ตอนที่ 564 สายพันธุ์โบราณ
มอนสเตอร์ทะมึนคล้ายกับเนินเขาสูง ลอยขึ้นมากลางอากาศ ไล่ตามกู่ฉิงซานไปอย่างคล่องแคล่ว
ห่างออกไปจากกู่ฉิงซานไม่กี่ร้อยเมตร จู่ๆ มอนสเตอร์ก็หายวับไป
นี่มัน
ในหัวใจของกู่ฉิงซานตอบสนองฉับพลัน ย่นระยะเหลือเพียงหนึ่งนิ้วถูกใช้ออกอย่างทันท่วงที
หนึ่งคน หนึ่งมอนสเตอร์ วูบหายไปในเวลาเดียวกัน
เมื่อมอนสเตอร์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันก็มาถึงในจุดที่กู่ฉิงซานเคยอยู่
ทว่าแน่นอน มันยังคงมิอาจโจมตีกู่ฉิงซานได้
“ไอ้แมลงตัวจ้อยจากต่างโลก! เจ้าหนีเป็นอย่างเดียวรึไง?”
ใบหน้านับไม่ถ้วนที่ติดตามตัวของมอนสเตอร์หวีดคำรามเสียงดัง
แต่แล้ววจู่ๆ มวลมหาใบหน้าก็แสดงออกถึงความเจ็บปวดขึ้นทันใด
เพราะยังไม่ทันที่เสียงของพวกมันจะตกลง กู่ฉิงซานก็ปรากฏกายขึ้นเบื้องหลัง และจ้วง! แทงสองดาบทะลวงเข้าไปในกายทะมึนของมัน
“หนีซะที่ไหน ฉันแค่รอจังหวะเสียบตูดแกอยู่ต่างหาก”
ขณะกล่าว กู่ฉิงซานขับเคลื่อนพลังวิญญาณ กระตุ้นเทคนิคลับแห่งดาบในทันใด
ปัง
ภายใต้การทุ่มลงมือเต็มกำลังของเขา สองฝ่าวารีเชี่ยวพลันปะทุขึ้นในสถานที่เดียวกัน รังสีดาบหลอมรวมเป็นหนึ่ง ไหลบ่าภายในร่างกายของมอนสเตอร์
รังสีดาบอันไพศาลจับตัวกันเป็นกลุ่มหนาแน่น ก่อนจะระเบิดตูม! จากในกายทะมึนของเจ้ามอนสเตอร์
ร่างใหญ่เสียสมดุลอย่างกะทันหัน มอนสเตอร์ยักษ์ร่วงตกลงจากกลางอากาศ
มอนสเตอร์กรีดร้อง โหยหวนอย่างน่าสังเวช
อย่างไรก็ตาม มันไม่อาจตระหนักได้เลย ว่านี่เป็นเพี่ยงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!
ร่างของกู่ฉิงซานวูบไหวต่อเนื่อง สองดาบแปรผันเป็นภาพติดตา ทั้งสับทั้งหั่นลงตามตัวของมอนสเตอร์ อย่างไม่หยุดยั้ง!
ดาบของเขาว่องไวเกินไป ยิ่งฟันก็ยิ่งรวดเร็ว!
ในตอนที่มอนสเตอร์หวีดโหยหวนน่าสังเวชออกมา กู่ฉิงซานก็สับลงตามตัวมันไปกว่าสามสิบหกดาบแล้ว
ระเบิดเทคนิคลับแห่งดาบ ตามต่อด้วยการฟันต่อเนื่องกว่าสามสิบหกครั้ง ทุกสิ่งอย่างเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ส่งผลให้มอนสเตอร์ไม่ทันกระทั่งจะตอบสนอง
ช่วงเวลาเพียงหนึ่งลมหายใจ ตามตัวของมอนสเตอร์ก็ถูกสับๆ ไปหลายสิบแผลโดยสองดาบของกู่ฉิงซาน
หลังจากบรรลุกระบวนการทั้งหมดนี้ กู่ฉิงซานก็ล่าถอยออกมาพร้อมกับดาบของเขา
สองดาบบินหนึ่งคุ้มกันหน้า หนึ่งคุ้มกันหลัง คอยปกป้องตัวเขาอย่างระแวดระวัง
“ฮูมม?” ดาบเช่าหยินเปล่งเสียงถามด้วยความงุนงน
“อย่าเพิ่งได้ใจไป แรงกดดันของมันไม่ได้ลดลงเลย ตรงกันข้าม มันพุ่งสูงกว่าเดิมซะอีก เราถอยออกมาก่อนนับว่าถูกต้องแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าว
ขณะกล่าว เห็นแค่เพียงตามร่างกายของมอนสเตอร์ที่อยู่ในสภาพไม่สมประกอบ เริ่มขยุกขยิก บ้างยืดออก บ้างหดตัวเข้าอย่างบ้าคลั่ง
หนึ่งวินาทีต่อมา ตามตัวของมอนสเตอร์ก็เริ่มฟื้นฟูสภาพกลับเป็นดังเดิม
“ที่แท้ก็เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่ใช้อาวุธเย็นระยะประชิดเป็นเครื่องมือนี่เอง”
ใบหน้าทั้งหมดที่อยู่บนตัวของมอนสเตอร์ สาดมองมาทางกู่ฉิงซานด้วยความโกรธแค้น
ในหัวใจของกู่ฉิงซานเริ่มตื่นตัว ทั้งคนทั้งร่างเพิ่มความระมัดระวังขึ้นเล็กน้อย
ทั้งสกิลวาร์ป กลืนกิน แยกมิติ และฟื้นฟู แต่ละความสามารถที่มันครอบครองล้วนทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับอาวุธเย็น มอนสเตอร์ที่สามารถฟื้นฟูร่างกายตัวเองได้อย่างรวดเร็วนั้น นับว่าเป็นตัวปัญหาที่ค่อนข้างจะสังหารได้ยาก น่ารำคาญพอสมควรเลย
นอกจากนี้ มันยังมีสมอง สามารถตัดสินเอกลักษณ์ในการต่อสู้ของตัวเขาได้อีก
ไอ้มอนสเตอร์ตัวนี้ …
ขณะกู่ฉิงซานกำลังตริตรองเตรียมแผนรับมือ มอนสเตอร์ก็เป็นฝ่ายชิงเคลื่อนไหวก่อนอีกครั้ง
คราวนี้มันไม่ได้ใช้การเคลื่อนย้ายพริบตาหรือวาร์ป เพื่อเข้ามาใกล้เขาในทันที แต่กลับเลือกที่จะเป็นฝ่ายถอยห่างจากกู่ฉิงซานด้วยตนเองอย่างน่าฉงน
“ดาบของเจ้ามันว่องไวเกินไป ผู้คนมากมายคงตกตายด้วยคมดาบนี้ทั้งๆ ที่ยังมิทันได้ตอบสนอง แต่ข้านี่แหละ จะเป็นตนที่ทำให้เจ้าจมลงสู่ห้วงความสิ้นหวังเอง!” ใบหน้านับไม่ถ้วนบนร่างมอนสเตอร์เปล่งเสียงพร้อมกัน
ว่าจบ ทั้งตนทั้งร่างทะมึนก็เริ่มขยุกขยิกไปมาอย่างบ้าคลั่ง
ทุกสีหน้าตามตัวของมันเผยถึงร่องรอยของความเจ็บปวด
ใบหน้าที่ถูกเก็บสะสมเอาไว้ เริ่มผุด… แยกออกจากตามตัวของมัน
ห้าหน้า สิบหน้า ร้อยหน้า พันหน้าผุดออกมา …
ใบหน้านับร้อยนับพันผุดออกมาจากตัวของมอนสเตอร์ และโคจรไปรอบร่างทะมึนของมัน ฉากนี้ไม่แตกต่างไปจากดาบบินที่เวียนว่ายอยู่รอบตัวของกู่ฉิงซานเลย
แต่แล้วท่ามกลางใบหน้านับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นซึ่งเป็นใบหน้าของชายวัยกลางคนก็เริ่มแยกตัวออกมาจากกลุ่มอย่างช้าๆ
มันฉวัดเฉวียนไปในอากาศเล็กน้อย ก่อนจะวูบหัวหายไป และปรากฏขึ้นอีกครั้งตรงอีกจุดหนึ่งในมุมสูงบนท้องฟ้า
จากนั้นมันก็หายวับไปอีกครั้ง
นี่มันวาร์ปต่อเนื่องเหรอ?
คิ้วของกู่ฉิงซานขมวดเข้าหากัน ดาบที่กุมอยู่ในมือพลันจ้วงแทงออกไปเบื้องหน้า
และทันใดนั้นเอง ใบหน้าที่จู่ๆ ก็หายวับไป ก็ได้ปรากฏออกมาอีกครั้ง และมันก็ถูกแทงเข้าใส่โดยดาบพิภพพอดิบพอดี
ใบหน้าของชายวัยกลางคนกรีดร้อง
ขณะเดียวกันรังสีดาบก็เปล่งประกาย
และตลอดทั้งใบหน้านั่นก็แตกโผล๊ะ! กระจายเป็นผงลอยไปตามสายลมทันที
กู่ฉิงซานแม้สามารถระเบิดหัวฝ่ายตรงข้ามด้วยดาบเดียว แต่ในหัวใจของเขากลับไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย
‘ไอ้ใบหน้านี่…มันมีความคล่องแคล่วยิ่งกว่าเจ้ามอนสเตอร์คล้ายเนินเขาซะอีก’
เพราะขณะที่มอนสเตอร์ทะมึนสามารถวาร์ปได้ทีละครั้ง แต่ใบหน้าเมื่อครู่นี้มันกลับสามารถวาร์ปได้ถึงสองครั้งติดต่อกัน!
แล้วถ้าหากใบหน้าทั้งหมดที่ผุดออกมาสามารถทำแบบเดียวกันได้ละก็…
สายตาของกู่ฉิงซานเบนมองไปทางมอนสเตอร์ทะมึน
แล้วเขาก็พบว่า ใบหน้าที่เมื่อครู่โคจรอยู่รอบตัวมัน บัดนี้ทั้งหมดได้หายไปแล้วโดยสมบูรณ์
พวกมันสาดแสงกะพริบไหวครั้งหนึ่ง และผุดขึ้นอีกทีกลางอากาศ ย่นระยะใกล้เข้ามาหากู่ฉิงซาน
และในการกะพริบไหวครั้งที่สอง ใบหน้านับร้อยก็มาถึงตัวเขาได้ในที่สุด
ทั้งหมดบินโฉบไปมาจากทุกทิศทาง ปากอ้าเผยอเตรียมจะงับ! หมายจะฉีกกัดเนื้อสดๆ ของกู่ฉิงซาน
ในช่วงเวลาเดือดพล่าน สองดาบของกู่ฉิงซานก็ถูกใช้ออกด้วยเทคนิคลับพร้อมๆ กัน
เทคนิคลับแห่งดาบ วาดเงา!
เทคนิคลับแห่งดาบ วาดเงา!
สองวาดเงาเริ่มผลิบาน ร่างเงาดาบสีดำถูกเติมเต็มไปในอากาศ ทั้งฟาด ฟัน สับ จ้วง แทง ไปทั่วบริเวณโดยรอบอย่างไม่หยุดยั้ง
โผล๊ะ โผล๊ะ โผล๊ะ โผล๊ะ โผล๊ะ โผล๊ะ โผล๊ะ!
ใบหน้าทั้งหมดถูกหั่นเป็นชิ้นๆ เสียงหวีดร้องของพวกมันดังระงม แต่สุดท้ายก็หายไปในความว่างเปล่า
ร่างเงาดาบสีดำค่อยๆ กระจัดกระจายหายไป
ร่างของกู่ฉิงซานปรากฏขึ้นอีกครั้ง
เขายังคงกุมสองดาบในมือ จ้องมองไปยังมอนสเตอร์ทะมึนเบื้องล่าง
เห็นแค่เพียงตามตัวของมอนสเตอร์ ใบหน้าที่เพิ่งถูกทำลายไป ค่อยๆ ผุดขึ้นมาอีกครั้ง
ดวงตาของพวกมันจิกมองกู่ฉิงซาน ขณะเดียวกันปากก็เปล่งเสียงกระซิบ
“ปฏิกิริยาตอบสนองของเขารวดเร็วเกินไป”
“เพลงดาบก็ร้ายกาจมากเช่นกัน”
“พวกเราจะต้องเปลี่ยนวิธีการ มิเช่นนั้นคงไม่สามารถกัดกินเลือดเนื้อสดๆ ของเขาได้”
“ถ้าเช่นนั้นครั้งต่อไป ก็โจมตีด้วย ‘วิธีนั้น’ ก็แล้วกัน”
ระหว่างที่เหล่าใบหน้ากำลังสนทนาหารือกัน ใบหน้าอื่นๆ ก็เริ่มผุดออกมา ปกคลุมไปทั่วทั้งตัวของมอนสเตอร์อีกครั้ง
ใบหน้าทั้งหมดที่เพิ่งถูกตัดเป็นชิ้นๆ กลับมามีชีวิตอยู่บนร่างของมอนสเตอร์อีกครา
“สกิลฟื้นคืนชีพ? กระทั่งความสามารถนี้ก็ยังมีไว้ในครอบครองอย่างนั้นหรือ?”
กู่ฉิงซานบ่นพึมพำ
เขาเพ่งสำรวจไปทางศัตรู พยายามที่จะหาจุดอ่อนของอีกฝ่าย
ดูเหมือนว่าเขาคงจะโจมตีได้เฉพาะร่างหลักของมันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หวังว่าร่างหลักของมันจะไม่มีสกิลฟื้นคืนชีพเหมือนกับพวกใบหน้าเล็กๆ นั่นนะ
กู่ฉิงซานเพียงแค่คิด แต่กลับเห็นใบหน้าทั้งหมดทั้งมวลของมอนสเตอร์อ้าปากกว้างขึ้นพร้อมๆ กัน
“อ๊า”
ทั้งหมดระเบิดเสียงสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ
ภายใต้เสียงนี้ ทุกชนิดของสิ่งลวงตา ภาพมายาภาพแล้วภาพเล่าค่อยๆ ปรากฏขึ้น
ตลอดทั้งผืนฟ้าถูกเผาไหม้ หมื่นพันเผ่ามารผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ทั้งหมดทั้งมวลสาดสายตามายังกู่ฉิงซาน คล้ายกับว่ากำลังเฝ้ารอให้เขาร่วงตกลงมาอยู่
ขณะเดียวกันนั้นเอง ตามร่างของกู่ฉิงซานก็สาดแสงเจ็ดสีออกมาทันที
ท่ามกลางอากาศที่ว่างเปล่า บังเกิดทิวทัศน์ของฝนที่ตกชุก และหมู่มวลสรรพสัตว์นานาชนิดปรากฏขึ้น
นี่คือเทคนิคลับ ‘การปกปักของทวยเทพ’ ที่นักพรตเป่ยหยวนมอบให้แก่เขา เป็นรางวัลหลังจากที่ตนสามารถวางกลยุทธ์คว้าชัยชนะในสงครามครั้งแตกหักมาได้
ยามใดก็ตามที่จิตเทวะของกู่ฉิงซานถูกแทรกแซง เทคนิคลับนี้จะถูกกระตุ้นและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเพื่อขัดขวางการแทรกแซงทันที
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าคราวนี้พลังอำนาจของอีกฝ่ายดูจะแข็งแกร่งมากเกินไป
เพราะทันทีที่ร่างเงาของหกธรรมพิทักษ์ที่ในมือถือครองอาวุธต่างๆ ปรากฏกายขึ้น พวกเขาทั้งหมดก็สลายกลายเป็นฟองอากาศในพริบตา
หกธรรมพิทักษ์ไม่มีแม้กระทั่งเวลาจะได้ปกป้องกู่ฉิงซาน ทั้งหมดถูกทำลายลงโดยตรง!
กู่ฉิงซานรู้สึกเจ็บหัวแทบจะระเบิด แต่เขาก็ใช้พละกำลังที่มี ดึงสติตัวเองกลับมา
“แบบนี้ไม่ดีแล้ว!”
สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนกลับกลาย มือโฉบไปหยิบดิสก์ค่ายกลออกมาอย่างเร่งร้อน และเริ่มพรมลงจัดวางค่ายกลลงครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างรวดเร็ว
ในเสี้ยววินาที เสียงและภาพมายาเริ่มพร่ามัวกลายเป็นหมอกควัน และฉากอันน่าหวาดกลัวต่างๆ ก็ค่อยๆ จางหายไป
มวลมารที่เฝ้ามองกู่ฉิงซานจากพื้นดินทั้งหมดก็หายไปเช่นกัน
ในหัวใจของกู่ฉิงซานเริ่มตระหนักชัด
เมื่อครู่นี้… มันไม่ใช่แค่การโจมตีจิตเทวะ!
แต่มันเป็นสกิลผสาน ที่ยังมีความสามารถในการบังคับส่งเขาไปยังโลกอื่นได้อีกด้วย!
เมื่อครู่นี้ กู่ฉิงซานสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงการดำรงอยู่ของโลกใบนั้น...โลกที่เต็มไปด้วยเผ่ามารกำลังเฝ้ารอคอยเขาอยู่!
ครอบครองสกิลมากมายถึงเพียงนี้ ความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ทะมึนช่างน่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง!
ขณะที่กำลังขบคิด เห็นแค่เพียงตามตัวของมอนสเตอร์เริ่มกระสับกระส่ายอีกครั้ง คล้ายกับว่ากำลังเตรียมการที่จะระเบิดการโจมตีใหม่ในรอบต่อไป
ช่วงเวลานี้ บนตัวของมันจู่ๆ ก็มีสองแขนสีหมึกผุดออกมา
มอนสเตอร์เริ่มร่ายระบำทั้งแขนทั้งมือของมัน ปลดปล่อยกลิ่นอายอันมืดมิด
ความมืดฟุ้งกระจายไปทั่ว
ดูเหมือนว่ามอนสเตอร์ทะมึน กำลังจะเตรียมปลดปล่อยเทคนิคมนตราบางอย่าง
ดวงตาของกู่ฉิงซานกระตุกไหว
เขาจะไม่มีทางปล่อยให้มันโจมตีอีกครั้ง!
ทว่าเพียงแค่ยกดาบขึ้น แต่กลับเห็นถึงร่างๆ หนึ่งวูบผ่านกายตน พุ่งเข้าหามอนสเตอร์ทะมึนเสียก่อน
มันเป็นร่างของชายชราที่ทั้งตัวชุ่มไปด้วยเลือด
“หืม? ในเมืองนี้ยังมีคนที่รอดชีวิตหลงเหลืออยู่อีกหรือนี่?” มอนสเตอร์อุทานด้วยความประหลาดใจ
เห็นแค่เพียงชายชราที่ย่ำไปเบื้องหน้าเพียงไม่กี่ก้าว จู่ๆ ทั้งคนทั้งร่างของเขาก็ขยายใหญ่โตขึ้น
ตูม!
ชายชรากระแทกเข้าใส่มอนสเตอร์ทะมึน ส่งมันปลิวเคว้งไปในอากาศโดยตรง กวาดตึกปะการังมากมายที่ตั้งอยู่ของมันดีๆ พังทลายลงไปตลอดเส้นทาง
ความมืดมิดโดยรอบจางหายไปเทคนิคมนตราของมอนสเตอร์ถูกขัดจังหวะ
กู่ฉิงซานแข็งค้างไปโดยสมบูรณ์
เรพาะร่างของชายชราที่ขยายใหญ่ขึ้น…แท้จริงแล้วกลับกลายเป็นร่างของสายพันธุ์โบราณ! มันเหมือนกับร่างศพที่ของสัตว์โบราณที่เขาเห็นอยู่บนวิหารเบื้องบนไม่มีผิดเพี้ยนเลย!
สายพันธุ์โบราณนี้มีรูปลักษณ์ค่อนข้างคล้ายคลึงกับมนุษย์ แต่มันดูน่าเกลียดและน่ากลัวกว่ามนุษย์อยู่มาก
อย่างไรก็ตาม ด้วยการผสานรวมกันระหว่างความน่าเกลียดและน่ากลัวของมันนี้เอง ที่กลับส่งผลให้เกิดความรู้สึกเคร่งขรึมและน่าเทิดทูนแผ่ออกมาอย่างน่าฉงน
นี่หมายความว่า ผู้คนบนโลกใบนี้สามารถเปลี่ยนร่างเป็นสายพันธุ์โบราณได้ใช่หรือไม่?
ถ้าอย่างนั้น แล้วศพของสายพันธุ์โบราณที่เขาเคยเห็นมาก่อน ก็คือศพของผู้คนบนโลกใบนี้อย่างนั้นสิ?
ไม่นะ
มันไม่ถูกต้อง
คงไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเปลี่ยนเป็นสายพันธุ์โบราณได้
เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว มนุษย์มากมายในเมืองนี้ คงจะไม่มีทางถูกกวาดล้างโดยมอนสเตอร์ทะมึนตรงหน้าได้อย่างง่ายดายเป็นแน่
โอกาสเป็นไปได้ที่สุดก็คือ ‘คงจะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะมีความสามารถในการกลายร่างเช่นนี้ได้’
ในระหว่างนั้นเอง สายพันธุ์โบราณก็เงยหน้าขึ้น และมองมายังกู่ฉิงซาน
“การโจมตีเหล่านั้นของเจ้ามันไร้ประโยชน์ และการโจมตีของข้าก็เช่นกัน!”
สายพันธุ์โบราณตะโกนลั่น “แต่ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายธาตุสายฟ้าจากในตัวเจ้า มีเพียงสายฟ้าเท่านั้นจึงจะสามารถต่อกรกับมันไดั!”
…………………………………..........