webnovel

เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH] (รีอัพ+ย้ายนามปากกา)

เครื่องบรรณาการของเทพงู 蛇神之致敬 เล่ม 1 [ Tribute of the Serpent ] [เวอร์ชันภาษาไทย] โปรย : 简介 ในวสันตฤดูเดือนยี่ เวียนครบรอบในทุกสิบสองปี เป็นปีที่มนุษย์จะเข้าใกล้โลกของเหล่าทวยเทพมากที่สุด เจ้าสาวของท่านเทพหลงเหนียนได้รับการคัดเลือกแล้วในปีนี้ อาเป้ย ไม่เห็นด้วยกับการส่งเครื่องสังเวยแด่เทพ นางไม่เคยยินยอม! นางเพิ่งอายุสิบแปดปีไม่กี่วันมานี้โดยที่นางไม่เคยได้มีชีวิตเป็นของตนเองเลย นางไม่เคยได้ปิ่นปักผมเยี่ยงสตรี นาน ๆ ครั้งนานนางจะได้กินอาหารดี ๆ แล้วนี่มันเรื่องอะไร! ท่านเจ้าเมืองผู้สูงศักดิ์ผู้ปกครองแคว้นทั้งสิบหกแคว้น ทั้งที่ปกติจะมีธุระยุ่งวุ่นวายตลอดเวลา ยังอุตส่าห์มาส่งนางด้วยตนเอง พร้อมทั้งทหารองครักษ์ผู้เป็นจอมยุทธฝีมือเก่งฉกาจหกนาย ถืออาวุธครบมือเพื่อมาคุ้มครองนางไปส่งให้ถึงมือท่านเทพ "ไปเถิด บัดนี้ก็ถึงเวลาของเจ้าแล้ว เจ้าจะได้ไปอยู่กับเหล่าทวยเทพ เพื่อเป็นเกียรติยศแก่บ้านเมืองและบิดามารดาของเจ้า การที่เจ้าเป็นสตรีจิตใจกล้าหาญยอมเป็นผู้เสียสละในวันนี้ ขอให้เจ้าจงภูมิใจ ข้าเองก็จะไม่ลืมเจ้าเช่นกัน... อาเป้ย" "ท่านคงไม่ลืมข้าแน่ล่ะใต้เท้า ข้าทราบดีว่าเส้นทางนี้มิใช่ไปเป็นเจ้าสาวของทวยเทพแต่อย่างใด ข้ากำลังจะไปเป็นอาหารงูต่างหาก" --------------------------- เรื่องราวการเสียสละของเครื่องบรรณาการ ผู้กลายมาเป็นสมบัติเทพปีศาจในเทวโลก --------------------------- "ดู ๆ ไปแล้ว... เจ้าในยามป่วยไข้ช่างงดงามนัก ยิ่งเสียกว่าพัดสีทอง น้ำเต้าวิเศษ กระจกหยินหยาง ข้าว่ามีสิ่งของหลายอย่างที่ข้าโปรดปราน ข้ามีของหายากอีกหลายชิ้น การที่เจ้าผ่ายผอมไปสักหน่อย ไม่ใช่ปัญหา..." เสียงของบุรุษเทพดังก้องในห้องสี่เหลี่ยม ประตูหน้าต่างเปิดกว้างให้ลมพัดผ่าน งูสีนิลสนิทเลื้อยคลานมากระซิบอยู่ข้างหูของนาง "...อย่างไรเสีย ข้าขอให้เจ้าเข้าใจว่าข้าไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการที่เจ้าเป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง หาใช่สตรีของข้าแต่อย่างใด" แล้วเหตุใดท่านต้องเอาอกเอาใจนาง ขนาดใต้เท้าจีกงและนางฟางเหนียงเอ่ยปากตำหนิว่าบุรุษไม่ควรอยู่ในห้องนอนตามลำพังกับสตรีซึ่งมิใช่ภริยาของตน และอาเป้ยมิใช่สมบัติธรรมดา นางมีใบหน้าอันงดงามมากพอจะทำให้ท่านกลายเป็นข่าวฉาวในเทวโลกได้ เทพอู่เฉินก็หาได้ฟังผู้ใหญ่ จำแลงกายเป็นอสรพิษ เปิดประตูหน้าต่างทุกบานอย่างเปิดเผย คอยเฝ้านางอย่างไม่ให้คลาดสายตา จะมีเพียงเวลาที่สตรีทั้งสองเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางเท่านั้น เทพอู่เฉินถึงออกไปยืนรอด้านนอกในร่างบุรุษ อาเป้ยคิดถึงบุรุษเทพปีศาจยามนี้ นางคิดว่าสมองของท่านน่าจะไม่ปรกติ "ข้าว่าข้าคงจะเป็นสมบัติที่ท่านโปรดปรานมากที่สุด มากกว่าชิ้นใด ท่านจึงหวงแหนข้าถึงเพียงนี้ ไม่เช่นนั้นข้าคงเข้าใจผิดไปว่าท่านเป็นบุรุษเทพประหลาด การกระทำของท่านจึงมักขัดแย้งกันเองอยู่เสมอ" "เจ้าควรพักผ่อนให้มากกว่าพูดจาหยอกล้อกับข้า อาเป้ย ข้าไม่ใช่มิตรสหายของเจ้า" นางกำลังยิ้ม! หัวเราะเทพอู่เฉินด้วยเสียงแหบแห้งของนางอย่างไม่มีผู้ใดหาญกล้ากระทำมันมาก่อน ดวงตาเรียวรีของนางราวจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ จิ้งจอกไม่ว่าจะตระกูลไหน ล้วนมีนิสัยเช่นนางในเวลานี้ นางช่างทำตัวขวางหูขวางตา ทว่านำพาความรู้สึกชุ่มชื้นหัวใจอย่างน่าประหลาด เทพอู่เฉินนึกขัดหูขัดตานางนัก ทว่ายังคงจ้องมองดวงตากลมโต สดใสราวดอกไม้ผลิบานในสวนของทวยเทพ ในร่างอสรพิษ ชูคอตระหง่านอยู่ตรงหน้านาง "ใช่แล้วล่ะ... เป็นบุญของข้ายิ่งนัก ได้เป็นสมบัติอันโปรดปรานของท่าน... เทพอู่เฉิน"

ManGu_Author · 奇幻言情
分數不夠
45 Chs

10-1 无情的恶魔 ปีศาจไร้หัวใจ++++++

"ข้าจะผลัดเกล็ดของข้าเสียใหม่ แต่นี่ไม่ใช่การจำศีล ข้าจะไม่อ่อนแอและมีรูปลักษณ์อัปลักษณ์เช่นนั้น"

เสียงเข้มขรึมบอกสตรีข้างกายซึ่งเคยพบเห็นการจำศีลของปีศาจอสรพิษมาก่อน

ดวงตาคู่สวยใสยังคงจับจ้องร่างที่ขดตัวนอนเป็นวงกลมอยู่เบื้องหน้า ราวต้องมนตร์ปีศาจ เทพอู่เฉินบัดนี้ตัวสูงใหญ่ยิ่งกว่าตัวนาง เกล็ดสีนิลกลายเป็นสีเหลือบม่วง ยามแสงนวลอ่อนในถ้ำสะท้อนเข้านัยน์ตาของนาง เกล็ดอันงดงามทอประกายเป็นสีสันของรุ้งกินน้ำ

"เทพอู่เฉิน... ร่างกายของท่านในยามนี้ช่างงดงามจับตา... ข้ามีความคิดเห็นว่าไม่ว่าจะยามใดของท่าน ท่านมิใช่ผู้อ่อนแอ ท่านงามสง่า องอาจเยี่ยงเทพปีศาจ"

นางเอ่ยคำเชยชมอสรพิษ ทั้งเขี้ยวคมตรงมุมปากและลิ้นของงูหาได้ทำให้นางรู้สึกรังเกียจ ครู่หนึ่งนั้นดวงตาสีแดงสบตานาง เลื้อยเข้ามาหานาง ซุกตัวเข้ามาในอาภรณ์ชั้นนอก รอบกายท่านปรากฏเป็นไอหมอกสีดำจาง ๆ นางรู้สึกอบอุ่นเมื่อลองแตะต้องหมอกดำเหล่านั้น

"ข้าว่าเจ้านอนกอดเจ้าเหลียนเหลียนได้ ข้าควรได้ใกล้ชิดกับเจ้า ไม่น้อยไปกว่ามัน"

"ท่านเป็นบุรุษเทพปีศาจ มีร่างเป็นบุรุษ แต่เจ้าเหลียนเหลียนเป็นเพียงอสูร"

"สัตว์อสูรบางตนมีร่างจำแลงอีกหนึ่งร่างเป็นบุรุษ แต่ก็น้อยนัก สักหมื่นปีจะเห็นสักตนหนึ่ง ข้าคงได้แต่หวังว่ามันจะไม่เติบโตขึ้นมารูปงามเช่นข้า มิฉะนั้น ข้าคงสังหารมันทิ้งเสียตั้งแต่ตอนนี้"

อาเป้ยประหลาดใจ นางจะต้องฝันไปแน่ ๆ เทพอู่เฉินไม่เคยถึงเนื้อถึงตัวนางขนาดนี้ หากมิใช่เพื่อปกป้องดูแลนาง ท่านไม่เคยแตะต้องนางด้วยซ้ำ นางหันมองไปทางเหลียนเหลียนมันกลับนอนหลับตานิ่ง

เมื่อกลับมาสนใจอสรพิษที่เลื้อยพันรอบเรียวขา นางแทบไม่เชื่อเลยว่าเกล็ดสีนิลเหล่านี้ช่างแข็งแกร่งราวมัดกล้ามของบุรุษเพศ ต่างที่เทพปีศาจในร่างงูยามนี้เคลื่อนไหวไปอย่างไร้จุดหมาย บนผิวกายของนาง

นางหาได้รู้ล่วงหน้าว่าท่านกำลังจะรัดนางให้สิ้นใจไปเสียหรือแค่หยอกเล่นกับนาง กระทั่งเกล็ดสีนิลเลื้อยผ่านต้นขาด้านใน โอบรอบกายนางผ่านเอวคอดบาง นางปิดตาลงรับสัมผัสประหลาดนี้อย่างกลัวเกรง ทว่าเป็นสุขยิ่ง

ไยนางจึงชื่นชอบให้เทพอู่เฉินละลาบละล้วงเรือนกายเช่นนี้! นางหลงใหลในทุกสัมผัสของปีศาจอสรพิษ นางต้องเสียสติไปแล้วแน่ ๆ

"กลิ่นกายของเจ้าช่างยั่วยวนข้านักอาเป้ย แม้กระทั่งแววตาไร้เดียงสาของเจ้า ทำให้ข้าพึงพอใจ..." เสียงก้องในอากาศผ่านใบหูของนาง ไม่ใช่เสียงของอสรพิษแต่เป็นเสียงของบุรุษเทพ นางหันไปสบมองใบหน้าคร้ามคม เพียงชั่วพริบตาเดียวที่ลำคอของนางถูกแตะด้วยริมฝีปากอุ่นร้อน เทพอู่เฉินกลับกลายเป็นอสรพิษอีกครั้งหนึ่ง เลื้อยไปตามเรือนร่างของนางอย่างลื่นไหล

อาเป้ยรู้สึกว่าร่างกายท่านนุ่มนวลกว่ามัจฉาในท้องทะเล ทว่าไม่มีกลิ่นเหม็นคาวแม้แต่น้อย เกล็ดของท่านต่างจากเกล็ดปลา ผิวกายของเทพปีศาจในร่างอสรพิษแสนสวยงามและทรงเสน่ห์

ถึงแม้ว่านางจะใส่อาภรณ์หลายชั้น เทพปีศาจในร่างงูดำกลับทำให้ทุกการเคลื่อนไหวกลายเป็นเรื่องง่ายดาย ราวกับว่าเป็นผู้จัดแจงสวมมันด้วยมือของท่านเอง นับจากชั้นในสุดลักษณะเป็นผ้าคลุมอกยาวถึงตาตุ่ม จนถึงชั้นนอกเป็นแขนยาวสวมทับ ยังเฝ้ารัดตรึงเรียวขาคู่งามใต้อาภรณ์สีดำไปจนถึงเอวคอดบาง อย่างแสนช่ำชองนัก แม้แต่เนินอกนุ่มนิ่ม สองเต้ากลมกลึง เกล็ดสีนิลอันนุ่มนวลถูไถไปกับผิวขาวละเอียดลออแทบทุกอณูอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ หยอกเย้าเคล้าคลอนางจนเคลิบเคลิ้ม

"เทพอู่เฉิน... ท่าน... ลูบไล้เนื้อกายข้าในร่างปีศาจของท่าน ทำให้ข้ารู้สึกประหลาด... แต่มันก็แสนจะวิเศษ... ข้าหาได้รู้ไม่ว่าการกระทำเช่นนี้ของท่านคืออะไร"

"มนุษย์บางตนหลงใหลในการมีสัมพันธ์กับปีศาจ เพราะพวกข้ารู้จักเรือนร่างของสตรีเป็นอย่างดี... ข้าสามารถทำให้เจ้าสุขสมกว่าชายใด..."

"บัดนี้ท่านเป็นเพียงอสรพิษ... ข้าว่าท่านไม่น่าจะมี..." นางเงียบไป เบิกตากว้างมองอสรพิษเบื้องหน้า ชูคอขึ้นเหนือศีรษะของนาง บีบรัดขาทั้งสองข้างของนางในร่มผ้า ไขว้พันร่างไปมาเหมือนเชือกป่านขนาดใหญ่ยักษ์ ซึ่งนางไม่มีทางที่จะหลุดรอดจากพันธนาการ

อสรพิษร้ายแหวกขาของนางออก สัมผัสกลางกายนางด้วยบางอย่าง มันแข็งกระด้างต่างจากเกล็ดบนลำตัวของมัน ลักษณะเหมือนอวัยวะของบุรุษเพศ นางก็คงจะไม่เคยเห็นแต่เคยผ่านตามาจากภาพวาดด้วยพู่กันในตำราเรื่องเพศ

แท่งอุ่นร้อนที่ช่วงปลายเป็นทรงมน ถูไถผ่านเมล็ดสีแดงสดและฉ่ำหวานกลางกายนาง อาเป้ยไร้ประสบการณ์ จึงยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวนาง

"อา... ข้า... อื้อ!"

อาเป้ยไม่ขัดใจเทพอู่เฉินแม้สักน้อย เมื่อเรียวขาทั้งสองถูกดึงให้อ้าออกกว้าง มือทั้งสองข้างของนางถูกรัดตรึง ข้อมือไขว้ติดกันข้างหลัง อสรพิษตนนี้ตรึงนางเอาไว้ด้วยการเลื้อยพันเป็นงูเหลือม นางรู้สึกเสียวกระสัน ภายในช่องท้องของนางเคลื่อนไหว แม้สิ่งแปลกปลอมนั้นยังไม่ได้ละลาบละล้วงเข้ามาในกายนาง

แก้มฉ่ำแดงของนางบอกถึงอารมณ์รุ่มร้อนกำหนัด ราวไฟสุมทรวง ความรู้สึกอันมากล้นของนางดังเพลิงอัคคีอันคุกรุ่นอย่างถาวร ไม่มีวันมอดดับ ทว่ามอดไหม้ไปกับบุรุษผู้นี้ไม่ว่าในร่างใด นางยินยอมพร้อมใจ เมื่อนัยน์ตาสดสวยดั่งสีโลหิตของอสรพิษสบมองนาง ด้วยแรงปรารถนาอันมากล้น

"หากข้าจะมีสัมพันธ์กับเจ้าในร่างนี้ เจ้ารังเกียจข้าหรือไม่อาเป้ย..."