอหลวงมาตรวจอาการหม่อมฉัน มิวายจะต้องหยุดพักจากกิจในวัง หม่อมฉันอยากถวายงานรับใช้พระองค์เพคะ"
"เรารู้ว่าเจ้ารักงานเจ้า อยู่กันตั้งกี่ปีแล้วหนา เราไม่เคยเห็นเจ้าพักเลยพวาสี ดีที่หลานชายเราช่างสังเกต เกิดเจ้าเป็นอะไรเราคงเหมือนขาดหูขาดตาขาดเพื่อนคู่คิด ระหว่างนี้ให้หลานสาวเจ้ามาทำงานในตำหนักแทน มิต้องห่วงข้าไม่ให้เจ้าอยู่เฉยระหว่างพักดอก"
ระหว่างที่อัครมเหสีและพระชายากำลังสนทนาเรื่องนางกำนัลคนขยัน นาถะยาซึ่งแอบซุ่มมองอยู่นานก็เข้ามาใกล้เจ้าชาย พลางพูดด้วยเสียงแผ่วคล้ายกระซิบ
'เจ้าชาย ถ้าเราไม่เตือนเรื่องข้อเท้า จะเกิดอะไรขึ้นกับย่าพวาสีผู้แสนดีฤๅ ? '
เมงจีสวาถอนปัสสาสะก่อนชำเลืองพระเนตรไปยังหญิงชราผู้ที่ถูกเอ่ยถาม
'นางจะลื่นล้มหัวฟาดระหว่างทำงานในตำหนักเข้าสักวัน' เจ้าชายตอบในใจ นาถะยาชักสีหน้าหดหู่เวทนาเมื่อได้ยิน 'แม้นไม่ถึงตายก็ขยับร่างกายมิได้อีก สุดท้ายนางก็ถูกส่งไปนอกวังและไม่ได้กลับเข้ามาอีกเลย...'
'อย่างน้อยก็ไม่ล้มก่อนออกวัง นาถะยาหวังว่าชะตาของย่าพวาสีจะเปลี่ยนไป'
เจ้าชายเมงจีสวาหันไปยังพระพุทธรูปใหญ่ซึ่งจ้องมองลงมา ทรงพนมมือไหว้แล้วดำรัส
'ก็อย่างที่เจ้าบอกนาถะยา ไม่ดีขึ้นได้หรือเลวลง...'