webnovel
avataravatar

ตอนที่ 35 สัตว์เทวะในตำนาน

ตอนที่ 35 สัตว์เทวะในตำนาน!

เมื่อรู้สึกถึงแรงกดดันที่ปกคลุมอยู่กลางอากาศ เธอแหงนหน้ามองไปบนท้องฟ้าอย่างตื่นตกใจ ตอนนี้เธอเห็นทั่วผืนเมฆบนฟ้าปรากฎสีเปลวไฟเป็นประกาย หนำซ้ำเหล่าเมฆสีเพลิงค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปหงส์ไฟสยายปีกตัวหนึ่ง ช่างเจิดจรัสเป็นที่สุด งดงามจนไม่อาจเบนสายตาออกไปได้...

และในเวลาเดียวกันนี้ ทิวทัศน์ผิดแผกแปลกตาบนท้องฟ้าก็สั่นสะเทือนไปทุกฟากฝั่ง แทบทุกแว่นแคว้นโดยรอบแคว้นแสงสุริยันล้วนเห็นภาพประหลาดบนผืนฟ้า เหล่าผู้แกร่งกล้ามากมายพากันตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

“ปรากฏการณ์ฟ้าเปลี่ยน! สัตว์เทวะถือกำเนิดแล้ว!”

“เมฆสีเพลิง เป็นรูปหงส์! สวรรค์! หงส์ไฟ สัตว์เทวะในตำนาน! สัตว์เทวะในตำนาน! เร็วเข้า!”

หลังจากยอดฝีมือในแต่ละพื้นที่ตกตะลึงกันไป พวกเขาก็มุ่งไปยังป่าเก้าหมอบในแคว้นแสงสุริยันกันอย่างตื่นเต้นและอัศจรรย์ใจ บ้างก็ใช้ดาบบิน ควบสัตว์ร้ายบินไป หรือใช้ของวิเศษที่บินได้ไกลพันลี้ในวันเดียว...

พวกเขามีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือต้องแย่งชิงสัตว์เทวะในตำนานที่เพิ่งถือกำเนิดนั้นมาให้จงได้!

ผู้บำเพ็ญบางส่วนที่แข็งแกร่งไม่พอจะแย่งชิงกับผู้แกร่งกล้าพวกนั้น พอเห็นพวกผู้แกร่งกล้าต่างพากันออกเดินทางไปยังป่าเก้าหมอบแคว้นแสงสุริยัน ก็อดถอนหายใจน้อยๆ ไม่ได้ “สัตว์เทวะกลับปรากฏตัวในแคว้นเล็กๆ ระดับเก้าอย่างแคว้นแสงสุริยัน ช่างนึกไม่ถึงเลยจริงๆ!”

“ไม่รู้เลยว่าคนแบบไหนกันที่จะได้สัตว์เทวะตนนั้นไป?”

“เหล่าผู้แกร่งกล้าจากแต่ละทิศต่างก็รีบไปกัน แสงสุริยันแคว้นเล็กๆ คงไม่อาจปกป้องสัตว์เทวะตนนั้นได้ ข้าเดาว่าคงจะถูกคนของแคว้นอื่นชิงไป”

“เหอะๆ ก็ไม่แน่หรอก มีใครไม่รู้บ้างว่าสัตว์เทวะโบราณเป็นโอกาสครั้งใหญ่ ข้าว่า เมฆมงคลของสัตว์เทวะปรากฏอยู่เหนือแคว้นแสงสุริยัน ที่นั่นก็ต้องมีคนที่มีโชคอันยิ่งใหญ่เป็นแน่”

“ก็ใช่ ถึงอย่างไรในปีนั้นที่มังกรเขียวถือกำเนิด เหล่าผู้แกร่งกล้าก็ชิงนำหน้าเร่งรีบไปกันไม่ใช่รึ? สุดท้ายแต่ละคนก็ไม่ได้พบเจอมัน”

“พูดมาก็แปลก มังกรเขียวถือกำเนิดมาสิบกว่าปีแล้ว แต่สิบกว่าปีมานี้นอกจากภาพแปลกตาในปีนั้น ทุกแห่งหนก็ไม่เคยได้ยินว่ามีมังกรเขียวโบราณปรากฏ ไม่รู้จริงๆ ว่าคนที่กลายเป็นเจ้าของมันคือผู้ใดกันแน่?”

“พอสัตว์เทวะปรากฏตัว ทุกทิศสะเทือนเลื่อนลั่น อนาคตคงได้รู้กันแน่นอน”

หลายคนมองไปทางแคว้นแสงสุริยัน แล้วพูดในใจว่า ‘สัตว์เทวะโบราณปรากฏขึ้นอีกตัวแล้ว ดูท่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นแน่...’

และในป่าเก้าหมอบ ผู้คนเหล่านั้นที่มายังป่าลึกก็ประหลาดใจกันอย่างยิ่ง

“ดูสิ! นั่นเมฆเพลิง เป็นรูปหงส์! สัตว์เทวะหงส์ไฟจะถือกำเนิด!”

“ได้ยินว่าจะมีสัตว์เทวะถือกำเนิด กลับไม่นึกว่าจะเป็นสัตว์เทวะโบราณ ดียิ่งนัก! พวกเราต้องรีบไปก่อนคนอื่นๆ เพื่อผูกสัญญาสัตว์เทวะในตำนาน!”

ส่วนหลิงโม่หานที่อยู่ส่วนลึกสุดของป่าเก้าหมอบ พอเห็นภาพแปลกตาบนท้องฟ้า ในดวงตาที่ลึกล้ำก็มีแววประหลาดใจ “หงส์ไฟ สัตว์เทวะในตำนาน?”

แม้จะแปลกใจที่ได้เห็นสัญลักษณ์ของสัตว์เทวะในตำนานปรากฏขึ้นที่แคว้นเล็กๆ ระดับเก้าอย่างแคว้นแสงสุริยันต์ แต่การเดินทางครั้งนี้เขาไม่ได้มาเพื่อสัตว์เทวะตัวนั้น เขายังมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องทำ

ดังนั้นหลังจากดึงสายตากลับ เขาก็เดินไปยังที่จุดหมายต่อ...

ที่ไหนสักแห่งในป่า เฟิ่งชิงเกอที่เห็นภาพปรากฏการณ์บนท้องฟ้าดึงร่างมู่หรงอี้เซวียนข้างกายด้วยความยินดีที่ยากจะปิดบัง “พี่มู่หรง ท่านดูสิ เป็นหงส์ไฟ สัตว์เทวะในตำนานเจ้าค่ะ!”

นางตื่นเต้นใจ ในใจตั้งมั่นว่าสัตว์เทวะหงส์ไฟนี้ต้องเป็นของตนแน่!

ครั้นมู่หรงอี้เซวียนเห็นรูปหงส์ไฟ ในดวงตาเขาก็เผยความแปลกใจ “สัตว์เทวะในตำนานตัวนี้เป็นถึงราชาแห่งสัตว์เทวะ”

เมื่อพูดออกไป ก็เห็นว่าในเมฆสีเพลิงนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้น ราวกับเสียงร้องของหงส์ที่แว่วมาจากอดีตกาล หลังจากนั้น แสงสีทองแวววับจับตาก็สาดส่องลงมาจากฟากฟ้าประหนึ่งดาวตกทันใด...

…………………………………………………….