ตอนที่ 1079 สี่กองกำลัง
ด้วยสัญญาณของหลานซิ่ว วีรชนสิบห้าคนขยับ
โล่อยู่ข้างหน้า นักรบและอัศวินอยู่ตรงกลาง นักพรตอยู่ข้างหลัง นักธนูอยู่ทั้งสองฝั่ง…
รูปแบบจู่โจมที่สมบูรณ์แบบ
วีรชนพุ่งเข้าใส่สัตว์ประหลาด!
“ลูกน้องทั้งหมดที่ห่วงใยและรักข้า จงมาช่วยข้า!”
อีกด้านของจัตุรัส ใครบางคนตะโกน
เมื่อทุกคนมองรอบข้าง พวกเขาเห็นว่ามันคือปีศาจสีดำที่มีเขาสองข้างบนศีรษะ
เมื่อมันเรียกขาน ปีศาจรอบข้างล้วนเอามือแตะมัน
ไม่ช้า ปีศาจทั้งหมดหลอมรวมเข้าสู่ร่างของมัน
ปีศาจเหล่านั้นรวมกันเป็นปีศาจยักษ์ที่กล้าผจญเปลวไฟแห่งแดนชำระ
ปีศาจยักษ์ก้าวมาข้างหน้าขณะพุ่งเข้าหาสัตว์ประหลาดที่หน้าทางเดินลับ
สัตว์ประหลาดที่มีร่างเป็นงูและศีรษะเป็นมนุษย์เย้ยหยันออกมา “แค่พึ่งของพรรค์นั้น คิดหรือว่า…”
ตูม!
ขวานศึกสีชาดตกลงมาจากท้องนภา เคลื่อนผ่านร่างยาวของมันก่อนตรึงเอาไว้กับพื้น
“อ้ากกกก เป็นเจ้าอีกแล้ว ข้าจะฆ่าเจ้า เอาร่างและวิญญาณเข้าปากแล้วเคี้ยวเป็นหมื่นครั้ง!”
สัตว์ประหลาดจ้องซูเสวี่ยเอ้อร์อย่างเกรี้ยวกราด ร่างบิดไปมาอย่างบ้าคลั่งขณะพยายามสลัดขวานศึกสีชาดให้หลุด
ซูเสวี่ยเอ้อร์รีบหันกลับมามองกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานขมวดคิ้วขณะฟังเสียงโห่ร้องของอีกฝ่าย
ตอนนี้ วิญญาณวีรชนที่ถูกอัญเชิญโดยหลานซิ่วมาถึงตรงหน้าสัตว์ประหลาด พวกมันมีประสบการณ์การต่อสู้มหาศาล เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ พวกมันก้าวเข้ามาอีกหลายก้าวก่อนตรึงร่างยาวของสัตว์ประหลาดเอาไว้กับพื้นด้วยอาวุธ
เมื่อทุกคนเห็นดังนี้ พวกเขาเปิดฉากการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดเข้าใส่
ชั่วพริบตา คาถาทั้งหมดเข้าทักทายสัตว์ประหลาด สัตว์ประหลาดตะโกนออกมา
ปีศาจยักษ์ค่อยๆ เข้าใกล้
มันจับสัตว์ประหลาดด้วยมือข้างหนึ่ง หมัดอีกข้างทุบเข้าใส่อย่างรุนแรง มันตะโกนขณะทุบว่า
“กระตุกอีกแล้ว คิดว่าเพียงแค่กระตุกจะทำอะไรได้งั้นหรือ”
“ที่จริง พูดเรื่องกระตุกร่างกาย ข้ารู้ว่ามีทักษะกายภาพบางอย่างที่สามารถทำให้เจ้าทำได้มากกว่ากระตุกเสียอีก”
“รู้หรือเปล่าว่าวันตายของเจ้ามาถึงแล้ว”
“เจ้ากล้ามองข้างั้นหรือ?”
“ข้าจะบอกอะไรให้นะ เจ้าไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้ ต่อให้กลับชาติมาเกิดใหม่ เจ้าก็จะตกเป็นเป้าหมายในการโค่นล้มเมื่อถึงชาติหน้า เจ้ารู้หรือเปล่าทำอะไรผิดไป”
“คงไม่รู้สินะ ข้าจะยอมใจกว้างด้วยการบอกให้ละกัน ที่จริง เมื่อครู่เจ้าหยิ่งทะนง…”
ฉัวะ!
ประกายดาบวูบไหว
ศีรษะของสัตว์ประหลาดหลุด
กู่ฉิงซานหยิบดาบขึ้นมา
“โทษทีนะ ข้าไม่ยอมให้เจ้าทำสำเร็จได้หรอก”
กู่ฉิงซานกล่าวกับปีศาจยักษ์
ปีศาจยักษ์แข็งทื่ออยู่หลายอึดใจ จากนั้นหันหลังแล้วเดินจากไปอย่างเศร้าโศก
ขณะเดิน ปีศาจล้มลงตรงหน้าเขา ท้ายที่สุดปีศาจทั้งหมดกลับคืนสู่สภาพเดิม
กู่ฉิงซานหันมาพาซูเสวี่ยเอ้อร์เดินไปทางฝั่งของหลานซิ่ว
“ไม่ได้เจอกันนานนะ” กู่ฉิงซานประสานมือ
หลานซิ่วหรี่ตาแล้วกล่าวว่า “เจ้าคือ…”
“ทำไมข้าถึงมองไม่เห็นแม่ทัพผีใหญ่กับราชาอสุรากันนะ จะว่าไป ดาบของข้าสามารถต้านทานกระแสของเวลาได้” กู่ฉิงซานกล่าว
สีหน้าของหลานซิ่วพลันสดใสขึ้นมา
“หืม ทำไมเจ้าถึงเปลี่ยนไปล่ะ” เขาถามอย่างกระตือรือร้น
“เรื่องมันยาวน่ะ สาเหตุหลักก็เพื่อความปลอดภัย” กู่ฉิงซานตอบ
“ฮ่าๆ ข้ามอบเหรียญให้เพื่อเดินทางมาถึงอาณาจักรได้ แต่ข้าไม่เคยเห็นเจ้าใช้เลย”
“มีหลายสิ่งมากเกินไป ภายหลังข้าหาวิธีเดินทางพิเศษมาได้ แต่ดูเหมือนเจ้าจะเดินทางไปส่วนลึกของพื้นที่แปลกประหลาด”
กู่ฉิงซานเคยร่วมมือกับหลานซิ่วเพื่อตามหาเจ้าหญิง หลานซิ่วเคยเห็นกระบวนการนำทัพคนตายแห่งยมโลกของกู่ฉิงซานเพื่อขัดขืนปีศาจ นอกจากนี้เขายังมอบไม้เท้าราชาภูตผีจองจำให้กู่ฉิงซานอีกด้วย ทั้งสองต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่และสนทนาเป็นครั้งคราว นับว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมทีเดียว
“เจ้าเคยเห็นคนสวมหน้ากากเมื่อครู่หรือเปล่า” หลานซิ่วถาม
“อืม พวกเขาคือคนจากโลกคู่ขนาน” กู่ฉิงซานตอบ
โลกคู่ขนานหรือ
คำตอบนี้ทำให้ทุกคนที่ยังอยู่ตกตะลึง
คนเหล่านั้นเข้ามารุมล้อมเพื่ออยากฟังข้อมูลของกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานไม่ใส่ใจมากนักขณะพูดถึงการเป็นพันธมิตรระหว่างโลกคู่ขนานและความโกลาหล
ที่จริง หลายคนรู้เรื่องนี้ ยังไงเสีย ตอนวิญญาณกรีดร้องอัญเชิญกองทัพโกลาหลมา ทั่วโลกเก้าร้อยล้านชั้นตกตะลึง ผู้คนต่างสนใจที่จะสอบถามข้อมูลจนสามารถเข้าใจได้หมดสิ้น
หลานซิ่วครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวด้วยใบหน้าจริงจังว่า “เจ้ากับข้าเสียพละกำลังไป ตอนนี้ข้าสามารถใช้ได้เพียงหนึ่งความสามารถเท่านั้น ข้าแนะนำว่าพวกเราควรร่วมมือกัน”
กู่ฉิงซานชื่นชม “ข้าก็ตั้งใจไว้แบบนี้ ยังไงซะ ในสถานการณ์แบบนี้ เป็นการยากมากที่ผู้คนจะเผชิญหน้ากับสองกองกำลังที่ทรงพลังได้”
ภูตผีแดนชำระเข้ามาเช่นกันแล้วกล่าวว่า “เชื่อมือข้าได้เลย”
กู่ฉิงซานและหลานซิ่วมองมัน
ภูตผีแดนชำระกล่าวว่า “พวกเจ้าล้วนเป็นคนแข็งแกร่งมาก แต่ข้าก็ไม่ต่างกัน พวกเราร่วมมือกันจะได้ไม่ต้องกลัวพันธมิตรอะไรนั่นแล้วก็ลอบโจมตีคนพวกนั้น”
ผู้ชายหาญกล้าที่มีเปลวเพลิงก้าวเข้ามา มองกู่ฉิงซานแล้วกล่าวว่า “ข้าเองก็เหมือนกัน… ข่าวที่เจ้าพูดมานั้นเหมือนกับข้อมูลที่ข้าได้มาเลย ข้ารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีแล้วสิ”
กู่ฉิงซานมองคนเหล่านี้
หลานซิ่วคือราชา แน่นอนว่ามีกลุ่มคนที่ติดตามเขา ภูตผีแดนชำระก็มีปีศาจเป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ชายที่มีเปลวเพลิง เขามาพร้อมกับกำลังคนจำนวนมากเช่นกัน
มีเพียงเขาที่ตัวคนเดียว
ไม่ เขายังมีซูเสวี่ยเอ้อร์
“ถ้างั้นสร้างพันธมิตรกัน… มีใครยังอยากเข้าร่วมกับพวกเราหรือเปล่า” หลานซิ่วถามเสียงดัง
ท่ามกลางผู้ชมคนอื่น ใครบางคนถามว่า “จะแบ่งสมบัติกันยังไง?”
“สมบัติหรือ” ผู้ชายที่มีเปลวเพลิงเย้ยหยัน “เวลาอยู่ในกลุ่มคนอื่น หากอยากมีชีวิตรอดก็ต้องคุยกันตรงๆ อย่ามาทำตัวไร้วิสัยทัศน์”
หลานซิ่วกล่าวว่า “ทุกคนสามารถแบ่งสมบัติที่หาเจอได้ พูดง่ายๆ พวกเราต้องมั่นใจในความปลอดภัยของแต่ละคนก่อน”
คนเหล่านั้นส่ายหน้าก่อนหันหลังแล้วเดินเข้าเส้นทางลับ
ทุกคนไร้สีหน้า ยังไงเสีย ทุกคนก็มีทางเลือกเป็นของตัวเอง
หลานซิ่วดีดนิ้ว
ผู้ใช้ไพ่จั่วไพ่มาจากด้านหลังทันที
ไพ่สัญญา
“ช่างเป็นความคิดที่ดี แม้กระทั่งสัญญาก็ต้องมีใครบางคนเตรียมเอาไว้โดยเฉพาะ” กู่ฉิงซานถอนหายใจ
เขารับไพ่สัญญามาดู
บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม ข้อมูลของไพ่สัญญาแสดงขึ้นมาทันที
“ราชาแห่งสัญญา นี่คือไพ่สัญญาที่มีวิญญาณ มันคือบรรพบุรุษของทุกสัญญาและมีพลังสัญญาที่แข็งแกร่งที่สุด”
“หากจะมีสัญญาใดในโลกที่ไม่มีทางบิดพลิ้วก็ต้องเป็นสิ่งนี้”
กู่ฉิงซานโล่งอก
ดูท่าจะเป็นไพ่สัญญาที่เข้มงวดมาก ไม่น่ามีปัญหาอะไร
หลานซิ่วกล่าวว่า “ไม่มีทางเลือกแล้ว เจ้าต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกไป ไม่ว่าจะกรณีไหน เจ้าก็ยังต้องพึ่งความช่วยเหลือจากสหาย แบบนี้ถึงจะสามารถช่วยได้หลายอย่าง”
กู่ฉิงซานส่งไพ่สัญญาให้เขาแล้วถามว่า “เจ้ามีไพ่รักษาหรือเปล่า”
หลานซิ่วมองซูเสวี่ยเอ้อร์ก่อนจะเข้าใจทันที
เขากล่าวกับผู้ใช้ไพ่อีกคนที่อยู่ด้านหลังว่า “รักษานาง”
“ขอรับนายท่าน”
ผู้ใช้ไพ่ก้าวมาข้างหน้าสองก้าว จั่วไพ่สีเขียวออกมาแล้วเริ่มรักษาบาดแผลของซูเสวี่ยเอ้อร์
ผ่านไปสักพัก คิ้ววิลโลว์ที่ขมวดของซูเสวี่ยเอ้อร์ค่อยๆ คลายออก
“ไม่เจ็บแล้วล่ะ” ซูเสวี่ยเอ้อร์กล่าวกับกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานยิ้มขณะประสานมือจากใจจริงแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณ นายท่าน”
หลานซิ่วกล่าวว่า “เจ้าไม่ต้องสุภาพหรอก… เจ้าเรียกข้าว่าหลานก็ได้ ตอนเจ้าช่วยข้าตามหาเจ้าหญิง ข้าไม่ได้ทำตัวสุภาพกับเจ้าเลย”
ตอนนี้ เสียงจักรกลอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นในหูของกู่ฉิงซานอย่างเงียบงัน
“ท่านกู่ฉิงซาน บาดแผลของซูเสวี่ยเอ้อร์กำลังจะหายดี พิจารณาจากข้อมูลการต่อสู้ของระบบแล้ว หากปล่อยให้นางตามไปด้วย ท่านจะต้องใช้เวลาในการดูแลนางเพิ่มขึ้น”
“อีกอย่าง ดูเหมือนนางจะไม่ชอบต่อสู้ ออกจะเกลียดการต่อสู้มากกว่า”
“ถ้าเป็นห่วงนาง โปรดให้นางได้พักผ่อนก่อน”
“ทำแบบนั้นจะได้ไม่ต้องห่วงชีวิตนาง”
กู่ฉิงซานได้ฟังดังนี้จึงก้าวมาข้างหน้าก่อนถามซูเสวี่ยเอ้อร์ว่า “เจ้าจะไปกับข้าสักพักหรือจะพักผ่อนอยู่ที่นี่ก่อน”
ซูเสวี่ยเอ้อร์ตอบอย่างไม่ลังเลว่า “แน่นอนว่าต้องไปกับเจ้า”
กู่ฉิงซานหยุดถาม
เสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ส่งเสียงอีก แต่ดูเหมือนจะมีใครบางคนกำลังกัดฟันอยู่ในความว่างเปล่า
“ทุกคนสัญญาพร้อมแล้ว”
หลานซิ่วถือไพ่เอาไว้ก่อนเปลี่ยนเป็นคัมภีร์สัญญาแล้วกล่าวกับทุกคนว่า
ผู้นำหลายคนมารวมกัน
“นี่คือสัญญาที่เข้มงวดที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ใครก็ตามที่ละเมิดจะมีจุดจบด้วยการถูกทำลายวิญญาณ”
ทุกคนส่งต่อเนื้อหาสัญญา ไม่มีใครคัดค้าน
“ข้าหวังว่าทุกคนจะสามารถร่วมแรงกันเพื่อความอยู่รอดในการสำรวจภายภาคหน้า” หลานซิ่วกล่าว
เขาวางมือบนสัญญาก่อน
ข้อมูลเกี่ยวกับเขาถูกเปิดเผยในสัญญาทันที
“ราชาแห่งจักรวรรดิเทียนหลาน ผู้ปกครองสำหรับอัญมณี เจ้าของหนึ่งในห้าอาณาจักรของพื้นที่แปลกประหลาด หลานซิ่ว ลงนามสัญญาเป็นพันธมิตรเรียบร้อย”
ผู้ชายที่มีเปลวเพลิงวางมือบนสัญญาเช่นกัน
ข้อมูลของเขาปรากฏขึ้นในสัญญาเช่นกัน
“จ้าวแห่งช่องแคบเปลวเพลิง ผู้สืบทอดหมัดเปลวเพลิงลับ ยอดฝีมือแห่งลาวา กู่เหยียนลงนามสัญญาเป็นพันธมิตรเรียบร้อย”
ปีศาจแดนชำระหัวเราะแล้วกล่าวว่า “กลายเป็นว่าพวกเขาล้วนเป็นคนที่มีสถานะ”
ซูเสวี่ยเอ้อร์เงียบ จากนั้นพลันขัดว่า “ที่จริง มันไม่สำคัญว่ามีสถานะแบบไหน สิ่งสำคัญคือพละกำลังต่างหาก”
คนเหล่านี้ครอบครองพลังยิ่งใหญ่ แถมกู่ฉิงซานเตร็ดเตร่ไปทั่วโลก นางกังวลว่ากู่ฉิงซานจะอับอายเล็กน้อยเพราะสถานะตัวเอง
ปีศาจแดนชำระส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “สถานะสามารถอธิบายพละกำลังของผู้คนได้ อย่างเช่นข้า…”
“เจ้าหรือ” ซูเสวี่ยเอ้อร์ถามอย่างแปลกประหลาด
กู่ฉิงซานขยิบตาให้นางอย่างรวดเร็ว แต่มันสายเกินไปแล้ว
ดังคาด ปีศาจแดนชำระเริ่มพูดจาฉะฉานออกมา “ใช่ ยกตัวอย่างเช่นข้านี่แหละ ตอนข้ายังเด็ก ข้าเป็นปีศาจยาจกไร้ค่า เพราะสิ้นเปลืองวัตถุดิบเกินไป ข้าจึงถูกปีศาจตนอื่นผลักตกหน้าผา ข้าตกลงมาในถ้ำ ข้างในนั้นมีมังกรแห่งความว่างเปล่าที่กำลังจะตาย มันส่งต่อความลับทั้งหมดให้กับข้า บอกเล่าถึงสงครามยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งร้อยล้านปีก่อน บอกเล่าถึงสถานที่นี้ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงสามารถกลายเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนชำระได้ในเวลาอันสั้น ปกครองแดนชำระทั้งหมด มีปฏิสัมพันธ์กับอาณาจักรปีศาจและภูตผีมากมาย สามารถเรียกลมฝนได้… สถานะสามารถแสดงถึงตัวตนของผู้คนได้ รวมถึงพละกำลังที่แท้จริงด้วย”
ทุกคนพูดไม่ออก
กู่ฉิงซานยื่นหน้ามาที่หูของซูเสวี่ยเอ้อร์แล้วกระซิบอย่างแผ่วเบาว่า “พูดเก่งดี”
ซูเสวี่ยเอ้อร์ปิดปากก่อนหยุดพูดกับปีศาจอีก
เมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบ ปีศาจแดนชำระคิดว่าประสบการณ์ของตัวเองทำให้ทุกคนหวาดกลัว เขาจึงวางมือบนสัญญาอย่างมีชัย
ข้อมูลเกี่ยวกับมันพลันปรากฏบนสัญญา
“มหาปีศาจแดนชำระ ฉ่าเฉียง ลงนามสัญญาเป็นพันธมิตรเรียบร้อย”
ทั่วจัตุรัสเงียบ
ปีศาจนามว่าฉ่าเฉียงตกตะลึงจนอดที่จะตะโกนออกมาไม่ได้ว่า “เกิดอะไรขึ้น ข้าทำหลายสิ่งมาตั้งมากมาย ทำไมถึงไม่มีฉายาที่ชวนให้สั่นสะท้านล่ะ!”
คลื่นรุนแรงก่อตัวขึ้นจากมัน
ทว่าพลังของทุกคนที่อยู่ที่นี่ถูกผนึกเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถใช้กลิ่นอายอะไรได้
………………………………….