webnovel

อัศวินผู้โดดเดี่ยว

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา กองทัพเทพของโอเอซิสได้นำเครื่องประเมินพลังมาตั้งไว้ให้ทำหน้าที่แทนเทพผู้ประเมินพลัง โดยตัวเครื่องมีลักษณะคล้ายกับตู้ขายน้ำแบบหยอดเหรียญ ซึ่งหลักการทำงานก็ง่าย ๆ นั่นคือนำมือไปทาบที่ตู้ แล้วตู้จะบอกจำนวนเหรียญที่คนคนนั้นได้รับ จากนั้นก็ให้กดเลือกซื้อสกิลจากหน้าจอแบบสัมผัสได้เลย

และหลังจากที่ติดตั้งระบบมอบสกิลแบบใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหล่ากองทัพเทพก็เริ่มดำเนินการถอนประตูมิติที่ติดตั้งเอาไว้ในแต่ละแห่งทั่วโลก โดยประกาศออกไปว่าหลังจากนี้มนุษย์จะต้องปกป้องตัวเอง เพราะกองทัพเทพจะต้องไปให้ความช่วยเหลือดาวเคราะห์ดวงอื่นต่อ

แต่จากเหตุการณ์ที่เหล่าปีศาจเล็ดลอดเข้ามาได้ ก็ทำให้มนุษย์มั่นใจว่าตัวเองจะต้องสามารถต่อสู้กับปีศาจได้แน่นอน นั่นทำให้เหล่ามวลมนุษย์ไม่หวั่นไหวเสียเท่าไหร่

ณ บ้านสีขาวสไตล์ยุโรปหลังหนึ่งในแดนเทพ ครูสาวกำลังเดินตรวจสอบสิ่งของและกระเป๋าของสามีสุดที่รัก ที่พึ่งจะได้สถานะสามีภรรยากันมาหมาด ๆ

โอเอซิสได้ถือคติว่าจะให้ทหารไปรบ ครอบครัวเขาต้องอยู่สบาย โอเอซิสจึงให้ครอบครัวของชีฟมาเป็นประชาชนในดินแดนของตนเอง แต่ในตอนแรกนั้นมีปัญหาเล็กน้อย นั่นคือครูน้ำตาลไม่ใช่ครอบครัวของชีฟจริง ๆ จึงไม่สามารถพามาด้วยได้ โอเอซิสจึงให้ชีฟจดทะเบียนสมรสในแบบของเทพกับครูน้ำตาลซะให้เรียบร้อย เพื่อที่จะได้พาครอบครัวของครูน้ำตาลมาได้ด้วย ชีฟที่รักครูน้ำตาลอยู่แล้วจึงพากันเข้าพิธีสาบานตนเป็นคู่ครองซึ่งเป็นพิธีจดทะเบียนสมรสในแบบเทพโดยไม่ลังเล ส่วนเรื่องแต่งงานก็รอให้ชีฟจัดการธุระในโลกของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยแต่ง

ครูน้ำตาลหลังจากตรวจสอบกระเป๋าเสร็จ ก็เดินไปลากเพื่อนสาวชาวเทพที่เป็นเพื่อนข้างบ้านมาหาชีฟที่กำลังนอนเล่นเมนูสกิลอยู่ในสวนหน้าบ้าน เพราะพอกลายเป็นประชาชนชาวเทพแล้วหน้าต่างเมนูก็มีระบบแบบใหม่เข้ามามากมาย ตั้งแต่ระบบสื่อสารไปจนถึงระบบการเงิน

"ชีฟ ซาร่าบอกว่าสามีของเธอที่เป็นอัศวินใต้สังกัดโอเอซิสโดยตรงเหมือนกัน เขาได้เงินเดือนตั้งสามส่วน แต่ทำไมเราบอกพี่ว่ามีแค่สองส่วน"

ชีฟสะดุ้งโหยงกับเสียงดุดุของอีกฝ่าย เพราะจากเหตุการณ์เมื่อไม่กี่วันก่อน ชีฟก็รู้ว่าถ้าทำให้คนบางคนโกรธมาก ๆ เขาต้องเจ็บตัวแน่นอน ชีฟรีบปิดหน้าต่างเมนูแล้วลุกขึ้นนั่ง

"เอ่อ"

ชีฟอ้ำอึ้ง ก่อนจะเปิดหน้าต่างเมนูของตัวเองออกมาอีกครั้ง แล้วตรวจสวัสดิการกับเงินเดือนของตัวเอง ซึ่งของเขานั้นมีแค่ เงินเดือนหลัก กับสวัสดิการค่ากินค่าอยู่ ชีฟหันหน้าจอโฮโลแกรมให้ภรรยาผู้ดุดันของตัวเองดู

"ก็มีแค่นี้นะ"

ซาร่าเทพสาวเพื่อนใหม่ชะโงกหน้าเข้ามาดู

"ปกติของสามีข้า จะมีสวัสดิการแนวหน้าด้วยนะคะ หรือที่ที่เจ้าไปไม่ใช่แนวหน้า"

ครูน้ำตาลทำท่าคิด แล้วออกความเห็น

"ในโลกเธอก็ต้องเจอกับศัตรูโดยตรงไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่ใช่แนวหน้า ลองโทรไปถามฝ่ายบุคคลได้มั้ย"

ชีฟพยักหน้ารับ ก่อนจะลองโทรไปตามที่ครูน้ำตาลสั่ง ซึ่งฝ่ายบุคคลก็แจ้งกลับมาว่า เงินในส่วนของแนวหน้าจะได้หลังจากที่ชีฟลงสนามรบไม่ต่ำกว่าหนึ่งเดือน จึงจะได้เงินส่วนนี้เพิ่มเติม เมื่อได้ข้อมูลชีฟก็แจ้งให้ครูสาวทราบ

"เขาบอกว่าต้องอยู่ในสนามรบเกินหนึ่งเดือนถึงจะได้เงินส่วนนี้"

สองสาวพยักหน้ารับรู้ โดยซาร่าก็พูดสัมทับให้

"ใช่ ๆ ตอนแรกสามีข้าก็ไม่ได้เงินส่วนนี้มาแต่แรกเช่นกัน"

ครูสาวก้มหน้ามาหอมแก้มชีฟเบา ๆ

"ไม่มีอะไรละ ไปตรวจดูของตัวเองให้เรียบร้อยด้วย"

ชีฟนั่งกะพริบตาปริบ ๆ มองสองสาวเดินจากไป ตั้งแต่ได้ทะเบียนสมรสมา ครูสาวของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แม้เรื่องบนเตียงจะยังเหมือนเดิม แต่เรื่องอื่นกับเจ้ากี้เจ้าการเขามากขึ้น

คุณพ่อของครูน้ำตาลที่เดินผ่านมาวางมือบนบ่าของชีฟเบา ๆ

"ยินดีต้อนรับสู่สมาคมพ่อบ้านนะลูก"

หลังจากนั้นชีฟก็ต้องไปตรวจสอบกระเป๋าของตัวเองที่ครูสาวจัดให้ เพราะวันรุ่งขึ้นเขาจะต้องออกจากประตูมิติไปก่อนที่ประตูจะถูกถอดถอน แล้วหลังจากนั้นเขาจะกลับเข้าแดนเทพอีกไม่ได้จนกว่าโอเอซิสจะจบสงครามในฝั่งของตนได้ แต่อย่างน้อย ๆ ก่อนเขาออกไปก็ได้ฝากสิ่งล้ำค่าไว้ให้คนบางคนละนะ

ในวันรุ่งขึ้นที่หน้าประตูเข้าสู่แดนเทพบานสุดท้าย ชีฟนั่งคุกเข่าเอาหน้าแนบท้องของครูสาวของเขาที่ยังดูแบนราบอยู่

"พ่อจะไปแล้วนะคนดี"

ชีฟจูบลงที่หน้าท้องของครูสาวอีกหลายที

ครูน้ำตาลที่รู้สึกจั๊กจี้ก็ดันคนบางคนออก

"พอแล้ว มันจั๊กจี้"

ครูสาวดึงชีฟขึ้นก่อนจะเข้าไปสวมกอด

"ดูแลตัวเองดีดีนะ"

ครูสาวมีน้ำตาออกมาเล็กน้อย แล้วกอดอีกฝ่ายให้แนบแน่นมากขึ้น ด้วยความที่ไม่เคยแยกจากกันนานมาก่อน ก็ทำให้ทั้งสองกอดกันอยู่นาน ส่วนผู้คนที่อยู่โดยรอบก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร ได้แต่ยืนดูอยู่เฉย ๆ

ชีฟพูดขึ้น

"ผมจะไม่มีวันแพ้ ผมจะไม่มีวันตาย จะไม่มีใครมาพรากผมไปจากหน้าอกโต ๆ นี้ได้ ผมสัญญาเลย"

ครูสาวผละออกจากอีกฝ่ายแล้วเอามือตีไอ้คนหื่นตรงหน้าอย่างหยอกเย้า

"เล่นนะ เดี๋ยวเถอะ"

ครูสาวแอบหลุดหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะเช็ดน้ำตาของตัวเองออกไป ไอ้เจ้าคนทะลึ่งตรงหน้าเธอก็ฉีกยิ้มกว้างให้เธอ

ทั้งสองยืนจ้องสบตากับอยู่อีกพักหนึ่ง ก่อนที่คุณพ่อของครูน้ำตาลจะเดินเข้ามา

"อะ แฮ่ม"

คุณพ่อกระแอมไอให้ทั้งสองหันมามองตนเอง ก่อนจะพยักหน้าไปทางเทพที่กำลังรอถอดถอนประตูมิติ

เทพที่กำลังนั่งกัดไก่ย่างรอถอดถอนประตูก็รู้ตัวว่าโดนมอง จึงตะโกนกลับมา

"บอกลากันให้เรียบร้อย ข้ารอได้"

ชีฟหันไปหาแม่ ก่อนจะยกมือไหว้

"ผมไปก่อนนะแม่"

จากนั้นชีฟก็หันไปหายัยน้องสาวตัวเล็กที่น้ำตาคลอเบ้าต่อ

"พี่ไปก่อนนะยัยตัวดี ตั้งใจเรียนละ"

อีฟเดินเข้าไปกอดพี่ชาย

"ไม่ไปไม่ได้เหรอคะ"

ชีฟลูบหัวยัยตัวเล็ก

"ถ้าพี่ไม่ทำงานแล้วใครจะหาเงินให้เราใช้ฮึ แล้วมาอยู่นี่เราต้องเข้าโรงเรียนแล้วนะ ตั้งใจเรียนนะรู้มั้ย"

อีฟร้องไห้ใส่เมื่อโดนขัดใจ

"หนูไม่อยากเข้าโรงเรียน หนูเรียนกับครูน้ำตาลไม่ได้แล้วเหรอคะ"

"อย่าดื้อสิอีฟ ถ้าดื้อพี่ไม่กลับมาหาแล้วนะเอ้า"

อีฟผละออกแล้วทำหน้ามุ่ยใส่

"ก็ได้"

อีฟทำหน้างอนก่อนจะเดินน้ำตาลตกไปหาแม่ของตัวเอง

ชีฟมองพ่อตากับแม่ยาย

"งั้นทุกคน ผมไปก่อนนะ"

ชีฟโบกมือลาแล้วเดินลากกระเป๋าออกจากประตูไป เมื่อชีฟเดินลากกระเป๋าพ้นประตูออกมาอยู่หน้ารั้วมหาลัยเก่าของตัวเอง ประตูก็หายไปในพริบตา มันถูกถอดถอนไปแล้ว

ชีฟมองพื้นที่ว่างเปล่าแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะล้มตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง ชีฟเปิดหน้าจอเมนูขึ้นมาเมื่อมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในหัว

ครูสาวของเขาส่งข้อความวิธีการในการดูแลตัวเองมาเป็นพืด ชีฟอ่านข้อความเหล่านั้นแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อข้อความสุดท้ายเด้งขึ้นมาว่า "อ่านแล้วตอบด้วย ไม่งั้นโดนอัด" ข้อความนี้ทำให้ชีฟรีบตอบกลับทันที

ในขณะที่ชีฟกำลังนั่นตอบข้อความอย่างอารมณ์ดี เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

"เฮ้ย นั่นไอ้พืชนี่"

เพื่อนเจ้าของเสียงหันไปกระซิบพยายามห้ามปรามเพื่อน

"อย่าเลย มันฆ่านักรบสกิลไปตั้งเยอะนะโว้ย"

"โอเอซิสไปช่วยมันไม่ใช่เหรอ มันถึงได้รอดมาได้"

ชีฟที่ได้ยินก็ปล่อยราชินีแห่งความงามหรือเดซี่ออกมา เดซี่ฝังรากลงดินแล้วขยายใหญ่ จากนั้นแยกเขี้ยวอันน่ากลัวใส่นักศึกษาสกิลสองคนที่แกว่งเท้าหาเสี้ยน นักศึกษาสองคนนั้นตกใจล้มลงไปกับพื้น ก่อนจะพากันหนีไป

ชีฟมองดูเงินในโลกของตัวเองบนมือถือแล้วถอนหายใจยาว ๆ แม้เงินในแดนเทพของเขาจะเยอะเพราะได้รับการแต่งตั้งสองต่อแต่เงินในโลกของเขานั้นน้อยมาก โดยตอนแรกนั้นโอเอซิสกะแต่งตั้งให้เขาเป็นอัศวินชั้นหนึ่งไว้ช่วยงาน เพราะเขามีฝีมือและความโหดเหี้ยมพอตัว แต่สถานการณ์ที่เปลี่ยนไป โอเอซิสจึงเลื่อนขั้นให้เขาเป็นอัศวินชั้นห้า เพื่อให้เงินเดือนเพียงพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัวอันใหญ่โตของเขาได้ โดยแลกกับการที่เขาจะต้องมาหาทางจัดการกับเทพชั่วร้ายด้วยตัวคนเดียวโดยไม่มีอัศวินเทพมาช่วย ซึ่งถ้าดูแล้วมันก็คุ้มกันละนะ เขาจัดการคนชั่ว ส่วนครอบครัวของเขาก็อยู่สบาย ถือเป็นค่าตอบแทนที่คุ้มค่าสุด ๆ

ตอนนี้ภารกิจในโลกของเขามีสามอย่างคือ หนึ่ง สืบให้รู้ว่าอีกฝ่ายมีแผนอะไรและมีใครบ้าง แยกพวกเทพชั่วออกจากมนุษย์ปกติให้ได้ สอง เก็บใครได้ก็เก็บเทพชั่ว ๆ แบบนี้ไม่จำเป็นต้องละเว้น สาม ถ้าสู้ไม่ได้ก็หาทางยื้อให้นานที่สุด จนกว่าโอเอซิสจะกลับมาช่วย

ภารกิจแต่ละอย่างยาก ๆ ทั้งนั้น เพราะเขาไม่สามารถหาพรรคพวกมาช่วยได้ง่าย ๆ เนื่องจากจะจ้างนักรบสกิลเขาต้องมีเงินที่เยอะและหาเงินได้อย่างต่อเนื่อง และก็ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งคือ พวกเทพชั่วแฝงตัวอยู่กับมนุษย์มานาน ทำให้มีมนุษย์บางส่วนเป็นพวกของมันด้วยแน่นอน ถ้าเขาคิดจะรับใครเป็นพวกแล้วคนคนนั้นดันเป็นสุนัขของไอ้เทพชั่วช้าพวกนั้นขึ้นมา เขาอาจจะจบเห่ตั้งแต่ต้นเลยก็ได้ ชีฟเอามือกุมหัวแล้วคิด

'ภารกิจก็ยาก หาคนช่วยก็ไม่ง่าย'

ชีฟตะโกนลั่น

"ปวดหัวโว้ย"