ตึก ตึก ตึก ตึก
เสียงวิ่งตึงตังดังมาจากข้างนอกแล้วตามด้วยเสียงเปิดประตูอย่างร้อนรน
เป็นแม่บอลของผมนั่นเอง บอลรับหน้าที่เป็นพิธีกรสาวสวยอีกครั้ง คราวนี้สวมชุดเป็นนางตานีสะไบเขียว จัดเต็มยิ่งกว่าน้อง ๆ ผู้เข้าประกวดดาวเทียมซะอีก
"น้อง ๆ คะ ใกล้ถึงเวลาแล้วนะ พร้อมกันรึยังคะ"
ระหว่างรอคำตอบ ผมเห็นบอลหันไปเจอน้องไนน์พอดี บอลยักคิ้วแล้วยิ้มทักไนน์ไป
นางตานีผมสวยฉิบหาย
"ใกล้แล้วค่า" พี่เชอร์รีตอบบอลไปด้วยเสียงที่ใจเย็น แต่พอบอลออกไปเท่านั้นแหละ เปลี่ยนลุคเป็นไฟที่ร้อนรนทันที "เร็วเด็ก ๆ จะถึงเวลาแล๊ว!" ลากเสียงยาวสูงปรี๊ด
หลังจากไต้ฝุ่นแห่งความปั่นป่วนเคลื่อนผ่านไปจากห้องเก็บตัว เหล่าเด็กผู้เข้าประกวดก็เรียงแถวกันเพื่อเตรียมตัวออกไปเดินโชว์ตัวรอบแรก
ก่อนออกไป ผมกับไนน์ไม่วายโดนพี่เชอร์รีเหน็บแนมอีกรอบเรื่องที่ไม่ได้แต่งตัวมาตามธีมลมที่เราได้ เราไม่ค่อยแคร์การแต่งตัวสักเท่าไหร่ เพราะยังไงวันนี้ไนน์มันก็ไม่ได้กะจะมาเพื่อคว้ารางวัลอยู่แล้ว
หลังจากที่ส่งน้องของตัวเองออกไปหน้าเวทีแล้ว พวกพี่เลี้ยงทั้งสิบสองชีวิตก็รีบวิ่งกลับห้องไปแอบส่องดูการเดินของน้องตัวเองผ่านการบันทึกภาพสดในโซเชียล
เสียงเฮจากผู้คนข้างนอกนั้นดังจนได้ยินมาถึงข้างหลังเวที การเดินเปิดตัวผู้เข้าประกวดในปีนี้จะเหมือนกับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือแยกชุดกัน ดาวส่วนดาว เดือนส่วนเดือน และจบด้วยชุดของดาวเทียม
การเดินของไนน์ในครั้งนี้ดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก มากจนพี่เชอร์รีเผลอเอ่ยปากชมโดยไม่รู้ตัว ถึงชุดไนน์จะไม่ได้อลังการ หรือต้องเรียกว่าไม่ได้แต่งอะไรเลย แต่ก็ดูดีไม่แพ้คนอื่น
ผมอดภูมิใจในตัวน้องคนนี้ไม่ได้จริง ๆ
กลับหอไปจะมอบรางวัลให้อย่างงามเลย
การเดินเปิดตัวเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีใครเดินผิดคิวหรือเดินตกเวทีไป ต่อไปจึงเริ่มเข้าสู่การแสดงความสามารถพิเศษแล้ว ครั้งนี้จะแสดงเรียงตามลำดับที่จับฉลากได้ซึ่งทั้งสิบเอ็ดคนจับไว้ก่อนแล้วในตอนเช้า
และไนน์ที่มาไม่ทันการจับฉลากก็ต้องอยู่คิวสุดท้ายไปโดยปริยาย
การแสดงผ่านไปเรื่อย ๆ จากคนที่หนึ่ง คนที่สาม ถึงคนที่แปด แต่ละคนงัดความสามารถออกมาโชว์กันเต็มที่ มีทั้งการเต้น การแสดงตลก การแสดงดราม่า รำไทย เล่นมายากล ร้องเพลง มาหมดทุกรูปแบบ ผมนั่งดูการแสดงผ่านการบันทึกภาพสดกับไนน์ ผมยอมรับว่าค่อนข้างน่าเบื่อพอควร ส่วนไนน์ก็เบื่อจนผล็อยหลับไปสองตื่นแล้ว
แล้วก็มาถึงการแสดงของคนที่สิบ เป็นการแสดงของน้องดาวเทียมคนหนึ่ง น้องคนนี้มาแหวกแนวจากคนอื่น ดาวเทียมส่วนมากจะเน้นขายความฮาและความตลกไม่ก็ไปทางสายเต้นสะบัดสุดเหวี่ยงไปเลย แต่น้องคนนี้กลับเลือกที่จะแสดงตัวตนของเพศตรงข้าม
ตามหลักการแล้วดาวเทียมควรจะเป็นผู้ชายที่มีใจเป็นหญิง ซึ่งน้องเขาตรงกับลักษณะที่ว่าคือมีเพศสภาพเป็นชาย แต่น้องไม่ได้แต่งเป็นหญิงธรรมดา...
น้องคนนี้แต่งเป็นผู้หญิงที่แต่งเป็นผู้ชายอีกที
การแสดงสีหน้าและอารมณ์ของน้องสุดยอดมาก ทำให้ทุกคนเข้าถึงได้จนเหมือนได้สัมผัสการถูกกีดกันของสังคมด้วยตัวเอง
จากที่ผมฟังน้องเขาอธิบายหลังการแสดงจบลง สิ่งที่น้องคนนั้นกำลังจะสื่อก็คือ ดาวเทียมไม่ควรเป็นพื้นที่สำหรับผู้ชายที่มีใจเป็นหญิงเท่านั้น แต่ควรเป็นพื้นที่ของผู้หญิงที่มีใจเป็นชายด้วย
เมื่อการแสดงที่สิบจบลงไป คนที่สิบเอ็ดก็ต่อทันที
"ไนน์ ตื่นเร็ว" ผมปลุกให้ไนน์ตื่นจากการหลับใหล ทั้ง ๆ ที่คนอื่นดูจะตื่นเต้นจนขาสั่นเมื่อจะถึงตาตัวเองขึ้นเวที แต่ไนน์กลับดูไม่กังวลแล้วงีบหลับบนตักผมอย่างสบายใจซะงั้น
"ห๊ะ พี่เบ็น"
"ตื่น" ผมโยกหัวไนน์ไปมาให้มันสร่างเมาขี้ตา "จะถึงตาไนน์แล้ว"
ไนน์ยอมลุกขึ้นมาแต่โดยดี จากนั้นผมจึงจูงมือพาไปยังทางออกเข้าสู่หน้าเวที
พอมันได้สติเต็มที่แล้วรู้ตัวว่าจะต้องไปยืนต่อหน้าคนกว่าหลายร้อยชีวิต ไนน์ก็เริ่มขาสั่นตามนิสัยที่เคยเป็น
ขาสั่น มือสั่นและสีหน้าเป็นกังวลอยู่ก็จริง แต่ไม่ได้รุนแรงเหมือนสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้มันเป็นความวิตกกังวลในระดับของคนทั่วไป
ถ้าจะว่ากันตามตรงไนน์ในตอนนี้ดูจะตื่นเต้นน้อยกว่าผมเมื่อปีที่แล้วด้วยซ้ำ
"ไง เด็กบ๊อง" ผมเดินเข้าไปกอดไหล่ไนน์ไว้แน่น ส่งกำลังใจผ่านมือไปให้ "ตื่นเต้นไหม"
"อื้ม ตัวสั่นไปหมดแล้วเนี่ย"
"ตัวสั่นหรือตัวสั้น หืม?"
"พี่เบ็น!" ผมเกือบจะยีหัวมันไปแล้ว แต่ก็ห้ามมือตัวเองได้ทัน ขืนเล่นหัวมันตอนนี้มีหวังผมที่เซตไว้เละแน่นอน
"มานี่มา"
ผมช้อนคอไนน์เบา ๆ ให้เข้ามาใกล้ตัวผมมากขึ้น เราอยู่ในท่าที่อีกไม่กี่เซนติเมตรเราก็กอดกันได้
"แล้ววันนี้เดือนคนเก่งของพี่จะแสดงอะไรดีครับ"
"ไม่บอก" พูดจบก็แลบลิ้นใส่ผมเลย "เดี๋ยวก็รู้ครับ"
คงไม่ได้คิดจะทำอะไรบ้า ๆ อีกนะ
"พี่เบ็น..."
"หืม?"
"ไนน์...เปลี่ยนไปเยอะไหม"
เด็กหนุ่มที่อยู่ใกล้ผมจนลมหายใจรดกันอยู่นี้เปลี่ยนไปมากจริง ๆ
จากเด็กชายตัวน้อยผมยาวรุงรังปิดหน้าปิดตาแต่งตัวไม่เป็น
เด็กน้อยที่แม้แต่จะแนะนำตัวเองก็ยังไม่กล้า
คุณชายโฮของผมที่เอาแต่ร้องไห้ตลอดเวลา
ภาพอดีตไหลย้อนเข้าสู่ความทรงจำของผม ตั้งแต่ช่วงที่เราเจอกันครั้งแรกที่หน้าคณะ มาจนถึงช่วงที่เราคบกัน
ตั้งแต่วันนั้นมา ไนน์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผม ผมดูแล...ไม่สิ...เราสองคนดูแลกันและกันเสมอมา เติบโตไปด้วยกัน เดินเคียงข้างกัน
ก่อนหน้านี้ผมเป็นเหมือนกระต่ายตัวจิ๋วที่หลงทาง มันหาบ้านของมันไม่เจอ มันทั้งหนาว ทั้งเปลี่ยวใจ ทั้งชิงชังโลกใบนี้ กระต่ายน้อยเดินหลงทางอยู่เดียวดายท่ามกลางความมืดมิด
แต่แล้วดวงเดือนดวงหนึ่งก็ฉายแสงสีนวลขึ้นมา เดือนดวงนี้ให้ที่พักใจแล้วโอบกอดกระต่ายน้อยอย่างผมไว้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปอีกกี่ล้านปีแสง เราก็จะโอบอุ้มกันและกันไว้อย่างนี้
"พี่เบ็น ผมหายใจไม่ออก"
ผมตื่นขึ้นจากภาพอดีตทันที รู้ตัวอีกทีผมก็กอดรัดร่างของไนน์ไว้แน่นแล้ว
ผมค่อย ๆ คลายกอดจากร่างไนน์ออกมา เผยรอยเลอะจากเครื่องสำอางบนใบหน้าของไนน์ที่เสื้อของผม
"...พี่เบ็นร้องไห้ทำไมครับ?"
"ห๊ะ" ผมไม่ทันรู้ตัวเลยว่าน้ำตาไหลลงมาที่แก้มมากมายขนาดนี้แล้ว เด็กหนุ่มตรงหน้าผมดูพร่าเลือนไปแล้ว "เปล่า ไม่มีอะไรหรอก" ผมรีบเช็ดน้ำตาออกจากหน้าทันที
แต่แล้วไนน์ก็เริ่มสูดน้ำมูกตามผม
สักพักก็ปล่อยโฮออกมา
"แล้วไนน์จะร้องไห้ทำไมเล่า" ผมดุมันทั้งที่ตัวเองยังเสียงสั่นอยู่เลย
"ก็...ก็พี่ร้องก่อนนี่นา" คราวนี้ไนน์ร้องจ๊ากสุดเสียงเลย เสียงไนน์ดังมากจนคนในห้องเก็บตัวออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ส่วนผมที่ได้ยินไนน์ปล่อยโฮสุดเสียงก็ร้องลั่นดังไม่ต่างจากไนน์เลย
"ไอ้เด็กขี้แย...เลิกร้องสักที!"
"ไอ้พี่ขี้แย...เลิกร้องก่อนดิ!"
ตอนนี้เราทั้งคู่ร้องไห้โฮกันเหมือนคนบ้า ยืนกอดกันอยู่อย่างนั้นที่ข้างหลังเวที
แม่บอลประกาศกล่าวปิดการแสดงของคนที่สิบเอ็ดไป มีเวลาอีกแค่ชั่วอึดใจเดียว...
ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้นก่อนที่ไนน์จะออกไปข้างนอกให้สายตานับร้อยคู่มองดู
หญิงสาวคนที่สิบเอ็ดเดินออกจากเวทีเข้ามาข้างหลังฉากผ่านเราสองคนไปแล้ว
"...แล้วก็มาถึงการแสดงชุดสุดท้ายแล้วนะคะ..." เสียงแม่บอลประกาศเพื่อเตรียมเปิดให้ไนน์ขึ้นเวที
"ไป ถึงเวลาแล้ว" ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ผมยังสะอื้นอยู่เลย
"ยังไม่อยากไป ขอกอดต่ออีกหน่อยนึง" เสียงไนน์เองก็สะอื้นเหมือนกัน
"...การแสดงชุดที่สิบสองนี้เป็นการแสดงของเดือนสุดน่ารักของเรา..."
"พอแล้ว ไปได้แล้ว" ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ผมยังกอดไนน์ไว้ไม่ยอมปล่อย
"พี่เบ็นก็ปล่อยก่อนดิ" ไนน์เองก็ไม่ยอมปล่อยตัวออกจากผมเหมือนกัน
"...ขอเชิญพบกับ..."
"ไปเร็ว" ในที่สุดผมก็ยอมปล่อยตัวไนน์แล้วค่อย ๆ ผละตัวเองออก
"อื้ม" ไนน์กำมือมาเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า เครื่องสำอางที่แต่งมาจางหายไปแล้วเกือบครึ่ง
"...เดือนประจำธาตุลม..."
ผมก้มลงไปจูบริมฝีปากที่เลอะลิปสติกอยู่
ไนน์เองก็เขย่งตัวขึ้นมาจูบริมฝีปากผมเหมือนกัน
"...นายณัฐดนัย จันทรวงศ์ หรือน้องไนน์ สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น ได้เลยค้า!!!"
สิ้นเสียงของแม่บอล เสียงเฮและเสียงปรบมือข้างนอกก็ดังก้องกังวาลทันที
ไนน์ส่งยิ้มหวานให้ผมก่อนจะเดินออกไปสู่ทางข้างหน้าที่มีแสงเจิดจ้า