webnovel

ตอนที่ 48 ตามหากระบี่คมพยับ

ตอนที่ 48 ตามหากระบี่คมพยับ

เมื่อเฟิ่งจิ่วได้สติกลับมาอีกครั้ง เธอกับหงส์ไฟน้อยก็มาอยู่กลางสุสานกระบี่แล้ว พอทอดมองออกไปเต็มไปด้วยกระบี่ อีกทั้งมีพลังกระบี่รุนแรงลอยอยู่ในอากาศ

เธอก้มหน้ามองเด็กชายตัวน้อยที่กำลังดึงชายเสื้อตัวเองอยู่ ถึงค่อยคลายฝ่ามือออก ด้านในมีแหวนที่ดูไม่สะดุดตาวงนั้นอยู่ เธอกัดนิ้วหยดเลือดลงไป ก็เห็นเพียงแหวนที่เดิมเคยมีรอยสนิมส่องแสงวาววับ คืนสภาพเหมือนของใหม่ แค่ยังคงไม่มีอะไรเตะตาเช่นเดิม

เธอสวมแหวนเข้าที่นิ้วมือ แหวนนั้นเปลี่ยนขนาดให้พอดีกับนิ้วมือเธอด้วยตัวมันเอง เธอส่งดวงจิตเข้าไปสำรวจด้านใน เป็นอย่างที่อาจารย์พูดไม่มีผิด ด้านในนั้นมีห้วงมิติที่เก็บของมีค่าและตำราไว้ไม่น้อย ขณะที่เธอจะเข้าไปสำรวจอีกหน่อย กลับพบว่ามีพลังงานบางอย่างสกัดกั้นเธอออกมา

เธอดึงดวงจิตกลับ ไม่เข้าไปสำรวจด้านในอีก แต่พอมองยังภูเขากระบี่มากมาย ก็ถอนหายใจออกมา “ไม่คิดเลยว่าต้องมาหากระบี่คมพยับจากในกองกระบี่มากมายขนาดนี้? ดูท่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว!”

“ต่อให้หากระบี่คมพยับไม่เจอ หาเล่มอื่นไปแทนก็ได้ ในสุสานมีกระบี่ดีๆ อยู่ไม่น้อยเลยนะ” หงส์ไฟน้อยพูดต่อจากเธอตามสัญชาตญาณ ทว่าเมื่อพูดไป กลับเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงมองเธอเขม็ง พูดอย่างจองหองว่า “เจ้าอย่าคิดมากล่ะ ข้าไม่ได้จะคิดเผื่อเจ้าเสียหน่อย”

“ได้ๆๆ”

เฟิ่งจิ่วหัวเราะ เธอจูงมือเจ้าเนื้อที่นุ่มนิ่มของเขาขึ้นมา แล้วเดินไปด้านใน “ไปกันเถอะ! ในเมื่อมาแล้ว ก็ลองวนๆ ดู เวลาสามชั่วยาม ถ้าหากระบี่ที่เหมาะสมไม่เจอก็จะถูกส่งออกไป พวกเราต้องรีบทำเวลาหน่อย”

พอโดนนางจูงมือ หงส์ไฟน้อยส่งเสียงหึอย่างอึดอัดนิดหน่อย แต่เขากลับไม่สะบัดมือนางออก ปล่อยให้นางจูงมือพาเดินไปด้านใน

กระบี่รอบๆ มีพลังกระบี่เฉียบคมแผ่ออกมา แต่ละเล่มล้วนถูกเสียบไว้บนพื้น มีคมบางเล่มที่ขึ้นสนิมแล้ว เดินไปสักพักก็ไม่รู้สึกถึงที่อยู่ของกระบี่คมพยับเลย ดังนั้น เธอจึงอยากจะลองดูสักหน่อยว่ากระบี่นั้นเลือกเจ้านายเช่นที่อาจารย์บอกไว้จริงๆ หรือไม่?

เธอเข้าไปจับกระบี่เล่มหนึ่งแล้วลองดึงมันขึ้นมา ทว่ากระบี่เล่มนั้นกลับเสียบไว้บนพื้นอย่างแน่นหนา ไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว ขณะที่เธอคิดจะออกแรงลองอีกสักรอบ ก็รู้สึกถึงพลังกระบี่อันเยือกเย็นที่แผ่ออกมาจากตัวกระบี่ ทำให้ต้องดึงมือกลับในทันที

“จิ๊ๆ น่าอัศจรรย์จริงๆ” เธอกล่าวด้วยความตื่นตาตื่นใจ ประกายแสงแห่งความอยากรู้อยากลองในดวงตาก็ยิ่งสว่างขึ้น

“มีอะไรน่าอัศจรรย์นัก? กระบี่ในสุสานเป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว” หงส์ไฟน้อยพูดพลางมุ่ยปาก ศีรษะเล็กๆ เงยมองหญิงโง่ที่เหมือนพวกมือใหม่ไม่มีผิดเพี้ยน ขมวดคิ้วบอกว่า “เจ้าคงไม่ได้คิดจะเดินหาช้าๆ อยู่ในนี้หรอกนะ?”

เมื่อได้ฟังคำพูดนั้น เฟิ่งจิ่วนิ่งไป “ถ้าไม่เช่นนั้นล่ะ?”

หงส์ไฟน้อยแสดงสีหน้าเหมือนเป็นไปตามคาด มองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยการดูแคลน “เจ้าโง่มากอย่างที่ข้าคิดไว้เลย”

พอโดนดูถูกเอาเสียดื้อๆ เฟิ่งจิ่วก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก ใครใช้ให้เธอไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ ล่ะ!

“คนผู้นั้นไม่ได้ทิ้งพลังเลือดลมไว้ให้เจ้าหรือ? เจ้าหลับตาลงสัมผัสสักหน่อย ลองดูว่ารอบๆ นี้มีกลิ่นอายของกระบี่คมพยับอยู่หรือไม่!”

“แบบนี้ก็ได้รึ?”

เด็กน้อยเชิดคางขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “กระบี่คมพยับไม่ใช่กระบี่ธรรมดา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่บนร่างเจ้ามีพลังเลือดลมของนายคนก่อนอยู่เลย เจ้าจะรู้สึกถึงที่อยู่ของมันได้อย่างแน่นอน”

“งั้นข้าจะลองดู”

พูดว่าจะทำก็ทำ ตอนนี้เฟิ่งจิ่วหลับตาลงโดยไม่คิดอะไร แค่สัมผัสถึงพลังกระบี่ในสุสานนี้ไปเงียบๆ เวลาประมาณครึ่งก้านธูป[footnoteRef:1] เธอพลันลืมตาขึ้น ในดวงตาตื่นเต้นยินดี [1: หนึ่งก้านธูป เป็นคำเรียกเวลาโดยประมาณของคนจีนโบราณ บางตำราว่าประมาณครึ่งชั่วโมง บางตำราว่าหนึ่งชั่วโมง]

“หาเจอแล้ว! อยู่ด้านนั้น!” พอรู้สึกถึงกลิ่นอายของกระบี่คมพยับได้จริงๆ ในใจเธอปลื้มปริ่มอย่างมาก

…………………………………………………….