หลาย ๆ คนหันมามองหน้ากัน คงมีบางคนที่สงสัยเพราะผมเคยรับมิชชันที่เกี่ยวกับการกวาดล้างคนมาบ้าง อย่างแก๊งใหญ่สามแก๊งที่เดิร์กลินเป็นตัวอย่างที่ดี
ไม่ได้แก้ตัวนะ สำหรับผม มันแตกต่างกันนิดหน่อย ผมปราบปรามพวกนั้นเพราะรู้มาว่าแต่ละแก๊งเป็นตัวอันตรายที่ทำร้ายคนไปทั่ว ถ้ามิชชันบอกให้ไปฆ่าใครสักคนแบบไม่มีเหตุผลรองรับ ต่อให้มีคะแนนมากมายแค่ไหนมาล่อผมก็ไม่สนใจ เพราะมันขัดกับเหตุและผลที่ควรทำ ไม่ทำเรื่องพรรค์นั้นผมก็ไม่รู้สึกติดใจ
มองหน้าแอนและแคท พวกเธอดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อตอนที่ผมแสดงจุดยืนของตัวเอง ผมไม่โทษพวกเธอหรอก แต่ที่น่าทุบหัวที่สุดคือคาแรคเตอร์ของผมเกินกว่าครึ่งไม่เชื่อใจกันด้วยนี่สิ มันน่านัก!
หัวข้อสนทนาสลับกลับมาเป็นเรื่องที่ควรจะคุยกันตั้งแต่แรก วิธีการรับมือกับศัตรูที่ยังไม่รู้ที่มาที่ไป
"ต้องรู้จักศัตรูก่อน ผมจะรับหน้าที่ตรวจสอบเอง" จอนเสนอตัว ทุกคนรู้ว่าถ้าเป็นเรื่องการหาข้อมูล จอนไม่เคยทำให้ผิดหวัง
"ฝากด้วยนะ อยากได้ใครช่วยก็บอกแล้วกัน"
"ขอทำคนเดียวดีกว่าครับ ยิ่งคนเยอะยิ่งถูกจับได้ง่าย"
"เรื่องการป้องกันฐาน ขอผมรับผิดชอบเองได้ไหมครับ" พอลกุลีกุจอเสนอตัวบ้าง
"นาย เจสซิกา เจมส์และเอสเมอรัลดาอยู่ที่นี่มานานกว่าใคร สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร ติดกล้องวงจรปิดตรงไหน วางกับดักตรงไหนคงไม่มีใครรู้ดีกว่าแล้วละ"
"จะพยายามให้เต็มที่ครับ"
"แล้วอย่าลืมเตือนทุกคนด้วยนะว่าวางกับดักไว้ที่ไหนบ้าง" อลิซาเบธหันไปเตือนเจสซิกา
"ค่ะพี่ ไม่พลาดแน่นอน"
"แล้วเรื่องกระสุนล่ะ ที่นี่เหลือเยอะแค่ไหน" มายาถามบ้าง
"ฉันตรวจแล้วค่ะ ตอนนี้เรามีเหลือมากกว่าที่คุณคามิลพกมาแค่เล็กน้อย ถ้าไม่หาเพิ่มคงไม่พอสำหรับศึกใหญ่" สาวนักบัญชีว่าพร้อมกับยื่นกระดาษจดรายการของปืน กระสุนและวัตถุระเบิดที่เธอประเมินว่าของยังขาดอยู่ให้กับผม
"กระสุนหาเพิ่มได้ถ้ามีคะแนนมากกว่านี้ อาจจะต้องแบ่งกลุ่มเล็ก ๆ สักกลุ่มล่าซอมบีเพื่อเก็บคะแนน ส่วนพวกระเบิด ฉันมีสารเคมีหลายชนิดที่เอามาทำเป็นระเบิดได้ ขอฝากอลิซาเบธดูแลส่วนนี้ต่อ"
อาจเพราะเคยแต่บุกโจมตีคนอื่น จนแทบไม่มีประสบการณ์ในการตั้งรับ ผมจึงคิดว่าพวกเรามีเรื่องต้องพูดคุยกันอีกหลายต่อหลายเรื่อง แต่น่าเสียดายที่เวลาเตรียมตัวของพวกเราสั้นกว่าที่คิดไว้มาก
เสียงระเบิดที่พวกพอลติดตั้งไว้ดังแว่วมาแต่ไกล เชนที่ผมฝากให้ดูต้นทางเปิดประตูเข้ามาในโกดังด้วยสีหน้าที่พวกเราทุกคนต่างก็ดูออก
"พวกเรา ฉันว่าไม่ต้องวางแผนอะไรเพิ่มแล้วละ" เขาว่า
"บุกมากลางวันแสก ๆ เลยแฮะ เออ แบบนี้ก็สะดวกดี" แคทหัวเราะอย่างประชดประชัน
"ดีเหมือนกัน ตัดสินกันให้จบไปตรงนี้เลยค่ะ"
"เกิดอะไรขึ้น ซอมบีบุกเหรอ" เจนนา รีชเชอร์วิ่งหน้าตื่นเข้ามา คนที่ไล่หลังตามเธอมา มีเบนจามินและจิมมี พวกเขายิงคำถามแบบเดียวกันมา
"ไม่มีเวลาตอบแล้ว พวกคุณสามคนหาที่ซ่อนซะ"
"เดี๋ยวก่อน ซ่อนที่ไหน แล้วนั่น แอนนี แอนนีจะไปสู้…"
"บอกแล้วว่าไม่มีเวลาอธิบายแล้ว ถ้าไม่อยากถูกลูกหลงก็ไปซ่อนตัวซะ" ผมเตือนอีกฝ่ายที่ยังดูดื้อดึง
"ทำไมฉันต้องฟังคำสั่งแกด้วยวะ"
เบนจามินว่าพร้อมกับกระชากคอเสื้อผม แน่นอนว่าผมสะบัดออกได้ง่าย ๆ เขาไม่มีทางสู้แรงของผมที่มีค่าสถานะจากระบบได้
"อยากตามมาก็ตามใจ ดูแลชีวิตตัวเองก็แล้วกัน"
ถึงตอนนี้ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปิดบังพลัง ขณะที่วิ่งไปยังต้นเสียงของการระเบิด ผมได้แจกจ่ายปืนและกระสุนให้กับทุกคนเพิ่ม พวกเบนจามินคงประหลาดใจที่เห็นของแบบนั้นโผล่ออกมากลางอากาศและน่าจะสงสัยที่อยู่ ๆ กลุ่มเราก็มีคนเพิ่มขึ้นอีกหลายคน แต่เขาก็ไม่ได้ถามเพิ่มอีก
วิ่งจนเกือบถึงประตูรั้ว พวกเราก็พบกับกองกำลังของฝ่ายศัตรู
จำนวนของศัตรูมีมากกว่าเกือบสองเท่า แต่ละคนมีอาวุธครบไม้ครบมือ ทั้งปืนสั้น ปืนไรเฟิล ปืนลูกซองหรือแม้แต่ปืนกล พวกที่ไม่มีปืนก็พกพาอาวุธประชิดแบบอื่นไม่ว่าจะเป็นขวาน ดาบ หรือแม้แต่ของดูผิดยุคอย่างลูกตุ้มติดโซ่
พวกเราใช้เวลาแค่ไม่กี่อึดใจก็สามารถบอกได้ว่าศัตรูคราวนี้มีคอลเลคเตอร์มากกว่าหนึ่งราย หลักฐานคือในกลุ่มของศัตรูมีคาแรคเตอร์ที่ซ้ำกันมากกว่าหนึ่ง เมื่อมองสำรวจแบบเร็ว ๆ ก็เห็นบิลลี มายา เชนและชาร์ลีอย่างละหนึ่งคู่
รู้สึกโล่งใจ อย่างแรกคือผมไม่เห็นแฝดพี่ชายของมายาและเจ้าเซเลปนักศิลปะการต่อสู้ อย่างน้อยพวกคอลเลคเตอร์ที่ต้องการต่อสู้ด้วยก็น่าจะเปิดแพ็คยังไม่ถึงเซอร์ไววัลแพ็คโฟร์
ส่วนที่ทำให้เบาใจอย่างที่สองคือคาแรคเตอร์ส่วนใหญ่ในกลุ่มศัตรูยังไม่ได้รับการอัพเกรตเลยสักครั้ง จริงอยู่ว่าชุดของคาแรคเตอร์สามารถเปลี่ยนไปได้ตามของที่คอลเลคเตอร์มอบให้ แต่มีหลายอย่างเช่นกันที่หลอกตาได้ยาก อย่างมายาทั้งสองคนของศัตรูยังมีรูปร่างของเด็กมัธยมต้น
ศัตรูเลเวลต่ำกว่า เรื่องนั้นไม่ต้องสงสัย แต่ความเป็นจริงเรื่องความต่างของกำลังรบก็ยังไม่หายไป อีกฝ่ายมีจำนวนเยอะกว่ามาก
"เมืองนี้ไม่ใหญ่พอสำหรับสองกลุ่มรึไง" ผมตะโกนถาม
ไม่ได้หวังว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับ แต่อยากให้ฉุกใจคิดสักนิดก็ยังดี ถ้าไม่ใช่เพราะมิชชัน ผมคิดว่าต่างคนต่างอยู่ก็ได้
"พวกเราไม่อยากทำแบบนี้หรอก ถ้ามีทางเลือก" คอลเลคเตอร์คนแรกพูดขึ้น
"พูดซี้ซั้วอะไรเนี่ย ใครบังคับมารึไง" แคทสวนกลับทันควัน
"พวกเราต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะเจอกับเจ้านั่น" อีกคนตอบ น้ำเสียงของเขาแฝงความหวาดกลัวเมื่อพูดถึงใครบางคน
ผมนึกถึงคำพูดของคอลเลคเตอร์ที่พบในแรทฟอร์ต ก่อนตายเจ้าหมอนั่นพูดถึงตัวอันตรายคนหนึ่ง
"ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณพูดถึงใครค่ะ แต่ถ้าคนที่พวกคุณกลัวเป็นตัวอันตรายสำหรับทุกคน พวกเรายิ่งไม่ควรมาสู้กันไม่ใช่เหรอคะ"
"ฟังดูมีเหตุผลดี แต่พวกเราไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น พวกแกเองก็คงไม่ได้อยากเป็นพวกเดียวกับทางนี้นักหรอก"
"เอ่อ ไม่ใช่นะคะ"
ผมยกมือขึ้นห้ามแอน มันชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่มีประโยชน์ที่จะเกลี้ยกล่อม