webnovel

0999 เอาคืนให้สาสม

ตอนที่ 999 เอาคืนให้สาสม

สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ การตระหนักรู้ทางวิญญาณสามารถช่วยให้พวกเขาเห็นความตายของตัวเองได้เป็นครั้งคราวในช่วงเวลาหลายปี

แต่การตระหนักรู้ทางวิญญาณใช่ว่าจะใช้ได้ผลเสมอ

ดังนั้นเมื่อกลุ่มแสงสีเทาเดินทางผ่านชั้นโลกนับไม่ถ้วนเพื่อตรงมาหายานอวกาศราชินีหนาม กู่ฉิงซานจึงไม่รู้ตัว

เขาจมดิ่งอยู่ในสภาพความยินดียิ่ง จมดิ่งสู่ประสบการณ์ความงามของวิชาดาบนั่น

วิชาดาบของเขากำลังพัฒนา

แต่โชคยังดี

ดาบยาวสี่เล่มบนร่างของเขาล้วนมีวิญญาณดาบ

ในบรรดาพวกมัน มีวิญญาณดาบที่ชื่อฉานนู่

แสงสีเทามาอย่างปุบปับ ทันทีที่ปรากฏตัว มันก็อยู่เหนือยานอวกาศแล้ว

เย่เฟยหลีเพิ่งจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

จางหยิงห่าวกำลังสื่อสารกับแมวสีดำ

เหล่าต้าวางเครื่องดื่มพลังวิญญาณกระป๋องสุดท้ายพร้อมกับรอยยิ้มและกำลังจะล้มตัวลงนอนอย่างสบายอารมณ์

เหล่าต้าเป็นเพียงคนเดียวที่สังเกตเห็นแสงสีเทา

ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีก่อนกระโดดขึ้นจากชั้นดาดฟ้าแล้วตะโกนว่า “กู่ฉิงซาน!”

กู่ฉิงซานหลงลืมจนสิ้น ไม่ตอบสนองใดๆ

ดาบยาวที่อยู่ด้านหลังของเขาปรากฏขึ้นมาเอง

แต่มีเพียงสามเล่มเท่านั้น เพราะดาบศักดิ์สิทธิ์ยังหลับใหลอยู่ มันจะไม่ขยับหากไม่มีการขับเคลื่อนของกู่ฉิงซาน

ดาบคลื่นเสียงพุ่งขึ้นท้องนภาก่อน

ในเวลาเดียวกัน

ฉานนู่พลันปรากฏขึ้น ในมือข้างหนึ่งถือดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพ

ตอนนี้ฉานนู่ใช้ความลึกลับของทุกชีวิตเพื่อกลายเป็นมนุษย์เพศหญิง ดังนั้นนางจึงสามารถถือดาบเอาไว้ได้

กู่ฉิงซานแข็งแกร่งเทียบเท่ากับฉานนู่ แต่ความแตกต่างระหว่างนางกับกู่ฉิงซานคือกู่ฉิงซานต้องการพลังวิญญาณเพื่อใช้วิชาดาบ แต่นางไม่ต้องใช้

นางสามารถหยิบยืมพลังของยอดเขาเหล็กกล้าในยมโลกได้

ยอดเขาเหล็กกล้าไม่เพียงปกป้องยมโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้พิทักษ์ขุนเขาทั้งหกภพด้วย มันสามารถขัดขืนสายลมแห่งความโกลาหลได้ แม้กระทั่งหอกหลากสีสันก็ไม่สามารถทำร้ายได้

“ฝันไปเถอะ!”

นางคำรามก่อนไล่อีกฝ่าย

ตอนนี้ มีเสียงดังสนั่นมาจากท้องนภา

ตัง!

แสงสีเทากระแทกเข้าใส่ดาบคลื่นเสียงก่อนกระเด็นออกมาทันที

ความเร็วของแสงสีเทาไม่ได้ลดลง มันพุ่งตรงเข้าสู่ส่วนศีรษะของกู่ฉิงซาน

ฉานนู่ถือดาบไว้สองเล่ม

ก่อนเข้าปะทะกับแสงสีเทา!

ดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพวูบไหว

ฉัวะ!

แสงสีเทาพลันแยกออก

“ไม่!”

เห็นได้ชัดว่าฟันโดนแสงสีเทา แต่ฉานนู่กลับตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวัง

นี่คือวิชาการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดเจตจำนงความโกลาหล ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตจากความโกลาหล

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวกว่านั้น

ภายใต้การฟันของฉานนู่ มันแยกออกเป็นสองกลุ่มเท่านั้น ไม่ได้ถูกกำจัดแต่อย่างใด

แสงสีเทาสองกลุ่มพุ่งผ่านฉานนู่เพื่อเข้าหาผู้ที่อยู่ข้างหลังนาง

เพียงชั่วพริบตา ฉานนู่เริ่มทำการสลับตำแหน่งอย่างเด็ดขาด

นางสลับตำแหน่งตัวเองกับกู่ฉิงซาน

จังหวะนี้นางทำได้เพียงแค่นี้เท่านั้น

แสงสีเทาสองสายข้ามดาบยาวไปแล้ว สายหนึ่งโจมตีด้านหน้านาง อีกสายโจมตีที่หัวใจนาง!

ตอนนี้ฉานนู่อยู่ในร่างมนุษย์ ไม่ใช่วิญญาณดาบ

นางจะตายหากถูกเล่นงานด้วยการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์

ฉานนู่รู้เรื่องนี้เช่นกัน

“หึ อย่ามาแตะต้องนายท่านนะ!”

นางคิดขณะดวงตาแดงก่ำ

วินาทีต่อมา

กู่ฉิงซานที่อยู่กลางอากาศลืมตาขึ้น

ฉานนู่พลันหายไป

กู่ฉิงซานปรากฏตัวในที่ที่นางยืนอยู่ขณะถือดาบไว้ตรงหน้าอกของตัวเอง

ด้านหลังเขา เหล่าต้าถือหนังสือไว้ในมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างยกขึ้นเพื่อคว้ากลุ่มแสงสีเทาเอาไว้

ตูม!!!

แสงสีเทาขนาดใหญ่ทะลวงออกจากยานอวกาศราชินีหนาม ก่อตัวเป็นลำแสงขนาดใหญ่ในวังวนความว่างเปล่า

ลำแสงค่อยๆ หายไป

กู่ฉิงซานและเหล่าต้าปรากฏตัวขึ้น

กู่ฉิงซานกระอักโลหิตออกมา สายตาเหลือบมองพลังวิญญาณที่ใช้ไป

การลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์นี้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนชัดเจน แต่เขายังต้องใช้พลังวิญญาณห้าแสนแต้มเพื่อใช้ “การตัดสินใจของพิภพ” ในการต้านทานการโจมตีซึ่งๆ หน้า

ทว่าเพราะอยู่ใกล้กับการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์มากเกินไป เขายังได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ดี

กู่ฉิงซานเช็ดโลหิตออกจากมุมปากก่อนถามว่า “เจ้าเป็นยังไงบ้าง”

ด้านหลังเขา แสงสีเทาหายไปแล้ว

เหล่าต้ายังคงยกมือยื้อกับแสงสีเทาจนไม่ขยับไปไหน

“หึ ถ้าข้าอยู่ในสภาพพร้อม แค่กะพริบตาเดียวก็รับมือการโจมตีแบบนี้ได้แล้ว”

เหล่าต้ากล่าวด้วยความเหยียดหยัน

หลังพูดจบ เขาล้มลงทันที

อีกด้าน

ดวงตาของวิญญาณกรีดร้องขยับเล็กน้อย ทะลวงผ่านโลกนับไม่ถ้วนก่อนจับจ้องมาที่เหล้าต้า

“เป็นท่านสินะ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงขัดขืนการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ พวกมันอยู่ด้วยกันนี่เอง” เสียงผู้ชายกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด

เสียงผู้หญิงหัวเราะคิกคัก “จะเอาแบบนี้ก็ได้ เมื่อไหร่ที่ไล่ตามทัน ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมดในคราวเดียวเอง”

วิญญาณกรีดร้องขยับร่างกายก่อนเริ่มเร่งความเร็วไปในวังวนความว่างเปล่า

ต่อให้ต้องอ้อมไปไกล มันก็มั่นใจว่าสามารถไล่ตามอีกฝ่ายทันได้

เพราะมันสัมผัสได้ว่าพละกำลังตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันกำลังพัฒนาเข้าสู่ระดับตำนานอย่างมั่นคง

เมื่อกู่ฉิงซานรีบหันไปตรวจสอบสภาพของเหล่าต้า เขาพบว่าอีกฝ่ายแน่นิ่งอยู่กับพื้น ขยับไปไหนไม่ได้

“อาการเจ้าแย่แค่ไหน หมดสติไปแล้ว เฟยหลี เอาเครื่องดื่มมา!”

“มาแล้ว!”

เย่เฟยหลีหอบหายใจขณะเดินขึ้นมาชั้นดาดฟ้าอย่างทุลักทุเลเพื่อส่งกระป๋องเครื่องดื่มพลังวิญญาณให้

ตอนนี้ จางหยิงห่าววิ่งเข้ามาพร้อมกับแมวสีดำเช่นกัน

ทั้งสามร่วมแรงกัน คนหนึ่งช่วยพยุงเหล่าต้า อีกคนช่วยอ้าปากเหล่าต้า อีกคนเทเครื่องดื่มพลังวิญญาณเข้าไป

เหล่าต้ากระอักโลหิตสีดำออกมาก่อนลืมตาขึ้นช้า ๆ

“เจ้าเป็นยังไงบ้าง” กู่ฉิงซานถาม

เหล่าต้าแข็งทื่อจนไม่สามารถขยับได้ แม้แต่พูดก็ไม่ได้เช่นกัน

หนังสือในมือของเขาลอยขึ้น

หนังสือเปิดออกเอง เผยแถวตัวอักษรขนาดเล็กให้เห็น

“นี่คือเศษเสี้ยวความโกลาหลและการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ แต่ตอนนี้ข้าเสียพละกำลังไปจนไม่สามารถหยุดมันได้อย่างสมบูรณ์”

กู่ฉิงซานถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “บาดแผลของเจ้าเพิ่งหายดีเอง ตอนนี้กลับมาแย่เหมือนเดิมอีก”

“นายท่าน”

ฉานนู่เคลื่อนลงมา

กู่ฉิงซานพยักหน้าก่อนกล่าวขอโทษว่า “ข้าขอโทษด้วย ทำให้เจ้าเป็นห่วงจนได้”

“ไม่สำคัญหรอก สิ่งสำคัญที่สุดคือนายท่านปลอดภัยก็พอแล้ว” ฉานนู่กล่าวด้วยความหวาดกลัว

จางหยิงห่าวมองเหล่าต้าด้วยสีหน้าไม่สู้ดี

“อีกการโจมตีที่ข้ามผ่านโลกนับพันมางั้นหรือ” เขาถาม

“ใช่ แต่ครั้งนี้พลังน่าสะพรึงยิ่งกว่า” กู่ฉิงซานตอบ

หลายคนมองยานอวกาศราชินีหนามพร้อมกัน

ยานอวกาศระเบิด ทำให้ครั้งนี้เสียพลังงานจนถูกผลักให้เคลื่อนที่ช้าๆ ด้วยสายลมในวังวนความว่างเปล่า

ยานอวกาศราชินีหนามไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อีกต่อไป

ลอร่าให้กำลังใจทุกคน “อย่าห่วงเรื่องยานอวกาศไปเลย ข้าพายานอวกาศมากับตัวอีกห้าพันแปดร้อยเก้าสิบเอ็ดลำ”

เย่เฟยหลีอดที่จะกล่าวไม่ได้ว่า “ต่อให้เรื่องยานอวกาศจะไม่เป็นไร แต่ก็หาทางป้องกันการโจมตีแบบนั้นไม่ได้ ข้าคิดว่าพวกเราต้องหามาตรการตอบโต้บ้างแล้วล่ะ”

“ครั้งแรกคือวิญญาณชั่วร้ายแห่งความโกลาหล ครั้งที่สองคือพลังบริสุทธิ์ ใครจะรู้ล่ะว่ามันจะส่งการโจมตีแบบไหนมาอีกเมื่อวิญญาณกรีดร้องแข็งแกร่งขึ้น” จางหยิงห่าวกล่าว

กู่ฉิงซานพยักหน้าเช่นกันก่อนกล่าวว่า “ใช่ ถ้าไม่มีมาตรการตอบโต้ก็จะสนใจเรื่องการตามหาเทพวารีไม่ได้”

ทุกคนเงียบ

ด้วยชั้นของโลกมากมาย จะมีมาตรการตอบโต้จริงหรือ

เกรงว่าทั่วทั้งโลกเก้าร้อยล้านชั้น มีเพียงวิญญาณกรีดร้องที่ครอบครองพลังอันน่าสะพรึงเช่นนี้

ตอนนี้ หนังสือของเหล่าต้าสั่นไหว แถวข้อความหลายแถวปรากฏขึ้นมา

“ข้าคาดไว้แล้วว่าวิญญาณกรีดร้องอยากแข็งแกร่งขึ้นจนถึงขั้นต่อไปซึ่งใช้เวลาอีกหนึ่งวันครึ่ง”

“การโจมตีครั้งต่อไปจะขัดขืนได้ยากมากขึ้น”

“คิดหาทางแก้เสีย”

หลังจากแสดงข้อความสองสามแถว หนังสือตกลงมาอยู่กับเหล่าต้า

“หนึ่งวันครึ่งหรือ?”

กู่ฉิงซานมองแมวสีดำบนไหล่ของจางหยิงห่าวก่อนถามอย่างแผ่วเบาว่า “พวกเราอยู่ไกลจากเทพวารีมากแค่ไหน”

แมวสีดำยื่นอุ้งเท้าออกมาก่อนตอบว่า “เหมียว ๆ เหมียว ๆๆ !”

จางหยิงห่าวแปลให้ “มันบอกว่าการเดินทางยาวนานนัก ต้องใช้เวลาอย่างต่ำห้าวัน”

หลังจากพูดจบ ทุกคนตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

แม้แต่ลอร่าก็ไม่สามารถหาคำพูดมาปลุกใจได้อีกครั้ง

การลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์นั่น…แข็งแกร่งเกินไป

ถ้าการโจมตีของอีกฝ่ายรุนแรงมากขึ้น ยานทั้งลำอาจจะระเบิดจนคร่าชีวิตผู้คนไปด้วย

ตอนนี้กู่ฉิงซานพลันหันศีรษะมาถามความว่างเปล่าที่อยู่ด้านข้างว่า

“มีคำถามอะไรไหม”

ทุกคนหันมามองเขา แต่กลับไม่เห็นอะไร

เกิดอะไรขึ้น

กู่ฉิงซานกำลังคุยอยู่กับใคร

ทุกคนสงสัย แต่พวกเขากลับได้ยินเสียงตอบรับอย่างมีชัยในความว่างเปล่า

“ฟิ่ว ฟิ่ว!”

กู่ฉิงซานพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ต้องเอาคืนให้สาสม ให้มันได้ลิ้มรสการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองบ้าง”

“ฟิ่ว!”

หลังจากนั้น พลังโกลาหลอันยิ่งใหญ่และโอ่อ่าปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า ก่อตัวเป็นแสงสีเทาแห่งการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ขนาดยักษ์

“ระวัง!” จางหยิงห่าวตะโกน

“มีอะไรหรือ” เย่เฟยหลีตั้งท่าป้องกัน

“นั่นมันการโจมตีเมื่อครู่ไม่ใช่หรือ” ลอร่ากรีดร้อง

เหล่าต้ามองแสงสีเทาเงียบๆ ดวงตาเบิกกว้าง

ฮ่า

แสงสีเทาพุ่งขึ้นสู่ท้องนภา เคลื่อนผ่านโลกหลายร้อยใบก่อนระเบิดใส่ตำแหน่งที่วิญญาณกรีดร้องอยู่อย่างรุนแรง!

………………………………….