อสูรปลาเกล็ดวายุเกราะศิลา
วิวัฒนาการต่อหน้าเลยรึ ไม่ใช่แล้ว
ตอนข้าวิวัฒนาการ ร่างกายจะถูกทำลายจนหมด ข้าจะไม่ได้สติ
แต่นี่มันอะไร การที่มีเขางอกออกมาจากหน้าผากสองอัน ฟันในปากเปลี่ยนเป็นฟันเขี้ยว โดยที่ร่างกายส่วนอื่นยังคงเดิม
ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว ระหว่างที่เธอยังวิวัฒนาการไม่เสร็จนี่แหละ
ข้ากระโดดพุ่งเข้าหาเกราะศิลาเอง เมื่อเกราะคลุมทั้งร่าง ข้าจึงค่อยอุ่นใจขึ้น
เพราะการต่อยของเธอก่อนหน้านี้พิสูจน์มาแล้ว ว่าทำลายเกราะศิลาไม่ได้
ข้ารีบกระพือเกล็ดสร้างลมบังคับทุกสิ่งรอบตัวโจมตีเข้าใส่เธอ
อาวุธทุกชนิด ชุดเกราะ โล่ ก้อนหิน เปลวไฟ แม้แต่ศพก็ไม่เว้น
ในขณะที่การโจมตีกำลังเข้าถึงตัว เธอกลับทำเพียงแค่อ้าปาก การโจมตีพุ่งไปเร็วขึ้นอย่างน่าตกใจเพราะโดนดูด สิทธิ์การควบคุมสายลมถูกแย่งในพริบตา
และอีกเพียงไม่กี่เซนติเมตร อาวุธชิ้นแรกก็จะโดนตัวเธอ แต่มันกลับแหลกสลายในพริบตา
"ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!"
การคำรามที่มีคลื่นกระแทกออกมาด้วย แม้แต่พื้นดินตรงหน้ายังถูกงัดขึ้นมา
ทุกสิ่งที่ใช้โจมตีเธอถูกทำลายติดกันเป็นลูกโซ่
ทันทีที่เสียงมาถึงตัว เกล็ดทุกชิ้นถูกบังคับเก็บลงในทันที ตามด้วยคลื่นกระแทกอัดข้าจนกระเด็นถอยหลัง
ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดด!
ข้ายกมือขึ้นกันพร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้า แต่คลื่นกระแทกก็ยังทำให้ข้าไถลถอยหลังไปหลายเมตร ถ้าไม่ใช้เท้ายันจนพื้นเป็นรอยยาว ข้าคงกลิ้งไปแล้ว
ไร้บาดแผลก็จริง แต่ตัวข้าที่มีเกราะศิลาน้ำหนักไม่ใช่น้อย แถมยังอยู่ห่างกันตั้งเยอะ ยังถูกดันถอยหลังเนี่ยนะ
แถมยังรู้สึกวิ้งในหู นี่ขนาดเกราะศิลาครอบทั้งหู มันจะเกินไปไหม
บ้าไปแล้วชัดๆ นี่มันคนคนเดียวกันแน่นะ
และทันทีที่เธอเริ่มก้าวเท้า ข้าบังคับเกราะปิดทุกส่วนของร่างกายแบบไร้ช่องโหว่และเตรียมสวนกลับด้วยหนาม
เมื่อก้าวที่สองแตะพื้นระยะทางก็เหลือไม่ถึงครึ่ง พื้นที่เธอใช้เหยียบเป็นหลักเพื่อพุ่งตัวมา ถึงกับยกตัวขึ้นสูง
ส่วนก้าวที่สามยังไม่ทันแตะพื้น ตัวเธอก็เข้าประชิดมาอยู่ตรงหน้า เกราะข้าเปลี่ยนเป็นหนามแทงใส่เธอทันที
ร่างที่ควรจะบาดเจ็บและถอยกลับ กลับเป็นหนามของข้าที่พังลงราวกับชนของที่ไม่อาจทำลายได้
แล้วหมัดขวาก็ซัดเข้าที่ใบหน้าข้าอย่างรุนแรง
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
เกราะศิลาที่หุ้มใบหน้าแตกละเอียด ร่างข้าลอยปลิวไปไกล กระแทกพื้นอย่างรุนแรง กระเด้งลอยขึ้นไป กระแทกพื้นลงมาซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะกลิ้งไปอีกหลายตลบแบบที่จำรอบหมุนไม่ได้แล้วไถลไปกับพื้นอีกหลายเมตร
ข้านอนมองท้องฟ้าด้วยความไม่เข้าใจ เกราะศิลาตั้งแต่ช่วงคอขึ้นไปแตกละเอียด เก็บกลับมาใช้ไม่ได้อีก
เกราะศิลาที่กันได้ทุกสิ่งอย่าง กลับโดนเธอต่อยแค่หมัดเดียวพังเนี่ยนะ
ข้ายังไม่ทันได้ลุก เท้าของเธอก็ซัดเข้าที่ใบหน้าอย่างรุนแรง
เปรี้ยง!
กร็อบบบบบบบ!
"อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!"
ปากบนหักบิดเบี้ยว ฟันแตกร่วงเกือบหมดแผง ตาซ้ายแตก กะโหลกยุบ
และตัวข้ายังปลิวชนพวกอาหารกับอดีตเพื่อนตัวแล้วตัวเล่า สร้างความตื่นตะลึงให้ทั้งสองฝั่งหันไปมองเธอ
เหยื่อหลายรายตามทางที่ข้าชนนอนร้องโอดโอย
ข้ารีบตั้งสติ ใช้มืองัดปากกลับเข้าที่แล้วรีบยกเกราะทั้งหมดขึ้นมาเสริมตั้งแต่คอขึ้นไป
"ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!"
แล้วอยู่ๆ เธอก็คำรามปล่อยคลื่นกระแทกโจมตีทุกฝ่ายไม่เลือกหน้า ทุกฝ่ายที่อยู่ในระยะคำรามโดนคลื่นกระแทกอัดปลิวไปตามๆ กัน
แต่ตัวใดที่อยู่ใกล้มากเกินไปและไม่แข็งแกร่งพอ ต่างโดนคลื่นกระแทกของเธอฉีกร่างจนระเบิด
ส่วนข้าก้มตัวหมอบกับพื้นเพื่อลดแรงต้านพลางจิกเล็บกับพื้นเพื่อยึดเอาไว้ไม่ให้ตัวปลิว
แต่ไม่นึกเลยว่าเธอจะพุ่งตามมาพร้อมกับคลื่นกระแทก
ข้าเตรียมรับแรงปะทะเต็มที่ แต่เธอกับลอยข้ามหัวข้าไป แล้วง้างหมัดต่อยใส่กลางหลัง
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
"อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกก-"
ฉูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!
ข้ากรีดร้องได้ไม่สุดเสียงก็ต้องสำรอกเลือดพุ่งเป็นสายน้ำ เกล็ดทั่วแผ่นหลังแตกละเอียด กระดูกสันหลังหัก อวัยวะภายในฉีกขาด เลือดไหลทะลักท่วมตัว
ข้าใช้สติที่ยังเหลือรีบบังคับเกราะให้คุมทั่วทั้งร่าง ถึงจะบางลงมากแต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรป้องกัน ตอนนี้ข้าไม่กล้าเสี่ยงปกป้องส่วนใดส่วนนึงแล้ว
แต่เธอกลับจับขาข้าเหวี่ยงหมุนไปมา
ฟุ่บ! ฟุบๆ! ฟุ่บๆๆๆ! ฟุ่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!
แรงเหวี่ยงสร้างกระแสลมดึงทุกสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้เข้ามา ข้าโดนเหวี่ยงจนสับสนทิศก่อนจะโดนซัดไปทางกำแพงเมือง
ถึงจะกระพือเกล็ดเพื่อใช้ลมชะลอความเร็ว แต่แทบไม่ได้ผล
โครมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
ตัวข้าจมหายเข้าไปในกำแพง กระอักเลือดสดออกมาอีกกองใหญ่ เกิดรอยแตกร้าวเป็นวงกว้างอย่างน่ากลัวว่ามันจะพังถล่มลงมา
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
เสียงกัมปนาทเกิดจากเธอถีบพื้นพุ่งเข้ามา แรงถีบสร้างแรงกระแทกมหาศาลเป่าทุกอย่างรอบตัวกระเด็นออกไป
ทุกสิ่งที่เธอพุ่งผ่านโดนแรงลมกระชากให้ปลิวตามมา
ข้าบังคับเกราะศิลาทั้งหมดสร้างเป็นโล่ด้านหน้า กระพือเกล็ดที่เหลือสร้างลมดึงเอาทุกสิ่งรอบตัวขึ้นมาเสริมการป้องกันหน้าเกราะศิลาอีกชั้น
"หยุดก่อน! เราคุยกันได้นะ!"
เธอไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ยัดขาคู่กระทืบใส่จุดที่ข้าอยู่
เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!
ทุกสิ่งที่เอามาขวางกั้นล้วนไร้ประโยชน์ เกราะศิลาพังพินาศสิ้น เท้าสองคู่จมทะลุเข้ามาในร่างกาย กำแพงเมืองพังถล่มลงมา เกิดเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่อีกครั้ง
ข้า เธอและผู้โชคร้ายอีกนับไม่ถ้วนรวมถึงเศษซากกำแพงหลุดปลิวออกมานอกเมือง ชนเข้ากับกองทัพอดีตเพื่อนนอกกำแพง ที่หลุดมาได้เพราะพวกอาหารสวมชุดเกราะยันรูโหว่แรกไว้ไม่อยู่
*****
ที่กำลังเสริมขาดช่วงไปจนรูโหว่แรกยันไม่อยู่เพราะจีเซ็นดึงกำลังทหารไปสองรอบ
จังหวะที่ทัพถูกตีแตก มีมอนสเตอร์หลายตัวที่ได้กินมนุษย์จนวิวัฒนาการเป็นอสูรแอบหนีเข้าป่าไป
ส่วนมอนสเตอร์ที่ยังฟังคำสั่ง ต่างวิ่งตรงไปเข้าประตูเพื่ออ้อมไปทำการตีกระหน่ำกวาดล้างพวกทหารกับนักผจญภัยจากทั้งสองฝั่ง
ทัพเสริมของทหารที่มาในภายหลังเพราะได้อัศวินคนใหม่มาสั่งการแทน จึงต้องตั้งแถวสู้หยุดพวกมันไว้ไม่ให้ไปถึงประตู
แต่พวกมอนสเตอร์ที่กำลังจะเข้าปะทะกลับโดนคาลิก้าพังกำแพงล้มทับพวกแนวหน้าของมันพอดี
*****
อดีตเพื่อนบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน
ตึง!
เสียงทึบเวลามีของหนักตกใส่อันคุ้นเคยที่ข้าเคยใช้เกราะศิลาทำกับเธอ
แต่คราวนี้มันกลับกัน เท้าของเธอกระทืบเหยียบหัวข้าจมลงไปในพื้นดิน
ข้าเหลือบมองตาสีแดงของเธออย่างหวาดกลัว เป็นดวงตาที่กระหายเลือด กระหายความรุนแรงและกระหายการฆ่าฟันแบบไร้ที่สิ้นสุด
"ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!"
กร๊อบบบบ!
โผละะะะะ!
"อ๊อค! อั่ก! อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!"
เธอคำรามใส่ร่างข้าระยะประชิด ตัวข้าโดนกดลงไปในพื้นดินจนเป็นหลุมลึกกว่าเดิม กระดูกแตกดังลั่นไม่หยุด อวัยวะภายในที่ยังรักษาไม่ทันหายระเบิดกลายเป็นของเหลว แล้วไหลทะลักออกมาทั้ง 7 รูทวาร
ไม่เอาแล้ว
"ข้า... ยอม... แพ้..."
เธอยกขาขึ้น
ตูมมมมมมมมมมมมม!
แล้วกระทืบขาขวาข้าจนเละ
"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!"
เธอจับแขนขวาข้าขึ้นมาแล้วบิดหมุน 360 องศา
กร๊อบ!
"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!"
กระดูกข้อต่อที่หักอยู่แล้วหักซ้ำอีกครั้งจนละเอียด เนื้อหนังภายนอกบริเวณไหล่ฉีกขาดจนเห็นกล้ามเนื้อกับเส้นเอ็นภายใน
เธออ้าปากกัดข้อมือข้าเต็มคำแล้วฉีกเนื้อออกมาจนแหว่งขาด
ฉูดดดดดดดดดดดดดดดดด!
เลือดอาบชโลมตัวเธอจนแดงไปทั้งตัว แต่แดงขนาดไหนก็ไม่สู้สีดวงตาของเธอ
"ข้าขอโทษษษษษษษษษษษ!"
เธอตอบกลับด้วยการกระชากแขนขาจนหลุดออกมาแล้วโยนทิ้งราวกับเป็นขยะชิ้นนึง
"อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!"
*****
เมื่อเห็นกำแพงพังมอนสเตอร์ด้านในจึงฉวยโอกาสกรูกันออกมาตามคำสั่ง
ทหารที่กำลังงงกับเหตุการณ์ก็ถูกหัวหน้าสั่งการให้เข้าประจัญบาน
แต่ที่ทุกคนไม่คาดคิดคือตัวประหลาดสีแดง คำรามอัดใส่ทุกอย่างที่เข้าใกล้เธอ อย่างไม่สนฝ่าย
"ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!"
ทหารแถวหน้าโล่กับเกราะถูกฉีกไปพร้อมกับร่างกาย ส่วนแถวหลังปลิวกระเด็นจนกองทัพอยู่ในความสับสน หลายคนสิ้นสติและบาดเจ็บหนัก
มอนสเตอร์หลายตัวล้มตายกันเป็นแถบ ตัวที่ทนไหวสภาพร่างกายพิการ แต่ยังพุ่งเข้าโจมตีคาลิก้าตามสัญชาตญาณและคำสั่ง
*****
ไม่ว่าตัวไหนเข้าใกล้ เธอฆ่าทิ้งไม่ละเว้น
เธอชกทะลุเข้าไปในตัวแล้วใช้สองมือฉีกออกจนอวัยวะไหลทะลักออกมา
เตะสีข้างจนตัวงอ หัวกับเท้าพับเข้ามาชนกัน
บีบคอหักแล้วจับฟาดกับพื้นก่อนกระทืบหัวเละคาตีน
กระโดดกัดคอจนแหว่ง กระชากหัวจนขาดแล้วปาอัดใส่ตัวอื่นจนหน้าหงาย
คำรามอัดระยะประชิดจนพวกตัวบางร่างระเบิด
จับใบหน้าทิ่มกับเขาบนหน้าผากจนตาบอด เขายาวพอแทงเข้าไปถึงก้านสมอง ระหว่างที่ตัวกระตุกทรมาน เธอก็จะฉีกหัวแยกออกจากกัน
กระทืบพื้นจนยุบ ผืนดินยกตัวกระแทกจนร่างพวกนั้นจนบาดเจ็บปลิวขึ้นไป
ตัวไหนที่ล้มลงแล้วลุกขึ้นไม่ทันจะโดนตามไปกระทืบซ้ำเรียงตัว
การโจมตีระยะไกลแทบไม่ระคายผิว การโจมตีระยะประชิดพวกมันต่างเละทุกราย
อาหารทุกตัวต่างก้าวขาถอยหลังอย่างหวาดกลัวพร้อมกับลากพรรคพวกของมันไปด้วย
มีพวกอาหารระดับต่ำหน้าโง่ ที่จะไปซ้ำศพหวังชื่อเสียงกับพวกที่คิดแอบจะไปขโมยซากมาเก็บไว้ขาย ก็ถูกเธอฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยมแบบเดียวกับอดีตเพื่อน
ไม่นานก็ไม่มีอาหารตัวไหนกล้าคิดเข้าใกล้ ปล่อยให้สัตว์ประหลาดสีแดงอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง
ข้าใช้พลังเฮือกสุดท้ายสลัดแขนกับขาที่เหลือทิ้งอย่างเงียบๆ ก่อนจะกระพือเกล็ดที่เหลืออยู่ลอยตัวขึ้นไปบนอากาศ
ยิ่งรวมกับอวัยวะภายในที่แหลกเละจนอ้วกออกมาทางปากเกือบหมดแล้ว ตัวข้าจึงเบาลงมาก
ต้องหนี หนีไปให้ไกลจากเธอ ให้ไกลที่สุดเท่าที่ข้าทำได้ สุดขอบโลกไปเลยยิ่งดี
ข้าสัญญา ข้าจะไม่แตะต้องคนที่เธออยากได้อีกแล้ว
ข้าคิดผิดมหันต์ ไม่น่าได้รูปแบบกลายพันธุ์มาเลย
ข้าอยากได้รูปแบบปลอดภัยเหลือเกิน จะได้ซ่อนตัว ไม่ต้องมาเจอสัตว์ประหลาดตัวนี้ไปชั่วชีวิต
เมื่อลอยสูงจนถึงเทียบเท่าความสูงของกำแพงเมือง ข้าก็บังคับลมให้พาตัวข้าหนีไปทางป่า
แล้วสัญชาตญาณของข้าก็กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง
ลางสังหรณ์บอกว่า ความตาย กำลังจ้องมองข้าอยู่
แม้จะหวาดกลัวจนตัวสั่นไม่หยุด จนลอยวนติดๆ ขัดๆ แต่สุดท้ายความกลัวก็บังคับข้าให้เหลือบลงไปมอง
สัตว์ประหลาดสีแดงตัวนั้นใช้นัยน์ตาสีแดงฉานจ้องข้าอย่างโกรธแค้น
ข้าสั่นเทิ้มไปยันจิตวิญญาณ จนจะร่วงอยู่รอมร่อ
ไม่ได้นะ ห้ามร่วงเด็ดขาด ฝืนไว้ตัวข้า ถ้าขืนร่วงลงไป ตายห่าแน่
ไม่เป็นไร เธอมาไม่ถึงหรอก
...ใช่ไหม มาไม่ถึงแน่ใช่ไหม ใครก็ได้ตอบข้าที
"อย่าตามมานะ! ข้าผิดไปแล้ววววววววววววววว!"
สัตว์ประหลาดสีแดงวิ่งไต่กำแพงเมืองขึ้นมาพร้อมกับคำรามเสียงดังก้องไปทั้งสนามรบแถบนี้
อดีตเพื่อนฉวยโอกาสเข้าโจมตีอาหาร ส่วนอาหารรีบหนีไปให้ไกลที่สุด ทันทีที่สัตว์ประหลาดสีแดงวิ่งไต่ขึ้นกำแพง
เมื่อถึงปลายทางสัตว์ประหลาดสีแดงตัวนั้นกระโดดขึ้นไปสูงกว่าข้า
"ยกโทษให้ข้าด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!"
แล้วกระทืบข้าจากกลางอากาศกลับสู่ผืนดิน
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!