webnovel

0340 ท้องทะเลของเช่าหยิน

ตอนที่ 340 ท้องทะเลของเช่าหยิน 

ซางหยิงฮ่าวกล่าวสนับสนุน “เข้าใจแล้ว ที่ต้องทำแบบนี้เพราะพวกเราคือ ‘คนเป็น’ อย่างนั้นสินะ เลยไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลอะไรจากทางฝั่งปรภพได้ยกเว้นจะได้รับรู้มันจากปากของ ‘คนตาย’” 

“ใช่ พวกเราจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับปรภพ” 

กู่ฉิงซานกล่าว แล้วหยิบเอาสมองควอนตัมของเขาออกมาติดต่อกับท่านประธานาธิบดี 

หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา 

หลายร้อยยานรบประจัญบานขนาดเล็กก็ได้ปรากฏขึ้นในบริเวณแห่งนี้ 

เมื่อนายทหารอาวุโสหลายได้มาถึง พวกเขาก็พบว่ากู่ฉิงซานและซางหยิงฮ่าวกำลังรออยู่ก่อนแล้ว 

“มิสเตอร์กู่ จริงอยู่ว่าพวกเราย่อมยินดีรับใช้คุณ แต่ก็ขอบอกตรงๆ ว่าพวกเราไม่ทราบจริงๆ ว่าจะช่วยคุณได้อย่างไร?” นายทหารเอ่ยสารภาพ 

เรื่องราวที่พึ่งเกิดข้นเมื่อเร็วๆ นี้ ได้แพร่กระจายออกไปแล้วตลอดทั้งรัฐบาลกลาง และทุกคนต่างก็รู้ว่ากู่ฉิงซานน่ะ เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก 

และยังเป็นมืออาชีพที่น่าขนพองสยองเกล้าเป็นอย่างยิ่ง 

“คุณจะให้พวกเราช่วยต่อสู้กับอสูรแห่งท้องทะเลใช่ไหม?” นายทหารอีกคนหนึ่งถาม 

“ไม่หรอก พวกคุณแค่จัดตั้งกระบวนทัพอยู่แนวหลังของผม ภายในยานรบก็พอแล้ว” 

“คุณคิดจะแสดงความแข็งแกร่งเพื่อข่มพวกมันไม่ให้ย่างกรายขึ้นมาบนบกอย่างนั้นหรือ?” หนึ่งในพันเอกกล่าวอย่างฉงน “แต่อสูรแห่งท้องทะเลมันโง่นะ พวกมันจะเข้าใจหรือเปล่า?” 

“ไม่หรอก เป้าหมายของพวกเราไม่ใช่อสูรแห่งท้องทะเล แต่เป็นชายที่แกร่งยิ่งกว่าพวกมันอยู่หลายขุมต่างหาก” 

“ถ้าอย่างนั้น รบกวนช่วยบอกการจัดวางกลยุทธ์ด้วย” 

“นั่นก็ไม่จำเป็นเหมือนกัน พวกคุณไม่ต้องลงมือหรอก” 

นายทหารคนอื่นๆ หันไปมองหน้ากันด้วยความตกใจ 

ไม่ต้องลงมือ? แล้วพวกเราจะมาที่นี่กันทำไม? ตกลงว่าเขาต้องการให้พวกเราทำอะไรกันแน่? 

กู่ฉิงซานพอเห็นท่าทีของอีกฝ่ายเขาก็ยิ้มและอธิบายว่า “มีพวกคุณอยู่ที่นี่ กระบวนทัพของพวกเราก็จะดูทรงอำนาจและใหญ่โต ผมต้องการแนวทัพขนาดใหญ่เพื่อทำการ ‘กระตุ้น’มัน” 

แล้วจากนั้นเหล่านายทหารถูกบังคับให้ย้อนกลับไปยังยานรบขนาดเล็กของตนเอง 

ตามทิศทางที่ถูกระบุโดยแมวดำ หลายร้อยยานรบประจัญบานขนาดเล็กเริ่มก่อกระบวนทัพ และเคลื่อนพลไปทางทะเลที่ถูกแช่แข็ง 

“เป็นอย่างไรบ้าง? ที่รัก?” ซางหยิงฮ่าวเอ่ยถามเบาๆ พลางลูบหัวเจ้าแมวดำ 

“หง่าว” มันตอบกลับ 

ซางหยิงหฮ่าวหันไปมองกู่ฉิงซานและกล่าว “มันบอกว่าตำแหน่งเป้าหมายอยู่ข้างล่างเรานี่แหละ” 

“โอเค กระจายคำสั่งออกไปยังทุกคน ว่าให้ทำการปิดล้อมน่านน้ำบริเวณนี้” กู่ฉิงซานกล่าว 

“รับทราบ ใต้เท้า” เทพธิดากงเจิ้งขานรับ 

บนจอม่านแสง ภาพของเรือรบขนาดเล็กทั้งหมดได้จัดตั้งกระบวนทัพ ตีวงเป็นทรงกลมล้อมทะเลน้ำแข็งเบื้องล่างอย่างเงียบๆ 

ในน้ำทะเล อสูรแห่งท้องทะเลหลายตัวมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเรือรบประจัญบาน และเริ่มพากันคำรามเสียงดังด้วยความโกรธที่ถูกรุกรานอาณาเขตตน 

แต่เรือรบประจัญบานอยู่ในตำแหน่งที่สูงเกินไป ดังนั้นพวกมันจึงไม่สามารถโจมตีได้ 

กู่ฉิงวางมือตบลงบนไหล่ของซางหยิงฮ่าว และขยับตัวไปข้างประตูรถ 

“ฉันจะรับหน้าที่ไปตามหาเขาเอง นายก็รับผิดชอบในการควบคุมกระบวนทัพแล้วกัน อ้อ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นนายสามารถติดต่อฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ” กู่ฉิงซานกล่าว 

แล้วประตูก็เปิดออก 

พร้อมกับร่างของกู่ฉิงซานทิ้งตัวลงไป ขณะเดียวกันก็ยื่นมือจีบออกด้วยวิชาลับ 

ดาบพิภพกลายเป็นกระแสแสง และหายวับไป 

บนท้องฟ้า บังเกิดเส้นแสงหงิกงอทั้งห้าฉีกตัดชั้นอากาศ พุ่งไปยังอสูรแห่งท้องทะเล ตัดผ่านพวกมันไปและตกลงบนผิวน้ำแข็ง 

เสียงคำรามของอสูรแห่งท้องทะเลหยุดกึกลงในทันใด 

ร่างกายใหญ่โตของมันฉีกกระจายเป็นชิ้นๆ และตกลงไปในทะเล ขณะเดียวกันผิวน้ำแข็งที่ถูกกระแทกก็บังเกิดรอยปริร้าวแตกลั่น 

บนกองน้ำแข็งขาว บังเกิดหลุมเลือดสีแดงปรากฏขึ้น 

ทว่าหลุมน้ำแข็งนี้คงอยู่ได้ไม่นานนัก ไอเย็นและน้ำแข็งค่อยๆขยายตัวเข้าปิดล้อมรูที่เปิดออกด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า 

แท้จริงแล้วกลับเห็นแค่เพียงกู่ฉิงซานที่ยืนอยู่บนท้องฟ้า ควบคุมดาบเวียนวนฉวัดเฉวียนไปมา ฆ่าสังหารอสูรแห่งท้องทะเลเบื้องล่างไม่หยุดหย่อน 

มีอสูรแห่งท้องทะเลมากมายอยู่รอบตัวเขา และเมื่อการดำรงอยู่ของกู่ฉิงซานถูกค้นพบ พวกมันทั้งหมดก็กระโจนเข้าหาเขาทันที 

ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าดาบพิภพอันคงกระพัน ศัตรูใดก็ล้วนมิอาจต่อกรกับมันได้ 

“ทุกคนตั้งใจฟังให้ดี สัตว์ประหลาดที่แท้จริงได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว!” ซางหยิงฮ่าวยกวิทยุสื่อสารขึ้นมาพูด 

และสีหน้าการแสดงออกของผู้คนบนยานรบหลายคนก็พลันเปลี่ยนไป กัปตันของแต่ละลำเริ่มเฝ้ามองดูอย่างตั้งใจ

 “เปิดจอแสดงผลสามร้อยหกสิบองศา! เพื่อเตรียมการต่อสู้รับมือกับศัตรูจากภายนอก!” พวกเขาเริ่มเอ่ยสั่ง 

ทุกคนหันไปมองรอบๆ อย่างจริงจัง 

“จำเอาไว้ให้ดี ว่าจงอยู่ห่างจากเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้เอาไว้ เพื่อที่พวกคุณจะได้ไม่รับบาดเจ็บหรือเกิดอุบัติเหตุใดๆ” ซางหยิงฮ่าวกล่าวอย่างจริงจัง 

“มิสเตอร์ซาง นั่นคุณกำลังพูดถึงสัตว์ประหลาดตัวไหนอยู่กัน?” นายทหารเอ่ยถามอย่างงงวย 

“ก็สัตว์ประหลาดที่ชื่อกู่ฉิงซานไง” 

“…” 

ทุกคนหันไปมองดู 

เห็นแค่เพียงกู่ฉิงซานที่ยืนอยู่กลางเวหา พร้อมด้วยกระแสแสงร่ายรำในอากาศรอบตัวเขา และมีบ้างเป็นครั้งคราวที่มันจะฉวัดเฉวียนออกไปสังหารอสูรแห่งท้องทะเล 

กระแสแสงนี้ช่างรุนแรงยิ่ง เพียงมันวูบผ่าน ก็สามารถเจาะหลุมลงบนตัวของอสูรแห่งท้องทะเลได้อย่างง่ายดาย 

ไม่มีอะไรที่สามารถหยุดยั้งหรือต้านทานกระแสแสงนี้ได้เลย 

อสูรแห่งท้องทะเลคำรามลั่น และพยายามฉวยโอกาสฝ่าวงล้อมช่วงเวลาที่ตัวอื่นถูกโจมตี ก้าวเข้ามาอยู่เบื้องหน้ากู่ฉิงซาน อ้าปากเตรียมที่จะขย้ำเขาได้ในที่สุด 

แต่ทางฝั่งกู่ฉิงซาน เขาเพียงแค่ตอบสนองโดยการขยับตัวเล็กน้อย ทั้งคนทั้งร่างก็ทะยานขึ้นมาอยู่ในมุมสูง หลบปากที่เต็มไปด้วยน้ำทะเลฟูฟ่องได้แล้ว 

แต่สำหรับอสูรแห่งท้องทะเลตัวนั้น มันบินไม่ได้ เลยอ้าปากนิ่งค้างไปทั้งๆ อย่างนั้น

วินาทีต่อมากระแสแสงก็พุ่งผ่านร่างของมันไป และอสูรทะเลตัวนั้นก็กลายเป็นศพทันที 

ในไม่ช้า อสูรแห่งท้องทะเลทั่วบริเวณนี้ก็ถูกล้างบางโดยเขาเพียงลำพัง 

จนหลงเหลืออยู่เพียงหนึ่งเท่านั้น 

มันคือมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ที่มีหัวเป็นปลาหมึก ขณะที่ตรงส่วนร่างกายนั้นมีรูปทรงคล้ายคลึงกันกับมนุษย์ 

กู่ฉิงซานโจมตีมันอยู่หลายครั้ง แต่อีกฝ่ายก็สามารถหลบเลี่ยงได้อยู่ร่ำไป 

“โครงกระดูกชุดคลุมดำ ผมมีบางสิ่งบางอย่างที่จะต้องการยืนยันกับคุณให้มันชัดเจน” กู่ฉิงซานกล่าว 

อสูรแห่งท้องทะเลลอยตัวขึ้นเหนือผิวน้ำพร้อมกับหนวดบนหัวที่ขยับขยุกขยิกตลอดเวลา ปากเอ่ยน้ำเสียงทุ้มต่ำออกมาทันใด “แต่ข้าไม่คิดจะตอบคำถามใดๆ แก่เจ้า” 

แต่เดิม แท้จริงแล้วอสูรแห่งท้องทะเลตัวนี้ก็คือ โครงกระดูกในชุดคลุมดำนั่นเอง 

จริงๆแล้วมันพยายามที่จะซ่อนตัวอยู่ในร่างกายของอสูรแห่งท้องทะเล! 

ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะถ้ามันอยู่ในร่างของอสูรทะเล ก็ย่อมสามารถหลบเลี่ยงสายตาขอมนุษย์ได้โดยง่าย 

กล่าวได้ว่าต่อให้มันทำอะไรผิดแผกไปบ้าง แต่ด้วยในสภาพของอสูรทะเล  พวกมนุษย์ย่อมที่จะไม่สามารถตระหนักหรือสังเกตถึงมันได้อย่างแน่นอน! 

กู่ฉิงซานเอ่ยถาม “พวกเราจะมาคุยกันดีๆ ไม่ได้เลยหรือ?” 

ปลาหมึกยักษ์ไม่ตอบกลับไป 

มันทุบทำลายพื้นผิวน้ำแข็งบางๆ ให้เปิดออก จากนั้นก็กระโจนทิ้งหัวตัวเองลงไปในทะเล แหวกว่ายจมลงสู่ก้นบึ้ง 

ท้องทะเลน่ะเป็นดินแดนของอสูรแห่งท้องทะเล 

ถ้าหากกู่ฉิงซานกล้าที่จะดำดิ่งลึกลงมา และคิดต่อสู้กับมัน มันก็คงหนีไปที่อื่นไม่ได้อีกแล้ว แต่ตรงกันข้าม ลึกๆ แล้วมันก็ปรารถนาเช่นนั้นอยู่เหมือนกัน 

เพราะอำนาจการทำลายล้างของอีกฝ่ายแกร่งมาก ทว่าหากลงดิ่งลึกลงไปยังใต้ทะเลลึกหลายหมื่นเมตรแล้วล่ะก็ ต่อให้เป็นตัวกู่ฉิงซานเอง ก็ย่อมไม่สามารถแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมาได้ 

โครงกระดูกชุดคลุมดำคิดเช่นนั้น ก็รีบเร่งดำลงไปทันที 

กู่ฉิงซานถอนหายใจและกำลังจะเคลื่อนกาย แต่ทันใดนั้นการกลับมีกระแสแสงพุ่งออกมาจากอีกฟากหนึ่งของน้ำทะเล บินขึ้นมาหยุดอยู่ข้างกู่ฉิงซานเสียก่อน 

มันคือดาบเช่าหยิน 

ด้ามจับดาบของเช่าหยินขยับซ้ายทีขวาทีอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่ามันจะส่งสัญญาณให้กู่ฉิงซานถือมัน 

กู่ฉิงซานเอื้อมมือออกไปคว้าตามคำขอ 

ไม่ต้องรีรอให้หน้าต่างระบบเทพสงครามเด้งแจ้งเตือน กู่ฉิงซานก็ถ่ายเทพลังวิญญาณลงไปบนดาบยาวทันที 

หลังจากที่ได้ใช้งานรูปแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง กู่ฉิงซานก็สัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของแต้มพลังวิญญาณ 

มันเป็นเหมือนกับพลังวิญญาณนั่นแหละ ที่ยิ่งใช้มากขึ้นเท่าไหร่ มีประสบการณ์ในการใช้งานมันมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วเขาก็จะยิ่งได้รับมันกลับมามากขึ้นเท่านั้น  

เมื่อพลังวิญญาณถูกส่งผ่านออกไป ชั้นรังสีแสงก็ถูกเปล่งออกมาจากดาบเช่าหยิน 

บังเกิดการสั่นไหวถี่ระรัวบนใบดาบของเช่าหยิน 

ตามด้วยสี่ตัวอักษรที่ปรากฏขึ้นอีกครา 

พลังศักดิ์สิทธิ์ ก้าวข้ามผ่านมหาสมุทรแห่งความทุกข์ระทม 

ในหัวใจของกู่ฉิงซานจู่ๆ ก็เกิดการตระหนักรู้อย่างเด่นชัด 

“จงเปิด!” ปากเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล 

ดาบเช่าหยินสั่นไหว 

พร้อมกับท้องทะเลเบื้องหน้ากู่ฉิงซานที่แยกตัวแหวกทางออกเป็นสองฟากฝั่งอย่างรวดเร็ว 

ขณะเดียวกัน อสูรทะเลที่แต่เดิมถูกควบคุมโดยโครงกระดูกชุดคลุมดำก็กำลังดิ่งลงไปเบื้องล่างอย่างสุดกำลัง 

วินาทีต่อมา น้ำทะเลโดยรอบอสูรแห่งท้องทะเลก็หายไปอย่างสมบูรณ์ 

ไม่มีกระทั่งน้ำสักหยดไม่ว่าจะเหนือหัวหรือเบื้องล่างในระยะสิบเมตรของอสูรแห่งท้องทะเล

 อสูรแห่งท้องทะเลตกใจและรีบเอี้ยวตัวเบนทิศทาง วิ่งหันไปทางฝั่งที่มีน้ำอยู่ทันที 

แต่ทุกที่ที่มันพยายามแหวกผ่านไป น้ำทะเลทั้งหมดก็ราวกับมีจิตนึกคิด ทั้งหมดแหวกตัวถอยหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ยอมให้อีกฝ่ายสัมผัสแม้เพียงน้ำสักหยด 

หากไม่มีน้ำทะเล เบื้องล่างก็เป็นเพียงแค่เหวลึก! 

“อ๊า...” 

อสูรแห่งท้องทะเลส่งเสียงกรีดร้องของมนุษย์ และร่วงตกลงสู่ก้นเหวลึก 

ฉากนี้ นายทหารของรัฐบาลกลางโดยรอบก็เห็นเช่นกัน พวกเขาเหวอจนอ้าปากค้าง 

ซางหยิงฮ่าวถอนหายใจและหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา “นี่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่สัตว์ประหลาดที่แท้จริงซะแล้ว ขอย้ำ นี่ไม่ใช่สัตว์ประหลาด แต่เขาเป็นพระเจ้าต่างหาก!” 

ณ จุดนี้ กู่ฉิงซานในที่สุดก็เข้าใจเสียที ว่าพลังของดาบเช่าหยินนั้นหมายถึงอะไร 

ไม่ว่าปัญหาใดๆที่เกิดจากน้ำ จะได้รับการแก้ไขเมื่ออยู่ต่อหน้าดาบเช่าหยิน! 

นี่แหละคือ ‘ก้าวข้ามผ่านมหาสมุทรแห่งความทุกข์ระทม’ 

ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเทพวิญญาณในโลกเทวะถึงได้เลือกโยนดาบเล่มนี้ลงในท้องทะเล 

กู่ฉิงซานเบนสายตาไปยังหน้าต่างระบบเทพสงคราม 

แต้มพลังวิญญาณของเขา กำลังลดลงสิบแต้มด้วยอัตราเร็วต่อวินาที 

กู่ฉิงซานโบกสะบัดดาบเช่าหยินออกไปอย่างอ่อนโยน 

‘ตูม!’ 

น้ำทะเลกลับมาแนบชิดติดกันดังเดิมทันที! 

น้ำทะเลเข้าโอบล้อมอสูรปลาหมึกยักษ์อีกครั้ง ส่งผลให้แรงร่วงตกของมันชะลอความเร็วลงทันที 

หลังจากนั้น ก็บังเกิดแรงยกที่มองไม่เห็นขึ้นใต้ลำตัวของปลาหมึกยักษ์ ดันทั้งตนทั้งร่างของมันเด้งขึ้นไปบนท้องฟ้า 

‘ปัง!’ 

บังเกิดเสียงหนักทึบอู้อี้ 

ร่างของอสูรแห่งท้องทะเลตกลงบนพื้นผิวน้ำทะเล แต่มันกลับไม่อาจดำดิ่งลงไปได้ 

ท้องทะเลได้ปฏิเสธการเข้าถึงของมัน 

“ตอนนี้พวกเราคงจะคุยกันได้แล้วสินะ” กู่ฉิงซานกล่าวติดตลก 

ขณะที่อสูรแห่งท้องทะเลสาดสายตาจ้องมองเขาอย่างโหดเหี้ยม 

ทันใดนั้นเอง เงาดำก็ผุดออกมาจากร่างของอสูรทะเล และแปรเปลี่ยนสภาพเป็นโครงกระดูกในชุดคลุมดำ 

โครงกระดูกในชุดคลุมดำลอยสูงขึ้นและหยุดนิ่งกลางอากาศ ในมือกุมดาบน้ำแข็ง ตามร่างกายปะทุกลิ่นอายสังหารออกมา 

กู่ฉิงซานทำเป็นไม่สนใจ กล่าวเข้าเรื่องทันที “ในฐานะราชาแห่งนรกเยือกแข็ง ผมคิดว่ากว่าที่ท่านจะได้ตำแหน่งนั้นมา คงจะต้องจ่ายออกไปไม่น้อยเลยสินะ...และคงจะรู้เรื่องราวต่างๆ มาบ้างไม่น้อยเลยด้วย” 

“แท้จริงแล้วเจ้าต้องการจะพูดเรื่องอะไรกันแน่?” โครงกระดูกเผยท่าทีกังวลและเอ่ยถาม 

เหนืออสูรยักษ์ จู่ๆ ก็ปรากฏร่างที่ดูน่าประหวั่นพรั่นพรึ่งเช่นนี้ขึ้นอย่างกะทันหัน ส่งผลให้เหล่าทหารที่รายล้อมที่แห่งนี้ต่างพากันขนลุกขนพอง 

ซางหยิงฮ่าวยกวิทยุขึ้นมาและพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “สงบใจไว้ ทุกคนควบคุมอาวุธตัวเองให้ดี อย่าเพิ่งยิงออกไปนะ” 

“รับทราบ!” 

เหล่าทหารตอบรับ 

บนท้องฟ้ายามค่ำคืน 

การสนทนาเกี่ยวกับชะตากรรมของมนุษยชาติกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว! 

กู่ฉิงซาน “ผมแค่อยากจะบอกว่า เมื่อใดก็ตาม ในทุกๆ ครั้งที่ท่านเข้าสู่สภาวะฟื้นฟูร่างกายด้วยการจำศีล ผมก็จะออกตามล่าตัวท่านเหมือนดั่งเช่นวันนี้” 

“แล้วอย่าไงรต่อ?” โครงกระดูกเอ่ยถาม 

“ท่านลองหันมองไปรอบตัวดูสิ” กู่ฉิงซานบอกใบ้ 

โครงกระดูกแหงนหน้าหันไปมองรอบๆ 

เหนือท้องฟ้าเบื้องบนบริเวณนี้ รายล้อมไปด้วยยานรบประจัญบานไม่ถ้วน 

“เจ้าสามารถระดมกำลังทั้งประเทศได้อย่างเร่งด่วน เพียงเพื่อมาจัดการกับข้าอย่างนั้นหรือ?” โครงกระดูกเอ่ยถาม 

ในบางเรื่อง แม้ในตัวรายบุคคลเขาจะแข็งแกร่ง แต่ในด้านประสิทธิภาพการทำงานอย่างไรมันก็ไม่อาจเทียบเท่ากับการร่วมมือกันทำงานกับหลายผู้คนได้ 

โครงกระดูกในชุดคลุมดำเคยเป็นจักรพรรดิมาก่อน และเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าหากประเทศทำการระดมกำลังโดยสมบูรณ์ มันจะระเบิดพลังอำนาจออกมามากมายขนาดไหน 

ตอนนี้ อีกฝ่ายกำลังทำการระดมกำลังทั้งประเทศ เพียงเพื่อมาจัดการกับตนเอง 

หากเป็นเช่นนั้น ตัวเขาจะไม่สามารถหลบซ่อนตัวหรือหนีพ้นได้เลย ไม่สามารถหาสถานที่พักผ่อนหรือปลอดภัยได้แม้ในยามหลับฝัน 

โครงกระดูกชุดคลุมดำคำรามแทบคลั่ง “นรกเถอะ! มีมอนสเตอร์มากมายก้าวเข้ามาในโลก แต่เหตุใดเจ้าต้องเพ่งเล็งจัดการเฉพาะกับข้าด้วย!” 

“ใช่ ผมเพ่งเล็งจัดการกับท่านโดยเฉพาะ” กู่ฉิงซานพยักหน้า “ถ้าท่านปฏิเสธที่จะตอบคำถามเล็กๆน้อยๆของผม ผมจะระดมกำลังจากทั่วทั้งประเทศออกตามล่าท่าน สังหารท่านซ้ำๆ จะทำให้ท่านจมลงสู่การหลับใหลอย่างไม่รู้จบ!” 

“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการที่จะได้ข้อมูลเกี่ยวกับปรภพ แต่สิ่งนี้! มันไม่ได้ดีต่อตัวเจ้าหรือข้าเลย เข้าใจหรือไม่!” โครงกระดูกในชุดคลุมดำพูดด้วยความเกลียดชัง 

ดูเหมือนว่ามันจะหวาดกลัวเล็กน้อยที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ 

กู่ฉิงซานไม่ยอมถอย “ผมไม่ได้ต้องการฉกฉวยผลประโยชน์ใดๆ ผมแค่ต้องการที่จะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับทางปรภพกันแน่” 

“ไม่ได้! นั่นมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอ่ยถึง!” โครงกระดูกกล่าว 

“ไม่พูดสินะ? งั้นก็ตกลง ต่อไปนี้ผมจะออกตามล่าท่าน และต่อให้ตัวตนที่ทรงพลังตนอื่นๆในนรกเยือกแข็งปรากฏตัวออกมา ก็ขอให้มั่นใจได้เลยว่าผมจะยังคงไล่ล่าท่านต่อไป” 

กู่ฉิงซานมองไปที่เขา และเอ่ยอย่างแผ่วเบา “ไล่ล่าท่าน...ไปจนกว่ามนุษยชาติจะสูญสิ้น” 

“เจ้ามันบ้า! ทำไมถึงต้องจ้องแต่ข้า!” โครงกระดูกชุดคลุมดำอุทานคร่ำครวญ 

ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ตัวเขาก็จะเปรียบดั่งถูกมัดขา รั้งเอาไว้โดยสมบูรณ์ 

เมื่อนรกเยือกแข็งแพร่กระจายถึงช่วงที่เหมาะสม ตนก็จะทำได้เพียงเฝ้าดูมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ ที่หลับใหลอยู่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอย่างหมดหนทาง เฝ้าดูพวกมันออกไล่ล่าจิตวิญญาณในโลกใบนี้ และทวีพลังมากขึ้น แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ 

ในขณะที่ตนเองทำได้เพียงถูกฆ่าและจมอยู่เฉยๆในห้วงหลับใหล ไม่อาจคว้าโอกาสแบบตนอื่นๆ แม้เพียงน้อย 

ยิ่งถ้าหากศัตรูเก่าของเขารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ ยามที่พวกมันตื่นขึ้น คงจะพากันยิ้มเย้ยหยันใส่ 

บางทีสักวันหนึ่ง เขาอาจจะไม่มีค่ามากพอที่จะถือรองเท้าให้แก่พวกมันด้วยซ้ำ 

แล้วสุดท้าย เขาคงจะตกกระป๋องกลายเป็นทาสของพวกมัน! 

กู่ฉิงซานกางมือออกและหัวเราะ “ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะท่านปฏิเสธที่จะตอบคำถามเล็กๆ น้อยๆ ในความเป็นจริงแล้วคำถามของผมมันง่ายมากๆ ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก” 

“นั่นไม่ใช่คำถามเล็กๆ น้อยๆ แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรแตะต้อง!” การแสดงออกของโครงกระดูกเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม 

กู่ฉิงซาน “ไม่ ผมแค่ต้องการจะทราบข้อมูลเล็กน้อยเท่านั้น มั่นใจได้ว่ามันจะไม่ยากสำหรับท่าน” 

“ทันทีที่ท่านตอบคำถามของผม ผมจะส่งท่านไปจำศีล หลับพักฟื้นตัว และไม่คิดจะรบกวนท่านอีก” 

กู่ฉิงซานหยิบกล่องซิการ์ออกมา และโยนมันไปทางฝ่ายตรงข้าม 

“นี่นับว่าเป็นของดีไม่เลว และผมก็ทราบมาว่าท่านชอบสิ่งนี้ 

“มาเถอะ สูบซิการ์กัน แล้วจากนั้นก็บอกผมเกี่ยวกับปรภพ และไปนอนหลับฝันดีอย่างมีความสุข” 

โครงกระดูกชุดคลุมดำเหลือบสายตาลงบนกล่องซิการ์ตรงหน้าเขา 

จากมุมมองสายตา ย่อมสามารถเห็นถึงคุณภาพของซิการ์ได้อย่างรวดเร็ว 

ซิการ์นี้ เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่ดีที่สุดในโลก 

และเขาก็เคยชื่นชอบยี่ห้อนี้มากที่สุด 

เจ้าหนุ่มคนนี้ไหวพริบดีไม่เลว แม้โครงกระดูกในชุดคลุมดำจะเคยยกซิการ์ขึ้นมาสูบต่อหน้าเขาเพียงครั้งเดียว แต่อีกฝ่ายกลับทันสังเกตเห็น และจดจำยี่ห้อของมันได้ 

เฮ้ย! 

นั่นมันไม่ใช่ประเด็น! 

ร่างของโครงกระดูกชุดคลุมดำสั่นไหวไม่หยุด และในที่สุดเขาก็ไม่สามารถระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป 

ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น แผดเสียงคำรามไปทั่วทั้งฟ้า 

“อ๊า! บัดซบ! บัดซบ! ทำไมข้าถึงต้องโชคร้ายมาพบเจอกับไอ้ตัวขี้โกงอย่างเจ้าด้วยนะ!”

………………..………………..