ตอนที่ 15 อยากนอนด้วยเฉยๆ แต่ไม่อยากแต่งงานกับฉัน?
หนิงซีทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ นั่งลงอย่างสุภาพเรียบร้อยเหมือนเป็นเด็กนักเรียน
ลู่ถิงเซียวชี้นิ้วมาที่หัวตัวเอง “เธอกลัวฉันมากเหรอ?”
ลู่ถิงเซียวในยามค่ำคืน ยิ่งดูดุร้ายและอันตรายยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อตอนกลางวัน
หนิงซีส่ายหัวจนผมสยายเป็นคลื่น หลังจากนั้นก็รีบผงกหัว “ทั้งเมืองนี้มีใครไม่กลัวคุณบ้างล่ะ?”
นิ้วเรียวยาวของลู่ถิงเซียวหมุนแก้วไปมา พูดเสียงอ่อน
“แค่เพราะคนทั้งเมืองกลัวฉัน เธอก็เลยกลัวด้วย? ถ้าอย่างนั้น มีผู้หญิงมากมายอยากแต่งงานกับฉัน ทำไมเธอถึงไม่อยากล่ะ?”
คำถามนี้ทำเอาหนิงซีแทบร่วงตกจากเก้าอี้
ตอนกลางวันคิดว่าอุตส่าห์หนีรอดแล้วแท้ๆ ที่ไหนได้ นับว่าเธอยังอ่อนต่อโลกเกินไป
คำถามบ้าบอแบบนี้เธอควรตอบจะตอบยังไงดี?
หนิงซีชูมือขึ้นอย่างสั่นๆ “ก่อนตอบคำถามนี้ ฉันขอถามสักหนึ่งคำถามได้ไหมคะ?”
ลู่ถิงเซียวพยักหน้า “ได้”
“ทำไมถึงเป็นฉัน? คงไม่ใช่เพราะเสียวเป่ารู้สึกว่าฉันเป็นที่พึ่งของเขาหรอกนะคะ? รอให้อารมณ์เขาปรับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง คุณไม่ต้อง... ไม่ต้องฝืนใจตัวเองแบบนี้หรอกค่ะ...” หนิงซีแนะนำอย่างใจเย็น เหมือนกำลังแนะนำวัยรุ่นใจแตกอย่างนั้น
ลู่ถิงเซียววางแก้วในมือลง เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน “คุณหนิง ผมคิดว่าผมได้อธิบายทุกอย่างไปอย่างละเอียดแล้วตั้งแต่ต้น แต่ถ้าหากคุณยังไม่เข้าใจ ผมก็ไม่ถือที่จะพูดให้ฟังอีกครั้งว่า เพราะคุณช่วยเสียวเป่าไว้ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจใช้ตัวเองเป็นการตอบแทน”
นี่มันเป็นเหตุผลบ้าบอคอแตก จนฉันรับไม่ได้ต่างหาก เข้าใจไหม? หนิงซีคำรามอยู่ในอก
หนิงซีรู้สึกว่าน่าจะคุยเรื่องนี้กับเขาไม่รู้เรื่องแล้ว จึงได้แต่ก้มลงพูดด้วยใบหน้าแสดงความรู้สึกผิด
“คุณลู่คะ ฉันขอขอบคุณในความปรารถนาดีของคุณ อันที่จริงแล้วฉันไม่เคยมีความคิดที่จะแต่งงานเลย เพราะฉะนั้น...”
ลู่ถิงเซียวกระตุกคิ้ว “เพราะฉะนั้น เธอเลยอยากนอนกับฉันเฉยๆ แต่ไม่อยากแต่งงานกับฉัน?”
“ใช่แล้วค่ะ... อ๊ะ! ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่... ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น!” หนิงซีแทบจะทรุดเข่าลงตรงหน้าเขา อย่าพูดอะไรน่าตกใจแบบนี้จะได้ไหม?
“เสียใจด้วยจริงๆ ฉันยอมรับการมีเพศสัมพันธ์หลังแต่งงานเท่านั้น”
“ใครจะไปเชื่อ...” หนิงซีได้ยินแล้วก็อดบ่นพึมพำไม่ได้ คิดในใจคนเขาท้องก่อนแต่งกันไปตั้งนานแล้วรู้รึเปล่า?
ลู่ถิงเซียวมองออกไปนอกหน้าต่าง สายตาคล้ายจะเหม่อลอย “เสียวเป่าเป็นอุบัติเหตุอย่างหนึ่ง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่ของเขาคือใคร”
“...” เป็นคำพูดที่เฮงซวยอะไรแบบนี้?
“เธอรังเกียจที่ฉันมีลูกติด?” อยู่ๆ ลู่ถิงเซียวถามขึ้นมา
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ!” ก็อย่างที่ลู่ถิงเซียวพูด ทั้งเมืองนี้มีแต่ผู้หญิงอยากจะเป็นแม่เลี้ยงเสียวเป่ากันทั้งนั้น เธอจะรังเกียจได้ยังไง!
“งั้นเป็นเพราะอะไรล่ะ?”
ดูท่าคืนนี้หากลู่ถิงเซียวไม่ถามให้รู้เรื่อง เขาคงไม่ปล่อยเธอไปแน่ๆ
หนิงซีเอามือตบหน้าผากไม่รู้จะทำอย่างไร สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง
“คุณลู่คะ การแต่งงานไม่เหมือนการเล่นเกม ไม่ว่าจะเพื่อตอบแทนหรือเพราะสาเหตุอื่น เราสองคนเพิ่งจะรู้จักกัน คุณรู้จักฉันดีแค่ไหน? รู้อดีตของฉันหรือเปล่า?”
“ที่ฉันจะแต่งงานด้วยคือตัวเธอในปัจจุบัน ส่วนอดีตของเธอ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน” สมกับเป็นคำตอบของลู่ถิงเซียว เผด็จการที่สุด
ใบหน้าของหนิงซีเย็นชืดลงเรื่อยๆ “แต่ว่า สำหรับฉัน อดีตยังคงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉันเสมอ ฉันไม่สามารถกำจัดมันทิ้งแล้วไปแต่งงานกับคุณได้ คุณลู่คะ เราสองคนมีความคิดที่สวนทางกัน ฉันแนะนำคุณจากใจจริง โปรดเก็บความคิดเหลวไหลไร้สาระแบบนี้กลับคืนไปเถอะค่ะ”
หลังจากนั้นต่างก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
ในขณะที่หนิงซีกำลังคิดว่าเมื่อเขาโดนปฏิเสธอีกครั้ง คงจะโมโหเป็นฟืนเป็นไฟอยู่นั้น
ลู่ถิงเซียวก็พูดขึ้นด้วยอารมณ์ปกติ “ฉันเข้าใจแล้ว”
ในที่สุดเส้นประสาทที่ตึงเครียดของหนิงซีก็ผ่อนคลายลง “งั้นฉันขอตัวไปนอนก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์”
“ราตรีสวัสดิ์” ชายหนุ่มมองตามแผ่นหลังบอบบาง แววตาลึกซึ้งดุจทะเลลึก แต่ที่ไม่เปลี่ยนคืออุณหภูมิร้อนแรงภายใต้ผืนน้ำนั้น