webnovel

1131 สัตว์เลื้อยคลานอ่อนแอ

ตอนที่ 1131 สัตว์เลื้อยคลานอ่อนแอ

แหวนหมุนอยู่ที่ปลายนิ้วของกู่ฉิงซาน

แต่เขาไม่เคยสวมมัน

นี่คือแหวนหุบเหว มีความเป็นไปได้ที่จะตายหากสวมมัน

“ทั้งหมดนี้…คือข้อมูลของข้า”

หลังจากกู่ฉิงซานพูดกับแหวนจบ เขาเก็บมัน

เขาหาวเล็กน้อย นั่งลงบนเก้าอี้แล้วยืดเส้นยืดสาย

“ในที่สุดก็ไปแล้ว…”

เขาพึมพำ ตบถุงเก็บของเพื่ออยากหาอะไรดื่มสักหน่อย

ไม่มีการตอบสนองจากถุงเก็บของ

หลังจากนั้นกู่ฉิงซานจึงจำได้ว่าของทั้งหมดของเขาได้มอบให้กับเศษเสี้ยวโลกไปแล้ว

เหลือเพียงยาเม็ดสีเขียวเข้มเท่านั้น

…นี่คือยาเม็ดรักษาที่ดีที่สุด

ส่วนสุรา ไม่มีเลยสักขวด

กู่ฉิงซานอดที่จะตบปากตัวเองด้วยความเสียดายไม่ได้

ดาบสามเล่มปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า

“สุดยอด เจ้าถึงกับสามารถให้หลิงเอ๋อร์ออกไปได้ด้วย” ดาบพิภพชื่นชม

ก่อนได้พบกับกู่ฉิงซาน มันเคยติดตามเซี่ยเต้าหลิงและรู้ว่านางฉลาดแค่ไหน

“ใช่ ข้าก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นางจะตอบสนอง” กู่ฉิงซานกล่าว

“นั่นสิ ดังนั้นถ้าท่านจะทำอะไรก็รีบ ๆ ทำเสีย” ดาบพิภพเห็นด้วย

เสียงของลั่วปิงหลีพลันดังขึ้น “เดี๋ยวนะ ช้าก่อน ทำไมข้าถึงรู้สึกถึงความสำเร็จจากการหลอกอาจารย์ของเจ้าได้กันนะ”

“ก็แหงสิ” กู่ฉิงซานและดาบพิภพกล่าวพร้อมกัน

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “อาจารย์ของข้าไม่เคยหวาดกลัวสิ่งใด แต่นางเป็นห่วงลูกศิษย์อย่างพวกข้ามากที่สุด ดังนั้นต่อให้เกิดเรื่องขึ้นเพียงเล็กน้อย นางก็จะวิตกเป็นอย่างมาก”

“เจ้ารู้ได้ยังไง” ลั่วปิงหลีถาม

“มีครั้งหนึ่งข้าเคยไปสำนักข้าง ๆ กับเสี่ยวหลัวเพื่อขโมยสุราร้อยปีที่พวกเขาเก็บรักษาเอาไว้ พอถูกพบเข้า จู่ ๆ อาจารย์ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าแล้วบอกว่ามีสิ่งสำคัญที่ต้องคุยกับหัวหน้า จากนั้นนางก็หันเหความสนใจได้สำเร็จ ทำให้พวกข้าหนีรอดมาได้”

กู่ฉิงซานกล่าวต่อว่า “ภายหลัง ข้าวิเคราะห์ดูก็พบว่าผีเสื้อ กระรอกและแพะที่ข้าเคยพบมาตลอดทางกับเสี่ยวหลัวก็อาจจะเป็นนางนั่นแหละ”

ลั่วปิงหลีถอนหายใจ “ในเมื่อนางเป็นห่วงเจ้าขนาดนั้น เจ้าก็น่าจะ…”

“จะมาบอกตอนที่นางกำลังก้าวข้ามภัยพิบัติได้ยังไง ถ้านางกังวลขึ้นมาก็จะเกิดความลังเล” กู่ฉิงซานโบกมือ

ดาบพิภพกล่าวว่า “ใช่ นี่คือเรื่องของเขา ข้าคิดว่ามันคือเรื่องเล็กน้อยด้วย”

“เรื่องเล็กน้อยหรือ” ลั่วปิงหลีทวนซ้ำ

ดาบพิภพตอบว่า “ก็ดูจากสีหน้าที่ผ่อนคลายของเขาสิ ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ข้าไม่คิดว่าปัญหาจะใหญ่หลวงหรอก”

กู่ฉิงซานยิ้มออกมา “ถ้าข้าสร้างปัญหากับด้านนอก เกรงว่าก็ต้องรีบกลับสำนักเพื่อไปหาอาจารย์เหมือนกัน…ถึงจะมีคนคิดแบบนั้น แต่ข้าไม่ใช่ดังที่ว่า”

ดาบเสียงคลื่นส่งเสียงร้องแผ่วเบา

ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงอยากส่งเสียงออกมา แต่สุดท้ายมันก็ส่งเสียงออกมาแล้ว

แต่พอทำแบบนี้ ทำให้มันได้เข้าร่วมวงสนทนาจนรู้สึกดีขึ้นมา

ลั่วปิงหลีถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “เช่นนั้นตอนนี้พวกเราควรทำอะไรล่ะ หลังจากรุ่งสางแล้ว มังกรฟ้าจะมาฆ่าเจ้านะ”

กู่ฉิงซานยืนขึ้นขณะเดินออกมา

“ไป เร่งมือกันเถอะ”

ดาบบินสามเล่มตามติดเขา

กู่ฉิงซานเหาะไปตามทางก่อนมาถึงกำแพงเมือง

“ไง ทุกท่าน ข้ามาแล้ว”

เขาทักทายโลกแปลกประหลาดนับไม่ถ้วนที่อยู่นอกเมือง

เศษเสี้ยวโลกกลายเป็นจุดแสงเรืองรองก่อนลอยมารอบตัวเขาเพื่อทักทายอย่างแผ่วเบา

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ทุกท่าน ตามที่ข้ากล่าวไปก่อนหน้านี้ ข้าอยากขอให้พวกเจ้าหยุดช่วงกลางคืนของวันนี้ไว้ก่อนเพื่อไปเข้านอนก่อนเวลา…เพื่อแทนคำขอโทษ ข้าจะนำของดีมาให้เมื่อมีโอกาสได้กลับมาในภายภาคหน้า”

“ไม่มี…ปัญหา…ระวัง…ตัวด้วย” เศษเสี้ยวโลกตอบรับ

“วางใจได้ เรื่องเล็กน้อย” กู่ฉิงซานโบกมือ

เศษเสี้ยวโลกลอยกลับไป

เขาเห็นว่าภาพมายาของโลกแห่งแล้วแห่งเล่าค่อย ๆ หายไปจากนอกกำแพงเมือง

ตอนนี้กู่ฉิงซานถามลั่วปิงหลีว่า “เจ้าคิดว่าข้าจะน่าสนใจมากที่สุดเมื่อไหร่”

ลั่วปิงหลีตอบว่า “นั่นขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะทำอะไร”

“ข้าอยากให้มังกรเห็นข้าทันทีที่เข้ามา” กู่ฉิงซานกล่าว

“ทำไมล่ะ” ลั่วปิงหลีถาม

“มันจะได้ตรงมาหาข้ายังไงล่ะ” กู่ฉิงซานตอบ

“สนใจ… เจ้าดูน่าสนใจเวลาชักดาบออกมา” เสียงของลั่วปิงหลีเบาลง

“ความคิดดี” กู่ฉิงซานชื่นชม

ตอนนี้ ภาพมายาของโลกนอกกำแพงเมืองหายไปสิ้น

เศษเสี้ยวโลกแยกย้ายก่อนซ่อนตัว

เขตอาคมที่ปกคลุมทั่วโลกพลันหายไป

มังกรฟ้าที่ล่องลอยอยู่นอกโลกรับรู้ได้ทันที

ในเวลาเดียวกัน กู่ฉิงซานชักดาบออกมา

เขาชี้ท้องนภาเพื่อพยายามใช้วิชาดาบด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี

ฉัวะ…

ประกายดาบร้อนแรงพุ่งขึ้นท้องนภา ก่อเกิดเป็นลำแสงเจิดจ้าอย่างต่อเนื่อง

มังกรฟ้าปรากฏตัวขึ้นจากหมู่เมฆม่านหมอก ทันใดนั้น มันกลายเป็นชายใส่เกราะชุดดำก่อนกระแทกลงกับพื้น

มันมีสองเขาบนศีรษะ ร่างสูงตระหง่าน ผิวปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีฟ้า พลังสุดหยั่งก่อเกิดเป็นสายลมแรงกล้า พัดพาไปทุกทิศทาง

มังกรฟ้า!

มันมองกู่ฉิงซานก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้างว่า

“ข้าเจอเป้าหมายทันทีที่เข้ามาเลย ช่างมีความสุขอะไรอย่างนี้”

กู่ฉิงซานยิ้มเช่นกันขณะมองมังกรฟ้าก่อนกล่าวว่า “ไง!”

เขากระอักโลหิตออกมา

เขากระจายรากฐานการฝึกฝนไปทั่วร่าง ทำให้จุดตันเถียนของเขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เส้นลมปราณไหลย้อนกลับ

ตอนนี้ ระดับการฝึกฝนของเขาถดถอยไปมาก ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่สามารถทะลวงสู่ระดับราชาแห่งอิสรภาพได้

…ก่อนหน้านี้มีผู้ฝึกยุทธ์ที่เกรงว่าเขาจะไม่สามารถก้าวข้ามภัยพิบัติได้ ดังนั้นจึงเลือกถอยกลับไปเพื่อไปตั้งตัวใหม่ ในตอนนั้น กู่ฉิงซานก็เกิดความคิดดี ๆ ขึ้นมา

ตอนนี้เขาเลือกวีการถดถอยที่ดีที่สุดจากโลกผู้ฝึกยุทธ์ สามารถช่วยให้เขากระจายการฝึกฝนได้เล็กน้อยโดยที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด

กฎเกณฑ์แห่งความว่างเปล่าสัมผัสได้ มันพลันปรากฏขึ้นจากทุกทิศทางขณะปกคลุมกู่ฉิงซานเอาไว้

“ไม่!” มังกรฟ้าคำรามอย่างเกรี้ยวกราด

แต่วินาทีต่อมา กู่ฉิงซานกลายเป็นแสงวาบก่อนไปจากโลกใบนี้

เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะพัฒนาสู่ระดับราชาแห่งอิสรภาพอีกแล้ว จึงถูกเตะออกจากโลกเทียนจูทันที

เขาจะกลับไปที่ที่เคยมา

“คิดว่าจะหนีข้าได้งั้นหรือ ข้าคือเผ่ามังกรที่แข็งแกร่งที่สุดและมีความเร็วที่สุดในวิญญาณชั่วร้าย ข้าสามารถตามจับเจ้าได้ในพริบตา!” มังกรฟ้ากล่าวอย่างไม่เต็มใจ

ร่างของมันกลายเป็นสายฟ้าแลบก่อนไล่ตามกู่ฉิงซานด้วยความเร็วที่น่าสะพรึง

โลก วังวนความว่างเปล่า ตัวตนนานาชนิด ไม่ว่าจะอะไรก็ไม่สามารถหยุดมันได้

เพราะมันคือมังกรฟ้า

กู่ฉิงซานปรากฏตัวในยานอวกาศ

เขาเคี้ยวเพียงยาเม็ดสีเขียวเข้มก่อนกลืนเข้าไป

พลังมังกรมารเริ่มกระจายไปทั่วร่าง มันแทบจะดูดกลืนพลังของยาเม็ดทั้งหมดในทันที

บาดแผลเล็กน้อยบนเส้นลมปราณค่อย ๆ ได้รับการรักษา

กู่ฉิงซานไม่ขยับ เขาใช้พลังวิญญาณร่วมกับพลังมังกรมารเพื่อเร่งความเร็วการรักษาเส้นลมปราณ

หลังจากผ่านไปหลายสิบอึดใจ บาดแผลบนเส้นลมปราณส่วนใหญ่ได้รับการรักษา ประสิทธิผลของยาเม็ดสีเขียวเข้มล้วนถูกใช้จนหมดสิ้น

กู่ฉิงซานไม่สนเกี่ยวกับบาดแผลนี้อีกแล้ว แต่กลับกระตุ้นพลังมังกรมารด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อพัฒนาการฝึกฝน

หลายสิบอึดใจผ่านไป

ระดับการฝึกฝนของเขาได้รับการฟื้นคืนในที่สุด เขามาถึงจุดที่สามารถก้าวข้ามภัยพิบัติราชาแห่งอิสรภาพได้อีกครั้ง

สายฟ้าแลบตกลงมาบนยานอวกาศ

ชายในชุดสีดำหัวเราะเสียงดังแล้วกล่าวว่า “ฮ่า ๆๆ ต่อให้เจ้าก้าวข้ามโลกนับร้อยล้านใบเพื่อหลบหนี ข้าก็ไม่มีทางแพ้เจ้า”

ร่างของมันเต็มไปด้วยเงาสีฟ้า ดูท่ามันได้ขยายพลังอันแก่กล้ายิ่ง ทำให้เวลาพูดต้องหอบหายใจเล็กน้อย

ทว่า การออกแรงทางกายภาพเช่นนั้นไม่ส่งผลกับการไล่ล่าครั้งนี้แต่อย่างใด

ยังไงเสีย สำหรับมังกรฟ้าแล้ว การสังหารผู้ฝึกยุทธ์ระดับนภายามค่ำถือว่าเป็นเรื่องกล้วย ๆ

กู่ฉิงซานแสดงความนับถือก่อนประสานมือแล้วกล่าวว่า “ข้าได้ยินมาว่ามีมังกรฟ้าในหมู่วิญญาณชั่วร้าย ในการต่อสู้หลายครั้งกับหุบเหวนิรันดร์ ด้วยพละกำลังของเจ้าเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ แม้กระทั่งการต่อสู้เล็กน้อยเหล่านั้นที่วิญญาณชั่วร้ายพ่ายแพ้ มังกรฟ้าก็ไม่เคยเสียท่า”

“มังกรฟ้าถูกบันทึกไว้เช่นนั้น แม้กระทั่งสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งที่สุดในหุบเหวก็ยังต้องยกนิ้วให้ แต่หุบเหวนิรันดร์ไม่เคยสามารถไล่ตามได้ทัน ไม่ใช่เพียงแค่มันทรงพลังเท่านั้น แต่ความเร็วยังเป็นที่หนึ่งในหมู่ปีศาจอีกด้วย”

ชายชุดดำฟังเงียบ ๆ ก่อนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “เจ้าคนชั่วช่างประจบ ไม่ว่าเจ้าจะพูดยังไง ข้าก็จะแยกร่างของเจ้าแล้วกักขังวิญญาณเพื่อนำมันกลับไป”

“ยังไงเสีย เจ้าก็เป็นแค่สัตว์เลื้อยคลานอ่อนแอ”

“เป็นแค่สัตว์เลื้อยคลานอ่อนแอ” กู่ฉิงซานพึมพำและทวนซ้ำ จากนั้นถอนหายใจ “เช่นนั้นข้าคงต้องกล่าวลาเจ้าแล้วล่ะ”

ทั่วร่างของเขาเอ่อล้นด้วยพลังวิญญาณ

ภัยพิบัติกำลังจะมาอีกครั้ง!

เพียงพริบตา เขาหายไปจากยานอวกาศ

เขาไปก้าวข้ามภัยพิบัติราชาแห่งอิสรภาพ

…คาดไม่ถึงว่าเขาจะเข้าสู่ภัยพิบัติราชาแห่งอิสรภาพอีกครั้ง!

ชายชุดดำไม่ตอบสนองสักพัก

เมื่อเข้าใจเหตุและผลแล้ว มันถึงจะวิ่งไล่ตามทันที

ยังไงเสีย อีกฝ่ายไม่สามารถหนีไปมาแบบนี้ได้

เดี๋ยวนะ...

การหนีแบบนี้ไม่ใช่คำตอบ

ชายชุดดำพลันหยุดนิ่ง

มันยืนอยู่สักพักก่อนนั่งลงบนเก้าอี้อย่างช้า ๆ

ยังไงก็ตาม หลังจากอีกฝ่ายก้าวข้ามภัยพิบัติแล้ว สุดท้ายก็ต้องกลับมาอยู่ดี

ไม่ว่าจะราชาแห่งอิสรภาพหรือจ้าวแห่งขุนเขาเซียวหมี เมื่ออยู่ต่อหน้ามันก็มีเพียงคำตอบเดียวเท่านั้น

มันสามารถสังหารสัตว์ประหลาดหุบเหวนับไม่ถ้วนได้โดยไม่ต้องมีใครช่วย แล้วนับประสาอะไรกับผู้ฝึกยุทธ์เล็กจ้อยพวกนี้

…ฉลาดก็ส่วนฉลาด แต่น่าเสียดายที่เป็นแค่สัตว์เลื้อยคลานอ่อนแอ ไม่มีทางหลบหนีจากโชคชะตาแห่งความตายได้

ชายชุดดำเอนหลังกับเก้าอี้กว้างก่อนกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ข้าจะพักสักหน่อย หากเจ้าตายในภัยพิบัติ นั่นก็นับว่าเป็นโชคดี ไม่อย่างนั้นเจ้าจะต้องกลับมาที่นี่ ถึงตอนนั้นข้าจะกินเจ้าทั้งเป็น จับฉีกทึ้ง เหลือไว้เพียงวิญญาณเพื่อนำกลับไปให้นายท่าน”

มันหลับตาก่อนเริ่มนอนหลับ

หนึ่งอึดใจ

สองอึดใจ

สามอึดใจ

มันพลันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ชายชุดดำยืนขึ้น ร่างวูบไหว มันปรากฏตัวในกระแสวังวนความว่างเปล่านอกยานอวกาศ

จู่ ๆ มันพบว่าไม่มีช่องว่างในกระแสวังวนความว่างเปล่า

สัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งที่สุดในหุบเหวนิรันดร์ล้วนอยู่ที่นี่

พวกมันมาถึงอย่างเงียบงันและซ่อนอยู่ในความว่างเปล่านานแล้ว จนกระทั่งกู่ฉิงซานไปถึงได้ค่อย ๆ ปรากฏตัวออกมา

ยานอวกาศถูกล้อมโดยสัตว์ประหลาดหุบเหว แถมยังมีสัตว์ประหลาดหุบเหวที่ทรงพลังยิ่งกว่าอยู่ไกลออกไป

พลังต่าง ๆ ในความว่างเปล่าถูกพลังหุบเหวยับยั้งเอาไว้

ต่อให้เป็นราชาวิญญาณชั่วร้ายมาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็นับว่าไม่สู้ดีนัก

“แย่ล่ะ…อยู่เหนือการคำนวณไว้!”

ชายชุดดำพึมพำอย่างเหม่อลอย

จู่ ๆ มันรู้สึกถึงบางสิ่งที่พิเศษ

ความตายกำลังใกล้เข้ามา

หุบเหวนิรันดร์ส่งกลุ่มเครื่องบดเนื้อสงครามที่แข็งแกร่งที่สุดมา ประกอบกับการร่วมแรงกับกู่ฉิงซาน ทำให้จัดฉากล้อมได้อย่างแนบเนียน

ต่อให้จะเป็นผู้ที่มีความเร็วมากที่สุดในหมู่วิญญาณชั่วร้าย มันก็ไม่สามารถหลบหนีจากวงล้อมนี้ได้

…นี่คือวันตายของมังกรฟ้าอย่างแท้จริง

สัตว์ประหลาดหุบเหวเผยสีหน้าหยอกล้อที่นานทีจะได้เห็นก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเสียดแทงหูว่า “เจ้าอยากมาตบก้นของพวกข้าก่อนไหมล่ะ เจ้าสัตว์เลื้อยคลานอ่อนแอ”

..............................