"ไนน์อยากซื้ออะไรอีกไหม"
"ไม่มีครับ แค่นี้ผมก็เกรงใจพี่จะแย่แล้ว"
"เห้อ ตามใจ คนอย่างพี่เบ็นไม่ได้จะพามาเลี้ยงบ่อย ๆ หรอกนะ บอกไว้เลย" ผมว่าพลางผลักหัวของไอ้หยอยเล่น
เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อที่ผมสามารถจัดการรายการที่ร่างไว้เมื่อคืนได้ครบภายในวันเดียว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไนน์เองก็ไม่ได้บ่นเลือกนั่นนี่นาน จริง ๆ เป็นผมซะส่วนใหญ่ด้วยซ้ำที่เป็นคนตัดสินใจ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปก้าวนึงแล้วละนะ
"พี่เบ็น พี่เบ็น" ไนน์สะกิดแขนเสื้อแล้วจับแขนผมลากไปยังร้านขายตุ๊กตาที่ผ่านมาเมื่อเช้า
เจ้าเด็กน้อยเดินตรงดิ่งเข้าไปยังโซนของตุ๊กตาผ้านิ่มรูปสัตว์ต่าง ๆ
มีตุ๊กตาให้เลือกมากมายเต็มร้านไปหมด แต่สายตาของไนน์จับจ้องไปที่ตัว ๆ เดียว
มันเป็นตุ๊กตากระต่ายสีขาวอมชมพูสวมเสื้อสีเหลืองอ่อน แต่เพราะมันอยู่ข้างบนสุด เจ้าเด็กเตี้ยนี่เลยคว้าไม่ถึงแม้จะพยายามเอื้อมไปหยิบแค่ไหนก็ตาม
จริง ๆ เล้ย
ผมอ้อมไปด้านหลังไนน์เพื่ออุ้มเด็กหัวหยอยขึ้นมา มันตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ขัดขืนอะไร กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มของไนน์โชยออกมาเป็นกลิ่นหอมละมุนแบบเด็ก ๆ
ตัวไนน์ไม่ได้หนักมาก อาจจะเรียกได้ว่าเบาเกินไปด้วยซ้ำ คงต้องฝึกกล้ามเนื้อให้เจ้านี่อีกเยอะแน่นอน
พอได้ตัวที่คว้ามาได้ผมก็ค่อย ๆ ยกร่างน้อย ๆ ของไนน์ลงพื้น มันบอกขอบคุณผมด้วยอาการหน้าแดงแล้วซุกหน้าเข้าไปที่ตุ๊กตาตัวที่มันหยิบมา
ตุ๊กตาตัวนี้ใหญ่พอ ๆ กับหัวของคนที่กำลังกอดอยู่ ผมสังเกตเห็นไรฝุ่นเกาะติดที่ขนของตุ๊กตาเล็กน้อย ดูแล้วคงจะเก่าเก็บมาหลายปีเลย แล้วเมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็พบว่ามันเหลืออยู่ตัวสุดท้ายแล้ว
เท่าที่ผมรู้เกี่ยวกับหลักการตลาดทั่วไป สินค้ายอดนิยมมักจะถูกนำเสนอไว้ระดับสายตาของผู้ซื้อเป็นส่วนใหญ่ และถ้ามันอยู่ล่างสุดก็คงเป็นสินค้าที่ขายไม่ค่อยได้ ยิ่งเป็นสินค้าจากชั้นบนสุดที่คนไม่ค่อยอยากเอื้อมถึงนี้ ก็ตัดสินได้เลยว่ากระต่ายน้อยตัวนี้ถูกวางทิ้งไว้ไม่มีใครสนใจมานานแล้ว
จะว่าไปกระต่ายตัวนี้ก็เหมือนไอ้หนูนี่เหมือนกัน ถึงการตัดเย็บจะดูบิดเบี้ยวและสกปรกไปบ้าง แต่ถ้าเอาไปทำความสะอาด เอาไปดูแลดี ๆ ก็คงน่ารักน่ากอดน่าดู
บางทีกระต่ายน้อยที่ถูกทิ้งตัวนี้อาจจะกำลังรอใครมาพบมันเข้าสักวันก็ได้ และคนคนนั้นคือไนน์ในวันนี้
ว่าไปนั่น
"ทำไมถึงอยากได้ตัวนี้ล่ะ หืม?" ผมอยากรู้ว่าอะไรดลใจให้ไนน์สังเกตเห็นตุ๊กตาที่สูงขนาดนี้ได้
"ผมชอบสีเหลืองครับ"
"แล้วทำไมต้องกระต่ายล่ะ" ผมสงสัย ตุ๊กตาสีเหลืองแบบอื่น ๆ ที่น่ารักกว่าก็มีตั้งเยอะ
"ก็เพราะ...มันเป็นกระต่ายไง"
"หืม??" อะไรของหมอนี่ ตอบไม่รู้เรื่องเลยสักนิด หรือจะแค่ชอบกระต่ายเฉย ๆ
หลังจากเจ้าหนูได้กระต่ายมาเรียบร้อย เราก็ทำการจ่ายเงินไป แต่ครั้งนี้ไนน์โวยวายว่าจะใช้เงินของตัวเองให้ได้เลยจบลงที่ไนน์ออกเงินค่าตุ๊กตาตัวนี้เอง
เมื่อได้ตุ๊กตากระต่ายน้อยเสื้อเหลืองออกมาอุ้มนอกร้านก็ดูดีอกดีใจใหญ่ ปากน้อย ๆ ยิ้มขึ้นไม่หุบเลย สงสัยจะชอบตัวนี้มากจริง ๆ
ในที่สุดเราก็มาถึงทางออกไปยังลานจอดรถ สวรรค์น้อย ๆ แปรเปลี่ยนไปเป็นนรกบนดินอีกครั้ง แม้จะถึงช่วงเวลาเย็นที่ดวงอาทิตย์เกือบจะลับขอบฟ้าไปหมดแล้ว แต่อากาศยังไม่หายร้อนเลยสักนิด เหมือนจะยิ่งร้อนชื้นกว่าเมื่อเช้าด้วยซ้ำ
"...พี่เบ็นนี่ครับ" ไนน์ยื่นตุ๊กตามาที่ผม "ไนน์ซื้อให้พี่"
"หืม? ไม่ใช่วันเกิดพี่ซะหน่อย" ผมหัวเราะกลบเกลื่อนความเขิน แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเจ้าเด็กนี่ไม่ได้ให้เพราะคิดว่าเป็นวันเกิดก็ตาม
"พี่ต้องรับไปนะ ผมเลือกตัวนี้สำหรับพี่โดยเฉพาะเลยนะ รับไปนะ นะ"
...เลือกให้ผมโดยเฉพาะเลยเหรอ...
"อื้ม..." ผมประดักประเดิดพูดขอบคุณแล้วรับตุ๊กตาตัวมา "ขอบใจมาก"
ผมกอดตุ๊กตากระต่ายแน่นแล้วก้มลงไปหอมหัวของมัน สูดกลิ่นอับและไรฝุ่นเข้าจมูกไปเต็ม ๆ
แต่กลิ่นเหล่านั้นกลับโดนกลบไปหมดด้วยไออุ่นที่แผ่ออกมาจากตุ๊กตาตัวนี้ แค่สัมผัสครั้งแรกก็รับรู้ได้เลยว่ามันรู้สึกดีใจแค่ไหนที่ในที่สุดก็มีเจ้าของแล้ว
กระต่ายตัวนี้โอบกอดผมอยู่เช่นกัน
อยู่ ๆ เขื่อนกักเก็บน้ำตาของผมก็แตกออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ว่าจะกลั้นไว้ได้อยู่แล้วเชียว ถึงจะไม่ได้ไหลออกมานอกตา แต่ก็ทำให้ภาพตรงหน้าพร่ามัวไปได้มากทีเดียว
"พี่จะดูแลมันอย่างดีเลย พี่สัญญา ขอบคุณนะครับ"
"โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่งของน้อง" ไนน์ยื่นมือมาลูบหัวพร้อมพูดปลอมประโลมผม
เดี๋ยวนะ นี่เอ็งถึงขั้นกล้าลูบหัวพี่แล้วเหรอ ไอ้เด็กบ๊อง
"นี่แน่ะ เล่นหัวพี่เหรอ" ผมฉีกยิ้มใส่ไนน์แล้วเอานิ้วคีบไปที่จมูกของมันเป็นการทำโทษ
"ง๊อโงดงับ"