webnovel

ฮีลเลอร์ไร้เทียมทานในต่างโลก ตอนที่ 3

น่าเสียดายเรื่องนั้นไม่ได้เกิดขึ้น ทายาทของนายเก่าเป็นลูกไม้ที่หล่นไกลต้น เขาไม่มีอะไรที่เหมือนพ่อเลยสักนิด เมื่อผู้เป็นพ่อเสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วน เขาก็แก้แค้นฟิลเลย์ด้วยการยึดทุกอย่างไปและยังขายก้างขวางคอชิ้นใหญ่อย่างเขาให้กับร้านขายทาส

มันเป็นเรื่องโหดร้ายสำหรับฟิลเลย์ แต่สำหรับเปโดรนี่คือโอกาสที่ดี ถ้าไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเขาก็คงไม่ได้คนเก่ง ๆ ของฟิลเลย์มาช่วยบริหารโรงแรมแน่นอน

เพราะมีโรงแรมเป็นของตัวเอง สมาชิกทุกคนของ "ตระกูลเซอราโน" จึงไม่จำเป็นต้องพักที่ร้านอีกต่อไป เปโดรตัดสินใจให้พวกเขาทุกคนพักที่นี่ด้วย

ที่ดินนอกเหนือจากร้านทั้งสามและโรงแรมเปโดรไม่คิดจะปล่อยไว้ให้เสียเปล่า ระหว่างที่เขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าควรจะสร้างอะไรเพิ่ม เขาปล่อยเช่าที่เหล่านั้นสำหรับการปลูกพืชที่ไม่ยืนต้น ผลคือไร่ผลไม้จำนวนมากจะเริ่มออกดอกผลในอีกไม่กี่ฤดูข้างหน้านี้

กลับมาที่กลุ่มผจญภัยของเปโดร เขาได้สมาชิกใหม่มาเพิ่มอีกสี่คน แจนนิสคือนักธนูเผ่าดาร์คเอลฟ์ ฝีมือยิงธนูของเธออาจจะไม่โดดเด่นมากในเผ่า แต่เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้วเธอก็เก่งไม่ต่างจากมือธนูที่มีประสบการณ์มาหลายสิบปี เธอยังใช้สามารถเวทโจมตีได้ด้วย แต่ประสิทธิภาพของมันต่ำจนเอามาใช้จริงได้ยาก เพื่อให้แจนนิสแข็งแกร่งขึ้นอีก เปโดรได้ลงทุนซื้อม้วนสกิลผนึกเวทมาให้เธอ มันจะทำให้เธออัดพลังเวทลงไปในลูกธนูได้

เบรเกอร์เคยเป็นทาสนักสู้ในสังเวียนใต้ดิน เขาถูกบังคับให้ล้มมวยแต่ก็ปฏิเสธจนถูกเจ้านายตัวเองซ้อมจนเกือบตาย เปโดรพบเขาในสภาพที่แขนทั้งสองข้างยับเยินจนไม่สามารถรักษาได้ด้วยเวทมนตร์ทั่วไป มันคือเวลาที่เพอร์เฟคฮีลได้เป็นพระเอกอีกครั้ง เบรเกอร์ไม่เพียงกลับมาใช้มือทั้งคู่ได้ เขายังแข็งแกร่งขึ้นอีกจากสกิลสายสู้มือเปล่าที่เปโดรมอบให้

รารามิสคือลูกสาวของฟิลเลย์ ต่างจากบิดาที่มีความรู้ด้านงานบริหาร เธอถูกฝึกอย่างหนักโดยอาจารย์ผู้เคยเป็นนายทหารฝีมือดีของกองทัพ รารามิสเชี่ยวชาญการใช้หอกเป็นอาวุธหลักและมีดเป็นอาวุธรอง นอกจากนั้นเธอยังมีความรู้ด้านกลไก การวางและทำลายกับดัก

และคนสุดท้ายฮันโจที่มีที่มาประหลาดกว่าใครอื่น เขาไม่ใช่ทาสแต่สมัครใจมาเป็นทาสเพราะได้ยินข่าวลือว่าเปโดรเลี้ยงดูคนของเขาอย่างดี ฮันโจเป็นคนร่างใหญ่ หัวช้า ใจดีผิดกับรูปลักษณ์ที่ทำให้คนส่วนใหญ่หวาดกลัว แม้จะตัวใหญ่แต่สกิลของเขากลับเป็นสกิลเกี่ยวกับจิตสัมผัส ฮันโจจะสัมผัสได้ยามที่เขาเข้าใกล้สมบัติ รวมทั้งสามารถบอกได้ว่าสมบัติแต่ละชิ้นมีค่ามากแค่ไหนต่อให้เขาจะไม่รู้จักมันเลยก็ตาม

กลุ่มของเปโดรไม่ได้แข็งแกร่ง แม้จะเทียบกับนักผจญภัยแค่แรงค์ D ก็ตาม แต่เมื่อเงินถึง ข้าวของที่ใช้ล้วนแล้วแต่เป็นของดี มันเลยทำให้พวกเขาก็พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็วเหนือนักผจญภัยทั่วไป

กิจการทั้งหลายของเปโดรก็เติบโตรวดเร็วไม่แพ้กัน นักผจญภัยส่วนใหญ่เมื่อรู้ว่าใกล้กับดันเจียนมีโรงแรมสุดหรูในราคาที่ไม่โหดร้ายต่องบประมาณ พวกเขาก็เลิกพักในเมืองหลวงที่อยู่ไม่ห่างกันมาก ด้านร้านอาวุธ เกราะและร้านเสื้อผ้าก็มีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เหตุจากที่นาน ๆ ครั้งมันจะมีข้าวของที่หาไม่ได้ทั่วไปปรากฏให้เห็น

เพราะรับซื้ออุปกรณ์ทุกอย่างที่เสียหายเกินกว่าจะซ่อม บางครั้ง "ของเลียนแบบ" ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนของจริงทุกประการจึงปรากฏให้เห็นในร้านอยู่เนือง ๆ

แต่ละคนได้รับอาวุธและอุปกรณ์ที่เกินกว่าระดับของพวกเขาจะหาได้โดยวิธีปกติ เปโดรได้ชุดใหม่จากเศษผ้าศักดิ์สิทธ์ที่เขาพบและซ่อมแซมจนได้มาเป็นผืนใหญ่จากนั้นมันก็ถูกตัดเย็บอย่างดีด้วยฝีมือของเชียนา

ชุดนี้เปโดรประเมินแล้วว่ามันน่าจะมีราคาหลายสิบล้านดาวอน แต่เขาไม่มีความคิดที่จะขายมัน นอกจากมันจะมีพลังป้องกันที่สูงยิ่งกว่าชุดเกราะแล้วชุดสีขาวฟ้าตัวนี้ยังเปลี่ยนความเสียหายจากเวทมนตร์ส่วนหนึ่งมาเป็นพลังเวทให้กับผู้ใช้ ตราบใดที่ใช้ชุดแบบนี้เปโดรก็ไม่ต้องห่วงเรื่องที่เขาจะถูกฆ่าด้วยเวทโจมตี และตราบใดที่มีพลังเวทเหลือ เขาก็รักษาตนเองและทำให้ชุดกลับมาอยู่ในสภาพดีได้ทุกเมื่อ

เบรเกอร์ได้อาวุธเวทมาจากดันเจียนแห่งหนึ่ง มันไม่ใช่สมบัติเดิมของดันเจียนแต่เหตุผลที่มันอยู่ที่นั่นเหมือนกับดาบเก่าของผู้กล้า เจ้าของใช้มันต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่ร้ายกาจที่อาจจะเป็นบอสของดันเจียน จากร่องรอยที่เหลืออยู่เขาเอาชนะมันได้แต่ทำให้อาวุธเสียหายจนตัดสินใจฝังมันไว้ที่นั่น

เมเทียร์กอนต์เล็ตคือชื่อของมัน เบรเกอร์สามารถต่อยและสร้างพลังระเบิดที่เขาไม่ได้รับผลกระทบ ด้วยสิ่งนี้แม่แต่โกเล็มหินตัวใหญ่ยังถูกเขาทำลายได้ในหมัดเดียว

แจนนิสได้ธนูมาจากนักผจญภัยระดับ S ที่นำธนูเก่าที่พังแล้วมาขาย ธนูนี้สร้างมาจากไม้ของต้นไม้โลก สายธนูทำจากเส้นขนของมอนสเตอร์ระดับสูงที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและยืดหยุนของเส้นขนจนฟันแทงไม่เข้า

รารามิส แบลร์ และฮันโจยังไม่ได้อาวุธที่เหมาะกับแต่ละคน รารามิสได้หอกอย่างดีมาหนึ่งเล่มแต่มันยังเทียบไม่ได้กับอาวุธที่เบรเกอร์และแจนนิสใช้ แบลร์กำลังฝึกฝนดาบใหญ่และเธอเลือกดาบที่ไม่มีพลังพิเศษเพื่อให้คุ้นชินกับมัน ส่วนฮันโจเขาก็ต้องการแค่เกราะและโล่เท่านั้น

เพื่อให้กลุ่มพัฒนาได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เปโดรโหมอัดม้วนสกิลให้กับกลุ่มผจญภัยทุกคน ด้วยเหตุนี้เพียงแค่ไม่กี่เดือน ระดับของพวกเขาก็สูงขึ้นราวกับเป็นคนละคน

ตั้งแต่เปโดรหันมาเน้นเพิ่มระดับของนักผจญภัย รายจ่ายนั้นรุนแรงจนน่าขนลุก แต่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจจากทุกฝ่ายจึงไม่มีเดือนไหนเลยที่ยอดติดตัวแดง โรงแรมแอดเวนเจอร์อินน์มีลูกค้ามากขึ้นในทุกวัน แต่พวกเขาเพิ่งทำกำไรได้มากเป็นประวัติการณ์ในเดือนนี้

ร้านอาหารของโมซาแม้จะมีคนคับคั่งจนเธอแทบไม่มีเวลาพักแต่ราคาเน้นกำไรต่ำ ไม่ได้มีส่วนมาก

ที่กำไรสูงสุดคือร้านอาวุธ ชุดเกราะของบิบินาและร้านเสื้อของเชียนา สินค้าไม่ใช่รายได้หลักของร้านทั้งสอง แต่กลับกลายเป็นงานซ่อมแซม มีหลายครั้งที่ของมีค่าที่ไม่ได้เกี่ยวกับนักผจญภัยถูกส่งมาให้ซ่อมด้วย เครื่องดนตรีระดับตำนาน เสื้อคลุมของคนใหญ่คนโตในราชสำนัก และอีกมากมายหลายร้อยรายการที่เจ้าของเคยตัดใจไปแล้วว่าไม่มีใครซ่อมแซมได้

แต่มันไม่เป็นปัญหาเมื่อมีเพอร์เฟคฮีล เปโดรและกลุ่มของเขาไม่ได้หายตัวไปในดันเจียนอย่างที่นักผจญภัยอื่นทำกัน พวกเขาใช้เทเลพอร์ตย้อนกลับมาที่พักที่โรงแรมเกือบทุกวัน และเมื่อบิบินากับเชียนาเจอกับงานที่ทักษะของพวกเธอจัดการไม่ได้ หน้าที่นั้นก็จะกลายเป็นของเปโดรไป

ยิ่งหาได้มาก เปโดรก็ยิ่งใช้มาก บางเดือนที่หาไอเท็มหายากได้ เขาทำให้รายได้ของเดือนนั้นพุ่งขึ้นไปสูงถึงร้อย มีแค่ส่วนน้อยที่ถูกเจียดไว้เป็นทุนสำรอง ที่เหลือเปโดรกระหน่ำใช้เพื่อขยายธุรกิจหรือไม่ก็เสริมให้กับทีมนักผจญภัย

โลกนี้ไม่มีเลเวลที่เห็นชัดเป็นตัวเลข แต่เปโดรแน่ใจว่ากลุ่มของเขากำลังจะกลายเป็นนักผจญภัยระดับสูงอีกไม่นานเกินรอ หลักฐานที่เห็นได้ชัดที่สุดคือการสอบเลื่อนขั้นนักผจญภัยที่กลุ่มของเขาสามารถสอบผ่านแรงค์ B มาได้ทุกคนแบบที่ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก

ที่ดันเจียนที่อยู่สุดขอบทวีป เปโดรและกลุ่มของเขาเพิ่งได้รับใบอนุญาตให้มาสำรวจที่นี่ มันคือโบราณสถานของจักรวรรดิออสที่ล่มสลายมาเกือบสี่ร้อยปีแล้ว

ออสนั้นมีวิทยาการที่ล้ำหน้าประเทศอื่น พวกเขาใช้กองทัพจักรกลเวทรุกรานไปทั่วโลก ในประวัติศาสตร์เชื่อว่าพวกเขาเกือบทำสำเร็จด้วยซ้ำ

แต่โลกแห่งนี้ไม่ได้มีวายร้ายแค่หนึ่งเดียว ก่อนที่จะมีออส ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของมนุษยชาติคือเผ่าพันธุ์ปีศาจ เป็นความโชคดีของมวลมนุษย์ที่ภัยร้ายทั้งสองต่างห้ำหั่นกันเอง

มหาสงครามเมื่อสี่ร้อยปีก่อนทำให้ออสพินาศลง ส่วนปีศาจเองก็บอบช้ำอย่างหนัก มันเป็นช่วงเวลาที่เหล่าประเทศขนาดเล็กอย่างโดเชสพัฒนาจนเข้มแข็งขึ้นอย่างในปัจจุบัน

ที่ดันเจียนของออส มันเหมือนกับดันเจียนที่อื่นในโลกที่มีมอนสเตอร์เกิดวนเวียนอยู่ในนั้น สิ่งที่แตกต่างคือมันเคยมีจักรกลสงครามและกับดักของออสอยู่ด้วย แต่เพราะว่ามันผ่านมาแล้วถึงสี่ร้อยปีปัจจุบันจึงไม่มีของแบบนั้นเหลืออยู่อีกแล้ว

แต่นั่นคือสิ่งที่คนทั่วไปเชื่อ

ที่ชั้นล่างสุดของดันเจียนที่ปัจจุบันถูกพวกมอนสเตอร์มากมายหลายสายพันธุ์ยึดไว้เป็นรัง กลุ่มของเปโดรกำลังพักรักษาตัวหลังจากที่เพิ่งปะทะกับไฮออร์คฝูงใหญ่มาหมาด ๆ แต่แล้วความหวังจะได้พักนานกว่านั้นก็ถูกขัดเมื่อฮันโจสำรวจพบกับอะไรบางอย่างด้วยสกิลประจำตัวของเขา

"เจอสมบัติงั้นเหรอ" แบลร์ถาม

"จะมีสมบัติหรือไม่ข้าก็ไม่รู้ แต่มีประตูลับอยู่ตรงนั้น" ฮันโจชี้ไปที่กำแพงเปล่า ๆ ที่ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ไม่ผิดไปจากส่วนอื่นสักนิด

"มีกลไกอยู่ แต่ไม่มีกับดัก" รารามิสตรวจสอบอยู่ครู่ใหญ่จนแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติ

เธอดันอิฐก้อนหนึ่งเข้าไป ทางลับตรงกำแพงจึงเปิดออก มันเป็นทางเข้าขนาดใหญ่ ดูจากสภาพแล้วพวกเขามั่นใจว่ามันไม่เคยถูกใช้งานมาเป็นร้อย ๆ ปี

รารามิสยังคงคอยตรวจจับกับดักในทุกฝีก้าว ส่วนฮันโจก็ใช้ประสาทสัมผัสพิเศษของเขาค้นสมบัติต่อไป พวกเขาเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ด้วยใจระทึก

ที่ปลายทางคือห้องทรงโดมขนาดยักษ์ บนเพดานนั้นเต็มไปด้วยสายและท่อมากมายระโยงไปทั่ว มีของที่เห็นได้ชัดว่าเป็นเศษชิ้นส่วนของจักรกลมากมายหลายแบบ บนโต๊ะจำนวนมากมีเอกสารและอุปกรณ์มากมายที่พังเพราะกาลเวลา

ดูจากสภาพไม่ว่าใครก็เดาออกว่ามันคือห้องทดลองเก่าของอาณาจักรออส

"นึกว่าจะมีสมบัติซะอีก" เบรเกอร์บ่นพึมพำ เขากวาดตามองจนทั่วแล้วแต่ก็ไม่เจออะไรที่ใกล้เคียงกับของมีค่า ทุกอย่างที่อยู่ในห้องนี้เป็นแค่ขยะในสายตาของคนทั่วไป

"ใครว่าไม่ใช่สมบัติกัน" เปโดรหัวเราะชั่วร้าย

เพอร์เฟคฮีลถูกใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเกือบจะทุกซอกทุกมุมของห้อง เอกสารมากมายถูกซ่อมแซมจนเหมือนใหม่ รวมทั้งอุปกรณ์ที่แม้แต่คนที่มีความรู้เรื่องกลไกอย่างรารามิสก็ยังบอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร

"เก็บให้เกลี้ยง รอบเดียวไม่หมดก็ไม่เป็นไร เทเลพอร์ตก็มีอยู่แล้ว เราจะเอาทุกอย่างกลับไปให้หมด"

"รวมทั้งเจ้านั่นด้วยสินะคะ" แบลร์ชี้ไปที่จักรกลตัวเบ้งที่เปโดรเพิ่งซ่อมกลับมาสมบูรณ์ โชคดีที่มันไม่อาละวาดเพราะก่อนที่จะพังมันได้ถูกปิดระบบเอาไว้ก่อน

"โดยเฉพาะเจ้านี่" เปโดรแสยะยิ้มมองสิ่งนั้นด้วยตาที่เป็นประกาย

ชื่อของมันคือเมไจไรซ์แมชชีน หนึ่งในอาวุธร้ายแรงที่เป็นกำลังรบหลักของออส เมไจไรซ์ตัวนี้ไม่ใช่ตัวแรกที่ถูกค้นพบหลังจากที่ออสล่มสลาย และมันก็ไม่ใช่ตัวเดียวที่ยังขยับได้ แต่มันเป็นตัวเดียวที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด

ตัวที่ยังขยับได้นอกจากตัวที่เปโดรเก็บกู้มาได้มีราคาสูงกว่า 100 ดาวอน ส่วนเศษซากของมันก็ถูกขายในราคาสูงลิบเช่นกันเนื่องจากวัสดุที่นำมาใช้เป็นโลหะสังเคราะห์ที่มีแต่ออสเท่านั้นที่สร้างขึ้นได้

เมไจไรซ์แมชชีนเกือบทั้งหมดที่เคลื่อนไหวได้ถูกประเทศใหญ่กว้านซื้อไปจนหมดแล้ว บางส่วนถูกนำไปซ่อมแซมและปรับปรุงเพิ่ม แต่ผลที่ได้คือประสิทธิภาพที่ด้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

พวกที่เคลื่อนไหวได้แต่ไม่มากพอจะใช้การได้จริงถูกประเมินว่าไม่คุ้มค่าต่อการซ่อมแซมมีอยู่ราวสองตัวในโลก นอกนั้นที่ยังไม่ถูกนำไปแยกส่วนแปรสภาพก็มีเหลืออีกสิบตัวเท่านั้น

นั่นก็คือเป้าหมายของเปโดรมีสิบสองตัวนี้

หนึ่งในนั้นเป็นเศรษฐีนักสะสมวัตถุโบราณ เปโดรมีเงินสะสมไม่มากพอซื้อเมไจไรแมชชีนที่เขาตั้งไว้สูงเกือบจะเท่ากับตัวที่เคลื่อนไหวได้สมบูรณ์ เขาจึงต้องศึกษาเรื่องของคู่ค้ารายนี้ก่อน

ภรรยาของเศรษฐีเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนด้วยโรคที่รักษาไม่หาย ส่วนลูกสาวของเศรษฐีก็กำลังป่วยด้วยโรคเดียวกัน ถ้าปล่อยไว้แบบนี้อีกไม่นานเธอก็จะตายตามแม่ของเธอไป

เปโดรจึงขอเข้าพบและเสนอความช่วยเหลือโดยแลกเปลี่ยนกับการลดราคามาไจไรแมชชีน

"คุณพูดจริงเหรอว่าคุณสามารถรักษาโรคของลูกสาวผมได้"

"ผมคิดว่ามีโอกาส… แต่จะตอบได้ก็คงต้องหลังจากที่ดูอาการแล้ว"

"ถ้าคุณทำได้จริง ไม่ต้องมาคุยเรื่องลดราคาอะไรหรอก ผมจะยกมันให้คุณเลย"

คำพูดของเศรษฐีมันคือหลักฐานว่าเขาสิ้นหวังกับเรื่องนี้ขนาดไหน เขาลองมาแล้วทุกรูปแบบ แพทย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากอีกซีกโลก เขาก็เคยเชิญตัวมาดูอาการแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็มีเพียงแค่ลดความเจ็บปวดของลูกสาวตนเท่านั้น ไม่มีใครเคยรักษาได้

เปโดรมีสกิลที่สามารถสแกนร่างได้เหมือนเครื่องตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เขาพบว่าร่างของหญิงสาวมีสิ่งแปลกปลอมอยู่บริเวณท้อง เขาไม่เคยเรียนแพทย์แต่ก็เดาได้ทันทีว่ามันคือเนื้อร้าย

เพอร์เฟคฮีลเองก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างชื่อ มีบางกรณีที่มันมีข้อจำกัดเช่นกัน การย้อนสภาพของเวทจะใช้ได้ผลดีกับคนที่เคยมีสภาพสมบูรณ์ แต่เด็กสาวผู้นี้เติบโตมาโดยมีพิษร้ายนี้มาตั้งแต่ยังเล็ก การรักษาของเขาอาจจะทำให้มันทุเลาลงแต่เธอจะไม่หายขาด

เปโดรช่วยชะลออาการของเธอและบอกเศรษฐีไปตามจริงว่าเขาเพียงแค่ประวิงเวลาเท่านั้น เขาขอตัวกลับไปเตรียมพร้อมและจะกลับมาหาอีกทีเมื่อพบวิธีการรักษาที่ใช้การได้

แล้วเขาก็กลับมาในเวลาแค่ไม่กี่วันให้หลังพร้อมกับลูกมืออีกสองคน เปโดรมาพร้อมสกิลความเข้าใจในร่างมนุษย์ สกิลลดความเจ็บปวด สกิลอาการชา และสกิลชำระล้างที่สามารถทำลายเชื้อโรคได้

เขาฟื้นคืนกำลังให้อีกฝ่ายก่อนที่จะเริ่ม ร่างกายของเด็กสาวถูกชำระล้าง จากนั้นความเจ็บปวดทั้งหมดก็หายไปจนหมดด้วยคอมโบสกิลลดความเจ็บปวดและอาการชา

เนื้อร้ายถูกตัดออกด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ ด้วยเพอร์เฟคฮีลเปโดรไม่จำเป็นต้องเย็บแผลด้วยซ้ำ เขาแค่ต้องระวังให้การรักษานี้ไม่ไปกระตุ้นเนื้อร้ายให้ฟื้นคืนกลับมาด้วย

การผ่าตัดโดยคนที่ไม่ใช่แม้แต่แพทย์จบลงอย่างสวยงาม เด็กสาวดีขึ้นทันตาเห็น แม้ว่าสกิลชาและต้านความเจ็บปวดจะหมดฤทธิ์ลงแต่เธอก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดแบบเดิมแล้ว

เรื่องราวจบลงด้วยดี เปโดรได้รับเมไจไรแมชชีนมาแทนค่ารักษาตามที่ตกลงเอาไว้ นอกจากนั้นเขาก็ขอให้เศรษฐีรับปากว่าจะไม่แพร่งพร่ายเรื่องนี้ออกไป เรื่องแรกผ่านไปได้อย่างไร้ปัญหาแต่เรื่องที่สองไม่เป็นไปอย่างที่หวัง

มันเป็นเรื่องที่เปโดรคิดไว้แล้วว่าต้องความแตกเข้าสักวัน โรคที่รักษาไม่ได้กลับรักษาจนหายขาด เรื่องนี้เศรษฐีไม่สามารถปิดปากเงียบไว้ได้ เขาเลือกบอกเฉพาะญาติที่เขาไว้ใจ และการร้องขอความช่วยเหลือก็แห่กันตามมา

เปโดรไม่กล้าบ่นมากในเรื่องนี้ เพราะเขาได้กำรี้กำไรมหาศาลทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการรักษาให้พวกชนชั้นสูง รายได้ส่วนนั้นช่วยอุดแผนการกว้านซื้อมาไจไรซ์แมชชีนได้พอดี

เพียงแค่ราวสองเดือน เปโดรซื้อของทั้งหมดที่มีในตลาดมาได้อย่างที่ตั้งใจ ผลคือเขากลายเป็นผู้ที่ครอบครองเมไจไรเซอร์ที่สมบูรณ์แบบถึง 13 ตัว

เพื่อกระตุ้นให้ราคาสูงขึ้น เปโดรนำพวกมันไปทดสอบโดยตั้งใจให้มีคนเห็น ยิ่งนักผจญภัยพูดถึงมันมากเท่าไหร่รัฐบาลของแต่ละประเทศก็ยิ่งตีค่ามันไว้สูงขึ้น

"มันเหนือกว่าเมไจไรเซอร์ที่ประเทศการิมมีซะอีก ไม่รู้ว่าทำได้ยังไงแต่เขามีตัวที่สมบูรณ์มาก" นักผจญภัยแรงค์ S ที่เคยเห็นเมไจไรเซอร์ทั้งสองแบบพูดในวงเหล้า เมื่อออกจากปากของชายที่แข็งแกร่งติดอันดับโลกก็ไม่มีใครกล้าสงสัย เจ้าเมไจไรเซอร์ที่มาพร้อมกับฮีลเลอร์เหนือกว่าตัวที่กองทัพครอบครองอยู่ราวครึ่งเท่า

"ว่าแต่ฮีลเลอร์คนนั้นเป็นใคร" นักผจญภัยหนุ่มถาม

"เขาเป็นนักผจญภัยแรงค์ A แต่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเพราะเขาแทบไม่รับภารกิจที่ไม่เกี่ยวกับการเลื่อนขั้น น่าจะชื่อเปโดรล่ะมั้ง"

"เปโดร เซอราโน" อีกคนช่วยเสริม